ASTVผู้จัดการรายวัน - วอร์รูป ปชป. แฉ 3 ยุทธศาสตร์ก๊กแดง ใช้มวลชนชุมนุม ส่งพวกฮาร์ดคอร์ก่อวินาศกรรม พร้อมใช้กองกำลังติดอาวุธปฏิบัติการจรยุทธ์กับเจ้าหน้าที่รัฐ ด้าน กอ.รมน.รับเป็นไปได้สูงที่จะเกิดความรุนแรงจากแก๊งเสื้อแดงที่เตรียมขวดน้ำมันทำระเบิดเพลิง สั่งเจ้าหน้าที่ คุมเข้ม ติดตามข่าวอย่าประมาท ส.ส.ปชป.ระบุเสื้อแดงจัดกองกำลังไว้แล้วหลายจังหวัดภาคอีสานโดยมี เสธ.แดง เป็นแม่ทัพใหญ่ ขัตติยะ อ้างทหารพรานฝึกระเบียบวินัยธรรมดา
น.พ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์แถลงผลการหารือของคณะกรรมการปฏิบัติการทางการเมืองพรรคประชาธิปัตย์(วอร์รูม)ว่า มีการรายงาน การเคลื่อนไหวของกลุ่มมวลชนเสื้อแดง โดยมีเป้าหมายที่จะสร้างมวลชนวิกฤติ ก่อนการตัดสินคดียึดทรัพย์ 7.6หมื่นล้านบาทซึ่งการออกมาประกาศแยกทางกันเดินของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ผ่านมาเป็นการจัดฉากปรับแนวทางเพื่อจะปฏิเสธ การมีส่วนร่วมรับผิดชอบล่วงหน้าหากเกิดเหตุรุนแรงขึ้น
นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่าเท่าที่ทราบจะมีการเคลื่อนไหวใน 2 ช่วงโดยวางใน3 ยุทธศาสตร์คือช่วงแรก ในวันที่ 10-19 ก.พ.เป็นช่วงจัดเตรียมระดมมวลชนปฏิบัติการจิตวิทยาด้านสื่อ เพื่อหวังเพิ่มฐานความเชื่อให้เห็นว่าหากศาลไม่วินิจฉัยตามสิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ต้องการก็จะกล่าวหาว่ามีธงล่วงหน้า มีการแทรกแซงศาล ขณะนี้เป็นช่วงตระเตรียมทรัพยากรในการชุมนุม ซึ่งมีการโอนเงินกันแล้วซึ่งรัฐบาลจะใช้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) สืบข้อมูลเชิงลึก ถึงที่มา ของเงินว่ามาจากแหล่งใด และจะโอนไปแหล่งใด ถ้ามีหลักฐานให้อายัดเงินไว้ก่อน
สำหรับช่องที่2 ระหว่าง วันที่ 20-26 ก.พ.จะมีการเคลื่อนมวลชนไปตาม กลุ่มยุทธศาสตร์เป้าหมายของกลุ่มเสื้อแดงเป็นเชิงสัญลักษ์โดยเคลื่อนไหว ไปชุมนุมที่ สำนักงาน ป.ป.ช. สำนักงาน กกต.ศาลรัฐธรรมนูญ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ทำเนียบองคมนตรี รัฐสภา รวมถึงทำเนียบรัฐบาล
ซึ่งเบื้องต้นจะทำใน 3 ยุทธศาสตร์สำคัญคือ ยุทธศาสตร์การเคลื่อนมวลชน เพื่อให้ได้จำนวนคนที่หลงเชื่อเข้ามาชุมนุมเพิ่มเติม ยุทธศาสตร์ที่ 2 ให้ผู้ที่ผ่านการอบรมจากโรงเรียน นปช.กระทำการก่อวินาศกรรม อาทิ ระเบิดเพลิง การใช้อินเทอร์เน็ต และวิทยุชุมชนโจมตีการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐ และยุทธศาสตร์สุดท้ายคือให้กองกำลังติดอาวุธปฏิบัติการเชิงจรยุทธ์ โดยอ้างเป็นการ์ด นปช. ซึ่งขณะนี้มีการจัดตั้งกองกำลังชัดเจนเพื่อจะยั่วยุให้เจ้าหน้าที่รัฐตอบโต้ อาจจะนำไปสู่ความรุนแรง ทั้งนี้รัฐบาลจะใช้สื่อที่มีอยู่สร้างความเข้าใจ ไม่ให้ประชาชนกลุ่มมวลชนอื่นออกมาต่อต้าน ซึ่งจะไปเข้าทางของกลุ่มเสื้อแดง
ผู้สื่อข่าวถามว่ากองกำลังดังกล่าวมีความชัดเจนแค่ไหนน.พ.บุรณัชย์ กล่าวว่า เป็นสัญญาณส่งผ่านสื่อต่างประเทศรวมถึงท่าทีต่างๆ ที่ออกมาของกลุ่มคนเหล่านี้ โดยเฉพาะเรื่องกองทัพประชาชน เมื่อถามว่า ทางด้านการข่าวมีเข้ามาหรือไม่ น.พ.บุรณัชย์ กล่าวว่ามีการรายงานข้อมูลทางการข่าวทั้งในและนอกประเทศ ซึ่งยืนยันได้ว่าเป็นความจริง แต่ไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดได้
พล.ต.ดิฏฐพร ศศะสมิต โฆษก กอ.รมน. กล่าวว่าข้อมูลการโอนเงินจากต่างประเทศเข้ามาให้แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงไม่ได้มาจาก กอ.รมน. แต่ นายปณิธาน คงมีข้อมูลจากหลายด้าน ทั้งนี้กอ.รมน.ไม่มีหน่วยงานที่จะตรวจสอบเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะในเรื่องการเงิน การธนาคารมีหน่วยงานที่ตรวจสอบอยู่ อย่างไรก็ตาม มีโอกาสเกิดความรุนแรงขึ้นได้ เพราะจากที่แกนนำกลุ่มเสื้อแดงเขาประกาศให้เตรียม ขวดเปล่าคนละ 1 ใบไปร่วมชุมนุมและมีการเติมน้ำมันใส่ขวด ถือเป็นเจตนา ที่เขาอาจสร้างความรุนแรงได้ ดังนั้นเจ้าหน้าที่ต้องเพิ่มความระมัดระวังขึ้นมา
ขณะนี้เจ้าหน้าที่เพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น เพราะเจ้าหน้าที่ตั้งด่านตรวจ เพื่อตรวจหาสิ่งผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นการพกพาอาวุธ หรือ ระเบิด ที่จะเข้ามาสร้างความวุ่นวายให้กับผู้ชุมนุม และประชาชน ซึ่งเราไม่อยากให้เกิดเหตุร้ายขึ้น หลายครั้งที่ผ่านมาจะชุมนุมด้วยความสงบ แต่เราประมาทไม่ได้ เพราะเราต้องระวังผู้ที่จะเข้ามาสร้างสถานการณ์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องระมัดวังมากขึ้น และมีความละเอียดอ่อนตามลักษณะพื้นที่
ส่วนการเฝ้าระวังในพื้นที่ 38 จังหวัดที่เป็นพื้นที่การเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดง นั้น พล.ต.ดิฏฐพร กล่าวว่า ทางผู้ว่าราชการแต่ละจังหวัดทราบดีว่า จังหวัดตนเอง มีความล่อแหลมต่อการชุมนุมใหญ่ในพื้นที่อย่างไรจึงต้องมีการเตรียมแผนดูแลรักษาความสงบไว้ว่า ต้องใช้เจ้าหน้าที่เท่าไร เพื่ออำนวยความสะดวก ส่วนจังหวัดอื่นที่นอกเหนือจาก 38 จังหวัดต้องไม่ประมาท และต้องติดตามข่าวสาร เพราะอาจมีการเคลื่อนย้ายผู้ชุมนุมไปยังจังหวัดใกล้เคียงได้ ดังนั้นต้องติดตามข่าวสาร เพื่อร่วมดูแลประชาชน
ผู้สื่อข่าวถามว่าผู้บังคับบัญชาได้มีการสั่งการอะไรเพิ่มเติม พล.ต.ดิฏฐพร กล่าวว่า ทุกหน่วยมีการเตรียมแผนไว้เรียบร้อยแล้ว หลังจากที่มีการประชุมเตรียม การก่อนที่พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.เดินทางไปสหรัฐอเมริกา ดังนั้นท่านจึง ไม่ได้เน้นย้ำหรือสั่งการอะไรเพิ่มเติม อย่างไรก็ตามการดำเนินการขึ้นอยู่กับสถานการณ์การชุมนุม ทั้งนี้เราเป็นห่วงว่า อาชญากรรมอาจแฝงตัวในช่วงการชุมนุม และอาศัยโอกาสช่วงที่มีคนออกจากบ้านมาชุมนุมจำนวนมาก เป็นช่องว่างให้ อาชญากรแสวงประโยชน์ ดังนั้นประชาชนที่ออกมาชุมนุมต้องดูแลบ้านให้ดี ซึ่งขณะนี้เราได้ติดตามข่าวจากการฟังแกนนำชี้แจงแนวปฏิบัติ แล้วเราจะนำมาประเมิน ซึ่งข้อมูลตรงนี้จะเป็นตัวชี้ว่า เราต้องเตรียมอะไรบ้าง ซึ่งหากมีอะไรเจ้าหน้าที่ก็พร้อมออกมาดูแลสถานการณ์
ด้านนายศุภชัย ศรีหล้า ส.ส.อุบลราชธานี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จากการติดตามการเคลื่อนไหวการจัดตั้งกองกำลังในภาคอีสานของกล่มเสื้อแดง ไม่ได้มีเฉพาะจ.อุบลราชธานี แต่มีการกระจายไปทั่วอาทิ จ.หนองบัวลำภู นครราชสีมา เป็นการสืบเนื่องมาจากที่ พล.อ. ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย ไปพบกับกลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ซึ่งเป็นกลุ่มที่เคยจัดอาวุธต่อสู้กับเจ้าหน้าที่รัฐ มีการเคลื่อนไหวผูกโยงกับกองทัพแดงที่มีเป้าประสงค์จะให้เกิดความรุนแรงซึ่งเดิม จะให้พล.อ.ชวลิต เป็นผู้บังคับการสูงสุด แต่เมื่อไม่รับวันนี้ก็จะให้ พล.ต. ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก เป็นผู้นำกองทัพแทน
อยากถามกลับไปว่าวันนี้ที่ตั้งกองทัพประชาชนขึ้นมานั้นจะเอาไปรบกับใคร หรือจะเอาไปรบกับกองทัพในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แต่ในขณะเดียวอีกฝ่ายกลับเรียกร้องประชาธิปไตย ขณะนี้ผมเป็นห่วงว่าจะเกิดความรุนแรงเกิดขึ้น ซึ่งประชาชนจะหยุดนิ่งไม่ได้ จะต้องปฏิเสธเข้าร่วมชุมนุม เพราะจะทำให้บ้านเมืองเดินหน้าต่อไปไม่ได้
พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง กล่าวถึงกรณีที่ พรรคประชาธิปัตย์ระบุว่า พล.ต.ขัตติยะ ตั้งกองกำลังเสื้อดำที่ จ.อุบลราชธานี เพี้ยนไปแล้ว ไม่มีการตั้งกองพลเสือดำ เขาคงเอาข้อมูลและรูปมาจากเว็บไซต์เสธ.แดง ที่ อ.นาจะหลวย จ.อุบลราชธานี ความจริงรูปในเว็บไซต์ส่วนหนึ่งเป็นการ์ดอาสา ที่เป็นชาวบ้าน แต่งเลียนแบบคล้ายนักรบบางระจัน และพวกอดีตทหารพรานจำนวนหมื่นกว่าคน ซึ่งเป็นการฝึกระเบียบวินัยธรรมดา ไม่ได้เป็นการฝึกกองโจร หรือฝึกอาวุธอะไร และที่ตนเดินทางไปแค่ควบคุม ไม่ได้ไปฝึกอะไร แต่หาว่า ตนไปฝึก มิน่าพ.ต.ท. ทักษิณ จึงหาว่า เป็นรัฐสีม่วง เพราะเวลาเขาพูดเรื่องประตูหน้า แต่กลับไปหาว่า พูดเรื่องประตูหลัง
ส่วนที่ที่กลุ่มคนเสื้อแดงแถลงว่า จะยึดสันติวิธี และการกระทำของพล.ต.ขัตติยะ และพล.อ. พัลลภ ปิ่นมณี ไม่เกี่ยวกับกลุ่มคนเสื้อแดงนั้น พล.ต.ขัตติยะ กล่าวว่า การที่กลุ่มคนเสื้อแดงออกมาแถลงว่า ต่างคนต่างทำงาน แสดงว่า เขาไม่ได้ขับไสไล่ส่งเรา เรายังทำหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับกลุ่มผู้ชุมนุมเหมือนเดิม ซึ่งหลังจากที่พ.ต.ท.ทักษิณ ออกมาเคลียร์ทุกอย่างก็ยุติ ซึ่งตอนนี้นปช. เป็นเหมือนเรือบรรทุกเครื่องบิน ส่วนกองทัพประชาชนเป็นเหมือนเรือพิฆาต ที่บินขนาบซ้ายและขวาจำนวน 4 ลำ รักษาความปลอดภัยให้นปช. เดินทัพสู้กับรัฐบาล
น.พ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์แถลงผลการหารือของคณะกรรมการปฏิบัติการทางการเมืองพรรคประชาธิปัตย์(วอร์รูม)ว่า มีการรายงาน การเคลื่อนไหวของกลุ่มมวลชนเสื้อแดง โดยมีเป้าหมายที่จะสร้างมวลชนวิกฤติ ก่อนการตัดสินคดียึดทรัพย์ 7.6หมื่นล้านบาทซึ่งการออกมาประกาศแยกทางกันเดินของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ผ่านมาเป็นการจัดฉากปรับแนวทางเพื่อจะปฏิเสธ การมีส่วนร่วมรับผิดชอบล่วงหน้าหากเกิดเหตุรุนแรงขึ้น
นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่าเท่าที่ทราบจะมีการเคลื่อนไหวใน 2 ช่วงโดยวางใน3 ยุทธศาสตร์คือช่วงแรก ในวันที่ 10-19 ก.พ.เป็นช่วงจัดเตรียมระดมมวลชนปฏิบัติการจิตวิทยาด้านสื่อ เพื่อหวังเพิ่มฐานความเชื่อให้เห็นว่าหากศาลไม่วินิจฉัยตามสิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ต้องการก็จะกล่าวหาว่ามีธงล่วงหน้า มีการแทรกแซงศาล ขณะนี้เป็นช่วงตระเตรียมทรัพยากรในการชุมนุม ซึ่งมีการโอนเงินกันแล้วซึ่งรัฐบาลจะใช้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) สืบข้อมูลเชิงลึก ถึงที่มา ของเงินว่ามาจากแหล่งใด และจะโอนไปแหล่งใด ถ้ามีหลักฐานให้อายัดเงินไว้ก่อน
สำหรับช่องที่2 ระหว่าง วันที่ 20-26 ก.พ.จะมีการเคลื่อนมวลชนไปตาม กลุ่มยุทธศาสตร์เป้าหมายของกลุ่มเสื้อแดงเป็นเชิงสัญลักษ์โดยเคลื่อนไหว ไปชุมนุมที่ สำนักงาน ป.ป.ช. สำนักงาน กกต.ศาลรัฐธรรมนูญ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ทำเนียบองคมนตรี รัฐสภา รวมถึงทำเนียบรัฐบาล
ซึ่งเบื้องต้นจะทำใน 3 ยุทธศาสตร์สำคัญคือ ยุทธศาสตร์การเคลื่อนมวลชน เพื่อให้ได้จำนวนคนที่หลงเชื่อเข้ามาชุมนุมเพิ่มเติม ยุทธศาสตร์ที่ 2 ให้ผู้ที่ผ่านการอบรมจากโรงเรียน นปช.กระทำการก่อวินาศกรรม อาทิ ระเบิดเพลิง การใช้อินเทอร์เน็ต และวิทยุชุมชนโจมตีการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐ และยุทธศาสตร์สุดท้ายคือให้กองกำลังติดอาวุธปฏิบัติการเชิงจรยุทธ์ โดยอ้างเป็นการ์ด นปช. ซึ่งขณะนี้มีการจัดตั้งกองกำลังชัดเจนเพื่อจะยั่วยุให้เจ้าหน้าที่รัฐตอบโต้ อาจจะนำไปสู่ความรุนแรง ทั้งนี้รัฐบาลจะใช้สื่อที่มีอยู่สร้างความเข้าใจ ไม่ให้ประชาชนกลุ่มมวลชนอื่นออกมาต่อต้าน ซึ่งจะไปเข้าทางของกลุ่มเสื้อแดง
ผู้สื่อข่าวถามว่ากองกำลังดังกล่าวมีความชัดเจนแค่ไหนน.พ.บุรณัชย์ กล่าวว่า เป็นสัญญาณส่งผ่านสื่อต่างประเทศรวมถึงท่าทีต่างๆ ที่ออกมาของกลุ่มคนเหล่านี้ โดยเฉพาะเรื่องกองทัพประชาชน เมื่อถามว่า ทางด้านการข่าวมีเข้ามาหรือไม่ น.พ.บุรณัชย์ กล่าวว่ามีการรายงานข้อมูลทางการข่าวทั้งในและนอกประเทศ ซึ่งยืนยันได้ว่าเป็นความจริง แต่ไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดได้
พล.ต.ดิฏฐพร ศศะสมิต โฆษก กอ.รมน. กล่าวว่าข้อมูลการโอนเงินจากต่างประเทศเข้ามาให้แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงไม่ได้มาจาก กอ.รมน. แต่ นายปณิธาน คงมีข้อมูลจากหลายด้าน ทั้งนี้กอ.รมน.ไม่มีหน่วยงานที่จะตรวจสอบเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะในเรื่องการเงิน การธนาคารมีหน่วยงานที่ตรวจสอบอยู่ อย่างไรก็ตาม มีโอกาสเกิดความรุนแรงขึ้นได้ เพราะจากที่แกนนำกลุ่มเสื้อแดงเขาประกาศให้เตรียม ขวดเปล่าคนละ 1 ใบไปร่วมชุมนุมและมีการเติมน้ำมันใส่ขวด ถือเป็นเจตนา ที่เขาอาจสร้างความรุนแรงได้ ดังนั้นเจ้าหน้าที่ต้องเพิ่มความระมัดระวังขึ้นมา
ขณะนี้เจ้าหน้าที่เพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น เพราะเจ้าหน้าที่ตั้งด่านตรวจ เพื่อตรวจหาสิ่งผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นการพกพาอาวุธ หรือ ระเบิด ที่จะเข้ามาสร้างความวุ่นวายให้กับผู้ชุมนุม และประชาชน ซึ่งเราไม่อยากให้เกิดเหตุร้ายขึ้น หลายครั้งที่ผ่านมาจะชุมนุมด้วยความสงบ แต่เราประมาทไม่ได้ เพราะเราต้องระวังผู้ที่จะเข้ามาสร้างสถานการณ์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องระมัดวังมากขึ้น และมีความละเอียดอ่อนตามลักษณะพื้นที่
ส่วนการเฝ้าระวังในพื้นที่ 38 จังหวัดที่เป็นพื้นที่การเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดง นั้น พล.ต.ดิฏฐพร กล่าวว่า ทางผู้ว่าราชการแต่ละจังหวัดทราบดีว่า จังหวัดตนเอง มีความล่อแหลมต่อการชุมนุมใหญ่ในพื้นที่อย่างไรจึงต้องมีการเตรียมแผนดูแลรักษาความสงบไว้ว่า ต้องใช้เจ้าหน้าที่เท่าไร เพื่ออำนวยความสะดวก ส่วนจังหวัดอื่นที่นอกเหนือจาก 38 จังหวัดต้องไม่ประมาท และต้องติดตามข่าวสาร เพราะอาจมีการเคลื่อนย้ายผู้ชุมนุมไปยังจังหวัดใกล้เคียงได้ ดังนั้นต้องติดตามข่าวสาร เพื่อร่วมดูแลประชาชน
ผู้สื่อข่าวถามว่าผู้บังคับบัญชาได้มีการสั่งการอะไรเพิ่มเติม พล.ต.ดิฏฐพร กล่าวว่า ทุกหน่วยมีการเตรียมแผนไว้เรียบร้อยแล้ว หลังจากที่มีการประชุมเตรียม การก่อนที่พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.เดินทางไปสหรัฐอเมริกา ดังนั้นท่านจึง ไม่ได้เน้นย้ำหรือสั่งการอะไรเพิ่มเติม อย่างไรก็ตามการดำเนินการขึ้นอยู่กับสถานการณ์การชุมนุม ทั้งนี้เราเป็นห่วงว่า อาชญากรรมอาจแฝงตัวในช่วงการชุมนุม และอาศัยโอกาสช่วงที่มีคนออกจากบ้านมาชุมนุมจำนวนมาก เป็นช่องว่างให้ อาชญากรแสวงประโยชน์ ดังนั้นประชาชนที่ออกมาชุมนุมต้องดูแลบ้านให้ดี ซึ่งขณะนี้เราได้ติดตามข่าวจากการฟังแกนนำชี้แจงแนวปฏิบัติ แล้วเราจะนำมาประเมิน ซึ่งข้อมูลตรงนี้จะเป็นตัวชี้ว่า เราต้องเตรียมอะไรบ้าง ซึ่งหากมีอะไรเจ้าหน้าที่ก็พร้อมออกมาดูแลสถานการณ์
ด้านนายศุภชัย ศรีหล้า ส.ส.อุบลราชธานี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จากการติดตามการเคลื่อนไหวการจัดตั้งกองกำลังในภาคอีสานของกล่มเสื้อแดง ไม่ได้มีเฉพาะจ.อุบลราชธานี แต่มีการกระจายไปทั่วอาทิ จ.หนองบัวลำภู นครราชสีมา เป็นการสืบเนื่องมาจากที่ พล.อ. ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย ไปพบกับกลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ซึ่งเป็นกลุ่มที่เคยจัดอาวุธต่อสู้กับเจ้าหน้าที่รัฐ มีการเคลื่อนไหวผูกโยงกับกองทัพแดงที่มีเป้าประสงค์จะให้เกิดความรุนแรงซึ่งเดิม จะให้พล.อ.ชวลิต เป็นผู้บังคับการสูงสุด แต่เมื่อไม่รับวันนี้ก็จะให้ พล.ต. ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก เป็นผู้นำกองทัพแทน
อยากถามกลับไปว่าวันนี้ที่ตั้งกองทัพประชาชนขึ้นมานั้นจะเอาไปรบกับใคร หรือจะเอาไปรบกับกองทัพในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แต่ในขณะเดียวอีกฝ่ายกลับเรียกร้องประชาธิปไตย ขณะนี้ผมเป็นห่วงว่าจะเกิดความรุนแรงเกิดขึ้น ซึ่งประชาชนจะหยุดนิ่งไม่ได้ จะต้องปฏิเสธเข้าร่วมชุมนุม เพราะจะทำให้บ้านเมืองเดินหน้าต่อไปไม่ได้
พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง กล่าวถึงกรณีที่ พรรคประชาธิปัตย์ระบุว่า พล.ต.ขัตติยะ ตั้งกองกำลังเสื้อดำที่ จ.อุบลราชธานี เพี้ยนไปแล้ว ไม่มีการตั้งกองพลเสือดำ เขาคงเอาข้อมูลและรูปมาจากเว็บไซต์เสธ.แดง ที่ อ.นาจะหลวย จ.อุบลราชธานี ความจริงรูปในเว็บไซต์ส่วนหนึ่งเป็นการ์ดอาสา ที่เป็นชาวบ้าน แต่งเลียนแบบคล้ายนักรบบางระจัน และพวกอดีตทหารพรานจำนวนหมื่นกว่าคน ซึ่งเป็นการฝึกระเบียบวินัยธรรมดา ไม่ได้เป็นการฝึกกองโจร หรือฝึกอาวุธอะไร และที่ตนเดินทางไปแค่ควบคุม ไม่ได้ไปฝึกอะไร แต่หาว่า ตนไปฝึก มิน่าพ.ต.ท. ทักษิณ จึงหาว่า เป็นรัฐสีม่วง เพราะเวลาเขาพูดเรื่องประตูหน้า แต่กลับไปหาว่า พูดเรื่องประตูหลัง
ส่วนที่ที่กลุ่มคนเสื้อแดงแถลงว่า จะยึดสันติวิธี และการกระทำของพล.ต.ขัตติยะ และพล.อ. พัลลภ ปิ่นมณี ไม่เกี่ยวกับกลุ่มคนเสื้อแดงนั้น พล.ต.ขัตติยะ กล่าวว่า การที่กลุ่มคนเสื้อแดงออกมาแถลงว่า ต่างคนต่างทำงาน แสดงว่า เขาไม่ได้ขับไสไล่ส่งเรา เรายังทำหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับกลุ่มผู้ชุมนุมเหมือนเดิม ซึ่งหลังจากที่พ.ต.ท.ทักษิณ ออกมาเคลียร์ทุกอย่างก็ยุติ ซึ่งตอนนี้นปช. เป็นเหมือนเรือบรรทุกเครื่องบิน ส่วนกองทัพประชาชนเป็นเหมือนเรือพิฆาต ที่บินขนาบซ้ายและขวาจำนวน 4 ลำ รักษาความปลอดภัยให้นปช. เดินทัพสู้กับรัฐบาล
