xs
xsm
sm
md
lg

“สิงห์น้ำเงิน” ยึดมหาดไทย สูตรฉาว 20-17-10 ซื้อเก้าอี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เรียงหน้าปฏิเสธอย่างไรก็ไม่มีใครเชื่อ เพราะคนส่วนใหญ่รู้กันดีว่า การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงยิ่งในหน่วยงานสำคัญ โดยเฉพาะตำแหน่งใหญ่ที่มีอำนาจมาก
**เรื่องผลประโยชน์ –สิ่งตอบแทน-ข้อแลกเปลี่ยน ย่อมมีแน่นอน และมากเสียด้วย
คำปฏิเสธของชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย และมานิต วัฒนเสน ปลัดมท.ที่ยืนกรานว่า การออกมาเปิดโปงข้อมูลการซื้อขายตำแหน่งในมหาดไทย ของไพฑูรย์ บุญวัฒน์ อดีตรองปลัดมท. ที่ระบุว่า มหาดไทยยุคนี้ ถ้าคิดจะเติบใหญ่ ต้องมีเงินถุงเงินถังไปจ่ายให้กับคนที่พิจารณาทำโผแต่งตั้งโยกย้าย
**อัตราราคาน่าระทึกใจ คือถ้าอยากนั่งเก้าอี้พ่อเมืองต้องจ่าย 20 ล้าน ถ้ารอง ผวจ.17 ล้าน นายอำเภอ 10 ล้าน
ทั้งนี้ พอมีข่าวออกมาแบบนี้ คนมหาดไทยส่วนใหญ่ทั่วประเทศก็ไม่ได้แปลกใจใดๆ เลย ส่วนใหญ่เชื่อเสียด้วยว่า มันเป็นเรื่องจริง เพราะหลายคนมีประสบการณ์เจอมากับตัวเอง เพราะผลงานก็มีมาก อาวุโสก็ถึง ประวัติการทำงานก็ดีเยี่ยม ไม่มีมลทินด่างพร้อย แต่ไม่เคยได้รับการเลื่อนชั้นเลื่อนตำแหน่ง
พอมีคนกล้าออกมาเปิดโปงเรื่องสูตร 20-17-10 ล้าน แบบนี้ ก็เลยได้รู้ความจริงว่า เหตุที่ไม่ก้าวหน้าในชีวิตราชการ ที่แท้ก็เพราะ มันไม่มีเงิน ไม่มีเส้นสายทางการเมือง
**ดังนั้นพอ ชวรัตน์-มานิต ออกมาทำปากแข็ง อ้างว่าเป็นเรื่องไม่มีมูล ข่าวลือ หาเรื่อง คนเลยไม่ฟัง แต่อยากท้า... ถ้าแน่จริง ยอมให้มีการตรวจสอบกันไหม ตั้งกรรมการสอบให้เป็นเรื่องเป็นราวไปเลย มันจะได้รู้ดำรู้แดงกันไปข้าง
เอาอย่างตำรวจ ที่ล่าสุด พล.ต.ท.เกรียงศักดิ์ สุริโย ผบช.ภ.2 โดนเด้งเข้ากรุ และพร้อมกับมีคำสั่งให้ยกเลิกบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายของบช.ภ.2 เนื่องจากมีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้องกับการจัดทำบัญชีแต่งตั้ง
**แล้ว “ชวรัตน์-มานิต” กล้าไหม ก็ไม่กล้า
คิดดูกันเองแล้วกันว่า ขนาดเก้าอี้ สารวัตร-รองผกก.-ผกก.รองผบก.แค่คุมสถานีตำรวจ-โรงพัก พื้นที่ดูแลรับผิดชอบแค่ระดับอำเภอยังจ่ายกันเป็นล้านๆ แล้ว ผวจ.-รองผวจ.-นายอำเภอ ที่มีขอบเขตอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบใหญ่กว่ามากมาย จะไม่มีผลประโยชน์เข้ามาเจือปนในการพิจารณารายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายได้อย่างไร ?
**“ปู่จิ้น ซิโนไทย-มานิต ปลัดคิก..คิก” อมพระมาปฏิเสธเสียงแข็งอย่างไรก็ไม่มีใครเชื่อ
ก็ขนาดเข้าโรงเรียนนายอำเภอ ซึ่งเป็นด่านสำคัญในการไต่เต้าขึ้นสู่ตำแหน่งนายอำเภอ-ปลัดจังหวัด-รองผวจ.-ผวจ. ยังถูกป.ป.ช.สอบสวนการทุจริตสอบเข้าโรงเรียนนายอำเภอ หลังมีข้อร้องเรียนว่า มีข้อสอบรั่ว-ล็อกเก้าอี้ให้เด็กนักการเมือง รวมถึงเรื่องกลิ่นไม่ค่อยดีมีผลประโยชน์ตอบแทน
**อย่างล่าสุดก็มีการออกมาปูดแล้วว่า คนที่สอบเข้าร.ร.นายอำเภอรุ่นล่าสุด มาจากข้าราชการใน จ.บุรีรัมย์ ฐานเสียงสำคัญของ ศักดิ์สยาม ชิดชอบ ประธานคณะทำงาน รมว.มหาดไทย ที่ถูกเรียกขานกันว่า มท. 1 ตัวจริงมากถึง 17 คน
**ไม่เคยมีในประวัติศาสตร์มาก่อน ที่จะมีข้าราชการจังหวัดใดจังหวัดหนึ่ง สอบเข้าโรงเรียนนายอำเภอได้มากถึงขนาดนี้
แล้วข่าวอื้อฉาว ซื้อขายตำแหน่งกันในมหาดไทยตอนนี้ ทั้ง ชวรัตน์-มานิต จะนั่งทับขี้ ทำไขสือ ได้อย่างไร
ขืนปล่อยไว้แบบนี้ ชื่อมหาดไทยก็จะตกต่ำลงไปอีก ซึ่งปกติชื่อเสียงก็มีปัญหาอยู่แล้ว มีแต่ข่าวอื้อฉาวจ้องหาผลประโยชน์ในงบประมาณของกระทรวง มีแต่เอาพรรคพวกตัวเองขึ้นไปเป็นใหญ่ในกระทรวง
ไล่ตั้งแต่ปลัดกระทรวงมหาดไทย มานิต วัฒนเสน ที่ได้ตั๋ว เนวิน ชิดชอบ ผลักดันบนข้อกังขาของคนมหาดไทยทั่วประเทศ เพราะเห็นๆ กันอยู่ว่า ความสามารถ และผลงานไม่เจ๋งจริง
อีกหลายตำแหน่งก็มีข้อกังขา เช่น ไพรัตน์ สกลพันธุ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ที่เป็นอดีตรองผู้ว่าฯ บุรีรัมย์ หากไม่ใช่เพราะเคยอยู่บุรีรัมย์มาก่อน ทำให้รู้จักทั้ง ชัย-เนวิน-ศักดิ์สยาม ชิดชอบ นินทากันว่า ป่านนี้ก็อาจเป็นแค่ข้าราชการซี 10 ธรรมดาๆ คนหนึ่ง ไม่ได้มาคุมกรมใหญ่ คุมงบประมาณหลายหมื่นล้านแบบนี้
หรือ มงคล สุรัจสัจจะ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน คนนี้ก็ขยับขึ้นมาจากผู้ว่าฯบุรีรัมย์ ที่แสดงผลงานเข้าตา “เสี่ยห้อย” เลยได้ดิบได้ดีเข้าเมืองกรุงมานั่งอธิบดีกรมพัฒนาชุมชน
และผู้ว่าราชการจังหวัดภาคอีสานอีกหลายพื้นที่ เช่น นาย พีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผวจ.บุรีรัมย์ ที่เนวิน ผลักดันจากรองผวจ.หนองคาย ให้มาคุมพื้นที่บุรีรัมย์- คมสัน เอกชัย ผวจ.หนองคาย ที่ขยับมาจากผวจ.ตาก ซึ่งเป็นจังหวัดเล็กกว่ามากมาอยู่หนองคาย ซึ่งภูมิใจไทยกำลังเร่งสร้างฐานเสียงอย่างหนักเพื่อแข่งบารมีกับกลุ่มพญานาค ของพินิจ จารุสมบัติ
รวมถึงในจังหวัดใหญ่ๆ เช่น สุรชัย ขันอาสา ผวจ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะทำงาน นายศักดิ์สยาม ก็ได้การผลักดันจาก รอง ผวจ.สมุทรปราการ มาเป็นพ่อเมืองจังหวัดใหญ่ภาคกลาง
**บอกได้ว่า มหาดไทยยุคนี้ มันไม่ใช่ทั้งยุคสิงห์ขาว รัฐศาสตร์ เชียงใหม่ มานิต วัฒนเสน ปลัดมท. และวงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พานิชย์ อธิบดีกรมการปกครอง , สิงห์แดง รัฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์ ศักดิ์สยาม ชิดชอบ ขวัญชัย วงศ์นิติกร รองปลัดมหาดไทย , สิงห์ดำ รัฐศาสตร์ จุฬาฯ ที่ตอนนี้ถือว่าเป็นยุคขาลงอย่างแท้จริง เพราะแทบไม่มีใครในสายนี้คุมกำลังหลักในมหาดไทย เลยแม้แต่คนเดียว
แต่มันเป็นยุค “สิงห์น้ำเงิน” เสื้อตราประจำพรรคภูมิใจไทย ที่หากใครได้สวมเสื้อน้ำเงิน รับรองชีวิตราชการในมหาดไทยยุคภูมิใจไทยเป็นใหญ่ รุ่งโรจน์ โชติช่วงชัชวาล จะได้ดิบได้ดี แซงหน้าพรรคพวกเพื่อนฝูงทั้งรุ่นพี่รุ่นเพื่อน
แถมหากทำงานเข้าตาก็ยิ่งมีงานให้ทำมากมาย โดยเฉพาะงานการเมือง ที่มีข่าวว่าฝ่ายการเมืองในมหาดไทย กำลังรอคิดโปรเจกต์ สารพัดเพื่อปูฟื้นปูพรหมรองรับสถานการณ์การเมืองที่อาจจะพลิกผันได้ทุกเมื่อ โดยเฉพาะการเลือกตั้ง เลยจำเป็นต้องใช้มือไม้มาช่วยงานอีกมาก แบบนี้ ทั้งสิงห์แดง-สิงห์ดำ-สิงห์ขาว-สิงห์ทอง ทั้งหลาย คงพร้อมใจกันถอดเสื้อสีสถาบันมาใส่ “เสื้อน้ำเงิน” กันแบบไม่ต้องคิดมากแน่นอน หลังเห็นข้าราชการรุ่นพี่ๆ ทั้งหลายที่ได้ดิบได้ดี
**เพราะเป็น “สิงห์น้ำเงิน”กันมาแล้ว
สำหรับเรื่องซื้อขายตำแหน่งที่ฉาวโฉ่ ก็อยู่ที่ตัวข้าราชการมหาดไทยกันเองแล้วว่า จะปล่อยให้เรื่องซื้อขายตำแหน่ง เอาเงินแลกเก้าอี้ ปล่อยให้หายไปง่ายๆ แบบนี้หรือ เพียงเพราะแค่ชวรัตน์-มานิต ปฏิเสธว่าไม่มี ก็จบๆ กันไป
กระนั้นก็ดี ต้องมีการตรวจสอบสาวลึกขยายผลให้ได้ แต่ความหวังก็ริบหรี่ เพราะแม้แต่ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีไม่ขยับให้ตรวจสอบและเข้ามาจัดการเรื่องนี้เลย ก็ทำให้คิดไปได้ว่า ที่ไม่กล้าทำอะไร เพราะกลัวจะไปแตะต้อง “พรรคเนวิน” แล้วจะเจอเอาคืน
เพราะตอนนี้ยิ่งใกล้ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ เลยยิ่งกลัวว่าหากทำอะไรให้ภูมิใจไทยขุ่นเคือง แล้วจะไม่ได้รับเสียงไว้วางใจเกินกึ่งหนึ่งต้องหลุดจากตำแหน่งกลางสภาฯ
ซึ่งนายกฯอภิสิทธิ์คิดจะกวาดบ้านเปิดฉากแล้วที่วงการสีกากี ดังนั้นที่มหาดไทย ซึ่งมีเรื่องอื้อฉาว กลิ่นเน่าเหม็นพอกับตำรวจ ตั้งแต่สิงห์น้ำเงินผงาด ก็น่าจะถือโอกาสนี้ กวาดบ้านล้างสิ่งสกปรกไปพร้อมๆกันเลย
**แต่คำถามก็คือ คนอย่างอภิสิทธิ์หรือจะกล้า ?
กำลังโหลดความคิดเห็น