บิ๊ก มท.รวมหัวซัด “จาดุร” พวกเผาบ้านตัวเอง สั่งชี้แจงข้อเท็จจริงใน 7 วัน แย้มอาจต้องดำเนินการทางกฎหมายป้องเกียรติมหาดไทย แขวะกลับถ้าซื้อเก้าอี้ 400 ล้านบาทจริงจะเอาเงินไปซื้อโรงไฟฟ้าดีกว่า ด้าน “จาดุร” ไม่กลัวการเมืองภายใน ลั่นพร้อมแจง แต่ให้ใช้เทปสัมมนาเป็นหลักฐานด้วย
วันนี้ (19 ก.พ.) นายมานิต วัฒนเสน ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยข้าราชการระดับสูงในกระทรวง เช่น นายอุดม พัวสกุล อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง นายมงคล สุระสัจจะ อธิบดีกรมพัฒนาชุมชน นายขวัญชัย วงศ์นิติกร รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้แถลงข่าวถึงกรณีที่นายจาดุร อภิชาตบุตร หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย กล่าวในวงเสวนาของวุฒิสภา เกี่ยวกับการซื้อขายตำแหน่งในกระทรวงมหาดไทย โดยเฉพาะระดับอธิบดี ต้องจ่ายถึง 300-400 ล้านบาท โดยนายมานิตกล่าวว่า ในการแต่งตั้งข้าราชการระดับสูง ทั้งผู้ว่าฯ อธิบดีนั้น เป็นอำนาจปลัดกระทรวง เสนอต่อรัฐมนตรีให้ ครม.เห็นชอบ ไม่ใช่อำนาจของรัฐมนตรีเพียงฝ่ายเดียวอย่างที่สื่อพยายามลาก ซึ่งการแต่งตั้งโยกย้ายช่วงเดือน ต.ค.52 เป็นอำนาจของนายวิชัย ศรีขวัญ อดีตปลัดกระทรวง ตนยังไม่เกี่ยวข้อง แต่ต้องแถลงเรื่องนี้เพราะมหาดไทยเสียหาย ตนรับราชการมา 30 กว่าปี ยืนยันว่า ไม่เคยใช้เงินแม้แต่บาทเดียว ซึ่งจะให้กองการเจ้าหน้าที่ทำหนังสือแจ้งให้นายจาดุร ชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรมาว่า ใครที่ซื้อขายตำแหน่ง 400 ล้านบาท ให้กำหนดชี้แจงใน 7 วัน และตนจะพิจารณาคำชี้แจง ว่า จะทำอย่างไรต่อไป อาจต้องใช้สิทธิ์บางอย่างทางกฎหมายเพื่อปกป้องชื่อเสียงมหาดไทย
นายมานิตกล่าวต่อว่า อยากถามว่านายจาดุรเองเคยเป็นรองผู้ว่าฯ เชียงใหม่เมื่อ พ.ศ.2537 เคยใช้เงินซื้อตำแหน่งบ้างหรือไม่ และโดยหลักการ นายจาดุรเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ เป็นถึงหัวหน้าผู้ตรวจราชการ ถ้าพบสิ่งไม่ดีทำไมจึงไม่รายงานตน จะได้ช่วยกันแก้ไข กลับไปพูดในวงเสวนาสาธารณะ แล้วใครเสียหาย มหาดไทยใช่หรือไม่ และมหาดไทยเป็นบ้านท่านหรือไม่ ทำไมถึงมาเผาบ้านตัวเอง มันเหมาะสมไหม มันเป็นผู้ใหญ่พอไหม ข้างนายไพฑูรย์ บุญวัฒน์ อดีตรองปลัดกระทรวงมหาดไทย ก็ป้ายสีมหาดไทยโดยไม่มีมูลมา 2 ครั้งแล้ว หาหลักฐานก็ไม่มี อยากถามว่า พูดเพื่ออะไร จะเล่นการเมืองหรือไม่ ถ้าจะเล่นการเมืองก็อย่าเอามหาดไทยมาเป็นฐาน ให้สงสารน้องๆ ในกระทรวงที่เขาต้องอยู่อีก 10-20 ปีว่าเกิดเรื่องแบบนี้แล้วเขาจะมีหน้าไปพูดกับใคร ที่น่าเสียใจคือ รองผู้ว่าฯ เคยจับกลุ่มกันแถลงข่าวแล้วว่า เขาจะเอาเงินจากไหน 17 ล้านบาทไปซื้อตำแหน่ง ท่านก็ไม่เชื่อ ตนแถลงข่าวแล้วถ้าท่านไม่เชื่ออีกจะทำอย่างไร จะบอกว่า สัญญาไว้ก่อนว่าได้ตำแหน่งแล้วจะให้เงิน ตนก็ถามกลับว่า แล้วเกิดบางคนเหลืออีก 2 ปีจะเกษียณ 2 ปีนั้นจะหาเงินทันได้หรือ แถมถ้าทำสิ่งไม่ดี องค์กรตรวจสอบก็เยอะไปหมด รวมถึงสื่อมวลชนด้วย
เมื่อถามว่า การที่นายจาดุรกล่าวถึง รมว.มหาดไทยในลักษณะที่ว่าไม่รู้เรื่องอะไร ถือว่าผิดวินัยใช่หรือไม่ นายมานิตกล่าวว่า ส่วนตัวตนคิดว่าใช่ แต่ต้องถามฝ่ายวินัยให้ชัดเจนกว่านี้ ส่วนที่มีการมองว่า มหาดไทยยุคนี้ตกต่ำที่สุดเพราะการเมืองเข้าแทรกนั้น ตนคิดว่า ปัญหาเกิดจากกลุ่มที่พอไม่ได้ตำแหน่งก็ตั้งข้อสงสัยว่า มีการซื้อขายตำแหน่งหรือไม่ แล้วมาปล่อยข่าว ปรากฏว่า พูดแค่ครั้งเดียว แต่ผ่านไปหนึ่งเดือนข่าวก็ยังอยู่ ความจริงแล้วองค์กรมันไม่เลวร้ายทั้งหมด ถ้าเป็นอย่างนั้นก็อยู่ไม่ได้ อีกกลุ่มก็คือฝ่ายการเมือง เพราะช่วงนี้ใกล้การอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็อาจมีการปูพื้นเรื่องขึ้นมาก่อน ทั้งนี้ ตนอยากให้สื่อใช้ดุลยพินิจเอง อยากส่งไปอยู่กับผู้ว่าฯ สัก 6 เดือน ตนจะจ่ายค่าจ้างให้เอง ไปเดินตามให้ตลอด ให้เห็นเลยว่า ผู้ว่าฯ จะไม่มีเงินกันอยู่แล้ว
“ถ้านายจาดุรจะให้สำนักงานข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) สอบซื้อขายตำแหน่ง ผมก็ยินดีให้ข้อมูล มาพูดว่า อธิบดีซื้อขายกัน 400 ล้าน แล้วถ้าเป็นปลัดกระทรวง ดู 6 กรม 5 รัฐวิสาหกิจ คงเป็นพันล้าน ตอนมีข่าวยังพูดกับเพื่อนเลยว่าถ้าจะเป็นอธิบดีซื้อเก้าอี้ 400 ล้านบาท เราเอาเงินไปเปิดโรงไฟฟ้าดีกว่า รวยกว่าเยอะ ใหญ่กว่าเยอะ ที่ออกมาพูดไม่ใช่เพราะจะออกมาปกป้องฝ่ายการเมือง เพราะแบบนี้มาว่าปลัด ผมคิดตั้งแต่เมื่อคืนวานแล้วว่าจะต้องพูด พวกสื่อไปตั้งธงว่ามีคนสั่งให้มาพูด มันไม่ใช่ เรามีสติปัญญาคิดกันเองได้ ตัดสินใจกันเองได้ ไม่ใช่ตะกร้อให้เขาต้องเตะไปมาทางไหน” นายมานิตกล่าว
เมื่อถามถึงกระแสข่าวการทุจริตอื่นๆ ในกระทรวงมหาดไทย นายมานิตกล่าวว่า เรื่องการซื้อขายตำแหน่งตนก็บอกไปแล้ว เรื่องโรงเรียนนายอำเภอ ก็รอผลสอบจาก ป.ป.ช.ที่ว่าข้อสอบรั่วนั้น ตนไม่ทราบ เพราะขณะนั้นดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น (สถ.) กระแสข่าวการทุจริตงบภัยหนาว ที่ว่ากรมสอบสวนคดีพิเศษจะสอบนั้น ผู้ว่าฯ ก็สามารถชี้แจงได้ตามระบบ เรื่องนี้จะให้ปลัดชี้แจงทั้ง 76 จังหวัดคงไม่ไหว
นายอุดมกล่าวว่า การใช้งบประมาณเป็นระบบอี-อ็อกชันทั้งนั้น คงจะทุจริตอะไรไม่ได้ และถ้าต้องใช้เงินซื้อตำแหน่งเยอะขนาดนั้นนอนอยู่บ้านคงสนุกกว่า ตั้งแต่ตนทำงานมา ยังไม่เคยเรื่องใช้เงินซื้อตำแหน่ง ไม่เชื่อว่ามี เพราะในสายมหาดไทย ไม่ใช่ว่าจะมีโครงการให้ตักตวงผลประโยชน์อะไรมากมายได้
นายขวัญชัยกล่าวว่า การมองว่ากลุ่มที่ได้อำนาจสนิทกับฝ่ายการเมืองนั้นจะทำให้ข้าราชการวางตัวลำบาก และวันนี้ตนเริ่มอายแล้วที่มีคนด่าว่ากระทรวงมหาดไทยมาก คิดว่า เราร้ายขนาดนั้นเชียวหรือ
เมื่อถามถึงกรณีที่นายไพฑูรย์ระบุว่ามีพวกระดับสูงในกระทรวงเรียกผู้หญิงไปปล้ำถึงห้องทำงานส่วนตัว นายมานิตกล่าวย้อนว่า ตนก็หาตัวอยู่ ถ้าใครเปิดเผยความจริงได้มีรางวัล ที่นายไพฑูรย์พูดนั้น นายไพฑูรย์ก็เกษียณไปนานแล้ว อาจเคยมีในสมัยนายไพฑูรย์ สมัยนี้ใครจะกล้า กล้องวงจรปิดมีทั่วไปหมด ใครไปเปิดดูไม่ตายเหรอ
ด้าน นายจาดุร อภิชาตบุตร หัวหน้าผู้ตรวจกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ว่า ที่ตนไปพูดที่สภาฯ นั้น เนื่องจากได้รับการเชิญจากวุฒิสมาชิกให้ไปร่วมงานสัมมนาในฐานะเป็นนายกสมาคมข้าราชการพลเรือน ไม่ได้พูดในฐานะหัวหน้าผู้ตรวจกระทรวง อย่างไรก็ตาม เมื่อปลัดกระทรวงจะให้ตนชี้แจง ตนก็พร้อมเพราะเป็นข้าราชการมืออาชีพ และสิ่งที่ทำทั้งหมดก็ทำเพราะบ้านเมือง ถ้าไม่ใช่ทำเพราะบ้านเมืองก็ไม่รู้จะทำไปทำไม แต่ในเบื้องต้นอยากให้รัฐมนตรี หรือปลัดกระทรวงขอเทปมีการสัมมนามาดู เพราะสิ่งที่สื่อเอาไปลงเป็นข่าวนั้น ไม่ใช่สิ่งที่ตนพูดทั้งหมดเป็นแค่เพียงสรุป ส่วนที่นายมานิตอาจหามาตรการทางกฎหมายมาดำเนินการนั้น ยืนยันว่าตนไม่ได้ทำผิดกฎหมาย