ASTVผู้จัดการรายวัน-"ปทีป”เด้ง ผบช.ภ.2 เซ่นคำสั่งตั้งโยกย้ายไม่เป็นไปตามก.ม.สอบพบไม่ผ่านบอร์ดกลั่นกรองของ บช. รองผบช.ไม่เซ็นต์รับ พร้อมยกเลิกคำสั่งทั้งหมด ส่ง”ผช.อัศวิน”ทำบัญชีใหม่ทั้งหมดให้ทัน 16 ก.พ.พร้อมสั่งเยียวยาตำรวจที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมในการแต่งตั้ง
วานนี้( 9 ก.พ.)ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.)พล.ต.ท.เอก อังสนานนท์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบการแต่งตั้งโยกย้ายระดังรอง ผบก.-สว. ได้เรียกรองผบช.ภ.2 เข้ามาชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการแต่งตั้งโยกย้าย และในช่วงบ่ายได้ประชุมคณะกรรมการเพื่อสรุปภาพรวบการแต่งตั้งโยกย้ายของแต่ละกองบัญชาการก่อนจะเสนอ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร.พิจารณา โดยใช้เวลาในการประชุมกว่า 3 ชั่วโมง
พล.ต.ท.เอก กล่าวภายหลังการประชุมว่า ในช่วงเช้าที่มีการเรียกรองผบช.ภ.2 เพื่อให้มาชี้แจงประเด็นต่างๆที่เป็นข้อสงสัยในการแต่งตั้งโยกย้ายหลังจากเมื่อวันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมา พล.ต.ท.เกรียงศักดิ์ สุริโย ผบช.ภ.2 ได้ชี้แจงไปแล้ว ซึ่งในที่ประชุมได้ข้อยุติในข้อเท็จจริง มีการถามในรายละเอียดว่าการเข้าประชุมระดับรองผบช.เป็นอย่างไร มีการจดรายงานการประชุมแบบไหน มีปัญหาที่ต้องอธิบายเรื่องกฎเกณฑ์ข้อบังคับต่างๆ ซึ่งในส่วนของผลสรุปนั้นไม่สามารถเปิดเผยได้ต้องรายงานให้ รรท.ผบ.ตร.พิจารณา
ผู้สื่อข่าวถามว่าบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายของบช.ภ.2 ที่มีปัญหาเพราะไม่ผ่านบอร์ดกลั่นกรองระดับกองบัญชาการใช่หรือไม่ พล.ต.ท.เอก กล่าวว่า ยอมรับว่ามีปัญหาแต่เปิดเผยไม่ได้ว่าปัญหาอะไร ถ้าพบว่าการแต่งตั้งโยกย้ายทำไม่ถูกขั้นตอน ก็ต้องเสนอให้รรท.ผบ.ตร.พิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไร ในฐานะคณะกรรมการฯก็มีอำนาจเท่านี้ การจะดำเนินการอย่างไรเป็นอำนาจของรรท.ผบ.ตร.
พล.ต.ท.เอก กล่าวต่อว่า ส่วนการประชุมในช่วงบ่ายเป็นการประชุมสรุปภาพรวมของการแต่งตั้งโยกย้ายของทุกกองบัญชาการ เจ้าหน้าที่ได้มาพิจารณาเพิ่มเติม ว่าแต่ละหน่วยดำเนินแต่งตั้งถูกต้องตามกฎ ก.ตร.ที่ให้แนวทางไว้หรือไม่ อย่างเช่น ให้ยึดหลักอาวุโส 25 เปอร์เซ็นต์ โดยให้ขึ้นตามที่มีเก้าอี้ว่าง ไม่ให้มีการกระโดดข้าม และในส่วนหัวหน้าโรงพักที่ได้รับรางวัลโรงพักดีเด่นทุกภาคในพื้นที่ ถ้าครบหลักเกณฑ์ก็ให้ขึ้นทุกราย หากไม่ครบหลักเกณฑ์ ก็ให้ไปดำรงตำแหน่งจากโรงพักชั้น 2 ก็ให้ไปโรงพักชั้น 1 ซึ่งรรท.ผบ.ตร.เน้นย้ำให้ทำตามหลักเกณฑ์ให้ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ เพื่อให้เป็นขวัญและกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำงาน
“ภาพรวมของแต่ละบช. 90 เปอร์เซ็นต์ยึดตามหลักเกณฑ์มีเพียง ไม่กี่ บช.ที่มีปัญหา ก็จะดำเนินการแก้ไขเพื่อให้ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ 100 เปอร์เซ็นต์เต็ม ซึ่งเชื่อว่าจะทันภายในวันที่ 16 ก.พ.นี้”พล.ต.ท.เอกกล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า กองบัญชาการที่ในที่ประชุมได้สรุปให้มีการเยียวยา ประกอบด้วย บช.ภ.1 จำนวน 2 ตำแหน่ง คือ สวญ. สภ.ม่วงค่อม จว.ลพบุรี ที่ได้โรงพักดีเด่น ให้เลื่อนตำแหน่งเป็น ผกก. และ สว.หัวหน้าสถานี สภ.มะนาวหนาว จ.ลพบุรี ขึ้นเป็น สวญ. บช.ภ.5 จำนวน 2 ตำแหน่ง คือ ผกก.สภ.ห้างฉัตร จว.ลำปาง ขึ้นเป็น รองผบก. และ สวญ.หัวหน้าสถานีโรงพักหนึ่งในบช.ภ.5 ขึ้นเป็น ผกก. ภ.7 จำนวน 1 ตำแหน่ง เป็นตำแหน่งหัวหน้าสถานีตำรวจที่ได้รับรางวัลโรงพักดีเด่น แต่ไม่ครบเกณฑ์การแต่งตั้งให้ไปดำรงตำแหน่งในโรงพักชั้นดีขึ้นมีภาระงานมากขึ้น ภ.8 จำนวน 1 ตำแหน่ง เป็น สวญ.โรงพักดีเด่น ได้เลื่อนเป็น ผกก. บช.น. จำนวน 1 ตำแหน่ง เป็น รองผกก.ขยับขึ้นเป็น ผกก.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากประชุมเสร็จสิ้น พล.ต.ท.เอก ได้เข้ารายงานผลการประชุมต่อ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร. โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที
จากนั้น พล.ต.อ.ปทีป ได้มีคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 69/2553 เรื่อง ข้าราชการตำรวจไปปฏิบัติราชการและรักษาราชการแทน อาศัยอำนาจตามความมาตรา 11 และมาตรา 72 แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 และข้อ8(1) แห่งระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการตำรวจไปปฏิบัติราชการภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2552 จึงให้ พล.ต.ท.เกรียงศักดิ์ สุริโย ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ไปปฏิบัติราชการที่สำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และให้ พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วยผบ.ตร. รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 อีกหน้าที่หนึ่ง ทั้งนี้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2553
รายงานข่าวแจ้งว่าการสั่งให้ผบช.ภ.2 เข้ามาช่วยราชการในสำนักงานตำรวจแห่งชาติแบบไม่มีกำหนด เนื่องจากปัญหาการแต่งตั้งโยกย้ายใน บช.ภ.2 ที่ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์การแต่งตั้ง และไม่ผ่านบอร์ดกลั่นกรองระดับกองบัญชาการ เนื่องจากรองผบช.ภ.2 ซึ่งเป็นคณะกรรมการกลั่นกรองไม่ลงนามรับรองคำสั่ง แต่ผู้บัญชาการได้ออกคำสั่งเอง จึงเป็นการไม่ครบขั้นตอนการแต่งตั้งโยกย้ายตามกฎหมาย มีผลให้ต้องยกเลิกคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายระดับรองผบก.-สว.ทั้งหมดใน บช.ภ.2 และให้ พล.ต.ท.อัศวิน ไปดำเนินการทำบัญชีการแต่งตั้งโยกย้ายใหม่ทั้งหมด ซึ่งจะให้ทันภายในวันที่ 16 ก.พ.นี้
วานนี้( 9 ก.พ.)ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.)พล.ต.ท.เอก อังสนานนท์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบการแต่งตั้งโยกย้ายระดังรอง ผบก.-สว. ได้เรียกรองผบช.ภ.2 เข้ามาชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการแต่งตั้งโยกย้าย และในช่วงบ่ายได้ประชุมคณะกรรมการเพื่อสรุปภาพรวบการแต่งตั้งโยกย้ายของแต่ละกองบัญชาการก่อนจะเสนอ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร.พิจารณา โดยใช้เวลาในการประชุมกว่า 3 ชั่วโมง
พล.ต.ท.เอก กล่าวภายหลังการประชุมว่า ในช่วงเช้าที่มีการเรียกรองผบช.ภ.2 เพื่อให้มาชี้แจงประเด็นต่างๆที่เป็นข้อสงสัยในการแต่งตั้งโยกย้ายหลังจากเมื่อวันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมา พล.ต.ท.เกรียงศักดิ์ สุริโย ผบช.ภ.2 ได้ชี้แจงไปแล้ว ซึ่งในที่ประชุมได้ข้อยุติในข้อเท็จจริง มีการถามในรายละเอียดว่าการเข้าประชุมระดับรองผบช.เป็นอย่างไร มีการจดรายงานการประชุมแบบไหน มีปัญหาที่ต้องอธิบายเรื่องกฎเกณฑ์ข้อบังคับต่างๆ ซึ่งในส่วนของผลสรุปนั้นไม่สามารถเปิดเผยได้ต้องรายงานให้ รรท.ผบ.ตร.พิจารณา
ผู้สื่อข่าวถามว่าบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายของบช.ภ.2 ที่มีปัญหาเพราะไม่ผ่านบอร์ดกลั่นกรองระดับกองบัญชาการใช่หรือไม่ พล.ต.ท.เอก กล่าวว่า ยอมรับว่ามีปัญหาแต่เปิดเผยไม่ได้ว่าปัญหาอะไร ถ้าพบว่าการแต่งตั้งโยกย้ายทำไม่ถูกขั้นตอน ก็ต้องเสนอให้รรท.ผบ.ตร.พิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไร ในฐานะคณะกรรมการฯก็มีอำนาจเท่านี้ การจะดำเนินการอย่างไรเป็นอำนาจของรรท.ผบ.ตร.
พล.ต.ท.เอก กล่าวต่อว่า ส่วนการประชุมในช่วงบ่ายเป็นการประชุมสรุปภาพรวมของการแต่งตั้งโยกย้ายของทุกกองบัญชาการ เจ้าหน้าที่ได้มาพิจารณาเพิ่มเติม ว่าแต่ละหน่วยดำเนินแต่งตั้งถูกต้องตามกฎ ก.ตร.ที่ให้แนวทางไว้หรือไม่ อย่างเช่น ให้ยึดหลักอาวุโส 25 เปอร์เซ็นต์ โดยให้ขึ้นตามที่มีเก้าอี้ว่าง ไม่ให้มีการกระโดดข้าม และในส่วนหัวหน้าโรงพักที่ได้รับรางวัลโรงพักดีเด่นทุกภาคในพื้นที่ ถ้าครบหลักเกณฑ์ก็ให้ขึ้นทุกราย หากไม่ครบหลักเกณฑ์ ก็ให้ไปดำรงตำแหน่งจากโรงพักชั้น 2 ก็ให้ไปโรงพักชั้น 1 ซึ่งรรท.ผบ.ตร.เน้นย้ำให้ทำตามหลักเกณฑ์ให้ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ เพื่อให้เป็นขวัญและกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำงาน
“ภาพรวมของแต่ละบช. 90 เปอร์เซ็นต์ยึดตามหลักเกณฑ์มีเพียง ไม่กี่ บช.ที่มีปัญหา ก็จะดำเนินการแก้ไขเพื่อให้ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ 100 เปอร์เซ็นต์เต็ม ซึ่งเชื่อว่าจะทันภายในวันที่ 16 ก.พ.นี้”พล.ต.ท.เอกกล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า กองบัญชาการที่ในที่ประชุมได้สรุปให้มีการเยียวยา ประกอบด้วย บช.ภ.1 จำนวน 2 ตำแหน่ง คือ สวญ. สภ.ม่วงค่อม จว.ลพบุรี ที่ได้โรงพักดีเด่น ให้เลื่อนตำแหน่งเป็น ผกก. และ สว.หัวหน้าสถานี สภ.มะนาวหนาว จ.ลพบุรี ขึ้นเป็น สวญ. บช.ภ.5 จำนวน 2 ตำแหน่ง คือ ผกก.สภ.ห้างฉัตร จว.ลำปาง ขึ้นเป็น รองผบก. และ สวญ.หัวหน้าสถานีโรงพักหนึ่งในบช.ภ.5 ขึ้นเป็น ผกก. ภ.7 จำนวน 1 ตำแหน่ง เป็นตำแหน่งหัวหน้าสถานีตำรวจที่ได้รับรางวัลโรงพักดีเด่น แต่ไม่ครบเกณฑ์การแต่งตั้งให้ไปดำรงตำแหน่งในโรงพักชั้นดีขึ้นมีภาระงานมากขึ้น ภ.8 จำนวน 1 ตำแหน่ง เป็น สวญ.โรงพักดีเด่น ได้เลื่อนเป็น ผกก. บช.น. จำนวน 1 ตำแหน่ง เป็น รองผกก.ขยับขึ้นเป็น ผกก.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากประชุมเสร็จสิ้น พล.ต.ท.เอก ได้เข้ารายงานผลการประชุมต่อ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร. โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที
จากนั้น พล.ต.อ.ปทีป ได้มีคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 69/2553 เรื่อง ข้าราชการตำรวจไปปฏิบัติราชการและรักษาราชการแทน อาศัยอำนาจตามความมาตรา 11 และมาตรา 72 แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 และข้อ8(1) แห่งระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการตำรวจไปปฏิบัติราชการภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2552 จึงให้ พล.ต.ท.เกรียงศักดิ์ สุริโย ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ไปปฏิบัติราชการที่สำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และให้ พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วยผบ.ตร. รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 อีกหน้าที่หนึ่ง ทั้งนี้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2553
รายงานข่าวแจ้งว่าการสั่งให้ผบช.ภ.2 เข้ามาช่วยราชการในสำนักงานตำรวจแห่งชาติแบบไม่มีกำหนด เนื่องจากปัญหาการแต่งตั้งโยกย้ายใน บช.ภ.2 ที่ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์การแต่งตั้ง และไม่ผ่านบอร์ดกลั่นกรองระดับกองบัญชาการ เนื่องจากรองผบช.ภ.2 ซึ่งเป็นคณะกรรมการกลั่นกรองไม่ลงนามรับรองคำสั่ง แต่ผู้บัญชาการได้ออกคำสั่งเอง จึงเป็นการไม่ครบขั้นตอนการแต่งตั้งโยกย้ายตามกฎหมาย มีผลให้ต้องยกเลิกคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายระดับรองผบก.-สว.ทั้งหมดใน บช.ภ.2 และให้ พล.ต.ท.อัศวิน ไปดำเนินการทำบัญชีการแต่งตั้งโยกย้ายใหม่ทั้งหมด ซึ่งจะให้ทันภายในวันที่ 16 ก.พ.นี้