xs
xsm
sm
md
lg

ผบช.ภ.2 ฟ้อง “ปทีป” สั่งช่วยราชการมิชอบ อ้างซื่อสัตย์สุจริต

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

พล.ต.ท.เกรียงศักดิ์ สุริโย
ผบช.ภ.2 ฟ้อง “ปทีป” สั่งไปช่วยราชการมิชอบ กรณีมีข่าวซื้อขายตำแหน่งใน บช.ภ.2 โดยไม่เปิดโอกาสให้ชี้แจง แต่กลับออกคำสั่งด่วนดังกล่าว ทำให้เสียชื่อเสียง ทั้งที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต

วันนี้ (24 ก.พ.) ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ พล.ต.ท.เกรียงศักดิ์ สุริโย ผบช.ภ.2 ปฏิบัติราชการสำนักงานผบ.ตร. มอบอำนาจทนายความเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พล.ต.อ.ประทีป ตันประเสริฐ รักษาการ ผบ.ตร.เป็นจำเลยฐานปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดตาม ป.อาญา มาตรา157

คำฟ้องสรุปว่า เดิมโจทก์เป็นผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค2 ปฏิบัติหน้าที่ตามตำแหน่งด้วยความซื่อสัตย์สุจริตเสมอมา จำเลยเป็นรักษาผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีหน้าที่ปฏิบัติราชการให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบ ต่อมาเมื่อวันที่ 8 ก.พ.2553 จำเลยได้มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีมีการกล่าวหาว่า มีการซื้อขายตำแหน่งในกองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 2 (บช.ภ.2) แล้วจำเลยได้เรียกตนไปให้การต่อคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการร้องเรียน เรื่องการซื้อขายตำแหน่งในการแต่งตั้งโยกย้าย ข้าราชการตำรวจในสังกัดกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 โดยไม่ได้ซักถามตนหรือเปิดโอกาสให้ชี้แจงแสดงพยานหลักฐานอันเป็นคุณแก่โจทก์ แต่จำเลยกลับมีคำสั่งด่วนให้ตนไปช่วยราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นผลให้ตนไม่อาจปฏิบัติราชการในตำแหน่ง ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 2 ได้อีกต่อไป ทั้งทำให้เสียหายต่องานราชการ ทำให้เสียหายแก่ชื่อเสียงเกียรติยศ โดยมีเจตนาทำให้โจทก์เสียหาย

เบื้องต้นศาลตรวจคำฟ้องแล้วรับไว้พิจารณาเป็นคดีหมายเลขดำที่ อ.629/2553 พร้อมนัดไกล่เกลี่ย วันที่ 23 เม.ย. เวลา 09.00 น. และนัดไต่สวนมูลฟ้องวันที่ 26 เม.ย.เวลา 09.00น.

วันเดียวกัน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณี พล.ต.ท.เกรียงศักดิ์ สุริโย ผบช.ภ. 2 ช่วยราชการสำนักงาน ผบ.ตร. ออกมากล่าวหาว่าออกคำสั่งให้มาช่วยราชการและการแก้ไขคำสั่ง บช.ภ.2 ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ว่า การแก้ไขคำสั่งแต่งตั้งนี้เป็นเรื่องที่คณะกรรมการเสนอขึ้นมาและเห็นว่าคำสั่งของ บช.ภ. 2 ฉบับนั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตามที่เคยพูดไปหลายครั้ง จึงต้องยกเลิกคำสั่ง ยืนยันว่าทำตามขั้นตอน ตามกฎหมาย ขณะที่ส่วนของ พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วย ผบ.ตร.ที่ยกเลิกคำสั่งและทำการแต่งตั้งใหม่นั้น เชื่อว่า พล.ต.ท.อัศวิน คงได้พิจารณาแล้วว่าเป็นอำนาจที่ชอบ ซึ่งจะบอกว่าของใครถูกตามกฎหมายนั้นตัดสินไม่ได้เพราะทุกคนย่อมคิดว่าตนเองทำถูก คงต้องมีองค์กรกลางมาตัดสินว่าอะไรถูกอะไรผิด ในส่วน ตร. อาจต้องตั้งเป็นรูปคณะกรรมการขึ้นมา หรืออาจต้องให้ ก.ตร.หรือศาลยุติธรรมตัดสิน

เมื่อถามถึงกรณีที่ พล.ต.ท.เกรียงศักดิ์ ไปฟ้องศาลกล่าวหาผิดกฎหมายอาญามาตรา 157 นั้น พล.ต.อ.ปทีป กล่าวว่า เป็นสิทธิ์ของเขาไม่มีปัญหาอะไร ส่วนตนยืนยันว่าทำถูกต้องตามกฎหมาย และยืนยันว่าได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสืบสวนข้อเท็จจริง ผบช.ภ.2 กรณีออกคำสั่งแต่งตั้งไม่ถูกต้องตามกระบวนการกฎหมายจริง โดยมี พล.ต.ท.ฉัตรชัย โปตระนันทน์ รองจเรตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานคณะกรรมการแต่จำไม่ได้ว่ามีใครเป็นคณะกรรมการบ้าง คิดว่าขณะนี้อยู่ในขั้นตอนสอบปากคำพยาน ต้องให้เวลาคณะกรรมการฯทำงานด้วย อย่างไรก็ตามในประเด็นกระบวนการการแต่งตั้งนั้นขณะนี้ ยืนยันว่าจะสืบสวนข้อเท็จจริงเพียงแค่ บช.ภ.2 เท่านั้น ส่วนเรื่องการซื้อขายตำแหน่งเป็นชุดของนายกรัฐมนตรี จะไม่มีการตั้งกรรมการขึ้นมาซ้ำซ้อนกัน

ส่วนกรณีที่ พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ผกก.สภ.บันนังสตา จ.ยะลา ที่ร้องเรียนที่ไม่ได้รับการแต่งตั้งโยกย้ายข้ามหน่วยไปสังกัด บช.ภ.9 นั้น รรท.ผบ.ตร.กล่าวว่า เรื่องนี้ตนเพิ่งทราบ ต้องดูข้อมูลก่อนถึงจะพิจารณาเยียวยาให้ได้หรือไม่ ทั้งนี้ ตามกฎกติกาการแต่งตั้งกรณีการย้ายข้ามหน่วยนั้นเป็นเรื่องที่ บช.ต้องตกลงกันเอง เรื่องจะไม่ขึ้นมาถึง ตร. กรณีนี้ ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) กับ บช.ภ.9 ต้องตกลงกัน ถ้าได้จะย้ายสับเปลี่ยน

เมื่อถามว่าจะเป็นกรณีที่ทำให้ตำรวจที่ปฏิบัติงานใน ศชต.เสียขวัญหรือไม่ เพราะไม่ได้รับการปูนบำเหน็จ หรือ ดูแล รรท.ผบ.ตร.กล่าวว่า อย่าเพิ่งคิดไกลถึงขนาดนั้นเลย โดยระเบียบ เป็นเรื่องที่บช.2 แห่งจะตกลงกัน ถ้าเห็นว่าเหมาะสมเขาก็จะแลกตัวกัน เท่าที่คุยกับ ผบช. ก็ทั้ง 2 ภาค ก็มีความพยายามให้กำลังพลได้พักระหว่าง ศชต.กับบช.ภ.9 เพราะถือว่าเดิมทีเป็นบช.เดียวกัน แต่กรณีไม่รู้ว่าติดอะไร แต่เท่าที่คุยทั้ง 2 บช.ก็พยายามหมุนเวียนกำลังกัน

สำหรับกรณีที่ข้าราชการตำรวจมาร้องเรียนว่าการแต่งตั้งไม่เป็นธรรมจำนวนมาก รรท.ผบ.ตร. กล่าวว่า ขณะนี้คำสั่งมีผลตั้งแต่วันที่ 16 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เพราะฉะนั้น หากจะร้องเรียนต้องร้องทุกข์ต่อ ก.ตร.ต้องดำเนินการภายใน 30 วัน นับแต่วันคำสั่งมีผล ใครรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมก็เป็นสิทธิ์ที่ใช้ร้องทุกข์
กำลังโหลดความคิดเห็น