นายมานิต วัฒนเสน ปลัดกระทรวงมหดาไทย กล่าวถึงกรณีที่นายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย ซึ่งกำกับดูแลกรมที่ดิน ระบุว่าจะให้ปลัดกระทรวงมหาดไทย แก้ไขปัญหาที่ดินอัลไพน์ เพื่อนำเอกสารสิทธิ์สนามกอล์ฟอัลไพน์ กลับคืนเป็นที่ ธรณีสงฆ์ ตามที่กฤษฎีกาวินิจฉัยว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับการสั่งการจาก นายถาวรและตั้งแต่เข้ามาเป็นปลัดกระทรวงมหาดไทยเกือบ 5 เดือน ยังไม่เคยเห็นหนังสือเรื่องดังกล่าวเลย
อย่างไรก็ตาม หากได้รับหนังสือตนก็จะเร่งดำเนินการศึกษาที่มาที่ไปของปัญหานี้ก่อน แต่ต้องยอมรับว่าเท่าที่ติดตามข่าว เรื่องนี้เป็นเรื่องยากในการแก้ปัญหา เพราะขนาดนายวิชัย ศรีขวัญ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นปลัด 8 เดือน ก็ยังแก้ไขปัญหาไม่ได้ จึงยังตอบไม่ได้ว่าจะดำเนินการยกเลิกคำสั่งเดิมที่นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นผู้ลงนามให้คำร้องอุธทรณ์ของประชาชนผู้พักอาศัยอยู่ในหมู่บ้านอัลไพน์มีผล จนทำให้เพิกถอนเอกสารสิทธิ์ดังกล่าวไม่ได้ และยังตอบไม่ได้ว่าเรื่องนี้จะเสร็จเมื่อใด หรือจะเสร็จก่อนที่ตนจะเกษียณอายุราชการหรือไม่ เพราะเป็นเรื่องของอนาคต
ยืนยันว่าเรื่องนี้ยังมาไม่ถึงสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย และยังตอบ ไม่ได้ว่าทางกรมที่ดินจะต้องตั้งเรื่องซึ่งเคยเสนอให้นายวิชัย แก้ปัญหา ในหลายแนวทางโดยทางหนึ่งคือให้เพิกถอนเอกสารสิทธิ์ เมื่อมาถึงยุคของผมแล้ว จะต้องมาตั้งเรื่องใหม่หรือไม่ ซึ่งผมก็ต้องพิจารณารายละเอียดขั้นตอนตามกฎหมายก่อน ผมเป็นข้าราชการก็ทำตามหน้าที่ จะให้ตอบตอนนี้ว่าเรื่องอัลไพน์จะเอาอย่างไร คงตอบไมได้ และไมเชื่อว่าเรื่องนี้จะทำให้เป็นปัญหาขัดแย้งกับฝ่ายการเมือง คงไม่มีใครมาข่มเหงหรือขี่คอ และคงไม่มีการกดดันอะไรอดีตปลัดกระทรวงมหาดไทยคนอื่นๆ ก่อนหน้านี้ เพราะทุกอย่างต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ แต่ยอมรับว่าเป็นข้อสอบที่ยาก เพราะเรื่องนี้เกิดนานมากแล้วตั้งแต่ผมเป็น ผู้อำนวยการสำนัก จนบัดนี้ได้เป็นปลัดกระทรวง นายมานิต กล่าว
อนึ่งเป็นที่รู้กันดีในกระทรวงมหาดไทยว่า ก่อนหน้านี้นายถาวร กับนายมานิตเคยมีปัญหาทางการเมืองต่อกัน เนื่องจากในการเลือกตั้งปี 2548 นายถาวรได้เข้าไปตรวจสอบกรณีที่นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคไทยรักไทย ในสมัยนั้น ที่ไปดูแลพื้นที่เลือกตั้ง จ.พัทลุง จ.สตูล ให้กับพรรคไทยรักไทย โดยในช่วงหาเสียง นายเนวินได้ลงพื้นที่ศูนย์ราชการแห่งหนึ่งใน จังหวัดสงขลา และเรียกประชุมหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่มาประชุมทั้งที่เป็นวันหยุดราชการ ซึ่งนายถาวรได้ซุ่มดักฟังในห้องติดกันกับห้องที่นายเนวินเรียกข้าราชมาประชุม ซึ่งในเวลานั้นนายมานิต ดำรงตำแหน่งเป็นผู้ว่าฯ สตูล โดยนายถาวรได้นำเรื่องดังกล่าวไปให้ ป.ป.ช.สอบสวน โดยมีเทปการประชุมวันดังกล่าว ที่ระบุว่ามีการขอให้ข้าราชการในพื้นที่ช่วยผู้สมัครพรรคไทยรักไทย แต่นายเนวินได้ปฏิเสธและต่อมานายมานิตได้ยื่นฟ้อง นายถาวรจนเกิดคดีความเกิด ขึ้น และมีการถอนฟ้องในเวลาต่อมา
อย่างไรก็ตาม หากได้รับหนังสือตนก็จะเร่งดำเนินการศึกษาที่มาที่ไปของปัญหานี้ก่อน แต่ต้องยอมรับว่าเท่าที่ติดตามข่าว เรื่องนี้เป็นเรื่องยากในการแก้ปัญหา เพราะขนาดนายวิชัย ศรีขวัญ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นปลัด 8 เดือน ก็ยังแก้ไขปัญหาไม่ได้ จึงยังตอบไม่ได้ว่าจะดำเนินการยกเลิกคำสั่งเดิมที่นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นผู้ลงนามให้คำร้องอุธทรณ์ของประชาชนผู้พักอาศัยอยู่ในหมู่บ้านอัลไพน์มีผล จนทำให้เพิกถอนเอกสารสิทธิ์ดังกล่าวไม่ได้ และยังตอบไม่ได้ว่าเรื่องนี้จะเสร็จเมื่อใด หรือจะเสร็จก่อนที่ตนจะเกษียณอายุราชการหรือไม่ เพราะเป็นเรื่องของอนาคต
ยืนยันว่าเรื่องนี้ยังมาไม่ถึงสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย และยังตอบ ไม่ได้ว่าทางกรมที่ดินจะต้องตั้งเรื่องซึ่งเคยเสนอให้นายวิชัย แก้ปัญหา ในหลายแนวทางโดยทางหนึ่งคือให้เพิกถอนเอกสารสิทธิ์ เมื่อมาถึงยุคของผมแล้ว จะต้องมาตั้งเรื่องใหม่หรือไม่ ซึ่งผมก็ต้องพิจารณารายละเอียดขั้นตอนตามกฎหมายก่อน ผมเป็นข้าราชการก็ทำตามหน้าที่ จะให้ตอบตอนนี้ว่าเรื่องอัลไพน์จะเอาอย่างไร คงตอบไมได้ และไมเชื่อว่าเรื่องนี้จะทำให้เป็นปัญหาขัดแย้งกับฝ่ายการเมือง คงไม่มีใครมาข่มเหงหรือขี่คอ และคงไม่มีการกดดันอะไรอดีตปลัดกระทรวงมหาดไทยคนอื่นๆ ก่อนหน้านี้ เพราะทุกอย่างต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ แต่ยอมรับว่าเป็นข้อสอบที่ยาก เพราะเรื่องนี้เกิดนานมากแล้วตั้งแต่ผมเป็น ผู้อำนวยการสำนัก จนบัดนี้ได้เป็นปลัดกระทรวง นายมานิต กล่าว
อนึ่งเป็นที่รู้กันดีในกระทรวงมหาดไทยว่า ก่อนหน้านี้นายถาวร กับนายมานิตเคยมีปัญหาทางการเมืองต่อกัน เนื่องจากในการเลือกตั้งปี 2548 นายถาวรได้เข้าไปตรวจสอบกรณีที่นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคไทยรักไทย ในสมัยนั้น ที่ไปดูแลพื้นที่เลือกตั้ง จ.พัทลุง จ.สตูล ให้กับพรรคไทยรักไทย โดยในช่วงหาเสียง นายเนวินได้ลงพื้นที่ศูนย์ราชการแห่งหนึ่งใน จังหวัดสงขลา และเรียกประชุมหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่มาประชุมทั้งที่เป็นวันหยุดราชการ ซึ่งนายถาวรได้ซุ่มดักฟังในห้องติดกันกับห้องที่นายเนวินเรียกข้าราชมาประชุม ซึ่งในเวลานั้นนายมานิต ดำรงตำแหน่งเป็นผู้ว่าฯ สตูล โดยนายถาวรได้นำเรื่องดังกล่าวไปให้ ป.ป.ช.สอบสวน โดยมีเทปการประชุมวันดังกล่าว ที่ระบุว่ามีการขอให้ข้าราชการในพื้นที่ช่วยผู้สมัครพรรคไทยรักไทย แต่นายเนวินได้ปฏิเสธและต่อมานายมานิตได้ยื่นฟ้อง นายถาวรจนเกิดคดีความเกิด ขึ้น และมีการถอนฟ้องในเวลาต่อมา