ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – เผยเหตุบ้านเอื้ออาทรสุไหงโก-ลกนราธิวาสทำผู้มีรายได้น้อยฝันค้าง เพราะผู้รับเหมาก่อสร้างทิ้งงาน ชี้ที่ผ่านพยายามเปิดให้รายใหม่เข้ามาทำต่อก็ไม่คืบ เพราะขาดแคลนแรงงาน เลยกำหนดรับบ้านตั้งแต่กลางเดือนเมษายน 2552 ด้านเคหะชุมชนนราธิวาส แจงผู้ที่ชำระเงินตามสัญญาแล้วให้ตั้งหน้ารอต่อไป โบ้ยถามฝ่ายก่อสร้างฯ ส่วนกลางเสร็จเมื่อไหร่ แต่หากไม่ประสงค์จะเป็นเจ้าของบ้านนโยบายประชานิยม ให้นำหลักฐานมารับเงินคืนได้ทันที
โครงการบ้านเอื้ออาทรของรัฐบาลทักษิณและรัฐบาลนอมินีที่เข้ามาสานต่อ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของนโยบายประชานิยมที่ทุ่มงบประมาณเอาใจคนรากหญ้าที่มีรายได้น้อย ซึ่งมีการเคหะแห่งชาติได้รับมอบหมายให้ดำเนินการภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
ทว่าการดำเนินโครงการดังกล่าว แม้จะเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการเข้ามาดำเนินการสร้างงานสร้างรายได้กระจายในท้องถิ่น แต่ด้วยเป็นโครงการขนาดใหญ่สวนทางกับราคาที่ถูกกว่าท้องตลาด ทำให้ต้องรัดเข็มขัดควบคุมต้นทุนการก่อสร้างเพื่อหากำไร ทำให้เป็นช่องว่างให้มีการทุจริตอย่างมหาศาล เพราะนอกจากจะประสบปัญหาความพร้อมของโครงการ ตั้งแต่ความไม่เหมาะสมของทำเลที่ตั้ง และความต้องการจริงของตลาดแล้ว คุณภาพของบ้านยังห่างไกลความปลอดภัย จึงไม่แปลกที่จากการสำรวจพบว่ากว่า 400 โครงการทั่วประเทศ ประสบปัญหาในด้านต่างๆ จนไม่สามารถเดินหน้าสานฝันให้แก่ผู้มีรายได้น้อยได้ สร้างความเสียหายในภาพรวมเป็นอย่างยิ่ง
เช่นเดียวกับความล้มเหลวของโครงการบ้านเอื้ออาทร นราธิวาส ที่หยุดชะงักลงกลางคัน ไม่สามารถส่งมอบบ้านได้ตามระยะเวลาที่กำหนด เพราะผู้รับเหมาทิ้งงาน ทำให้บ้านอยู่ระหว่างการก่อสร้างถูกทิ้งร้างและไม่มีท่าทีว่าจะแล้วเสร็จจนกระทั่งถึงบัดนี้
เกี่ยวกับเรื่องนี้ แหล่งข่าวระดับสูงของเคหะชุมชนนราธิวาส ซึ่งรับผิดชอบดูแลลูกค้าบ้านเอื้ออาทรใน จ.นราธิวาส เปิดเผย “ASTV ผู้จัดการรายวัน” ว่า โครงการบ้านเอื้ออาทรสุไหงโก-ลกนราธิวาส ตั้งอยู่ที่ถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4056 ข้างโรงแรมแกรนด์การ์เด้น ต.สุไหงโก-ลก เดิมทีมีประชาชนสนใจเข้าจองเกือบ 2,000 ราย และได้เริ่มก่อสร้างเมื่อเดือนกันยายน 2550 ซึ่งเมื่อดำเนินการมาระยะหนึ่งปรากฏว่าประสบปัญหาผู้รับเหมาก่อสร้าง ซึ่งเป็นบริษัทในท้องถิ่นทิ้งงาน ทำให้โครงการหยุดชะงัก กระทบถึงการเรียกผู้ที่ผ่านการคัดเลือกซื้อบ้านเอื้ออาทรได้เพียงรุ่นเดียวเท่านั้น ทำให้บ้านในโครงการที่มี 288 ยูนิต เหลืออีกจำนวนมากที่ยังจำหน่ายไม่หมด
อีกทั้งจากปัญหาดังกล่าว ทำให้ไม่สามารถส่งมอบบ้านให้กับผู้ซื้อได้ทันตามสัญญา ที่ระบุว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือนเมษายน 2552 แต่ก็เลื่อนโครงการเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน และผู้ซื้อก็ต้องรอคอยบ้านอย่างไม่มีกำหนด ซึ่งแม้ว่าจะมีการเปิดให้ผู้รับเหมารายใหม่มาดำเนินการต่อก็ประสบปัญหาขาดแคลนแรงงาน จึงไม่มีความคืบหน้านับแต่นั้นมา
แหล่งข่าวคนเดิมยังกล่าวต่ออีกว่า จากปัญหาดังกล่าว ผู้ซื้อบ้านสามารถเลือกตัดสินใจได้ 2 ทางคือ 1.ถ้าต้องการบ้านเอื้ออาทรฯนี้ต่อให้รอจนกว่าบ้านจะดำเนินการเสร็จ ซึ่งมีประมาณ 40 ราย 2.หากไม่ประสงค์ต้องการบ้านอีกแล้ว ให้ยื่นหลักฐานสำคัญเพื่อขอคืนเงินจากการเคหะชุมชนนราธิวาสได้ ซึ่งถ้าหลักฐานครบถ้วนสามารถคืนเงินได้ทันที ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่ขาดการชำระเงินอย่างต่อเนื่อง ถือว่าได้ผิดสัญญาจะซื้อจะขายและอาจจะไม่ได้รับเงินคืน หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามและปรึกษาเคหะชุมชนนราธิวาสได้เป็นรายๆ ไป
“ส่วนคำถามว่าโครงการบ้านเอื้ออาทรฯ จะแล้วเสร็จเมื่อไหร่ จะสร้างต่อหรือไม่ เคหะชุมชนนราธิวาสไม่สามารถให้คำตอบได้ เพราะเป็นอำนาจและความรับผิดชอบของฝ่ายก่อสร้างจากส่วนกลาง ที่จะเป็นผู้ดำเนินการเองได้ ยกเว้นการดูแลลูกค้าซึ่งเป็นหน้าที่โดยตรงของเรา” แหล่งข่าวรายเดิมกล่าวต่อและว่า
ก่อนหน้านี้ ได้มีการนำบ้านจากโครงการอื่นที่ประสบปัญหามาทำเป็นโครงการบ้านเอื้ออาทรนราธิวาส (พิเศษ) จำนวน 82 ยูนิต โดยนำบ้านมาปรับปรุงและซ่อมแซมแล้วจำหน่ายในราคาถูก ทำให้ได้รับการตอบรับจากประชาชนที่มีรายได้น้อยในพื้นที่ และสามารถปิดโครงการได้สำเร็จมาแล้ว
สำหรับโครงการ บ้านเอื้ออาทรสุไหงโก-ลกนราธิวาส จากสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินพร้อมลักษณะเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น เนื้อที่ประมาณ 21 ตารางวา ผู้ซื้อได้มีการทำสัญญาขึ้น ณ การเคหะแห่งชาติ แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ ในราคา 390,000 บาท โดยผู้ซื้อตกลงชำระราคาที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ด้วยการชำระราคาส่วนหนึ่งเป็นมัดจำจำนวน 9,000 บาท โดยผู้ขายยอมให้แบ่งชำระเป็น 18 งวดๆ ละ 500 บาท และจะชำระส่วนที่เหลือทั้งหมด 381,000 ภายในวันที่กำหนดส่งมอบทรัพย์สินตามสัญญา ซึ่งถ้าผู้ซื้อค้างชำระเงินมัดจำจำนวน 2 งวดติดต่อกันให้ถือว่าผู้ซื้อผิดสัญญา และให้สัญญานี้เป็นอันสิ้นสุดลงทันที โดยไม่ต้องบอกเลิกสัญญาแต่อย่างใด และผู้ขายมีสิทธิริบเงินมัดจำที่ชำระแล้วทั้งหมด