ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – เหยื่อนโยบายประชานิยม “ระบอบทักษิณ” ร้องเรียน”วีระ สมความคิด” ถึงความโสมมของโครงการเอื้ออาทรสุไหงโก-ลก ที่ผู้รับเหมาสร้างบ้านไม่ได้มาตรฐาน ทำให้ผู้มีรายได้น้อยที่ต้องการมีบ้านเป็นของตนเองรับไม่ได้ทยอยหยุดชำระเงิน เพราะตระหนักถึงความไม่ปลอดภัยเมื่อเข้าอยู่ จนกลายเป็นสุสานบ้านเอื้ออาทรนับพันยูนิตและเริ่มพังลงหลายหลัง พบข้อมูลส่งส่วยหญิงผู้ใกล้ชิดแม้วยูนิตละ 10,000 บาท เพื่องาบโครงการมา แต่สุดท้ายผลงานฟ้องความชุ่ย จนผู้ทำสัญญาซื้อไม่ส่งเงินจนผู้รับเหมาทิ้งงานในที่สุด
ลุยตรวจบ้านเอื้ออาทร
ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้ทำโครงการบ้านเอื้ออาทรให้ครอบครัวผู้มีรายได้น้อยได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองนั้น ในห้วงที่ผ่านมาโครงการเหล่านี้ได้ฟ้องความไม่โปร่งใสของตัวโครงการอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ
ล่าสุดนายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น เปิดเผยว่า ตนได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านใน อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ถึงความไม่ชอบมาพากลของโครงการบ้านเอื้ออาทรของการเคหะแห่งชาติซึ่งเกิดขึ้นเมื่อ 7 ปีก่อน ตั้งอยู่ที่ถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4056 ข้างโรงแรมแกรนด์การ์เด้น ต.สุไหงโก-ลก ซึ่งมีการก่อสร้างไม่ได้มาตรฐาน ทำให้ผู้ที่ทำสัญญาซื้อไม่พอใจและทยอยหยุดส่งเงิน เนื่องจากเกรงความไม่ปลอดภัยหากเข้าอยู่
นอกจากนี้ จากการลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่าโครงการดังกล่าวมีบ้านนับพันหลังถูกผู้รับเหมางาน ทั้งที่อยู่ระหว่างกำลังก่อสร้าง โดยเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น เนื้อที่ประมาณหลังละ 21 ตารางวา ประมาณ 1,000 ยูนิต ซึ่งมีตั้งแต่เพิ่งเริ่มก่อสร้างไปจนถึงอยู่ในขั้นตอนการปูกระเบื้องหลังคา
อย่างไรก็ตาม เมื่อดูการก่อสร้างแล้วพบว่าบ้านแต่ละหลังมีโครงสร้างที่ไม่แข็งแรง ไม่มีเสาเข็ม แต่ใช้วิธีการนำส่วนต่างๆ ของบ้านชนิดสำเร็จรูปมาประกอบทีละส่วน ไม่ว่าจะเป็นเสา ฝาผนัง พื้นชั้นบน บันได เป็นต้น แล้วใช้เหล็กเป็นตัวยึดติดและฉาบปิดด้วยปูน โดยวิธีการก่อสร้างเริ่มจากการลาดพื้นบ้านตามขนาด หลังจากนั้นจึงนำเสาคานที่หล่อไว้มาวางบนพื้นบ้าน ตามด้วยส่วนอื่นๆ ของบ้าน และระหว่างที่ก่อสร้าง ยังมีบ้านบางหลังเริ่มทยอยพังเพราะความไม่แข็งแรง
“รูปแบบของบ้านเอื้ออาทรไม่แตกต่างกับโครงการที่อื่น แต่วิธีการก่อสร้างของผู้รับเหมาในพื้นที่นี้ยังไม่เห็นถึงความมั่นคงของบ้าน และความปลอดภัยว่าจะเกิดขึ้นอย่างไร เพราะแม้แต่เสาเข็มบ้านก็ไม่มี แค่เพียงมีพายุฝนแรงๆ บ้านก็สามารถพังทลายลงมาได้โดยไม่จำเป็นต้องมีความรุนแรงขนาดแผ่นดินไหวเลย” นายวีระกล่าว
ชาวบ้านตกเป็นเหยื่อเพียบ จี้ผู้รับผิดชอบ
ทั้งนี้ โครงการบ้านเอื้ออาทรสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ผู้ซื้อได้ทำสัญญาระหว่างการเคหะแห่งชาติ ในราคา 390,000 บาท โดยมีการชำระค่ามัดจำเป็นเงิน 9,000 บาท และผ่อนงวดละ 500 บาท ซึ่งตามข้อกำหนดแนบท้ายสัญญาระบุว่าผู้ขายจะโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างให้แก่ผู้ซื้อเมื่อครบกำหนด 5 ปี นับแต่วันทำสัญญา
ทว่าปัจจุบันโครงการนี้ถูกทิ้งร้างเพราะคนที่ทำสัญญาซื้อได้หยุดจ่ายเงิน เพราะดูจากสภาพก่อสร้างแล้วไม่มีความมั่นใจด้านความปลอดภัยเมื่อเข้าอยู่ ผู้บริหารโครงการซึ่งเป็นผู้รับเหมาจึงต้องหยุดดำเนินการเพราะไม่มีเงินหมุนเวียน และยังไม่มีหน่วยงานหรือผู้ใดออกมารับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะการแสดงความรับผิดชอบของการเคหะแห่งชาติที่มีต่อผู้มีรายได้น้อยที่หลงเชื่อมาซื้อบ้านเอื้ออาทร เพื่อหวังจะมีบ้านของตัวเองอย่างมั่นคง แต่ปัจจุบันนอกจากจะต้องเสียเงินมัดจำและเงินดาวน์แล้ว กลับมีแนวโน้มว่าจะได้บ้านมาตรฐานต่ำเกินกว่าจะยอมเสี่ยงชีวิตเข้าอาศัยร่วมกับคนในครอบครัว
เผยส่งส่วย “หญิงแก้มโหนก” เพื่อได้โครงการ
นายวีระ กล่าวต่อว่า เรื่องนี้เป็นความไม่ชอบมาพากลตั้งแต่เริ่มต้น เพราะมีข่าวว่าผู้รับผิดชอบโครงการนั้นได้มีการวิ่งเต้นจ่ายเงินให้แก่ผู้หญิงใกล้ชิดอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ในราคายูนิตละ 10,000 บาท เพื่อจะได้โครงการนี้มาดำเนินการเอง และยังต้องจ่ายใต้โต๊ะอีกหลายรายการ ดังนั้นผู้รับเหมาจึงต้องทำทุกวิถีทางที่จะทำกำไรจากโครงการนี้ให้ได้มากที่สุด โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัย จึงใช้การก่อสร้างแบบสำเร็จรูป และผลักภาระให้ผู้ซื้อบ้านซึ่งเป็นผู้ที่มีรายได้น้อยต้องเสียทั้งเงิน เสี่ยงชีวิตกับบ้านคุณภาพต่ำ ทั้งที่ระบอบทักษิณบอกว่าโครงการจะช่วยเหลือคนจน แต่สิ่งเหล่านี้นี่เอง คือคุณภาพชีวิตที่ระบอบทักษิณตั้งใจมอบให้แก่ประชาชน