ASTVผู้จัดการรายวัน - แก๊งป่วนปาอึ 4 ถุงใส่บ้านนายกฯ กลางวันแสกๆ ตำรวจเต้นสั่งชุดสืบสวนแกะรอยคนร้าย พบเป็นชายขับรถจักรยานยนต์ฉวยจังหวะตำรวจป้อมยามเผลอ สั่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดอย่างละเอียด พร้อมสั่ง รปภ.เข้ม ด้าน "มาร์ค" ไม่สะดุ้ง บอกเคยโดนมามากกว่านี้ เชื่อเป็นกระบวนการก่อกวน ก่อนตัดสินคดียึดทรัพย์ "นช.แม้ว" ยันไม่คิดย้ายไปพักหนี ด้านตำรวจนครบาล วางมาตรการรักษาคณะผู้พิพากษาเข้มตลอด 24 ชม.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาเวลา 13.00 น. วานนี้(1 ก.พ.) พ.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผกก.สน.ทองหล่อ ได้รับแจ้งเหตุมีวัตถุต้องสงสัยหลายชิ้น ถูกปาเข้าไปภายใน บริเวณบ้านเลขที่ 32/1-3 ซอยสวัสดี สุขุมวิท 31 แขวงคลองตันเหนือ เขตทวีวัฒนา กทม.เป็นบ้านปลูกติดกัน 4 หลัง ล้อมรอบด้วยรั้วไม้ ซึ่งเป็นบ้านของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จึงรีบรายงานเหตุให้ผู้บังคับบัญชาทราบก่อนรีบรุดไป ตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พร้อม พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วย ผบ.ตร.และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนบก.น.5
จาการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า วัตถุต้องสงสัยดังกล่าว บรรจุอยู่ในถุงพลาสติก เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเป็นอุจจาระหลายถุงถูกปาเข้าไปตกภายในรั้วข้างบ้าน ตำรวจจึงรีบทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดทันที แต่ผลการตรสวจสอบยังไม่เป็นที่เปิดเผย จากนั้นทาง พล.ต.ท.อัศวิน ได้ทำการเดินตรวจสอบบริเวณรอบบ้าน พักนายกรัฐมนตรี และขึ้นไปบนเกรสเฮาส์ที่เป็นตึกสูง ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามบ้านนายกรัฐมนตรีเพื่อตรวจสอบอย่างละเอียด โดยยืนยันเบื้องต้นว่าวัตถุต้องสงสัยที่ถูกปาเข้าไปในบ้านนายกรัฐมนตรีไม่ใช่ระเบิด
**ถกด่วนแก๊งป่วนป่าอึใส่บ้านนายกฯ
ต่อมา พล.ต.ท.อัศวิน พร้อมนายตำรวจระดับสูง ได้เดินทางเข้าประชุมที่ สน.ทองหล่อ เป็นเวลากว่า 3 ชั่วโมง พล.ต.ท.อัศวิน กล่าวหลังหารือว่า ได้รับคำสั่งจากพล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร. ให้เข้ามาดูแล หลังจากที่ได้รับรายงานเหตุการณ์ว่ามีคนร้ายปาถุงอุจจาระเข้าไปในบ้านนายกฯ ซึ่งจากการสอบสวน เบื้องต้นทราบว่า เหตุเกิดประมาณเที่ยงเศษ มีคนร้ายเป็นชาย 1 คน ขี่รถจักรยานยนต์แบบผู้หญิง สวมหมวกกันน็อก ปาถุงอุจจาระเข้าใส่บ้านนายกรัฐมนตรีรวม 4 ถุง โดยถุงอุจจาระดังกล่าวไปตกอยู่ในสนามหญ้า 3 ถุง ตกไปค้างบนหลังคา 1 ถุง แต่รายละเอียดและรูปพรรณสันฐานของคนร้ายและรายละเอียดรถจักรยานยนต์ของคนร้ายอยู่ระหว่างการตรวจสอบอย่างละเอียด โดยจะนำภาพจากกล้องววงจรปิดไปให้ช่างเทคนิคดำเนินการ เพื่อขยายภาพให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
**ต้นเหตุตร.รักษาการณ์เข้าห้องน้ำนาน
พล.ต.ท.อัศวินกล่าวต่อว่า เบื้องต้น จากแนวทางการสืบสวนพบว่า คนร้ายขี่รถจักรยานยนต์มาจากซอยสุขุมวิท 33 ก่อนจะอาศัยจังหวะที่ตำรวจ ซึ่งทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ป้อมยามหน้าบ้านนายกรัฐมนตรีไม่อยู่ เพราะไปเข้าห้องน้ำ ปาถุงอุจจาระเข้าไป และหลบหนีไปทางซอยสุขุมวิท 31 สำหรับการก่อเหตุครั้งนี้ ยอมรับว่า เป็นความหละหลวมของตำรวจที่ทำหน้าที่รักษาความปลอดภัย ซึ่งขณะเกิดเหตุ ตตำรวจไปเข้าห้องน้ำ ทั้งนี้ ได้สั่งให้ตำรวจคนดังกล่าวทำรายงานชี้แจง และตรวจสอบว่า ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ทำไมถึงไปเข้าห้องน้ำนาน
"เบื้องต้น เชื่อว่าการก่อเหตุ คนร้ายต้องการสร้างสถานการณ์และความปั่นป่วน แต่ยังไม่สามารถสรุปได้ชัดว่า มาจากสาเหตุใด และเป็นฝีมือของคนกลุ่มใด หลังจากที่เกิดเหตุ ได้มีการปรับเปลี่ยรนมาตราการการรักษาความปลอดภัยให้เข้มงวดขึ้น โดยได้จัดกำลังตำรวจ 191 กับกำลังของ สน.ทองหล่อ มาดูแล ความปลอดภัยตลอด 24 ชม. และวันพรุ่งนี้ จะเรียกประชุมชุดสืบสวนในเวลา 10.00 น. พร้อมทั้งนำกล้องวงจรปิดมาพิจารณาตรวจสอบอีกครั้ง เพื่อเป็นแนวทางในการ ติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป โดยหลังเกิดเหตุ นายกรัฐมนตรีไม่ได้สั่งกำชับอะไรมาเป็นพิเศษ มีแต่รรท.ผบ.ตร.เท่านั้น"
**"มาร์ค"ไม่หวั่นไหวกับพวกป่วน
ด้าน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าได้รับรายงานปาสิ่งของใส่บ้านพักที่ซอยสวัสดี สขุมวิท 31แล้ว ซึ่งไม่ใช่ระเบิด แต่ยังไม่ทราบว่าเป็นอย่างไร ซึ่งคงเป็นการก่อกวน ยังไม่ทราบข้อเท็จจริง เจ้าหน้าดูแลอยู่ เพราะมีกล้องวงจนปิด
ผู้สื่อข่าวถามว่าวันนี้ก่อเหตุอย่างนี้ได้ วันข้างหน้าจะรุนแรงกว่านี้ไหม นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า กำลังดูว่าเป็นอะไร เพราะเพิ่งได้รับรายงาน ซึ่งตำรวจแห่งภาพวงจรปิดหมด และรับปากจะเข้มงวดกวดขันมากขึ้น ส่วนจะเพิ่มกำลังรักษาความปลอดภัยหรือไม่อยู่ที่เจ้าหน้าที่ แต่ยืนยันคงไม่ย้ายที่พักไปอยู่ที่สำรอง
ส่วนจะมีผลในทางจิตวิทยาที่ทำให้รู้สึกว่าสถานการณ์ไม่ปกติหรือไม่นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ คิดว่าช่วงนี้จะมีเหตุการณ์ต่างๆ อยู่พอสมควรและเป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่จะต้องเข้มแข็งและเข้มงวดให้มากขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่าใครจะได้ประโยชน์จากการก่อเหตุครั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้มีความพยายามที่จะทำให้เกิดข่าวทำนองว่าจะมีความวุ่นวาย มีการพูดถึงเรื่อง การปฏิวัติรัฐประหาร จะต้องมีการมาต่อต้านอะไรต่างๆ ซึ่งตนได้บอกไปแล้วว่า ในช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ. จะมีการเคลื่อนไหวลักษณะนี้
ส่วนจะเป็นผลมาจากการพิจารณาคดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่นั้น นายอภสิทธิ์ กล่าวว่าเป็นปัจจัยหนึ่ง อย่างไรก็ตามตนไม่กลัวการข่มขู่ เพราะมีหน้าที่ต้องทำ ซึ่งะทำให้ดีที่สุดและไม่เกรงกลัวต่อการข่มขู่
ส่วนที่เจ้าหน้าที่เคยบอกว่าบ้านพักนายกรัฐมนตรีเป็นจุดเสี่ยง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เขามีเจ้าหน้าที่มาดูแลอยู่ เมื่อถามว่าสถานการณ์จะเลวร้ายกว่านี้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนคิดว่าเป็นสิ่งที่สังคมไทยต้องช่วยกัน เราอย่าไปหวั่นไหวและจะต้องทำให้ได้ ให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้าและรักษากฎหมาย ฉะนั้นหากเราเข้มแข็ง เรื่องการบังคับใช้กฎหมาย เราก็จะผ่านไปได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจส่งผลให้ครอบครัวเกิดความหวาดผวา นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ เขาไม่หวั่นไหวหรอก แม้ตนยังไม่ได้สอบถามไปยังครอบครัว แต่ทราบว่าเขาไม่หวั่นไหว เมื่อถามว่าเป็นนายกฯมาปีกว่าเคยคิดหรือไม่ว่าตัวเองจะโดนแบบนี้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อ๋อ โดนมามากกว่านี้แล้ว เมื่อถามว่าจะนอนหลับได้อย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า หลับ เมื่อคืนก็หลับ
**ถ้ากลัวการข่มขู่บ้านเมืองก็อยู่ไม่ได้
ส่วนที่กลุ่มคนเสื้อแดงปลุกระดมให้เอาน้ำมันใส่ขวดมาคนละ 1 ลิตรเข้ามาใน กทม.เพื่อต่อรองกับรัฐบาล นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า บ้านเมืองนี้จะอยู่ได้ต้องไม่ตกเป็นเหยื่อของการข่มขู่คุกคามใดๆ ทั้งสิ้น ถ้ารัฐบาลยอมกับการข่มขู่วันข้างหน้าบ้านเมืองก็จะอยู่ไม่ได้ ฉะนั้นทุกคนต้องช่วยกันเป็นกำลังสำคัญในการที่จะยืนยันว่าเราจะรักษากฎหมาย
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการล้อมรอบจากชนบทเข้ามาใน กทม.โดยจะมีการชุมนุม ในต่างจังหวัด ปิดล้อมศาลากลางจังหวัด ปิดล้อมกองทัพ หน่วยทหารในพื้นที่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า การจะมาชุมนุมเคลื่อนไหวต้องทราบว่าจะมาเรียกร้องเรื่องอะไร ศาลจะต้องทำหน้าที่ในการตัดสินตามเนื้อของคดี รัฐบาลมีหน้าที่ในการบริหาร ราชการแผ่นดิน และมีระบบสภาฯคอยตรวจสอบอยู่ ฉะนั้นอยากบอกว่า คงไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่จะต้องไปทำให้เกิดความวุ่นวาย เพราะไม่มีใครได้ประโยชน์ บ้านเมืองมีแต่ความวุ่นวาย แม้แต่คนที่คิดว่าจะได้ประโยชน์ ก็จะไม่ได้ประโยชน์
ผู้สื่อข่าวถามว่านายกรัฐมนตรี พยายามบริหารสถานการณ์ให้สู่ภาวะปกติ แต่ตอนนี้หุ้นตก เหมือนเศรษฐกิจถูกซ้ำเติมจากการเมือง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ทราบว่าสาเหตุที่หุ้นตกมีเรื่องอะไรบ้าง แต่ยืนยันว่าตอนนี้เศรษฐกิจตัวเลขต่างๆ ไปได้ดี เมื่อถามว่าส่วนหนึ่งเกิดจากความไม่เชื่อมั่นที่เกิดความแตกแยกของ พรรคร่วมรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนเข้าใจว่ามีหลายปัจจัย ไม่ใช่ปัจจัยการเมืองไทยอย่างเดียว มันมีปัจจัยเศรษฐกิจอื่นๆ
เมื่อถามว่าความขัดแย้งในกองทัพนับวันจะรุนแรงขึ้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า กองทัพไม่ได้ขัดแย้ง เมื่อถามว่าแต่เหตุที่เกิดเป็นเพราะทหารคนเดียว นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า "นั่นสิครับ เราต้องแยกให้ออก"
**"ปทีป"รับกังวลกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ต่อมาเวลา 16.40 น.วันเดียวกัน พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาราชการ ผบ.ตร. ได้เข้าพบหารือกับนายกรัฐมนตรี พร้อมให้สัมภาษณ์ว่า ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วย ผบ.ตร. ไปดูแลกรณีที่มีขับขี่จักรยานยนต์ปาอุจาระเข้าบ้านพักนายกรัฐมนตรี และจะหารือเรื่องมาตรการดูแลความปลอดภัยไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำอีก
"ผมมีความวิตกวังวลต่อเรื่องนี้ แต่ในส่วนอของตำรวจนครบาลก็จะทำอย่างเต็มที่ โดยมีการวางแผนเตรียมพร้อมในด้านต่างๆ รวมทั้งบุคลากรที่ พล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้ช่วย ผบ.ตร. นำไปฝึกเรื่องการปราบปราม การชุมนุมเป็นระยะเวลากว่าเดือน ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่มีความพร้อม"
ส่วนการดูแลคณะผู้พิพากษาในคดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรนั้น พล.ต.อ.ปทีป กล่าวว่า ตำรวจนครบาลได้ส่งกำลังไปดูแลแล้ว เมื่อถามว่า พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง ผู้ที่ออกมาให้ข่าวลอบฆ่าบุคคลต่างๆ เป็นการคุกคามคนที่ปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ พล.ต.อ.ปทีป กล่าวว่า อย่าเพิ่งไปบอกว่าเป็นการคุกคาม เป็นเรื่องของ ตำรวจในท้องที่จะต้องพิจารณาว่าคำพูดที่พูดนั้นเข้าข่ายความผิดตามกฎหมายหรือไม่ ถือเป็นเรื่องดุลพินิจของท้องที่ ซึ่งหากผิดก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย
สำหรับการขอถอนประกันนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง จากกรณีที่ระบุว่าให้ผู้ชุมนุมเตรียมน้ำมันคนละ 1 ลิตร เข้ามาในกทม.นั้น พล.ต.อ.ปทีป กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นอำนาจของศาล แต่หากตำรวจเห็นว่า เข้าข่ายผิดเงื่อนไขการประกันตัวก็สามารถเสนอขอถอนประกันได้ ส่วนจะดำเนินการอย่างไรนั้นต้องดูเทปก่อน ขณะนี้ยังไม่กล้าตัดสิน
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าต่อมาเวลาประมาณ 16.25 น.พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองเลาขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ที่ทำหน้าที่หัวหน้าชุดดูแล และอารักขาความปลอดภัย ได้เข้าพบนายกฯเป็นเวลาประมาณ 10นาที จากนั้นก็เดินทางกลับโดยไม่ให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด
**"ปทีป"เครียดสั่งรปภ.เข้ม
พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้ช่วยผบ.ตร. ในฐานะโฆษ สตช. กล่าวว่า ปกติตำรวจ มีมาตรการดูแลความปลอดภัยบ้านพักนายกรัฐมนตรีอย่างเข้มงวดอยู่แล้ว แต่หลังเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร. สั่งการให้ทางตำรวจสันติบาล ประสานงานกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) และหน่วยข่าวกรอง ร่วมกันวางมาตรการเพิ่มเติม ในการดูแลทั้งที่บ้านพัก ความปลอดภัยของนายกรัฐมนตรี และรวมทั้งติดตามด้านการข่าวเพิ่มเติม
พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.ปทีป สั่งการให้ พล.ต.ท.อัศวิน ลงไปดูแลคดีด้วยตนเองทันที เชื่อว่าน่าจะติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนิคดีได้ไม่ยาก เพราะมีภาพจากกล้องวงจรปิดที่สามารถบันทึกภาพคนร้ายได้ค่อนข้างชัดเจน เชื่อว่าภายหลังการประชุมจะสามารถแถลงผลได้
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการคาดโทษเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยขณะเกิดเหตุหรือไม่ พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวว่า กำลังที่ดูแลเป็นกำลังผสมหลายหน่วยทั้งตำรวจและทหารคิดว่าการคาดโทษคงไม่มี แต่คงเป็นการประชุมหารือร่วมกันเพื่อวางมาตรการเพิ่มเติมไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก ส่วนเรื่องความบกพร่องในการทำหน้าที่ต้องวางมาตรการป้องกันให้เข้มงวดขึ้น
**ศาลย้ำไม่วิตกหลังถูกข่มขู่
นายวิรัช ชินวินิจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม กล่าวถึงการรักษาความปลอดภัยองค์คณะผู้พิพากษาคดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ว่า สำหรับผู้พิพากษาองค์คณะทั้ง 9 คน ยังคงปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ไม่มีผู้พิพากษาท่านใด ที่แสดงความจำนงขอให้ประสานกำลังเจ้าหน้าที่ไปเฝ้าดูแลรักษาความปลอดภัยที่บ้านพัก หรือการติดตามเส้นทางที่จะเดินทางมาทำงาน เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ผู้พิพากษาองค์คณะทั้งเก้าแสดงความหวั่นวิตกหรือไม่ นายวิรัชกล่าวว่า ไม่มี ซึ่งสภาพจิตใจผู้พิพากษาทั้ง 9 ท่านยังดีอยู่
ส่วน ต้องจัดเซฟเฮาส์ให้ผู้พิพากษาองค์คณะทั้งเก้าหรือไม่ นายวิรัชกล่าวปฏิเสธว่า ไม่มี ไม่ถึงขั้นนั้น
**นครบาลคุมเข้มบุคคลสำคัญ
ด้านพล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึง การวางมาตรการรักษาความปลอดภัยองค์คณะผู้พิพากษาคดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่าถึงแม้ขณะนี้ยังไม่มีสถานการรุนแรง แต่เพื่อป้องกันเหตุร้ายแรงต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น ตำรวจได้ส่งกำลังลงพื้นที่ดูแลความปลอดภัยตามบ้านพัก ที่ทำงาน และเส้นทางที่จะเดินทางมาทำงานของผู้พิพากษาแต่ละคนเรียบร้อยแล้ว โดยให้ สน.เจ้าของพื้นที่ เป็นผู้รับผิดชอบตามที่อยู่ขององค์คณะผู้พิพากษา อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง หากพบบุคคลต้องสงสัยหรือทำการฝ่าฝืนกฎหมาย ให้จับกุมดำเนินคดีได้ทันที
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ตำรวจไม่ได้เชื่อถือในคำพูดของ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง แต่ดำเนินการทุกอย่างไปตามความเหมาะสม เป็นไปตามแผนการ ที่วางไว้ ตั้งแต่ต้นปี ซึ่งได้ประเมินสถานการณ์ทางการเมืองในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ว่าอาจมีการสร้างสถานการณ์ความวุ่นวายเกิดขึ้น เพราะจะมีการพิพากษาคดีสำคัญในช่วงปลายเดือนนี้ ซึ่งนอกจากผู้พิพากษาองค์คณะทั้ง 9 คนแล้ว ตำรวจก็ได้วางมาตรการดูแลความปลอดภัยบุคคลสำคัญทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง ผู้พิพากษาศาลปกครอง ผู้พิพากษาศาลรัฐธรรมนูญ คณะกรรมการในองค์กรอิสระ และข้าราชการระดับสูง อย่างไรก็ตาม ซึ่งจากการตรวจสอบทางการข่าวจนถึงขณะนี้ยังไม่พบสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาเวลา 13.00 น. วานนี้(1 ก.พ.) พ.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผกก.สน.ทองหล่อ ได้รับแจ้งเหตุมีวัตถุต้องสงสัยหลายชิ้น ถูกปาเข้าไปภายใน บริเวณบ้านเลขที่ 32/1-3 ซอยสวัสดี สุขุมวิท 31 แขวงคลองตันเหนือ เขตทวีวัฒนา กทม.เป็นบ้านปลูกติดกัน 4 หลัง ล้อมรอบด้วยรั้วไม้ ซึ่งเป็นบ้านของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จึงรีบรายงานเหตุให้ผู้บังคับบัญชาทราบก่อนรีบรุดไป ตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พร้อม พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วย ผบ.ตร.และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนบก.น.5
จาการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า วัตถุต้องสงสัยดังกล่าว บรรจุอยู่ในถุงพลาสติก เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเป็นอุจจาระหลายถุงถูกปาเข้าไปตกภายในรั้วข้างบ้าน ตำรวจจึงรีบทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดทันที แต่ผลการตรสวจสอบยังไม่เป็นที่เปิดเผย จากนั้นทาง พล.ต.ท.อัศวิน ได้ทำการเดินตรวจสอบบริเวณรอบบ้าน พักนายกรัฐมนตรี และขึ้นไปบนเกรสเฮาส์ที่เป็นตึกสูง ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามบ้านนายกรัฐมนตรีเพื่อตรวจสอบอย่างละเอียด โดยยืนยันเบื้องต้นว่าวัตถุต้องสงสัยที่ถูกปาเข้าไปในบ้านนายกรัฐมนตรีไม่ใช่ระเบิด
**ถกด่วนแก๊งป่วนป่าอึใส่บ้านนายกฯ
ต่อมา พล.ต.ท.อัศวิน พร้อมนายตำรวจระดับสูง ได้เดินทางเข้าประชุมที่ สน.ทองหล่อ เป็นเวลากว่า 3 ชั่วโมง พล.ต.ท.อัศวิน กล่าวหลังหารือว่า ได้รับคำสั่งจากพล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร. ให้เข้ามาดูแล หลังจากที่ได้รับรายงานเหตุการณ์ว่ามีคนร้ายปาถุงอุจจาระเข้าไปในบ้านนายกฯ ซึ่งจากการสอบสวน เบื้องต้นทราบว่า เหตุเกิดประมาณเที่ยงเศษ มีคนร้ายเป็นชาย 1 คน ขี่รถจักรยานยนต์แบบผู้หญิง สวมหมวกกันน็อก ปาถุงอุจจาระเข้าใส่บ้านนายกรัฐมนตรีรวม 4 ถุง โดยถุงอุจจาระดังกล่าวไปตกอยู่ในสนามหญ้า 3 ถุง ตกไปค้างบนหลังคา 1 ถุง แต่รายละเอียดและรูปพรรณสันฐานของคนร้ายและรายละเอียดรถจักรยานยนต์ของคนร้ายอยู่ระหว่างการตรวจสอบอย่างละเอียด โดยจะนำภาพจากกล้องววงจรปิดไปให้ช่างเทคนิคดำเนินการ เพื่อขยายภาพให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
**ต้นเหตุตร.รักษาการณ์เข้าห้องน้ำนาน
พล.ต.ท.อัศวินกล่าวต่อว่า เบื้องต้น จากแนวทางการสืบสวนพบว่า คนร้ายขี่รถจักรยานยนต์มาจากซอยสุขุมวิท 33 ก่อนจะอาศัยจังหวะที่ตำรวจ ซึ่งทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ป้อมยามหน้าบ้านนายกรัฐมนตรีไม่อยู่ เพราะไปเข้าห้องน้ำ ปาถุงอุจจาระเข้าไป และหลบหนีไปทางซอยสุขุมวิท 31 สำหรับการก่อเหตุครั้งนี้ ยอมรับว่า เป็นความหละหลวมของตำรวจที่ทำหน้าที่รักษาความปลอดภัย ซึ่งขณะเกิดเหตุ ตตำรวจไปเข้าห้องน้ำ ทั้งนี้ ได้สั่งให้ตำรวจคนดังกล่าวทำรายงานชี้แจง และตรวจสอบว่า ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ทำไมถึงไปเข้าห้องน้ำนาน
"เบื้องต้น เชื่อว่าการก่อเหตุ คนร้ายต้องการสร้างสถานการณ์และความปั่นป่วน แต่ยังไม่สามารถสรุปได้ชัดว่า มาจากสาเหตุใด และเป็นฝีมือของคนกลุ่มใด หลังจากที่เกิดเหตุ ได้มีการปรับเปลี่ยรนมาตราการการรักษาความปลอดภัยให้เข้มงวดขึ้น โดยได้จัดกำลังตำรวจ 191 กับกำลังของ สน.ทองหล่อ มาดูแล ความปลอดภัยตลอด 24 ชม. และวันพรุ่งนี้ จะเรียกประชุมชุดสืบสวนในเวลา 10.00 น. พร้อมทั้งนำกล้องวงจรปิดมาพิจารณาตรวจสอบอีกครั้ง เพื่อเป็นแนวทางในการ ติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป โดยหลังเกิดเหตุ นายกรัฐมนตรีไม่ได้สั่งกำชับอะไรมาเป็นพิเศษ มีแต่รรท.ผบ.ตร.เท่านั้น"
**"มาร์ค"ไม่หวั่นไหวกับพวกป่วน
ด้าน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าได้รับรายงานปาสิ่งของใส่บ้านพักที่ซอยสวัสดี สขุมวิท 31แล้ว ซึ่งไม่ใช่ระเบิด แต่ยังไม่ทราบว่าเป็นอย่างไร ซึ่งคงเป็นการก่อกวน ยังไม่ทราบข้อเท็จจริง เจ้าหน้าดูแลอยู่ เพราะมีกล้องวงจนปิด
ผู้สื่อข่าวถามว่าวันนี้ก่อเหตุอย่างนี้ได้ วันข้างหน้าจะรุนแรงกว่านี้ไหม นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า กำลังดูว่าเป็นอะไร เพราะเพิ่งได้รับรายงาน ซึ่งตำรวจแห่งภาพวงจรปิดหมด และรับปากจะเข้มงวดกวดขันมากขึ้น ส่วนจะเพิ่มกำลังรักษาความปลอดภัยหรือไม่อยู่ที่เจ้าหน้าที่ แต่ยืนยันคงไม่ย้ายที่พักไปอยู่ที่สำรอง
ส่วนจะมีผลในทางจิตวิทยาที่ทำให้รู้สึกว่าสถานการณ์ไม่ปกติหรือไม่นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ คิดว่าช่วงนี้จะมีเหตุการณ์ต่างๆ อยู่พอสมควรและเป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่จะต้องเข้มแข็งและเข้มงวดให้มากขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่าใครจะได้ประโยชน์จากการก่อเหตุครั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้มีความพยายามที่จะทำให้เกิดข่าวทำนองว่าจะมีความวุ่นวาย มีการพูดถึงเรื่อง การปฏิวัติรัฐประหาร จะต้องมีการมาต่อต้านอะไรต่างๆ ซึ่งตนได้บอกไปแล้วว่า ในช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ. จะมีการเคลื่อนไหวลักษณะนี้
ส่วนจะเป็นผลมาจากการพิจารณาคดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่นั้น นายอภสิทธิ์ กล่าวว่าเป็นปัจจัยหนึ่ง อย่างไรก็ตามตนไม่กลัวการข่มขู่ เพราะมีหน้าที่ต้องทำ ซึ่งะทำให้ดีที่สุดและไม่เกรงกลัวต่อการข่มขู่
ส่วนที่เจ้าหน้าที่เคยบอกว่าบ้านพักนายกรัฐมนตรีเป็นจุดเสี่ยง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เขามีเจ้าหน้าที่มาดูแลอยู่ เมื่อถามว่าสถานการณ์จะเลวร้ายกว่านี้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนคิดว่าเป็นสิ่งที่สังคมไทยต้องช่วยกัน เราอย่าไปหวั่นไหวและจะต้องทำให้ได้ ให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้าและรักษากฎหมาย ฉะนั้นหากเราเข้มแข็ง เรื่องการบังคับใช้กฎหมาย เราก็จะผ่านไปได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจส่งผลให้ครอบครัวเกิดความหวาดผวา นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ เขาไม่หวั่นไหวหรอก แม้ตนยังไม่ได้สอบถามไปยังครอบครัว แต่ทราบว่าเขาไม่หวั่นไหว เมื่อถามว่าเป็นนายกฯมาปีกว่าเคยคิดหรือไม่ว่าตัวเองจะโดนแบบนี้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อ๋อ โดนมามากกว่านี้แล้ว เมื่อถามว่าจะนอนหลับได้อย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า หลับ เมื่อคืนก็หลับ
**ถ้ากลัวการข่มขู่บ้านเมืองก็อยู่ไม่ได้
ส่วนที่กลุ่มคนเสื้อแดงปลุกระดมให้เอาน้ำมันใส่ขวดมาคนละ 1 ลิตรเข้ามาใน กทม.เพื่อต่อรองกับรัฐบาล นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า บ้านเมืองนี้จะอยู่ได้ต้องไม่ตกเป็นเหยื่อของการข่มขู่คุกคามใดๆ ทั้งสิ้น ถ้ารัฐบาลยอมกับการข่มขู่วันข้างหน้าบ้านเมืองก็จะอยู่ไม่ได้ ฉะนั้นทุกคนต้องช่วยกันเป็นกำลังสำคัญในการที่จะยืนยันว่าเราจะรักษากฎหมาย
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการล้อมรอบจากชนบทเข้ามาใน กทม.โดยจะมีการชุมนุม ในต่างจังหวัด ปิดล้อมศาลากลางจังหวัด ปิดล้อมกองทัพ หน่วยทหารในพื้นที่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า การจะมาชุมนุมเคลื่อนไหวต้องทราบว่าจะมาเรียกร้องเรื่องอะไร ศาลจะต้องทำหน้าที่ในการตัดสินตามเนื้อของคดี รัฐบาลมีหน้าที่ในการบริหาร ราชการแผ่นดิน และมีระบบสภาฯคอยตรวจสอบอยู่ ฉะนั้นอยากบอกว่า คงไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่จะต้องไปทำให้เกิดความวุ่นวาย เพราะไม่มีใครได้ประโยชน์ บ้านเมืองมีแต่ความวุ่นวาย แม้แต่คนที่คิดว่าจะได้ประโยชน์ ก็จะไม่ได้ประโยชน์
ผู้สื่อข่าวถามว่านายกรัฐมนตรี พยายามบริหารสถานการณ์ให้สู่ภาวะปกติ แต่ตอนนี้หุ้นตก เหมือนเศรษฐกิจถูกซ้ำเติมจากการเมือง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ทราบว่าสาเหตุที่หุ้นตกมีเรื่องอะไรบ้าง แต่ยืนยันว่าตอนนี้เศรษฐกิจตัวเลขต่างๆ ไปได้ดี เมื่อถามว่าส่วนหนึ่งเกิดจากความไม่เชื่อมั่นที่เกิดความแตกแยกของ พรรคร่วมรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนเข้าใจว่ามีหลายปัจจัย ไม่ใช่ปัจจัยการเมืองไทยอย่างเดียว มันมีปัจจัยเศรษฐกิจอื่นๆ
เมื่อถามว่าความขัดแย้งในกองทัพนับวันจะรุนแรงขึ้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า กองทัพไม่ได้ขัดแย้ง เมื่อถามว่าแต่เหตุที่เกิดเป็นเพราะทหารคนเดียว นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า "นั่นสิครับ เราต้องแยกให้ออก"
**"ปทีป"รับกังวลกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ต่อมาเวลา 16.40 น.วันเดียวกัน พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาราชการ ผบ.ตร. ได้เข้าพบหารือกับนายกรัฐมนตรี พร้อมให้สัมภาษณ์ว่า ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วย ผบ.ตร. ไปดูแลกรณีที่มีขับขี่จักรยานยนต์ปาอุจาระเข้าบ้านพักนายกรัฐมนตรี และจะหารือเรื่องมาตรการดูแลความปลอดภัยไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำอีก
"ผมมีความวิตกวังวลต่อเรื่องนี้ แต่ในส่วนอของตำรวจนครบาลก็จะทำอย่างเต็มที่ โดยมีการวางแผนเตรียมพร้อมในด้านต่างๆ รวมทั้งบุคลากรที่ พล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้ช่วย ผบ.ตร. นำไปฝึกเรื่องการปราบปราม การชุมนุมเป็นระยะเวลากว่าเดือน ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่มีความพร้อม"
ส่วนการดูแลคณะผู้พิพากษาในคดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรนั้น พล.ต.อ.ปทีป กล่าวว่า ตำรวจนครบาลได้ส่งกำลังไปดูแลแล้ว เมื่อถามว่า พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง ผู้ที่ออกมาให้ข่าวลอบฆ่าบุคคลต่างๆ เป็นการคุกคามคนที่ปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ พล.ต.อ.ปทีป กล่าวว่า อย่าเพิ่งไปบอกว่าเป็นการคุกคาม เป็นเรื่องของ ตำรวจในท้องที่จะต้องพิจารณาว่าคำพูดที่พูดนั้นเข้าข่ายความผิดตามกฎหมายหรือไม่ ถือเป็นเรื่องดุลพินิจของท้องที่ ซึ่งหากผิดก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย
สำหรับการขอถอนประกันนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง จากกรณีที่ระบุว่าให้ผู้ชุมนุมเตรียมน้ำมันคนละ 1 ลิตร เข้ามาในกทม.นั้น พล.ต.อ.ปทีป กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นอำนาจของศาล แต่หากตำรวจเห็นว่า เข้าข่ายผิดเงื่อนไขการประกันตัวก็สามารถเสนอขอถอนประกันได้ ส่วนจะดำเนินการอย่างไรนั้นต้องดูเทปก่อน ขณะนี้ยังไม่กล้าตัดสิน
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าต่อมาเวลาประมาณ 16.25 น.พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองเลาขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ที่ทำหน้าที่หัวหน้าชุดดูแล และอารักขาความปลอดภัย ได้เข้าพบนายกฯเป็นเวลาประมาณ 10นาที จากนั้นก็เดินทางกลับโดยไม่ให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด
**"ปทีป"เครียดสั่งรปภ.เข้ม
พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้ช่วยผบ.ตร. ในฐานะโฆษ สตช. กล่าวว่า ปกติตำรวจ มีมาตรการดูแลความปลอดภัยบ้านพักนายกรัฐมนตรีอย่างเข้มงวดอยู่แล้ว แต่หลังเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร. สั่งการให้ทางตำรวจสันติบาล ประสานงานกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) และหน่วยข่าวกรอง ร่วมกันวางมาตรการเพิ่มเติม ในการดูแลทั้งที่บ้านพัก ความปลอดภัยของนายกรัฐมนตรี และรวมทั้งติดตามด้านการข่าวเพิ่มเติม
พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.ปทีป สั่งการให้ พล.ต.ท.อัศวิน ลงไปดูแลคดีด้วยตนเองทันที เชื่อว่าน่าจะติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนิคดีได้ไม่ยาก เพราะมีภาพจากกล้องวงจรปิดที่สามารถบันทึกภาพคนร้ายได้ค่อนข้างชัดเจน เชื่อว่าภายหลังการประชุมจะสามารถแถลงผลได้
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการคาดโทษเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยขณะเกิดเหตุหรือไม่ พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวว่า กำลังที่ดูแลเป็นกำลังผสมหลายหน่วยทั้งตำรวจและทหารคิดว่าการคาดโทษคงไม่มี แต่คงเป็นการประชุมหารือร่วมกันเพื่อวางมาตรการเพิ่มเติมไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก ส่วนเรื่องความบกพร่องในการทำหน้าที่ต้องวางมาตรการป้องกันให้เข้มงวดขึ้น
**ศาลย้ำไม่วิตกหลังถูกข่มขู่
นายวิรัช ชินวินิจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม กล่าวถึงการรักษาความปลอดภัยองค์คณะผู้พิพากษาคดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ว่า สำหรับผู้พิพากษาองค์คณะทั้ง 9 คน ยังคงปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ไม่มีผู้พิพากษาท่านใด ที่แสดงความจำนงขอให้ประสานกำลังเจ้าหน้าที่ไปเฝ้าดูแลรักษาความปลอดภัยที่บ้านพัก หรือการติดตามเส้นทางที่จะเดินทางมาทำงาน เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ผู้พิพากษาองค์คณะทั้งเก้าแสดงความหวั่นวิตกหรือไม่ นายวิรัชกล่าวว่า ไม่มี ซึ่งสภาพจิตใจผู้พิพากษาทั้ง 9 ท่านยังดีอยู่
ส่วน ต้องจัดเซฟเฮาส์ให้ผู้พิพากษาองค์คณะทั้งเก้าหรือไม่ นายวิรัชกล่าวปฏิเสธว่า ไม่มี ไม่ถึงขั้นนั้น
**นครบาลคุมเข้มบุคคลสำคัญ
ด้านพล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึง การวางมาตรการรักษาความปลอดภัยองค์คณะผู้พิพากษาคดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่าถึงแม้ขณะนี้ยังไม่มีสถานการรุนแรง แต่เพื่อป้องกันเหตุร้ายแรงต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น ตำรวจได้ส่งกำลังลงพื้นที่ดูแลความปลอดภัยตามบ้านพัก ที่ทำงาน และเส้นทางที่จะเดินทางมาทำงานของผู้พิพากษาแต่ละคนเรียบร้อยแล้ว โดยให้ สน.เจ้าของพื้นที่ เป็นผู้รับผิดชอบตามที่อยู่ขององค์คณะผู้พิพากษา อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง หากพบบุคคลต้องสงสัยหรือทำการฝ่าฝืนกฎหมาย ให้จับกุมดำเนินคดีได้ทันที
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ตำรวจไม่ได้เชื่อถือในคำพูดของ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง แต่ดำเนินการทุกอย่างไปตามความเหมาะสม เป็นไปตามแผนการ ที่วางไว้ ตั้งแต่ต้นปี ซึ่งได้ประเมินสถานการณ์ทางการเมืองในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ว่าอาจมีการสร้างสถานการณ์ความวุ่นวายเกิดขึ้น เพราะจะมีการพิพากษาคดีสำคัญในช่วงปลายเดือนนี้ ซึ่งนอกจากผู้พิพากษาองค์คณะทั้ง 9 คนแล้ว ตำรวจก็ได้วางมาตรการดูแลความปลอดภัยบุคคลสำคัญทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง ผู้พิพากษาศาลปกครอง ผู้พิพากษาศาลรัฐธรรมนูญ คณะกรรมการในองค์กรอิสระ และข้าราชการระดับสูง อย่างไรก็ตาม ซึ่งจากการตรวจสอบทางการข่าวจนถึงขณะนี้ยังไม่พบสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด