xs
xsm
sm
md
lg

“ปทีป” ขึงขัง! อึว่อนบ้าน “มาร์ค” แหยงคำขู่เสธ.แดงสั่งเข้มท่านเปา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ
รักษาการ ผบ.ตร.มอบหมาย “อัศวิน” ไล่สอบคดีปาอุจจราะบ้านนายกฯ ชี้งานนี้ต้องเพิ่มกำลัง สั่งนครบาลอารักขาผู้พิพากษาตามคำขู่ เสธ.แดง โบ้ยรอคำสั่งศาลถอนประกันตัว “อริสมันต์” ตีมึนซื้อขายตำแหน่ง ตร. อ้างที่ผ่านมามีแต่ข่าว หน้าบานสอดคล้องรายงานผลการกวาดล้างแก๊งยาบ้าได้ของกลางกว่า 3 ล้านเม็ด

วันนี้ (1 ก.พ.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ภายหลังหารือกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีว่า ไม่มีการพูดคุยถึงสถานการณ์ทางการเมืองแต่อย่างใด ส่วนกรณีที่มีผู้ปาอุจจาระใส่บ้านนายกฯ นั้น ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงไปดูแล ซึ่งจะได้รับรายงานอีกครั้งในช่วงเย็น จากนั้นก็จะหารือต่อถึงมาตรการในการดูแลรักษาความปลอดภัยไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยอีกครั้ง

พล.ต.อ.ปทีป กล่าวถึงความกังวลต่อเหตุการณ์ว่า มีความวิตกกังวลเป็นธรรมดา แต่ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเฉพาะนครบาลก็จะทำงานอย่างเต็มกำลัง โดยมีการวางแผน เตรียมพร้อมในด้านต่างๆ รวมทั้งบุคลากรที่ พล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นำไปฝึกเรื่องการปราบปรามการชุมนุมด้วยระยะเวลากว่าเดือน ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่มีความพร้อม

เมื่อถามว่า การอารักขาคณะผู้พิพากษาตามคำเตือนของพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ว่าจะมีการลอบสังหารนั้น พล.ต.อ.ปทีป กล่าวว่าทางนครบาลได้ส่งกำลังไปดูแลแล้ว เพราะเป็นหน้าที่ปกติของผู้บัญชาการตำรวจนครบาล

เมื่อถามว่าผู้ที่ออกมาให้ข่าวลอบฆ่าบุคคลต่างๆ เป็นการคุกคามคนที่ปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ พล.ต.อ.ปทีป กล่าวว่า อย่าเพิ่งไปบอกว่าเป็นการคุกคาม ทั้งนี้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่จะต้องพิจารณาว่าคำพูดที่พูดนั้นเข้าข่ายความผิดตามกฎหมายหรือไม่ ถือเป็นเรื่องดุลพินิจของท้องที่ ซึ่งหากผิดก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย

เมื่อถามถึงการขอถอนประกันนายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง จากกรณีที่ระบุว่าให้ผู้ชุมนุมเตรียมน้ำมันคนละ 1 ลิตร เข้ามาใน กทม. พล.ต.อ.ปทีป กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นอำนาจทางศาล แต่หากเจ้าหน้าที่ตำรวจเห็นว่าเข้าข่ายที่ผิดเงื่อนไขการประกันตัวก็สามารถเสนอขอถอนประกันได้ ส่วนจะดำเนินการอย่างไรนั้นต้องดูเทปก่อน ขณะนี้ยังไม่กล้าตัดสิน

ต่อมา พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองเลาขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ที่ทำหน้าที่หัวหน้าชุดดูแลและอารักรักษาความปลอดภัย ได้เข้าพบนายกฯ เป็นเวลาประมาณ 10 นาที จากนั้นก็เดินทางกลับโดยไม่ให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด

พล.ต.อ.ปทีป ได้ให้สัมภาษณ์บริเวณหลังตึกไทยคู่ฟ้า ถึงกรณีการซื้อขายตำแหน่งที่มีข่าวสะพัดว่าทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลมากกว่าหน่วยงานอื่นๆ มีการซื้อขายตำแหน่งสูงถึงเลข 7หลัก โดยนายกฯ ได้แต่งตั้ง พล.ต.อ.ธานี เป็นกรรมการตรวจสอบการซื้อขายตำแหน่ง ว่า ไม่มีตอนนี้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ ยังตอบไม่ได้ เพราะต้องรอการตรวจสอบ เป็นเรื่องของการข่าว ถ้ามีหลักฐาน ตนพร้อมที่จะรับหลักฐาน อย่างไรก็ตามเป็นคณะกรรมการตรวจสอบคนละชุดกับที่ พล.ต.ท.นพดล สมบูรณ์ทรัพย์ อดีต ผช.ผบ.ตร. ผู้ทรงคุณวุฒิด้านพัฒนาองค์กร คณะกรรมการตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) ตรวจสอบเป็นการแต่งตั้งปี 51

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้ามีการส่งข้อมูลมาจะตรวจสอบหรือไม่ พล.ต.อ.ปทีป กล่าวว่า หากมีหลักฐานมาจะดำเนินการ ตอนนี้กำลังเช็กข่าวอยู่ หน่วยต่างๆ เริ่มทยอยส่งคำสั่งมา ก็จะเริ่มตรวจสอบ ส่วนสาเหตุที่มีการร้องเรียนว่า บช.น. มีการซื้อขายตำแหน่งมากที่สุดต่างจากกองบัญชาการนั้นคงตอบยาก เพราะ เป็นพื้นที่เมืองหลวง แต่ถ้ามองว่าเป็นพื้นที่ผลประโยชน์ ตนไม่เห็นด้วย เพราะทุกพื้นที่เป็นของตำรวจทั้งนั้น แต่บังเอิญว่า บช.น.เป็นพื้นที่ในเมืองหลวง แต่ทุกภาคทุกพื้นที่ต้องถูกตรวจสอบมากที่สุด และหลังจากที่ข่าวเรื่องการซื้อขสายตำแหน่งออกมาตนยังไม่ได้สอบถามไปยังทาง บช.น.เลย

เมื่อถามถึงการหาตัว ผบ.ตร.คนใหม่ จะมีการประชุม ก.ตร.เมื่อไหร่ พล.อ.ปทีป กล่าวว่า ตนคงตอบไม่ได้ เกินอำนาจของตน ยังไม่ได้รับแจ้ง วันนี้ไม่ได้คุยกับนายกฯ เรื่องนี้ แต่มารายงานเรื่องการจับกุมยาเสพติดย่านคลองเตย

พล.ต.อ.ปทีป ยังระบุอีกว่าการเดินทางตนมาพบนายกฯ ก็เพื่อรายงานถึงผลการจับกุมผู้ผลิตยาเสพติดรายใหญ่ย่านคลองเตย กทม. ซึ่งเป็นชาวเขา โดยจับกุมได้ยาบ้าจำนวนกว่า 3 ล้านเม็ด ทั้งนี้ในชั้นต่อไปเจ้าหน้าที่ตำรวจจะติดตามถึงกลุ่มผู้ค้าที่อยู่ด้านบนขึ้นไปของกลุ่มผู้ค้าที่ถูกจับกุม

“ในสายตาของตำรวจ พื้นที่ กทม.เป็นเพียงที่พักยา แต่การผลิตจริงๆ ยังอยู่นอกประเทศ โดยบริเวณชายแดนไทยมีพื้นที่ประมาณ 2 พันกิโลเมตร ดังนั้น ผู้ค้าจะเข้ามาจุดไหนก็ได้ แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้สกัดกั้นการเข้ามา แต่หากกั้นไม่อยู่ก็จะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดนี้ (ชุดที่จับกุม) เข้าไปไล่จับกุมอีกชั้นหนึ่ง” พล.ต.อ.ปทีป กล่าว

พล.ต.อ.ปทีป กล่าวต่อว่า ขณะนี้ยาบ้าเป็นยาเสพติดที่ระบาดหนักและรุนแรงที่สุด โดยจะขยายผลอย่างไรนั้นขึ้นอยู่กับการสืบสวน ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ไม่ได้ให้นโยบายอะไรเพิ่มเติม แต่อย่างไรก็ตามเมื่อรัฐบาลมีนโยบายด้านยาเสพติดอย่างจริงจัง จะเห็นว่าผลการดำเนินการช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมาสามารถจับกุมได้กว่า 5 ล้านเม็ด

กำลังโหลดความคิดเห็น