ASTVผู้จัดการรายวัน-กทม.เริ่มจับนกพิราบ ห้ามนำรถจอดสนามหลวง ขณะที่แม่ค้าขายอาหารนกพิราบป่วนเจ้าหน้าที่เทศกิจ จุดประทัดไล่นก คาด2 สัปดาห์จับได้หมด “เอ็นจีโอ” โวยปูพรมปรับสนามหลวง กทม.แค่“ซุกขยะใต้พรม” ไม่แยกแยะคนจรจัดแก้ปัญหาให้ตรงจุด เปิดข้อมูล 3 กลุ่ม ยึดสนามหลวงเป็นบ้าน ด้าน ส.ส.ราชบุรีโวย คนเมืองโอ่งไม่เอานกพิราบ
วานนี้ (1 ก.พ.) นายธีระชน มนโนมัยพิบูลย์ นายพรเทพ เตชะไพบูลย์ และนางทยา ทีปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) ลงพื้นที่ตรวจการปฏิบัติงานภายหลังได้ปิดสนามหลวงตั้งแต่คืนวันที่ 1 ก.พ. - 30 พ.ย. 2553 เพื่อปรับปรุงภูมิทัศน์สนามหลวงและบริเวณโดยรอบ โดยตั้งแต่ช่วงเช้าเจ้าหน้าที่รักษาความสะอาดได้เข้าทำความสะอาดพื้นที่ ขณะที่เจ้าหน้าที่บางส่วนได้นำเมล็ดข้าวโพดแห้งมาโปรยบริเวณกรงจับนกพิราบซึ่งตั้งอยู่ที่ท้องสนามหลวงฝั่งทิศใต้ เพื่อให้เกิดความคุ้นเคยและสามารถจับเข้ากรงได้โดยง่าย อย่างไรก็ตาม ขณะที่นกกำลังเข้าไปกินอาหารภายในกรง กลุ่มผู้เสียผลประโยชน์ จากการขายอาหารนก จุดประทัดขึ้น ทำให้นกหนีไป นอกจากนี้ กทม.ได้ห้ามรถทัวร์รับส่งนักท่องเที่ยวและรถยนต์เข้ามาจอดภายในสนามหลวงโดยเด็ดขาดด้วย
นายธีระชน กล่าวว่า กทม.จะเริ่มปฏิบัติการปรับปรุงภูมิทัศน์พื้นที่สนามหลวงโดยเริ่มจากการดักจับนกพิราบในพื้นที่ที่มีกว่า 10,000 ตัว ไปเลี้ยงดูในพื้นที่ปิดเหมาะสม เช่น ที่จ.ราชบุรี จ.ปราจีนบุรี เบื้องต้นนั้น ทางเครือข่ายนกพิราบที่เกี่ยวข้อง อาทิ สมาคมมิตรภาพกีฬาแข่งนก สมาคมพัฒนานกพิราบสื่อสารไทย จะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ในการดักจับนกพิราบ และจะนำนกพิราบที่จับได้ ทำการฆ่าไร ตรวจหาเชื้อไข้หวัดนก และให้ยาถ่ายพยาธิ ก่อนที่จะนำไปเลี้ยงในพื้นที่ปิดดังกล่าว ตนจึงขอความร่วมมือประชาชนงดซื้อและให้อาหารนกพิราบด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เมื่อวันที่ 31 ม.ค. เวลา 20.00 น. ที่ผ่านมา ตัวแทนของมูลนิธิอิสระชน จำนวน 3 คนได้เข้าหารือกับนายสมลักษณ์ บุญยอ แกนนำกลุ่มสนามหลวง เพื่อรับหนังสือขอความอนุเคราะห์และผ่อนผันให้ผู้ค้าแผงลอยและคนเร่ร่อนเข้าพักในพื้นที่เดิมได้อีกประมาณ 1 เดือน เบื้องต้นตัวแทนมูลอิสสระชนได้รับข้อเสนอ และขอร้องให้กลุ่มสนามหลวงหยุดเคลื่อนไหวในวันที่ 1ก.พ. เพื่อให้การแถลงข่าวเปิดตัวโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์สนามหลวงเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
นางประทิน เวคะวากยานนท์ ที่ปรึกษาเครือข่ายสลัม 4 ภาค กล่าวถึงการปรับภูมิทัศน์สนามหลวง ว่า กทม.ไม่มีมาตรการที่ชัดเจนในการดูแลหรือแก้ปัญหากลุ่มคนเร่ร่อนที่ท้องสนามหลวง ซึ่งยืนยันได้ว่าแก้ปัญหาไม่ได้ จากการสัมผัสคนเหล่านี้ที่นอนอยู่ที่สนามหลวงคืนละกว่า 100 คน สามารถแยกเป็น 3 กลุ่มด้วยกัน ประกอบด้วย 1.กลุ่มที่มาจากต่างจังหวัดต้องการทำมาหากินใน กทม. แต่ยังหางานทำไม่ได้และไม่มีที่พักในกทม. 2.กลุ่มที่มีบ้านอยู่แล้วใน กทม.อาจจะมีปัญหาครอบครัว หรือออกมาพบกับเพื่อนๆ ดื่มเหล้า ทำงานเล็กๆน้อยๆ เวลามีม็อบก็รับจ้างชุมนุม
และ 3.เป็นกลุ่มที่มาจากทั้งต่างจังหวัดและในกทม.ไม่สนใจที่จะทำมาหากิน หาเงินมาได้เล็กน้อยก็กินเหล้า แม้พยายามโน้มนำให้เปลี่ยนวิถีชีวิตก็ไม่ยอมพัฒนา ทั้ง 3 กลุ่มนี้จะมีวิธีแก้ปัญหาที่ไม่เหมือนกัน ซึ่ง กทม.ไม่เคยแยกแยะออกมาให้ชัดเจน
"กทม.ต้องจัดกลุ่มคนที่สนามหลวงออกมาให้ได้ก่อนว่ามีกี่ประเภท เพื่อหาวิธีแก้ปัญหาให้ตรงจุด ถ้าเป็นไปได้ก็ควรจะเลื่อนการปิดสนามหลวงออกไปหรือไม่ก็ปรับปรุงภูมิทัศน์ไปพร้อมๆ กับแยกแยะกลุ่มปัญหาให้ชัดเจนเพื่อแก้ตรงจุด ไม่ใช่ทำแบบไม่มีความรู้ แค่ซุกปัญหาไว้ใต้พรม”นางประทิน กล่าว
ส่วนที่รัฐสภา นางปารีณา ไกรคุปต์ ปาจรียางกูร ส.ส.ราชบุรี พรรคชาติไทยพัฒนา แถลงข่าวเรียกร้องให้ผู้ว่า กทม.ยุตินำนกพิราบบริเวณท้องสนามหลวงไปปล่อยที่ จ.ราชบุรีว่า ชาวราชบุรีในทุกอำเภอได้รวมตัวกันแสดงความไม่พอใจเป็นอย่างมาก เพราะจะส่งผลกระทบและสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนในจังหวัด จึงเป็นเรื่องที่รัฐบาลจะต้องพิจารณาให้รอบคอบ หากยังไม่ยุติความคิดดังกล่าว เชื่อว่าวันที่มีการนำนกพิราบไปปล่อยก็จะต้องมีการรวมตัวต่อต้านกันรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
วานนี้ (1 ก.พ.) นายธีระชน มนโนมัยพิบูลย์ นายพรเทพ เตชะไพบูลย์ และนางทยา ทีปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) ลงพื้นที่ตรวจการปฏิบัติงานภายหลังได้ปิดสนามหลวงตั้งแต่คืนวันที่ 1 ก.พ. - 30 พ.ย. 2553 เพื่อปรับปรุงภูมิทัศน์สนามหลวงและบริเวณโดยรอบ โดยตั้งแต่ช่วงเช้าเจ้าหน้าที่รักษาความสะอาดได้เข้าทำความสะอาดพื้นที่ ขณะที่เจ้าหน้าที่บางส่วนได้นำเมล็ดข้าวโพดแห้งมาโปรยบริเวณกรงจับนกพิราบซึ่งตั้งอยู่ที่ท้องสนามหลวงฝั่งทิศใต้ เพื่อให้เกิดความคุ้นเคยและสามารถจับเข้ากรงได้โดยง่าย อย่างไรก็ตาม ขณะที่นกกำลังเข้าไปกินอาหารภายในกรง กลุ่มผู้เสียผลประโยชน์ จากการขายอาหารนก จุดประทัดขึ้น ทำให้นกหนีไป นอกจากนี้ กทม.ได้ห้ามรถทัวร์รับส่งนักท่องเที่ยวและรถยนต์เข้ามาจอดภายในสนามหลวงโดยเด็ดขาดด้วย
นายธีระชน กล่าวว่า กทม.จะเริ่มปฏิบัติการปรับปรุงภูมิทัศน์พื้นที่สนามหลวงโดยเริ่มจากการดักจับนกพิราบในพื้นที่ที่มีกว่า 10,000 ตัว ไปเลี้ยงดูในพื้นที่ปิดเหมาะสม เช่น ที่จ.ราชบุรี จ.ปราจีนบุรี เบื้องต้นนั้น ทางเครือข่ายนกพิราบที่เกี่ยวข้อง อาทิ สมาคมมิตรภาพกีฬาแข่งนก สมาคมพัฒนานกพิราบสื่อสารไทย จะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ในการดักจับนกพิราบ และจะนำนกพิราบที่จับได้ ทำการฆ่าไร ตรวจหาเชื้อไข้หวัดนก และให้ยาถ่ายพยาธิ ก่อนที่จะนำไปเลี้ยงในพื้นที่ปิดดังกล่าว ตนจึงขอความร่วมมือประชาชนงดซื้อและให้อาหารนกพิราบด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เมื่อวันที่ 31 ม.ค. เวลา 20.00 น. ที่ผ่านมา ตัวแทนของมูลนิธิอิสระชน จำนวน 3 คนได้เข้าหารือกับนายสมลักษณ์ บุญยอ แกนนำกลุ่มสนามหลวง เพื่อรับหนังสือขอความอนุเคราะห์และผ่อนผันให้ผู้ค้าแผงลอยและคนเร่ร่อนเข้าพักในพื้นที่เดิมได้อีกประมาณ 1 เดือน เบื้องต้นตัวแทนมูลอิสสระชนได้รับข้อเสนอ และขอร้องให้กลุ่มสนามหลวงหยุดเคลื่อนไหวในวันที่ 1ก.พ. เพื่อให้การแถลงข่าวเปิดตัวโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์สนามหลวงเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
นางประทิน เวคะวากยานนท์ ที่ปรึกษาเครือข่ายสลัม 4 ภาค กล่าวถึงการปรับภูมิทัศน์สนามหลวง ว่า กทม.ไม่มีมาตรการที่ชัดเจนในการดูแลหรือแก้ปัญหากลุ่มคนเร่ร่อนที่ท้องสนามหลวง ซึ่งยืนยันได้ว่าแก้ปัญหาไม่ได้ จากการสัมผัสคนเหล่านี้ที่นอนอยู่ที่สนามหลวงคืนละกว่า 100 คน สามารถแยกเป็น 3 กลุ่มด้วยกัน ประกอบด้วย 1.กลุ่มที่มาจากต่างจังหวัดต้องการทำมาหากินใน กทม. แต่ยังหางานทำไม่ได้และไม่มีที่พักในกทม. 2.กลุ่มที่มีบ้านอยู่แล้วใน กทม.อาจจะมีปัญหาครอบครัว หรือออกมาพบกับเพื่อนๆ ดื่มเหล้า ทำงานเล็กๆน้อยๆ เวลามีม็อบก็รับจ้างชุมนุม
และ 3.เป็นกลุ่มที่มาจากทั้งต่างจังหวัดและในกทม.ไม่สนใจที่จะทำมาหากิน หาเงินมาได้เล็กน้อยก็กินเหล้า แม้พยายามโน้มนำให้เปลี่ยนวิถีชีวิตก็ไม่ยอมพัฒนา ทั้ง 3 กลุ่มนี้จะมีวิธีแก้ปัญหาที่ไม่เหมือนกัน ซึ่ง กทม.ไม่เคยแยกแยะออกมาให้ชัดเจน
"กทม.ต้องจัดกลุ่มคนที่สนามหลวงออกมาให้ได้ก่อนว่ามีกี่ประเภท เพื่อหาวิธีแก้ปัญหาให้ตรงจุด ถ้าเป็นไปได้ก็ควรจะเลื่อนการปิดสนามหลวงออกไปหรือไม่ก็ปรับปรุงภูมิทัศน์ไปพร้อมๆ กับแยกแยะกลุ่มปัญหาให้ชัดเจนเพื่อแก้ตรงจุด ไม่ใช่ทำแบบไม่มีความรู้ แค่ซุกปัญหาไว้ใต้พรม”นางประทิน กล่าว
ส่วนที่รัฐสภา นางปารีณา ไกรคุปต์ ปาจรียางกูร ส.ส.ราชบุรี พรรคชาติไทยพัฒนา แถลงข่าวเรียกร้องให้ผู้ว่า กทม.ยุตินำนกพิราบบริเวณท้องสนามหลวงไปปล่อยที่ จ.ราชบุรีว่า ชาวราชบุรีในทุกอำเภอได้รวมตัวกันแสดงความไม่พอใจเป็นอย่างมาก เพราะจะส่งผลกระทบและสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนในจังหวัด จึงเป็นเรื่องที่รัฐบาลจะต้องพิจารณาให้รอบคอบ หากยังไม่ยุติความคิดดังกล่าว เชื่อว่าวันที่มีการนำนกพิราบไปปล่อยก็จะต้องมีการรวมตัวต่อต้านกันรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
