นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา เปิดเผยว่า เวลา 14.00 น. วันนี้ (2 ก.พ.) แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 5 พรรค ได้แก่ พรรคชาติไทยพัฒนา ภูมิใจไทย เพื่อแผ่นดิน รวมใจไทยชาติพัฒนา และ กิจสังคม จะนัดแถลงข่าวพร้อมออกแถลงการณ์ร่วมกันที่โรงแรมสยาม ซิตี้ กรณีที่ร่วมกันแก้ไขรัฐธรรมนูญใน 2 ประเด็น ก่อนจะยื่นญัตติต่อสภา ในวันที่ 3 ก.พ.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางพรรคชาติไทยพัฒนา คาดว่าจะได้รับรายชื่อจากทั้ง 5 พรรค ที่ประกอบด้วย พรรคภูมิใจไทย 43 ชื่อ พรรคเพื่อแผ่นดิน 29 ชื่อ พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา 9 ชื่อ และพรรคกิจสังคม 5 ชื่อ ซึ่งเมื่อรวมกับพรรคชาติไทยพัฒนาที่มีอยู่ 25 ชื่อ จะทำให้มีรายชื่อรวม 111 ชื่อ ซึ่งเพียงพอต่อการยื่นญัตติขอแก้ไขรัฐธรรมนูญ
**"เติ้ง"อ้างปชป.รับปากแก้ม.237
ด้านนายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ให้สัมภาษณ์รายการ "เช้าข่าวข้น" ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี เมื่อเช้าวานนี้ ถึงเรื่องการแก้ไข รธน. โดยยืนยันว่า ในช่วงที่จะมีการจัดตั้งรัฐบาล ตนได้ไปร่วมหารือกับแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ที่บ้านนายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ก็รับปากว่าจะมีการแก้ไขรธน. และจะให้แก้มาตรา 237 (เกี่ยวกับการยุบพรรค) ด้วย
"แต่ผมไม่บอกนะว่าใครพูดว่าให้แก้ ผมได้ยินกับหูเลย แล้วนี่ให้ตั้งกรรมกรสมานฉันท์ฯได้ผลมา 6 ประเด็น แต่เงียบหายไป มีข้อแม้ว่าพรรคฝ่ายค้านต้องร่วมด้วย ก็จบแล้วพรรคร่วมรัฐบาลจะทำอย่างไร ผมก็เอางี้ไหม แก้ 6 ข้อไม่สำเร็จหรอก ยิ่งแก้มาตรา 237 เดี๋ยวเสื้อต่างๆก็มาคัดค้านอีก ก็เลยบอกว่าแก้แค่เขตเลือกตั้งได้ไหม ผมชี้แจงว่าการเลือกตั้งมี วันแมนวันโหวตเขตเล็ก กับเขตใหญ่ 3 คน พวกเรามองเห็นว่าการให้ดูแลราษฎรได้ทั่วถึงคือ เขตเล็กจะดูได้ครบทุกหมู่บ้าน แต่ถ้าเขตใหญ่จะดูแลไม่ทั่วถึงมี 3 คนก็เกี่ยงกันหาราษฎร แล้วเขตใหญ่ใช้เงินมาก เขตเล็กใช้เงินน้อย ถ้าบอกว่าเขตเล็กซื้อเสียง ผมบอกไม่จริง เพราะผมลงเลือกตั้งมาหลายสมัย ไม่จริง ผมเถียงแน่นอน ก็แนะว่าเมื่อเป็นแบบนี้ก็แก้แค่มาตรา 190 กับเขตเลือกตั้ง ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ น่าจะโอเคไม่มีปัญหา เพราะเล็กนิดเดียว ไม่เอามาตรา 237 นะ และผมได้แนะไปไม่ใช่หัวโจกนะ ทีนี้เวลาพูดกับใคร ต้องมีน้ำหนัก ผมบอกว่าอย่าเอาตัวผมเกี่ยวเลยน่า ให้คำแนะนำเท่านั้น คิดว่าน่าจะออกทางที่ดี"นายบรรหาร กล่าว
**เป็นห่วงประชาชนจริงจริง
เมื่อถามว่า การแก้เรื่องเขตเลือกตั้งเป็นข้อตกลงหนึ่งในการเข้าร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายบรรหาร กล่าวว่า ไม่มีๆ คือเราพูดแค่ว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญเท่านั้นเอง แต่ไม่ได้พูดว่าจะแก้ข้อไหน แต่ตนเห็นว่าข้อนี้เบาที่สุด ทั้งนี้ตอนร่วมรัฐบาลก็ไม่ได้พูดถึงขนาดชัดเจนจะให้แก้อะไรบ้าง แต่มาตรา 237 ก็มีพูดกันที่บ้านนายนิพนธ์ว่า ต้องการให้แก้ด้วย
เมื่อถามว่าตอนนั้นพรรคประชาธิปัตย์ ประชุมด้วยหลายคนหรือไม่ นายบรรหาร กล่าวว่า ไม่ตอบ ให้ไปถามคนพรรคประชาธิปัตย์เอง เป็นใคร ตนไม่บอก
"หากผมเป็นพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อรักษาน้ำใจพรรคร่วมรัฐบาล ผมจะออก 2 มติ คือ 1. มติไม่เห็นด้วยที่จะให้สมาชิกพรรคไปเซ็นต์ (ร่วมญัตติ) อันนี้รับได้ รักษาน้ำใจพรรคร่วมแล้ว 2. ฟังการอภิปรายในสภาก่อน ว่ามีเหตุผลอย่างไร ตรงนี้อาจไม่เอาก็ได้ ก็ถือเป็นรักษาน้ำใจพรรคร่วมรัฐบาล มันก็ดี" นายบรรหาร กล่าว และย้ำว่า พรรคชาติไทยพัฒนา ไม่กลัวเขตเลือกตั้ง ไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็ก แต่ที่ทำไปเพราะเห็นประโยชน์แก่ราษฎรมากกว่า จะได้ดูแลราษฎรได้ทั่วถึง ไม่เกี่ยวกับเรื่องใช้เงินมาก ใช้เงินน้อย
เมื่อถามว่าส่วนตัวคุยกับพรรคประชาธิปัตย์ได้ทุกคนหรือไม่ นอกจากนายสุเทพ นายบรรหาร กล่าวว่า ตนไม่คุยพรรคประชาธิปัตย์ ไม่อยากคุย ไม่จำเป็น เพราะรัฐธรรมนูญไม่ซีเรียส เพราะไม่เกี่ยวกับรัฐบาล ตนจะช่วยให้อยู่ต่อไปอาจครบเทอมก็ได้ ตนจะช่วยให้อยู่ แต่เรื่องแก้รัฐธรรมนูญนายกฯบอกว่าเรื่องของสภา พรรคชาติไทยพัฒนาไม่ทิ้งพรรคประชาธิปัตย์
เมื่อถามว่าจะไม่ทิ้ง พรรคประชาธิปัตย์ ใช่หรือไม่ นายบรรหาร กล่าวว่า ก็ต่างคนต่างไม่ทิ้งกัน ณ ตอนนี้ยังไม่มีใครทิ้ง ถ้าทิ้งไปต้องบอกกัน
เมื่อถามว่า หากยื่นญัตติเข้าไปจะผ่านสภาหรือไม่ นายบรรหาร กล่าวว่า ขณะนี้เราไม่แน่ใจว่าจะผ่านหรือไม่ผ่าน เพราะต้องอาศัยเสียงวุฒิสภา และฝ่ายค้านด้วย แต่เราไม่มีกฎเกณฑ์ว่า ไม่ผ่านต้องมีปัญหา ไม่ใช่ เมื่อไม่ผ่านก็ไม่ผ่าน
**ตัดพ้อ"มาร์ค"ใจแคบ
เมื่อถามว่า พรรคร่วมจะหารือกับฝ่ายค้านหรือไม่ เพื่อเปลี่ยนขั้ว นายบรรหาร กล่าวว่า "ไม่มีๆ เปลี่ยนขั้ว คนอย่างนายบรรหาร รักษาสัจจะ ไม่มีเปลี่ยนแปลง นึกถึงอดีตที่ผ่านมา สมัย ปชป.เล่นงานผม ปู่ ย่าตายาย ผมเจ็บใจไม่หาย ตอนนั้นท่านสนั่นเป็นเลขาฯ ปชป. ให้พรรคชาติไทย หนุนนายชวน หลีกภัย เป็นนายกฯ ผมคิดสามวันสามคืน ไอ้แล้วก็แล้วไป ผมรับปากท่านสนั่นไปตอนนั้นกับ ปชป. คืนคำไม่ได้ นี่ คือบรรหาร"
เมื่อถามว่า พรรคประชาธิปัตย์มีสัจจะ ต่อนายบรรหารหรือไม่ นายบรรหาร กล่าวว่า คงมีมั้ง
นายบรรหารยังกล่าวถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะว่า เป็นคนเก่งทำงานเร็ว วิสัยทัศน์ดี ศึกษางานเยอะ แต่บางอย่างด้อยไปหน่อย หนึ่ง ความอดทนไม่มี อยากให้ใจกว้างกว่านี้ อย่าใจแคบ ต้องใจกว้าง และสองต้องรู้เขารู้เรา รู้ว่าคนนี้เป็นอย่างไร มาตัดสินวินิจฉัยเอา อย่างอื่นดีหมด แต่ต้องเพิ่มแบบนี้ จะเป็นนายกได้ 8 ปี
**ปชป.ยันไม่ขวางแก้รธน.
นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี นายบรรหาร ออกมาระบุให้พรรคประชาธิปัตย์ใจกว้างในเรื่องการแก้ไขรธน. ว่า พรรคมีความชัดเจนมาตั้งแต่ตั้งรัฐบาลแล้วว่า พรรคไม่ขัดข้องหากพรรคร่วมรัฐบาลจะยื่นญัตติเสนอแก้ไขรธน. และอยากให้กระบวนการดังกล่าวสามารถดำเนินไปในสภา ซึ่งเข้าใจว่ามี ส.ส. เข้าชื่อครบ 1 ใน 5 แล้ว
"พรรคไม่ได้เป็นอุปสรรคในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่เราถือว่าเป็นเรื่องของรัฐสภา ซึ่งมติของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ไม่ร่วมลงชื่อยื่นญัตติ ไม่ได้หมายความว่าจะทำให้กระบวนการยื่นญัตติแก้รัฐธรรมนูญสะดุดลง และหากพรรคประชาธิปัตย์ เข้าร่วมยื่นญัตติ ก็ไม่ได้หมายความว่า ร่างรัฐธรรมนูญนั้นจะผ่านความเห็นชอบจากเสียงส่วนใหญ่ของรัฐสภา ดังนั้นการที่พรรคประชาธิปัตย์ จะเข้าร่วม หรือไม่เข้าร่วมยื่นญัตติก็ไม่ได้เป็นหลักประกันว่าจะไม่สำเร็จ เพราะต้องแสวงหาความร่วมมือจากพรรคการเมือง และส.ว. ซึ่งเสียง ส.ว. ถือว่าเป็นเสียงสำคัญ " นพ.บุรณัชย์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางพรรคชาติไทยพัฒนา คาดว่าจะได้รับรายชื่อจากทั้ง 5 พรรค ที่ประกอบด้วย พรรคภูมิใจไทย 43 ชื่อ พรรคเพื่อแผ่นดิน 29 ชื่อ พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา 9 ชื่อ และพรรคกิจสังคม 5 ชื่อ ซึ่งเมื่อรวมกับพรรคชาติไทยพัฒนาที่มีอยู่ 25 ชื่อ จะทำให้มีรายชื่อรวม 111 ชื่อ ซึ่งเพียงพอต่อการยื่นญัตติขอแก้ไขรัฐธรรมนูญ
**"เติ้ง"อ้างปชป.รับปากแก้ม.237
ด้านนายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ให้สัมภาษณ์รายการ "เช้าข่าวข้น" ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี เมื่อเช้าวานนี้ ถึงเรื่องการแก้ไข รธน. โดยยืนยันว่า ในช่วงที่จะมีการจัดตั้งรัฐบาล ตนได้ไปร่วมหารือกับแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ที่บ้านนายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ก็รับปากว่าจะมีการแก้ไขรธน. และจะให้แก้มาตรา 237 (เกี่ยวกับการยุบพรรค) ด้วย
"แต่ผมไม่บอกนะว่าใครพูดว่าให้แก้ ผมได้ยินกับหูเลย แล้วนี่ให้ตั้งกรรมกรสมานฉันท์ฯได้ผลมา 6 ประเด็น แต่เงียบหายไป มีข้อแม้ว่าพรรคฝ่ายค้านต้องร่วมด้วย ก็จบแล้วพรรคร่วมรัฐบาลจะทำอย่างไร ผมก็เอางี้ไหม แก้ 6 ข้อไม่สำเร็จหรอก ยิ่งแก้มาตรา 237 เดี๋ยวเสื้อต่างๆก็มาคัดค้านอีก ก็เลยบอกว่าแก้แค่เขตเลือกตั้งได้ไหม ผมชี้แจงว่าการเลือกตั้งมี วันแมนวันโหวตเขตเล็ก กับเขตใหญ่ 3 คน พวกเรามองเห็นว่าการให้ดูแลราษฎรได้ทั่วถึงคือ เขตเล็กจะดูได้ครบทุกหมู่บ้าน แต่ถ้าเขตใหญ่จะดูแลไม่ทั่วถึงมี 3 คนก็เกี่ยงกันหาราษฎร แล้วเขตใหญ่ใช้เงินมาก เขตเล็กใช้เงินน้อย ถ้าบอกว่าเขตเล็กซื้อเสียง ผมบอกไม่จริง เพราะผมลงเลือกตั้งมาหลายสมัย ไม่จริง ผมเถียงแน่นอน ก็แนะว่าเมื่อเป็นแบบนี้ก็แก้แค่มาตรา 190 กับเขตเลือกตั้ง ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ น่าจะโอเคไม่มีปัญหา เพราะเล็กนิดเดียว ไม่เอามาตรา 237 นะ และผมได้แนะไปไม่ใช่หัวโจกนะ ทีนี้เวลาพูดกับใคร ต้องมีน้ำหนัก ผมบอกว่าอย่าเอาตัวผมเกี่ยวเลยน่า ให้คำแนะนำเท่านั้น คิดว่าน่าจะออกทางที่ดี"นายบรรหาร กล่าว
**เป็นห่วงประชาชนจริงจริง
เมื่อถามว่า การแก้เรื่องเขตเลือกตั้งเป็นข้อตกลงหนึ่งในการเข้าร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายบรรหาร กล่าวว่า ไม่มีๆ คือเราพูดแค่ว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญเท่านั้นเอง แต่ไม่ได้พูดว่าจะแก้ข้อไหน แต่ตนเห็นว่าข้อนี้เบาที่สุด ทั้งนี้ตอนร่วมรัฐบาลก็ไม่ได้พูดถึงขนาดชัดเจนจะให้แก้อะไรบ้าง แต่มาตรา 237 ก็มีพูดกันที่บ้านนายนิพนธ์ว่า ต้องการให้แก้ด้วย
เมื่อถามว่าตอนนั้นพรรคประชาธิปัตย์ ประชุมด้วยหลายคนหรือไม่ นายบรรหาร กล่าวว่า ไม่ตอบ ให้ไปถามคนพรรคประชาธิปัตย์เอง เป็นใคร ตนไม่บอก
"หากผมเป็นพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อรักษาน้ำใจพรรคร่วมรัฐบาล ผมจะออก 2 มติ คือ 1. มติไม่เห็นด้วยที่จะให้สมาชิกพรรคไปเซ็นต์ (ร่วมญัตติ) อันนี้รับได้ รักษาน้ำใจพรรคร่วมแล้ว 2. ฟังการอภิปรายในสภาก่อน ว่ามีเหตุผลอย่างไร ตรงนี้อาจไม่เอาก็ได้ ก็ถือเป็นรักษาน้ำใจพรรคร่วมรัฐบาล มันก็ดี" นายบรรหาร กล่าว และย้ำว่า พรรคชาติไทยพัฒนา ไม่กลัวเขตเลือกตั้ง ไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็ก แต่ที่ทำไปเพราะเห็นประโยชน์แก่ราษฎรมากกว่า จะได้ดูแลราษฎรได้ทั่วถึง ไม่เกี่ยวกับเรื่องใช้เงินมาก ใช้เงินน้อย
เมื่อถามว่าส่วนตัวคุยกับพรรคประชาธิปัตย์ได้ทุกคนหรือไม่ นอกจากนายสุเทพ นายบรรหาร กล่าวว่า ตนไม่คุยพรรคประชาธิปัตย์ ไม่อยากคุย ไม่จำเป็น เพราะรัฐธรรมนูญไม่ซีเรียส เพราะไม่เกี่ยวกับรัฐบาล ตนจะช่วยให้อยู่ต่อไปอาจครบเทอมก็ได้ ตนจะช่วยให้อยู่ แต่เรื่องแก้รัฐธรรมนูญนายกฯบอกว่าเรื่องของสภา พรรคชาติไทยพัฒนาไม่ทิ้งพรรคประชาธิปัตย์
เมื่อถามว่าจะไม่ทิ้ง พรรคประชาธิปัตย์ ใช่หรือไม่ นายบรรหาร กล่าวว่า ก็ต่างคนต่างไม่ทิ้งกัน ณ ตอนนี้ยังไม่มีใครทิ้ง ถ้าทิ้งไปต้องบอกกัน
เมื่อถามว่า หากยื่นญัตติเข้าไปจะผ่านสภาหรือไม่ นายบรรหาร กล่าวว่า ขณะนี้เราไม่แน่ใจว่าจะผ่านหรือไม่ผ่าน เพราะต้องอาศัยเสียงวุฒิสภา และฝ่ายค้านด้วย แต่เราไม่มีกฎเกณฑ์ว่า ไม่ผ่านต้องมีปัญหา ไม่ใช่ เมื่อไม่ผ่านก็ไม่ผ่าน
**ตัดพ้อ"มาร์ค"ใจแคบ
เมื่อถามว่า พรรคร่วมจะหารือกับฝ่ายค้านหรือไม่ เพื่อเปลี่ยนขั้ว นายบรรหาร กล่าวว่า "ไม่มีๆ เปลี่ยนขั้ว คนอย่างนายบรรหาร รักษาสัจจะ ไม่มีเปลี่ยนแปลง นึกถึงอดีตที่ผ่านมา สมัย ปชป.เล่นงานผม ปู่ ย่าตายาย ผมเจ็บใจไม่หาย ตอนนั้นท่านสนั่นเป็นเลขาฯ ปชป. ให้พรรคชาติไทย หนุนนายชวน หลีกภัย เป็นนายกฯ ผมคิดสามวันสามคืน ไอ้แล้วก็แล้วไป ผมรับปากท่านสนั่นไปตอนนั้นกับ ปชป. คืนคำไม่ได้ นี่ คือบรรหาร"
เมื่อถามว่า พรรคประชาธิปัตย์มีสัจจะ ต่อนายบรรหารหรือไม่ นายบรรหาร กล่าวว่า คงมีมั้ง
นายบรรหารยังกล่าวถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะว่า เป็นคนเก่งทำงานเร็ว วิสัยทัศน์ดี ศึกษางานเยอะ แต่บางอย่างด้อยไปหน่อย หนึ่ง ความอดทนไม่มี อยากให้ใจกว้างกว่านี้ อย่าใจแคบ ต้องใจกว้าง และสองต้องรู้เขารู้เรา รู้ว่าคนนี้เป็นอย่างไร มาตัดสินวินิจฉัยเอา อย่างอื่นดีหมด แต่ต้องเพิ่มแบบนี้ จะเป็นนายกได้ 8 ปี
**ปชป.ยันไม่ขวางแก้รธน.
นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี นายบรรหาร ออกมาระบุให้พรรคประชาธิปัตย์ใจกว้างในเรื่องการแก้ไขรธน. ว่า พรรคมีความชัดเจนมาตั้งแต่ตั้งรัฐบาลแล้วว่า พรรคไม่ขัดข้องหากพรรคร่วมรัฐบาลจะยื่นญัตติเสนอแก้ไขรธน. และอยากให้กระบวนการดังกล่าวสามารถดำเนินไปในสภา ซึ่งเข้าใจว่ามี ส.ส. เข้าชื่อครบ 1 ใน 5 แล้ว
"พรรคไม่ได้เป็นอุปสรรคในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่เราถือว่าเป็นเรื่องของรัฐสภา ซึ่งมติของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ไม่ร่วมลงชื่อยื่นญัตติ ไม่ได้หมายความว่าจะทำให้กระบวนการยื่นญัตติแก้รัฐธรรมนูญสะดุดลง และหากพรรคประชาธิปัตย์ เข้าร่วมยื่นญัตติ ก็ไม่ได้หมายความว่า ร่างรัฐธรรมนูญนั้นจะผ่านความเห็นชอบจากเสียงส่วนใหญ่ของรัฐสภา ดังนั้นการที่พรรคประชาธิปัตย์ จะเข้าร่วม หรือไม่เข้าร่วมยื่นญัตติก็ไม่ได้เป็นหลักประกันว่าจะไม่สำเร็จ เพราะต้องแสวงหาความร่วมมือจากพรรคการเมือง และส.ว. ซึ่งเสียง ส.ว. ถือว่าเป็นเสียงสำคัญ " นพ.บุรณัชย์ กล่าว
