xs
xsm
sm
md
lg

“น้องเดียว” รับเสียงแก้ รธน.ปชป.ก้ำกึ่ง - “หมอวรรณรัตน์” ชี้จับมือ “เพื่อแม้ว” ยาก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
“สาทิตย์” เผยประชาธิปัตย์ยังไม่ได้ข้อสรุปแก้รัฐธรรมนูญ โยนกรรมการบริหารพรรคตัดสิน รับเสียงสมาชิกก้ำกึ่ง คาดพรุ่งนี้ได้ข้อยุติ เมินคำขู่ “เทพเทือก” ยุบสภา ชี้ต้องฟังเสียงสังคมรอบข้าง เชื่อไม่เป็นเงื่อนไขกระทบเสถียรภาพรัฐบาล ลั่นอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ด้าน “หมอวรรณรัตน์” นัดคุยเด็กรวมใจไทยฯ ก่อนพบ “บรรหาร” เที่ยงนี้ รับเป็นเรื่องยากจับมือ “เพื่อแม้ว”

วันนี้ (25 ม.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมสัมมนาของพรรคประชาธิปัตย์ที่ยังไม่ได้ข้อสรุปการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ที่ประชุมมีความเห็นกันหลากหลายและได้มีมติให้กรรมการบริหารพรรคได้ตัดสิน ยืนยันไม่ได้เกิดความขัดแข้ง แต่ความเห็นที่ไม่ตรงกันถือเป็นเรื่องปกติ พรรคใดที่มีความเห็นเป็นหนึ่งเดียว โดยมีเจ้าของพรรคทุบโต๊ะ พรรคนั้นก็ไม่เป็นประชาธิปไตย กลายเป็นเผด็จการไป แต่สำหรับพรรคประชาธิปัตย์เป็นประชาธิปไตยก็ต้องฟังเสียงกัน ซึ่งก็ยอมรับว่าเสียงค่อนข้างก้ำกึ่งกัน มีข้อดี ข้อเสียด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย แต่เมื่อถึงจุดหนึ่งก็ต้องตัดสินใจ อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่าพรุ่งนี้ (26 ม.ค.) ในการประชุมกรรมการบริหารพรรคจะมีข้อยุติเรื่องนี้

ผู้สื่อข่าวถามว่า บทวิเคราะห์ของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคฯ ที่ขู่ว่าหากไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2 ประเด็นที่พรรคร่วมฯ เสนอก็อาจต้องยุบสภานั้น จะทำให้มีผลต่อการพิจารณาของกรรมการบริหารพรรคหรือไม่ นายสาทิตย์ กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน และไม่ได้มองว่าเป็นคำขู่ เพราะเลขาธิการพรรควิเคราะห์ถึงท่าทีของการเดินแต้มทางการเมืองของกลุ่มคนเสื้อแดง และเป็นห่วงต่อสถานการณ์ประเทศ ซึ่งแยกออกจากกันจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งตนคิดว่าเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่แต่ละพรรคก็ต้องมีจุดยืนของตัวเอง แต่บังเอิญพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคใหญ่ ซึ่งการคุยกันก็คงต้องใช้เวลาหน่อย

เมื่อถามว่าคิดว่า พรรคร่วมรัฐบาลจะยอมรับมติของพรรคประชาธิปัตย์ได้หรือไม่ นายสาทิตย์กล่าวว่า คงตอบแทนเขาไม่ได้ แต่อย่างน้อยเลขาธิการพรรคก็คงต้องมีคำตอบไปบอกกับพรรคร่วมรัฐบาล และคิดว่าพรรคร่วมรัฐบาลก็ต้องเข้าใจจุดยืนของแต่ละพรรคด้วย ส่วนข้อเสนอจากพรรคการเมืองใหม่ที่แนะให้พรรคประชาธิปัตย์คงจุดยืนของตัวเอง ยอมเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยนั้น ก็ถือเป็นความเห็นหนึ่งในสังคม ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าในสังคมก็มีความเห็นที่แตกต่างกันเยอะ ซึ่งพรรคก็ต้องรับฟังเสียงจากสังคมอย่างรอบคอบ ซึ่งเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญนี้หากไม่ได้รับความเห็นพ้องที่ดีพอจากองค์กร หรือคนในสังคมก็อาจจะนำไปสู่ความขัดแย้งรอบใหม่ในสังคมได้

เมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่จะเจอกันครึ่งทางคือเห็นด้วยในการแก้ไขมาตรา 190 แต่ในเรื่องของการแบ่งเขตเลือกตั้งก็รอไปก่อน นายสาทิตย์กล่าวว่า ตรงนี้ยังไม่มีการหยิบยกมาคุยกันเลย ซึ่งประเด็นขณะนี้คือพรรคร่วมรัฐบาลและสังคมเขาต้องการรู้ว่าพรรคประชา ธิปัตย์คิดอย่างไร ในฐานะที่เป็นพรรคใหญ่และแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เบื้องต้นคงต้องดูก่อนว่าพรรคร่วมรัฐบาลแต่ละพรรคมีจุด ยืนต่อเรื่องการแก้ไข 2 ประเด็นนี้อย่างไร และหากพรรคร่วมฯเห็นพ้องต้องกัน ในการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญจะแก้อย่างไร ใครเป็นผู้ยื่น

“ต้องยอมรับว่าลำพังเสียงของรัฐบาล 270 กว่าเสียง ยังไม่ถึงกึ่งหนึ่งของรัฐสภาที่จะแก้เลย ถ้าจะแก้ก็ต้องอาศัยเสียงจากวุฒิสภา หรือจากฝ่ายค้านที่ต้องมาเพิ่มเติมอีกไม่ต่ำกว่า 40-50 เสียง จึงจะแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ ซึ่งไม่ง่ายเลย” นายสาทิตย์กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องนี้พรรคประชาธิปัตย์จะยึดหลักในส่วนที่เป็นจุดยืนของพรรคหรือยึดหลักการทำงานของพรรคร่วมรัฐบาล นายสาทิตย์กล่าวว่า หลักก็คือต้องมีจุดยืนของพรรคชัดเจนก่อน และหลังจากนั้นจึงประสานกับพรรคร่วมรัฐบาล แต่คิดว่าเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่น่าจะเป็นเงื่อนไขที่จะทำให้เกิดปัญหา เรื่องเสถียรภาพของรัฐบาล เพราะแต่ละฝ่ายต่างก็มีจุดยืนของตัวเอง และก็ต้องฟังเหตุฟังผลกันด้วย ยังคิดว่าจะคุยกันได้ด้วยเหตุผล ส่วนที่มีข่าวว่าพรรคร่วมอึดอัดนั้นก็เป็นเหตุผลที่คิดได้ แต่ก็ต้องฟังด้วยว่าคนอื่นเขามีความเห็นอย่างไร และมาพูดคุยกัน

เมื่อถามว่า มองกันว่าประชาธิปัตย์พยายามจะยื้อเรื่องนี้ นายสาทิตย์กล่าวว่า ไม่มีเหตุผลที่เราจะยื้อออกไปด้วยความตั้งใจ แต่เรื่องนี้หากย้อนดูก็จะพบว่าพรรคเพื่อไทยเองต่างหากที่มีท่าทีกลับไปกลับมา แต่ก็ไม่ได้มีปัญหาเท่ากับว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญมันจำเป็นต้องดำเนินการหรือไม่ และถ้าเสียงพรรคร่วมฯและในสภาเห็นพ้องต้องกันก็แก้ได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า การตัดสินใจของพรรคเรื่องนี้ หากจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคตพรรคก็ยอมรับได้ใช่หรือไม่ โดยเฉพาะการยุบสภา นายสาทิตย์กล่าวว่า แน่นอน การตัดสินใจทางการเมืองใดๆ ที่จะเกิดขึ้น ผลที่เกิดขึ้นจากการตัดสินใจนั้น ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นทุกคนก็ต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว แต่ตนก็ยังไม่คิดว่าเรื่องนี้จะไปเกี่ยวโยงกับการยุบสภาอย่างชัดเจนในขณะนี้ ยังมีเวลาที่จะคุยกัน

ทางด้าน นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา กล่าวว่า การพูดคุยกับพรรคชาติไทยพัฒนาวันนี้ (25 ม.ค.) เพื่อหารือถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งน่าจะมีแนวทางสอดคล้องกับพรรคร่วมรัฐบาล เพราะเป็นพรรคเล็กไม่น่าจะมีปัญหาทำให้รัฐบาลเสียงแตก การหารือกันไม่ได้เป็นการกดดันพรรคประชาธิปัตย์แต่อย่างใด แต่จะแก้มาตราใดบ้าง สมาชิกพรรคจะวิเคราะห์กันก่อนในเช้าวันนี้ก่อนนำข้อเสนอทั้งหมดไปบอกพรรคชาติไทยพัฒนา ส่วนพรรคประชาธิปัตย์จะให้กรรมการบริหารพรรคชี้ขาดเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น คงไม่ทำให้ความสัมพันธ์พรรคร่วมรัฐบาลมีปัญหา แม้ ส.ส.ในกลุ่มประชาธิปัตย์อาจไม่เห็นด้วย เป็นสิทธิ์ที่ทำได้ และมั่นใจว่าเรื่องนี้ไม่ทำให้เปลี่ยนขั้วทางการเมือง คงเป็นเรื่องยากที่พรรคร่วมรัฐบาลจะจับมือพรรคเพื่อไทย เพราะจุดยืนต่างกัน เนื่องจากพรรคเพื่อไทยต้องการรัฐธรรมนูญปี 40

สำหรับการประชุมของพรรครร่วมรัฐบาลเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ในวันนี้จะประกอบด้วย พรรคชาติไทยพัฒนา พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา และพรรคกิจสังคม โดยนัดหารือในเวลา 12.00 น.ที่โรงแรมปริ๊นเซส ย่านหลานหลวง
กำลังโหลดความคิดเห็น