ASTVผู้จัดการรายวัน - สตาร์ ซานิทารีแวร์ มั่นใจผลงานปีนี้โดดเด่น จากสัญญาณการการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศ ออกสินค้าระดับกลางบนวางตลาดดันมาร์จิ้นพุ่ง ชี้ได้รับการตอบรับดี เผยมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดกระเบื้องเซรามิกจากจีนหนุนอุตสาหกรรมในไทยคึก เชื่อผลงานดีสะท้อนผลตอบแทนจากการลงทุนที่ดีตาม อ้อนนักลงทุนหุ้น STAR จะเป็นอีกทางเลือกสำหรับลงทุนระยะยาว
นายสมชัย ว่องอรุณ รองประธานกรรมการและกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท สตาร์ ซานิทารีแวร์ จำกัด (มหาชน) หรือ STAR เปิดเผยแนวโน้มผลประกอบการปี 53 ว่ามีสัญญาณการเติบโตโดดเด่น เมื่อเทียบกับปี 52 ด้วยปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญหลายประการที่เห็นชัดคือแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจในประเทศมีขึ้นอย่างชัดเจน ลดแรงกดดันทางด้านการลงทุนทำให้ผู้บริโภคหันมาจับจ่ายกันมากขึ้น รวมทั้งการตกแต่งซ่อมแซมบ้านเรือน ซึ่งจะส่งผลดีต่อ STAR ในฐานะผู้จัดจำหน่ายสินค้าในกลุ่มสุขภัณฑ์ด้วย ประกอบกับสินค้าระดับกลางบนที่ส่งลงวางตลาดทั้งในประเทศไทยและตลาดส่งออกได้รับการตอบรับจากลูกค้าอย่างยอดเยี่ยม ทำให้บริษัทสามารถขยายตลาดได้เพิ่มขึ้น ส่งผลให้รายได้และอัตรากำไรขั้นต้นได้ปรับตัวดีขึ้นไปในทิศทางเดียวกัน
โดยประการสำคัญการยื่นคำขอต่อกรมการค้าต่างประเทศ ของกลุ่มผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเซรามิกสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ให้พิจารณาใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด ( Anti – Dumping ) สินค้ากระเบื้องเซรามิกจากสาธารณรัฐประชาชนจีนที่เข้ามาขายในไทยในราคาต่ำ จะช่วยสนับสนุนให้อุตสาหกรรมดังกล่าวในประเทศไทยมีทิศทางที่ดีขึ้น แม้ว่าการแข่งขันยังรุนแรง เพราะผู้ประกอบในประเทศไทยมีจำนวนมาก แต่ถือได้ว่ากรณีดังกล่าวเป็นเรื่องที่ดีเพราะการแข่งขันจะอยู่บนความเป็นจริงมากขึ้น ด้วยต้นทุนที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน จะส่งผลดีต่อผู้ประกอบการในประเทศโดยตรง
" เชื่อว่าการเริ่มฟื้นตัวของตลาดส่งออกและตลาดในประเทศจะส่งผลให้ผลประกอบการของเราโตต่อเนื่องจากปี 52 เพราะสินค้าจำหน่ายได้มากขึ้น ขณะเดียวกันสินค้าที่จัดจำหน่ายยังวางตลาดตำแหน่งเป็นระดับกลางบน สามารถกำหนดราคาขายได้สูงขึ้นกว่าเดิม จึงทำให้อัตรากำไรขั้นต้น (Margin) อยู่ในระดับค่อนข้างสูงในอัตราเกิน 49% อีกทั้งสะท้อนให้ผลประกอบการของ บริษัทฯ เติบโตได้อย่างโดดเด่นค่อนข้างชัดเจนมาตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 ของปีที่ผ่านมา "
ทั้งนี้ ปีนี้บริษัทฯ ได้เตรียมออกสินค้าใหม่ลงวางตลาดต่อเนื่องอีกหลายชุด ทั้งตลาดส่งออกและตลาดในประเทศ เพื่อขยายตลาดทั้งสองด้านไปพร้อม ๆ กัน โดยเฉพาะการขยายตลาดในประเทศ หลังจากพบว่าลูกค้าตอบรับภาพลักษณ์สินค้าระดับกลางบนของสินค้า Star ค่อนข้างดี โดยที่ผ่านมา บริษัทฯ วางจุดเด่น Star เป็น สุขภัณฑ์ที่ผลิตภายใต้มาตรฐานสากล สามารถจำหน่ายได้ทุกตลาดทั่วโลกแต่จัดจำหน่ายให้กับผู้บริโภคชาวไทยในราคายุติธรรมเพื่อเป็นทางเลือกใหม่ให้กับลูกค้าในประเทศ ประกอบกับในปีนี้จะเป็นปีที่ครบรอบ 20 ปีสินค้า Star บริษัทฯ จึงได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายต่อเนื่องตลอดทั้งปี ซึ่งคาดว่าจะสะท้อนให้ผลประกอบการเติบโตได้อย่างโดดเด่น
" เมื่อผลประกอบการเราออกมาดี ก็ย่อมสะท้อนให้ผลตอบแทนจากการลงทุนออกมาดีด้วย ซึ่งเรายังยึดนโยบายจ่ายปันผลอย่างสม่ำเสมอในอัตราไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิตามเงื่อนไขของบริษัทฯ ที่กำหนดไว้ ประกอบกับปัจจุบัน STAR ถือเป็นหุ้นที่มีมูลค่าตามบัญชี (Book Value) ที่ประมาณ 3 บาท ซึ่งสูงกว่าราคาหุ้นในกระดานมาก ในขณะที่มีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนประมาณเพียง 0.3 เท่า แต่มีทิศทางการเติบโตที่ชัดเจนจึงมองว่าน่าจะเป็นอีกทางเลือกที่ดี สำหรับนักลงทุนที่หวังลงทุนในระยะยาว "
สำหรับผลงานปี 52 ที่อยู่ระหว่างรอประกาศงบงวดดังกล่าวนั้น บริษัทคาดว่ารายได้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้คือโต 10-15% จากปี51 ที่ทำได้ 230.26 ล้านบาท รวมทั้งมั่นใจว่ากำไรจะสูงกว่าปี 51 ที่ทำไว้ 5.47 ล้านบาท บริษัทจึงคาดว่าจะจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้สูงกว่าปี 51 ด้วย
นายสมชัย ว่องอรุณ รองประธานกรรมการและกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท สตาร์ ซานิทารีแวร์ จำกัด (มหาชน) หรือ STAR เปิดเผยแนวโน้มผลประกอบการปี 53 ว่ามีสัญญาณการเติบโตโดดเด่น เมื่อเทียบกับปี 52 ด้วยปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญหลายประการที่เห็นชัดคือแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจในประเทศมีขึ้นอย่างชัดเจน ลดแรงกดดันทางด้านการลงทุนทำให้ผู้บริโภคหันมาจับจ่ายกันมากขึ้น รวมทั้งการตกแต่งซ่อมแซมบ้านเรือน ซึ่งจะส่งผลดีต่อ STAR ในฐานะผู้จัดจำหน่ายสินค้าในกลุ่มสุขภัณฑ์ด้วย ประกอบกับสินค้าระดับกลางบนที่ส่งลงวางตลาดทั้งในประเทศไทยและตลาดส่งออกได้รับการตอบรับจากลูกค้าอย่างยอดเยี่ยม ทำให้บริษัทสามารถขยายตลาดได้เพิ่มขึ้น ส่งผลให้รายได้และอัตรากำไรขั้นต้นได้ปรับตัวดีขึ้นไปในทิศทางเดียวกัน
โดยประการสำคัญการยื่นคำขอต่อกรมการค้าต่างประเทศ ของกลุ่มผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเซรามิกสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ให้พิจารณาใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด ( Anti – Dumping ) สินค้ากระเบื้องเซรามิกจากสาธารณรัฐประชาชนจีนที่เข้ามาขายในไทยในราคาต่ำ จะช่วยสนับสนุนให้อุตสาหกรรมดังกล่าวในประเทศไทยมีทิศทางที่ดีขึ้น แม้ว่าการแข่งขันยังรุนแรง เพราะผู้ประกอบในประเทศไทยมีจำนวนมาก แต่ถือได้ว่ากรณีดังกล่าวเป็นเรื่องที่ดีเพราะการแข่งขันจะอยู่บนความเป็นจริงมากขึ้น ด้วยต้นทุนที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน จะส่งผลดีต่อผู้ประกอบการในประเทศโดยตรง
" เชื่อว่าการเริ่มฟื้นตัวของตลาดส่งออกและตลาดในประเทศจะส่งผลให้ผลประกอบการของเราโตต่อเนื่องจากปี 52 เพราะสินค้าจำหน่ายได้มากขึ้น ขณะเดียวกันสินค้าที่จัดจำหน่ายยังวางตลาดตำแหน่งเป็นระดับกลางบน สามารถกำหนดราคาขายได้สูงขึ้นกว่าเดิม จึงทำให้อัตรากำไรขั้นต้น (Margin) อยู่ในระดับค่อนข้างสูงในอัตราเกิน 49% อีกทั้งสะท้อนให้ผลประกอบการของ บริษัทฯ เติบโตได้อย่างโดดเด่นค่อนข้างชัดเจนมาตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 ของปีที่ผ่านมา "
ทั้งนี้ ปีนี้บริษัทฯ ได้เตรียมออกสินค้าใหม่ลงวางตลาดต่อเนื่องอีกหลายชุด ทั้งตลาดส่งออกและตลาดในประเทศ เพื่อขยายตลาดทั้งสองด้านไปพร้อม ๆ กัน โดยเฉพาะการขยายตลาดในประเทศ หลังจากพบว่าลูกค้าตอบรับภาพลักษณ์สินค้าระดับกลางบนของสินค้า Star ค่อนข้างดี โดยที่ผ่านมา บริษัทฯ วางจุดเด่น Star เป็น สุขภัณฑ์ที่ผลิตภายใต้มาตรฐานสากล สามารถจำหน่ายได้ทุกตลาดทั่วโลกแต่จัดจำหน่ายให้กับผู้บริโภคชาวไทยในราคายุติธรรมเพื่อเป็นทางเลือกใหม่ให้กับลูกค้าในประเทศ ประกอบกับในปีนี้จะเป็นปีที่ครบรอบ 20 ปีสินค้า Star บริษัทฯ จึงได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายต่อเนื่องตลอดทั้งปี ซึ่งคาดว่าจะสะท้อนให้ผลประกอบการเติบโตได้อย่างโดดเด่น
" เมื่อผลประกอบการเราออกมาดี ก็ย่อมสะท้อนให้ผลตอบแทนจากการลงทุนออกมาดีด้วย ซึ่งเรายังยึดนโยบายจ่ายปันผลอย่างสม่ำเสมอในอัตราไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิตามเงื่อนไขของบริษัทฯ ที่กำหนดไว้ ประกอบกับปัจจุบัน STAR ถือเป็นหุ้นที่มีมูลค่าตามบัญชี (Book Value) ที่ประมาณ 3 บาท ซึ่งสูงกว่าราคาหุ้นในกระดานมาก ในขณะที่มีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนประมาณเพียง 0.3 เท่า แต่มีทิศทางการเติบโตที่ชัดเจนจึงมองว่าน่าจะเป็นอีกทางเลือกที่ดี สำหรับนักลงทุนที่หวังลงทุนในระยะยาว "
สำหรับผลงานปี 52 ที่อยู่ระหว่างรอประกาศงบงวดดังกล่าวนั้น บริษัทคาดว่ารายได้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้คือโต 10-15% จากปี51 ที่ทำได้ 230.26 ล้านบาท รวมทั้งมั่นใจว่ากำไรจะสูงกว่าปี 51 ที่ทำไว้ 5.47 ล้านบาท บริษัทจึงคาดว่าจะจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้สูงกว่าปี 51 ด้วย