รวบเจ้าของบริษัททัวร์ เซาท์เธิร์น พลัสฯแล้ว บี้ให้ชดใช้ค่าเสียหายแก่ลูกค้า พร้อมดำเนินตามกฎหมาย ด้าน ททท. เพิ่งตื่น จดทะเบียนโลโก้ ล้อมคอกกันผู้แอบอ้างในทางผิด ขณะที่ “ชุมพล” เปิดใจ ย้าย “ศศิธารา” ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวฯ เพราะไม่เป็นนักประสานงานที่ดี
วานนี้(22ม.ค.53) นายชุมพล ศิลปอาชา รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และ พล.ต.ต.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ผู้บังคับบัญชาการกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว(ผบก.ทท.) ร่วมแถลงข่าวว่า ได้จับกุม น.ส.สุรัชวดี โยงราช กรรมการบริษัท เซาท์เธิร์น พลัส แทรเวล ซึ่งเป็นผู้ต้องหากรณีฉ้อโกงประชาชน โดยให้ข้อความเป็นเท็จว่าได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวในฐานะนิติบุคคลจากนายทะเบียน
โดยนายชุมพลกล่าวว่า มีผู้เสียหายจากการจองแพกเกจทัวร์จากบริษัทดังกล่าวมาแจ้งความทั้งหมด 21 ราย เฉลี่ยค่าเสียหายรายละ 1 หมื่นบาท โดยทราบว่า ยังมีผู้เสียหายอีก 49 ราย ที่ซื้อแพกเกจทัวร์จากบริษัทดังกล่าว จากงานส่งเสริมการขายอื่นๆ ที่ ททท. ไม่ได้เป็นผู้จัดด้วย รวมมูลค่าความเสียหายทั้งหมด 7 แสนบาท
เบื้องต้นจะให้ น.ส.สุรัชวดี ไปเจรจาชดใช้เงินให้แก่ผู้เสียหาย 20 ราย ที่ถูกโกงจากการซื้อแพกเกจทัวร์ที่งานททท.เป็นผู้จัด ในวันที่ 25 ม.ค.นี้ ส่วนอีก 1 ราย ททท.ได้ให้เงินชดเชยไปแล้ว และผู้เสียหายอีก 49 ราย ที่ซื้อทัวร์จากบริษัทนี้ในงานอื่น คงต้องให้ดำเนินตามกฎหมายต่อไป โดยจากการจับกุมผู้ต้องหาได้ และมีการชดใช้ค่าเสียหาย
คาดว่าจะทำให้ประชาชนเกิดความมั่นใจที่จะเข้าร่วมงานส่งเสริมการขายของททท.ต่อไป และยังกำชับให้สำนักงานพัฒนาการท่องเที่ยว(สพท.) ไปทบทวนเรื่องการเก็บหลักประกันกับผู้มาขอจดทะเบียนใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ใหม่ให้มากกว่ารายละ 1 หมื่นบาท เพื่อให้สมเหตุสมผล
น.ส.สุรัชวดี โยงราช กรรมการ บริษัท เซาท์เธิร์น พลัส แทรเวล กล่าวว่า ไม่มีเจตนาโกง แต่เป็นปัญหาว่ามีคนแอบอ้างชื่อบริษัทไปใช้ โดยบริษัทไม่เคยไปออกบูธเลย และก็พยายามติดต่อขอมอบตัวมาโดยตลอด
ทางด้านนายสุรพล เศวตเศรนี ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า ล่าสุด ททท.ได้ดำเนินการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า ตราสัญลักษณ์(โลโก้) ททท. ไว้เรียบร้อยแล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาผู้ไม่ประสงค์ดี นำโลโก้ ททท. ไปใช้แอบอ้างได้อีก เพราะที่ผ่านมามีผู้นำโลโก ททท.ไปทำประโยชน์เพื่อการค้ามากมาย
นายชุมพล ได้กล่าวถึงกรณีการโยกย้าย น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ไปรับตำแหน่ง ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ฝ่ายข้าราชการประจำ ตำแหน่งเลขที่ 1 สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นความคิดของตัวเอง คนเดียว ถ้าจะให้เปิดเผยถึงขั้นลึกลงไปคงไม่เหมาะสม แต่เป็นการย้ายเพื่อให้การบริหารงานด้านการท่องเที่ยวคล่องตัวมากยิ่งขึ้น เพราะตลอด 1ปีที่บริหารงานกระทรวงการท่องเที่ยว เมื่อทำเรื่องอะไรเสนอสำนักนายกรัฐมนตรีไปจะไม่ค่อยได้รับความสะดวกไม่ว่าเรื่องงบประมาณหรือโครงการต่างๆ และมีปัญหาโดยตลอด ไม่ว่าจะจากสำนักงบประมาณหรือ สภาพัฒน์ฯ เช่น โครงการขอสินเชื่อช่วยผู้ประกอบการท่องเที่ยวรายใหญ่ ที่เซ็นเสนอนายกรัฐมนตรีไปนายแล้ว แต่จนบัดนี้เอกสารยังไม่ออกจากกระทรวงฯ
ส่วนผลงาน 2 รัฐวิสาหกิจของกระทรวงฯคือ ททท.และการกีฬาฯ ทำงานขึ้นรงกับรัฐมนตรี ส่วนสำนักปลัด เป็นเพียงเคลียร์ริ่งเฮ้าส์หรือจุดผ่านงานเอกสารเท่านั้น การแก้วิกฤตท่องเที่ยวตนก็เป็นผู้เสนอ ครม.เอง ซึ่งเมื่อ ย้ายน.ส.ศศิธาราไปอยู่ที่ทำเนียบรัฐบาลแล้ว ก็จะขอคนของสำนักนายกรัฐมนตรีมาอยู่ที่กระทรวงท่องเที่ยวด้วยสองคน คือ นางธนิฏฐา มณีโชติ ผู้ตรวจประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และอีกคนหนึ่งอาจจะมาจากสำนักงบประมาณ โดยจะเสนอ ครม.สัปดาห์หน้า สำหรับสเปคปลัดกระทรวงท่องเที่ยวฯคนใหม่ ต้องเป็นนักประสานงานที่ดีในทุกทิศทาง ไม่จำเป็นต้องเชี่ยวชาญเรื่องท่องเที่ยวหรือกีฬาเป็นพิเศษ
วานนี้(22ม.ค.53) นายชุมพล ศิลปอาชา รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และ พล.ต.ต.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ผู้บังคับบัญชาการกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว(ผบก.ทท.) ร่วมแถลงข่าวว่า ได้จับกุม น.ส.สุรัชวดี โยงราช กรรมการบริษัท เซาท์เธิร์น พลัส แทรเวล ซึ่งเป็นผู้ต้องหากรณีฉ้อโกงประชาชน โดยให้ข้อความเป็นเท็จว่าได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวในฐานะนิติบุคคลจากนายทะเบียน
โดยนายชุมพลกล่าวว่า มีผู้เสียหายจากการจองแพกเกจทัวร์จากบริษัทดังกล่าวมาแจ้งความทั้งหมด 21 ราย เฉลี่ยค่าเสียหายรายละ 1 หมื่นบาท โดยทราบว่า ยังมีผู้เสียหายอีก 49 ราย ที่ซื้อแพกเกจทัวร์จากบริษัทดังกล่าว จากงานส่งเสริมการขายอื่นๆ ที่ ททท. ไม่ได้เป็นผู้จัดด้วย รวมมูลค่าความเสียหายทั้งหมด 7 แสนบาท
เบื้องต้นจะให้ น.ส.สุรัชวดี ไปเจรจาชดใช้เงินให้แก่ผู้เสียหาย 20 ราย ที่ถูกโกงจากการซื้อแพกเกจทัวร์ที่งานททท.เป็นผู้จัด ในวันที่ 25 ม.ค.นี้ ส่วนอีก 1 ราย ททท.ได้ให้เงินชดเชยไปแล้ว และผู้เสียหายอีก 49 ราย ที่ซื้อทัวร์จากบริษัทนี้ในงานอื่น คงต้องให้ดำเนินตามกฎหมายต่อไป โดยจากการจับกุมผู้ต้องหาได้ และมีการชดใช้ค่าเสียหาย
คาดว่าจะทำให้ประชาชนเกิดความมั่นใจที่จะเข้าร่วมงานส่งเสริมการขายของททท.ต่อไป และยังกำชับให้สำนักงานพัฒนาการท่องเที่ยว(สพท.) ไปทบทวนเรื่องการเก็บหลักประกันกับผู้มาขอจดทะเบียนใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ใหม่ให้มากกว่ารายละ 1 หมื่นบาท เพื่อให้สมเหตุสมผล
น.ส.สุรัชวดี โยงราช กรรมการ บริษัท เซาท์เธิร์น พลัส แทรเวล กล่าวว่า ไม่มีเจตนาโกง แต่เป็นปัญหาว่ามีคนแอบอ้างชื่อบริษัทไปใช้ โดยบริษัทไม่เคยไปออกบูธเลย และก็พยายามติดต่อขอมอบตัวมาโดยตลอด
ทางด้านนายสุรพล เศวตเศรนี ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า ล่าสุด ททท.ได้ดำเนินการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า ตราสัญลักษณ์(โลโก้) ททท. ไว้เรียบร้อยแล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาผู้ไม่ประสงค์ดี นำโลโก้ ททท. ไปใช้แอบอ้างได้อีก เพราะที่ผ่านมามีผู้นำโลโก ททท.ไปทำประโยชน์เพื่อการค้ามากมาย
นายชุมพล ได้กล่าวถึงกรณีการโยกย้าย น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ไปรับตำแหน่ง ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ฝ่ายข้าราชการประจำ ตำแหน่งเลขที่ 1 สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นความคิดของตัวเอง คนเดียว ถ้าจะให้เปิดเผยถึงขั้นลึกลงไปคงไม่เหมาะสม แต่เป็นการย้ายเพื่อให้การบริหารงานด้านการท่องเที่ยวคล่องตัวมากยิ่งขึ้น เพราะตลอด 1ปีที่บริหารงานกระทรวงการท่องเที่ยว เมื่อทำเรื่องอะไรเสนอสำนักนายกรัฐมนตรีไปจะไม่ค่อยได้รับความสะดวกไม่ว่าเรื่องงบประมาณหรือโครงการต่างๆ และมีปัญหาโดยตลอด ไม่ว่าจะจากสำนักงบประมาณหรือ สภาพัฒน์ฯ เช่น โครงการขอสินเชื่อช่วยผู้ประกอบการท่องเที่ยวรายใหญ่ ที่เซ็นเสนอนายกรัฐมนตรีไปนายแล้ว แต่จนบัดนี้เอกสารยังไม่ออกจากกระทรวงฯ
ส่วนผลงาน 2 รัฐวิสาหกิจของกระทรวงฯคือ ททท.และการกีฬาฯ ทำงานขึ้นรงกับรัฐมนตรี ส่วนสำนักปลัด เป็นเพียงเคลียร์ริ่งเฮ้าส์หรือจุดผ่านงานเอกสารเท่านั้น การแก้วิกฤตท่องเที่ยวตนก็เป็นผู้เสนอ ครม.เอง ซึ่งเมื่อ ย้ายน.ส.ศศิธาราไปอยู่ที่ทำเนียบรัฐบาลแล้ว ก็จะขอคนของสำนักนายกรัฐมนตรีมาอยู่ที่กระทรวงท่องเที่ยวด้วยสองคน คือ นางธนิฏฐา มณีโชติ ผู้ตรวจประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และอีกคนหนึ่งอาจจะมาจากสำนักงบประมาณ โดยจะเสนอ ครม.สัปดาห์หน้า สำหรับสเปคปลัดกระทรวงท่องเที่ยวฯคนใหม่ ต้องเป็นนักประสานงานที่ดีในทุกทิศทาง ไม่จำเป็นต้องเชี่ยวชาญเรื่องท่องเที่ยวหรือกีฬาเป็นพิเศษ
