ASTVผู้จัดการรายวัน – ททท.ผนึกเอกชน และสำนักทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ คุมเข้มบริษัททัวร์ที่จะร่วมออกบูธงานส่งเสริมการขายของ ททท. หวั่นเกิดคดีหลอกผู้บริโภคซ้ำอีก ขณะที่แผนการทำงานตลาดในประเทศ เดินหน้าผนึกพันธมิตร จัดกิจกรรมบูมเที่ยวไทย ล่าสุด จับมือบัตรเครดิตเพื่อการท่องเที่ยวธนาคารกรุงเทพฯ กระตุ้นเที่ยวตั้งแต่ต้นปี
นายวันเสด็จ ถาวรสุข รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เปิดเผยว่า ททท. เตรียมจับมือกับสำนักทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ และสมาคมท่องเที่ยวที่ร่วมกับททท.ในการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ด้วยการส่งรายชื่อเอกชนที่จะมาออกบูธในงานของ ททท.ไปยังสำนักทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวฯเพื่อตรวจสอบว่ามีการจดทะเบียนจริงหรือไม่และจะหมดอายุเมื่อใด มีประวัติเสื่อมเสียในการทำธุรกิจหรือไม่ เป็นต้น
จากนั้นจะให้สมาคมด้านท่องเที่ยวตรวจเช็คอีกครั้ง ในเรื่องของฐานะการเงินของบริษัท เป็นการดั๊บเบิ้ลเช็ค เพื่อความมั่นใจว่าผู้บริโภคจะได้รับการบริการที่ดีและไม่ถูกฉ้อโกง
สำหรับความคืบหน้าการช่วยเหลือผู้บริโภคที่ถูกบริษัทนำเที่ยวหลอกขายแพกเกจทัวร์ตามที่เป็นข่าวนั้น คาดว่าจะรวบรวมเสร็จภายใน 31 ม.ค.53 และจะดำเนินการสรุปภายใน 2 สัปดาห์ให้แล้วเสร็จ
สำหรับงานด้านส่งเสริมการท่องเที่ยวตลาดในประเทศ ล่าสุด ททท.มีแผน จับมือกับสถาบันการเงิน บริษัทเอกชน เช่น เชฟโรเลต และปั๊มน้ำมันต่างๆ เพื่อขยายช่องทางการให้ข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยวแก่ประชาชน ล่าสุดจับมือธนาคารกรุงเทพ ผ่าน”บัตรเครดิตท่องเที่ยวธนาคารกรุงเทพ” จัดกิจกรรมส่งเสริมให้ประชาชนใช้บัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพ เพื่อใช้จ่ายในการเดินทางท่องเที่ยว มั่นใจว่าจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และหลายเหตุการณ์มีความคลี่คลาย จะทำให้การเดินทางท่องเที่ยวของคนไทยภายในประเทศปีนี้จะได้ 90 ล้านคนครั้ง เกิดรายได้หมุนเวียน 4 แสนล้านบาท ตามที่ ททท.ตั้งเป้าหมายไว้
นายโชค ณ ระนอง ผู้จัดการสายบัตรเครดิต ธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า ลูกค้าบัตรเครดิตของธนาคารกรุงเทพ มีทั้งสิ้น 950,000 เป็นบัตรเพื่อการท่องเที่ยว 180,000 ใบ ตั้งเป้าหมายว่าปีนี้จะเพิ่มบัตรเพื่อการท่องเที่ยวอีก 40,000 ใบ พร้อมพัฒนาเพิ่มสิทธิประโยชน์สำหรับผู้ถือบัตรมากขึ้น โดยมีโปรโมชั่นและส่วนลดสูงสุด 50% จากโรงแรม ร้านอาหาร สปา และสนามกอล์ฟ ผู้สมัครบัตรเครดิตท่องเที่ยวใหม่ จะได้รับเงินคืนเข้าบัญชีสูงสุด 15,000 บาท เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตร 100,000 บาทขึ้นไปต่อเดือน พร้อมบริการอื่นๆอีกมากมาย
ด้านนายเจริญ วังอนานนท์ กรรมการในคณะกรรมการธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ กล่าวในฐานะประธานคณะอนุกรรมการหาแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหากรณีบริษัทนำเที่ยวโกงเงินนักท่องเที่ยว ว่า การหาแนวทางป้องการการหลอกลวงผู้บริโภคกรณีซื้อแพกเกจทัวร์ในงานส่งเสริมการขายนั้นอาจต้องล่าช้าออกไปเนื่องจากการโยกย้าย น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวไปเป็นที่ปรึกษาสำนักนายกรัฐมนตรี เพราะ น.ส.ศศิธารา เป็นประธานคณะกรรมการธุรกิจนำเที่ยวฯ ขณะนี้การหาแนวทางป้องกันและแก้ปัญหา บริษัทนำเที่ยวโกงเงิน คงต้องล่าช้าออกไปอีก หลังจาก น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์และยังไม่ได้ลงนามแต่งตั้งตนให้เป็นประธานคณะทำงานตรวจสอบฯอย่างเป็นทางการ
นายวันเสด็จ ถาวรสุข รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เปิดเผยว่า ททท. เตรียมจับมือกับสำนักทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ และสมาคมท่องเที่ยวที่ร่วมกับททท.ในการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ด้วยการส่งรายชื่อเอกชนที่จะมาออกบูธในงานของ ททท.ไปยังสำนักทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวฯเพื่อตรวจสอบว่ามีการจดทะเบียนจริงหรือไม่และจะหมดอายุเมื่อใด มีประวัติเสื่อมเสียในการทำธุรกิจหรือไม่ เป็นต้น
จากนั้นจะให้สมาคมด้านท่องเที่ยวตรวจเช็คอีกครั้ง ในเรื่องของฐานะการเงินของบริษัท เป็นการดั๊บเบิ้ลเช็ค เพื่อความมั่นใจว่าผู้บริโภคจะได้รับการบริการที่ดีและไม่ถูกฉ้อโกง
สำหรับความคืบหน้าการช่วยเหลือผู้บริโภคที่ถูกบริษัทนำเที่ยวหลอกขายแพกเกจทัวร์ตามที่เป็นข่าวนั้น คาดว่าจะรวบรวมเสร็จภายใน 31 ม.ค.53 และจะดำเนินการสรุปภายใน 2 สัปดาห์ให้แล้วเสร็จ
สำหรับงานด้านส่งเสริมการท่องเที่ยวตลาดในประเทศ ล่าสุด ททท.มีแผน จับมือกับสถาบันการเงิน บริษัทเอกชน เช่น เชฟโรเลต และปั๊มน้ำมันต่างๆ เพื่อขยายช่องทางการให้ข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยวแก่ประชาชน ล่าสุดจับมือธนาคารกรุงเทพ ผ่าน”บัตรเครดิตท่องเที่ยวธนาคารกรุงเทพ” จัดกิจกรรมส่งเสริมให้ประชาชนใช้บัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพ เพื่อใช้จ่ายในการเดินทางท่องเที่ยว มั่นใจว่าจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และหลายเหตุการณ์มีความคลี่คลาย จะทำให้การเดินทางท่องเที่ยวของคนไทยภายในประเทศปีนี้จะได้ 90 ล้านคนครั้ง เกิดรายได้หมุนเวียน 4 แสนล้านบาท ตามที่ ททท.ตั้งเป้าหมายไว้
นายโชค ณ ระนอง ผู้จัดการสายบัตรเครดิต ธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า ลูกค้าบัตรเครดิตของธนาคารกรุงเทพ มีทั้งสิ้น 950,000 เป็นบัตรเพื่อการท่องเที่ยว 180,000 ใบ ตั้งเป้าหมายว่าปีนี้จะเพิ่มบัตรเพื่อการท่องเที่ยวอีก 40,000 ใบ พร้อมพัฒนาเพิ่มสิทธิประโยชน์สำหรับผู้ถือบัตรมากขึ้น โดยมีโปรโมชั่นและส่วนลดสูงสุด 50% จากโรงแรม ร้านอาหาร สปา และสนามกอล์ฟ ผู้สมัครบัตรเครดิตท่องเที่ยวใหม่ จะได้รับเงินคืนเข้าบัญชีสูงสุด 15,000 บาท เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตร 100,000 บาทขึ้นไปต่อเดือน พร้อมบริการอื่นๆอีกมากมาย
ด้านนายเจริญ วังอนานนท์ กรรมการในคณะกรรมการธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ กล่าวในฐานะประธานคณะอนุกรรมการหาแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหากรณีบริษัทนำเที่ยวโกงเงินนักท่องเที่ยว ว่า การหาแนวทางป้องการการหลอกลวงผู้บริโภคกรณีซื้อแพกเกจทัวร์ในงานส่งเสริมการขายนั้นอาจต้องล่าช้าออกไปเนื่องจากการโยกย้าย น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวไปเป็นที่ปรึกษาสำนักนายกรัฐมนตรี เพราะ น.ส.ศศิธารา เป็นประธานคณะกรรมการธุรกิจนำเที่ยวฯ ขณะนี้การหาแนวทางป้องกันและแก้ปัญหา บริษัทนำเที่ยวโกงเงิน คงต้องล่าช้าออกไปอีก หลังจาก น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์และยังไม่ได้ลงนามแต่งตั้งตนให้เป็นประธานคณะทำงานตรวจสอบฯอย่างเป็นทางการ