xs
xsm
sm
md
lg

ทัวร์เถื่อน เหลือบร้ายทำลายท่องเที่ยวไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กระตุ้นไทยเที่ยวไทย แต่จะทำอย่างไรเมื่อทัวร์บางส่วนยังไร้จรรยาบรรณ
เป็นข่าวโด่งดังสะเทือนแวดวงท่องเที่ยวกันทีเดียว จากกรณีที่ น.ส.ฐิตารีย์ ปิณฑชัยวัฒน์ อายุ 32 ปี พนักงานบริษัทแห่งหนึ่ง พร้อมผู้เสียหาย 25 คน เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าพนักงานตำรวจที่ สน.ลุมพินีให้ดำเนินคดีกับ น.ส.สุรัชวดี โยงราช เจ้าของบริษัทเซาเธิร์น พลัส เทรเวล จำกัด ที่หลอกขายแพ็คเกจท่องเที่ยวทั้งในงานอะเมซิ่ง ไทยแลนด์ แกรนด์ เซล 2009 จัดขึ้นระหว่าง 30 ก.ค. – 2 ส.ค.2552 และงานมหัศจรรย์เที่ยวไทย เมื่อวันที่ 4-6ธ.ค. 2552 ที่ผ่านมา แล้วไม่สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้จริง รวมค่าเสียหายเป็นเงินนับล้านบาท

ดูเหมือนว่าทันทีที่กรณีนี้เป็นข่าวขึ้นมา จะมีผู้หลักผู้ใหญ่ในแวดวงท่องเที่ยวและที่เกี่ยวข้องหลายคนเดินหน้ากันออกมาชี้แจงแถลงไขกันอยู่หลายราย แม้แต่รัฐมนตรีเจ้ากระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ชุมพล ศิลปอาชา ยังออกมาเปิดเผยว่ารู้สึกร้อนใจ ไม่สบายใจ ต่อเรื่องที่เกิดขึ้น จนต้องจึงเรียกประชุมทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องตั้งแต่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานพัฒนาการท่องเที่ยว (สพท.) ในฐานะผู้ออกหนังสือจดทะเบียนประกอบธุรกิจ ท่องเที่ยวเพื่อตรวจสอบเรื่องที่เกิดเป็นข่าวขึ้น

เสียรู้ เสียความรู้สึก

เรื่องนี้คงไม่มีใครเข้าใจเรื่องราวทุกอย่างไปมากกว่าผู้เสียหายอย่าง ฐิตารีย์ ปิณฑชัยวัฒน์ ที่ตกเป็นเหยื่อในครั้งนี้ ฐิตารีย์เล่าว่า ส่วนตัวแล้วไม่เคยรู้จักบริษัทเซาเธิร์น พลัส เทรเวล จำกัด จนกระทั่งได้ไปเที่ยวงานอะเมซิ่ง ไทยแลนด์ แกรนด์ เซล 2009 เดินดูเห็นว่าหน้าร้านใหญ่น่าเชื่อถือ มีป้ายบริษัทและโลโก้ของททท.ติดอยู่ ก็มั่นใจว่าน่าจะการันตีได้ แพ็กเกจก็ดึดดูด จึงตัดสินใจจองที่พักไว้ 2 โรงแรม พักที่อ่างนางกับเกาะลันตา เดินทางช่วงสิ้นปี ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่น ทางบริษัททัวร์ให้จ่ายเต็ม คิดว่าไม่มีปัญหาอะไรจึงรูดบัตรให้ในงาน

“ใบเช็คที่ออกมาก็เป็นใบเสร็จบริษัทคู่กับโลโก้ททท.ก็เพิ่มความมั่นใจมากขึ้น เพราะว่าในททท.ก็มีบอกไว้ว่าบริษัทนี้มีใบอนุญาตนำเที่ยวเลขที่เท่าไหร่ ช่วงเดือนต.ค.ก็โทรไปก็ยังติดต่อได้อยู่ พอช่วงเดือนธ.ค.ก็มีผู้เสียหายเหมือนกันโทรเข้ามาว่า รู้เรื่องหรือยังว่าบริษัทเซาเธิร์น พลัสเ ทรเวล จำกัด มีปัญหาปิดไปแล้ว ตกใจมาก”ฐิตารีย์เล่าถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น

ฐิตารีย์ กล่าวต่อไปว่า ที่แจ้งความ เพราะหนึ่งจ่ายเงินไปหวังว่าจะได้ไปเที่ยวแล้วไม่ได้ไป สองอยากให้เป็นเรื่องตัวอย่างกับคนอื่นๆว่า เราไปจองในงานกับบริษัทที่ได้รับใบอนุญาตมีโลโก้รับรองครบทุกอย่าง เราก็คิดว่าไม่น่าพลาดแต่ก็พลาด
บรรยากาศงานไทยเที่ยวไทยครั้งที่ 17ที่เพิ่งผ่านมา
“เหมือนเขาแค่จับคนมาใส่ โดยที่เขาไม่ได้ดูว่าบริษัทนี้นั้นจริงๆแล้วพื้นฐานเป็นไง การเงินมีปัญหาหรือเปล่า เพราะผู้บริโภคอย่างเราไม่สามารถไปตรวจสอบได้อยู่แล้ว เป็นครั้งแรกที่ตัดสินใจซื้อแพ็กเกจทัวร์แล้วก็มาเจอ “ฐิตารีย์กล่าว

ทางด้าน ผู้เสียหายไม่ประสงค์จะออกนามอีกรายหนึ่ง ได้กล่าวถึงความรู้สึกต่อเหตุการณ์ครั้งนี้ว่า ตนมีความเชื่อใจงานแฟร์พวกนี้มาก งานระดับนี้เราไม่คิดว่าจะมีการหลวกลวง ถ้าไปเดินดูทัวร์เอง ก็จะยอมรับความเสี่ยง แต่นี่มีการันตีในระดับหนึ่งว่ามีการกลั่นกรองเรื่องผู้ประกอบการ

“เรารู้ตัวกันตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคม ไปร้องเรียนหลายที่ ช่วยกันโทรแจ้งผู้เสียหายคนอื่น แต่ที่รู้สึกผิดหวังมาก ไปที่ททท. เขาก็บอกให้เราไปติดต่อที่ส่วนภูมิภาคภาคใต้ เพราะบริษัทนี้จนทะเบียนที่ภาคใต้ พอต่ดต่อทางภาคใต้ก็บอกว่าบริษัทนี้จดทะเบียนแค่หมื่นเดียว ทำได้แค่อายัดทุนจดทะเบียน คนรับเรื่องไม่มี มีแต่คนรับหน้า ท้ายสุดคนใหญ่ๆก็โบ้ยให้ตัวเล็ก บอกได้คำเดียวว่า ททท.ทำงานแบบนี้ชุ่ย”ผู้เสียหายไม่ประสงค์ออกนามกล่าว

ผู้เสียหายยังได้กล่าวตัดพ้อการทำงานของภาครัฐว่า ทำไมคนไทยน่าสงสารจริงๆ จะไปเที่ยวยังโดนหลอก ถ้าททท.ไม่เกี่ยวก็ไม่ต้องไปโฆษณาว่าสนับสนุน ถามว่าขยาดไหมก็ขยาด บอกว่าเอกชนจัดไม่เกี่ยวกับฉัน ทำงานกันยังไงไม่มีบทบาทเลย ททท.ต้องเป็นผู้ใหญ่ที่ดี เราฐานะประชาชนไม่มีคนที่รู้กฏหมายเท่ารัฐ ให้บอกมาเลยหนึ่ง สอง สาม ว่าจะช่วยอะไรบ้าง ผู้เสียหายฝากถึงผู้เกี่ยวข้อง

ต้องเอาจริง

ด้านผู้ประกอบการธุรกิจทัวร์อย่าง เจริญ วังอนานนท์ นายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว บุคคลหนึ่งที่คลุกคลีอยู่ในแวดวงการท่องเที่ยวและทัวร์มานาน กล่าวว่า ในฐานะที่คลุกคลีมานาน ก็เข้าใจปัญหาดี ไม่อยากจะโทษฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด แต่ปัญหาเหล่านี้ ถ้าภาครัฐมีมาตราการการป้องปรามป้องกัน ปัญหาเหล่านี้ก็คงไม่เกิดขึ้น ที่ผ่านมาก็มีการปล่อยกันพอสมควร การที่จะแก้ไขปัญหาตรงนี้ มันเลยเปิดช่องให้คนที่ไม่เป็นสุจริตชนเข้ามาในตรงนี้ง่ายมากๆ

“เมื่อเกิดปัญหาแก้ผู้ซื้อ ต้องมีการลงโทษที่เฉียบขาดกับบริษัททัวร์ ให้สาธารณชนได้เห็นว่าเอาจริงเอาจัง ต้องมีการออกมาประชาสัมพันธ์ว่าหน่วยงานไหนรับผิดชอบเรื่องนี้”เจริญกล่าวแนะ

พร้มทั้งแสดงความคิดเห็นต่อไปว่า ผู้จัดงานแฟร์ต่างๆก็ต้องเคารพกฏหมายด้วย บางคนจดทะเบียบด้วยทุนต่ำ เวลาเกิดปัญหาภาครัฐไม่เคยออกมาปกป้อง
เกาะลันตา เป้าหมายที่ลูกค้าถูกทัวร์เถื่อนหลอก
“ต้องเห็นใจว่าประชาชนว่าเขาซื้อโดยสุจริต เข้าใจว่าจะให้ผู้บริโภคมานั่งตรวจสอบก็วุ่นวายเกิน ถ้าเป็นแบบนั้นไม่ซื้อดีกว่า เจ้าหน้าที่รัฐนั้นแหละที่ควรจะตรวจสอบบริษัททั้งหลายบ้างว่า ยังดำเนินการอยู่ไหม หมดอายุไหม ต้องตรวจสอบแทนผู้บริโภค ต้องปรับโครงการท่องเที่ยวทั้งหมด ต้องยอมเจ็บเนื้อบ้าง ต้องเอาจริงเอาจังพิสูจน์ให้สังคมได้เห็น เพราะที่ผ่านมาเมื่อเกิดปัญหาผู้เสียหายที่ได้เงินคืนเจอน้อยมาก ฉะนั้นต้องกำจัดคนที่มีเจตนาร้ายต่อผู้บริเภคให้เหลือน้อยที่สุด”เจริญกล่าวทิ้งท้าย

ททท.รับเยียวยา

ทางด้าน วันเสด็จ ถาวรสุข รองผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ด้านตลาดในประเทศ ก็ได้ออกมาชี้แจ้งถึงกรณีนี้เช่นกันว่า บริษัทที่เข้ามาขายแพ็กเกจต่างๆในงาน ทุกๆบริษัทเชื่อว่ามีเจตนาดีที่จะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวในบ้านเรา แต่ว่าบางทีอาจจะมีข้อผิดพลาดบางประการที่เกิดขึ้น เช่นกรณีนี้แม้ปกติจะตรวจสอบเข้มอยู่แล้ว ว่าเป็นบริษัทที่จดทะเบียบถูกต้อง มีพฤติกรรมที่ดีมาตลอดไม่เคยเหลวไหล

“ถ้าททท.เป็นผู้ดำเนินการโดยตรงเราจะตรวจสอบอยู่แล้ว บริษัทไหนที่มีการร้องเรียนเราก็ไม่ให้เข้า ในเว็บไซต์เคยบอกว่าบริษัทนั้นนี้หลอกลวงเราก็ไม่ให้เข้ามา แต่อย่าง บริษัทเซาเธิร์น พลัส เทรเวล จำกัด ที่เกิดปัญหา เขาก็ไม่เคยมีประวัติมาก่อน ครั้งต่อไปเราคงต้องวางมาตราการเข้มมากขึ้น ตรวจสอบหนักขึ้น เพราะเราไม่ต้องการให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น มันทำลายบรรยากาศการท่องเที่ยว “รองผู้ว่าททท.กล่าว

รองผู้ว่าททท.ยังแนะนำด้วยว่า การซื้อแพ็จเกจภายในงาน ถ้ามาซื้อในงานการชำระเงินควรชำระส่วนหนึ่งก่อน อย่าเพิ่งชำระเต็ม เมื่อเกิดเหตุขึ้นต้องแจ้งความจับแล้วค่อยมาที่ททท. เพราะ ททท. ได้เปิดศูนย์เฉพาะกิจ เพื่อรับเรื่องร้องเรียนกรณีนักท่องเที่ยวถูกฉ้อโกง จากการซื้อแพ็คเกจนำเที่ยว ภายในงานส่งเสริมการขายที่จัดโดย ททท. และงานที่ททท.มีส่วนร่วมสนับสนุน โดย ททท. จะช่วยตรวจสอบความถูกต้องของเอกสาร การโอนเงิน ซื้อขาย อาทิ ใบเสร็จรับเงิน คูปองหลักฐานการจ่ายเงินเพื่อรับสิทธิ์หรือ voucher ซึ่งผู้เสียหายต้องมาแสดง พร้อมสำเนาบัตรประชาชน มายื่นเรื่องด้วยตัวเอง ตั้งแต่บัดนี้ จนถึงวันที่ 31 มกราคม 2553

จากนั้นจะเร่งหามาตรการ เพื่อเป็นการชดเชยความเสียหายแก่นักท่องเที่ยวภายใน 2 สัปดาห์ อาทิ จัดนำเที่ยวให้ การจองที่พัก ประสานกับสายการบินเพื่อขอเลื่อนการเดินทาง ซึ่งขึ้นกับหลักฐานและมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้น

โดยศูนย์เฉพาะกิจ นี้จะตั้งอยู่ที่อาคารสำนักงานใหญ่ ททท. ชั้น 17 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ โทร.0-2652-8313-4 สำหรับเรื่องร้องเรียน ที่นักท่องเที่ยวเข้ามายื่นกับ ททท. นั้น จะได้รวบรวมนำส่งให้ สำนักงานพัฒนาการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อไปแจ้งความเพื่อดำเนินการต่อในทางคดีอาญาต่อไป
งานแฟร์ที่กำลังจะกิดขึ้น ยังจะได้รับความวางใจจากนักท่องเที่ยวอยู่หรือไม่
4มาตราการจัดระเบียบทัวร์

ส่วนมาตราการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำซ้อนนั้น ในที่ประชุมบอร์ดธุรกิจนำเที่ยวมัคคุเทศก์ เมื่อวันที่12 ม.ค.53ที่ผ่านมา ได้มีการนำประเด็นนี้เข้าหารือเพื่อหาแนวทางการแก้ไขร่วมกัน ทาง สำนักงานพัฒนาการท่องเที่ยว (สพท.) เตรียมร่างกฏกระทรวงตามพระราชบัญญัติธุรกิตนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ สำหรับใช้บังคับให้บริษัทนำเที่ยวปฏิบัติตาม 4 ประเด็นหลัก ก่อนประกาศเป็นกฏกระทรวงใช้อย่างเป็นทางการคาดว่าเริ่มมีผลบังคับใช้ได้ภายในไตรมาสแรกปีนี้

โดย 4มาตราการนั้นคือ 1. การตรวจสอบบริษัทนำเที่ยวว่ามีคดีความติดค้างอยู่หรือไม่ 2.บริษัทนำเที่ยวมีเรื่องการร้องเรียนที่เกี่ยวกับการประกอบธุรกิจหรือไม่ 3.บริษัทนำเที่ยวยังมีความจำเป็นในการให้บริการนักท่องเที่ยวครบหมดแล้วหรือยังในกรณีที่จะขอยกเลิกกิจการ ถ้ายังมีลูกค้าซื้อแพกเกจทัวร์ติดค้างอยู่ก็ให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนจึงจะจดทะเบียนขอยกเลิกกิจการได้

4.ให้บริษัทนำเที่ยวทุกรายที่มีการขายล่วงหน้าต้องรายงานข้อมูลการขายต่อสำนักทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ให้ครบถ้วน เพื่อใช้เป็นข้อมูลตรวจสอบหากบริษัทนำเที่ยวนั้นๆ ต้องการขอจดทะเบียบเลิกกิจการจะได้ตรวจสอบได้ว่ามีลูกค้าติดค้างที่รอรับบริการอยู่หรือไม่.

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

เลือกซื้อแพคเก็จทัวร์อย่างไรไม่ให้โดนหลอก

1. เลือกซื้อทัวร์กับบริษัททัวร์ที่จดทะเบียนประกอบธุรกิจนำเที่ยวอย่างถูกต้อง ซึ่งจะมีเลขที่ใบอนุญาตให้ดู เพราะการที่จะได้ใบอนุญาตนี้มา บริษัททัวร์จะต้องไปจดทะเบียนกับ ททท. และต้องวางเงินมัดจำก้อนใหญ่ไว้กับ ททท. หากบริษัททัวร์ผิดสัญญา ท่านสามารถไปร้องเรียนที่ ททท. เพื่อขอคืนเงินได้ เช่น ทัวร์โกงเงินจอง จ่ายเงินจองแล้วหายไปเลย หรือเขียนโปรแกรมไว้อย่างดีถึงเวลาไม่ทำตามก็ร้องเรียนได้

แต่ถ้าท่านซื้อทัวร์กับทัวร์เถื่อนที่ไม่มีใบอนุญาตจาก ททท. หากท่านโดนโกง ท่านต้องไปแจ้งความที่สถานีตำรวจเพื่อให้ตำรวจตามจับคนที่หลอกเงินคุณ แล้วคิดหรือว่าจะได้คืน เสียเวลาอีกตะหาก

2.เลือกซื้อทัวร์กับบริษัททัวร์ใหญ่ๆ ที่มีชื่อเสียงมายาวนาน

3. ถ้าท่านเป็นมือใหม่ไม่ควรเลือกทัวร์โนเนม เพราะไม่แน่ใจว่าเป็นทัวร์ที่มักจะเปลี่ยนชื่อบ่อยๆ หรือเปล่า ถ้าทัวร์ดีจริงๆ เขาจะต้องไม่เปลี่ยนชื่อ เพราะชื่อนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ลูกทัวร์ชื่อถือและบอกต่อๆ กันไป ยิ่งอยู่นานก็ยิ่งทำให้ลูกค้ารู้จักเยอะ

4. ไม่ควรเลือกซื้อทัวร์ราคาถูกจนเกินไป เพราะอาจเป็นไปได้ว่าบริการอาจจะไม่เป็นอย่างที่ท่านคิด

5. ควรเลือกซื้อทัวร์ที่ระบุโปรแกรมแน่นอน หากทำผิดสัญญาโกงโปรแกรม นักท่องเที่ยวสามารถเอาเอกสารรายละเอียดของโปรแกรมไปเรียกร้องเงินคืนได้จาก ททท.
กำลังโหลดความคิดเห็น