“อำนวย” ลั่นตำรวจออกหมายจับเจ้าของทัวร์ตุ๋นท่องเที่ยวได้ทันที ไม่จำเป็นต้องออกหมายเรียก เผยยอดผู้เสียหายมากกว่า 30 ราย และมีเรียงหน้าเข้าแจ้งความต่อเนื่อง ระบุตรวจเจอ “เซาเธิร์นพลัสเทรเวล” เป็นเพียงบริษัททัวร์อุปโลกน์ขึ้นมาไม่ได้จดทะเบียนจัดตั้ง วอนหน่วยราชการเช็กข้อมูลห้างร้านแต่ละบริษัทก่อนอนุญาตร่วมเปิดบูทจัดงาน
จากกรณีที่ น.ส.ฐิตารีย์ ปิณฑชัยวัฒน์ อายุ 32 ปี อาชีพพนักงานบริษัท พร้อมผู้เสียหายอีก 25 คน พากันเข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.ธีรภพ ล้วนเส้ง ร้อยเวร สน.ลุมพินี ให้ดำเนินคดีกับน.ส.สุรัชวดี โยงราช เจ้าของ บริษัท เซาเธิร์นพลัสเทรเวล จำกัด ในข้อหาฉ้อโกง จากกรณีที่มีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อหลงเชื่อจ่ายเงินค่าเดินทางไปท่องเที่ยวตามแพกเกจที่บริษัทดังกล่าวโฆษณาเอาไว้ รวมมูลค่าความเสียหายนับล้านบาทตามที่นำเสนอเป็นข่าวไปแล้วนั้น
วันนี้ (12 ม.ค.) เมื่อเวลา 14.30 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น. กล่าวว่า หลังพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี รับแจ้งความไปแล้วเมื่อวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา ขณะนี้สามารถสรุปยอดผู้เสียหายได้แล้วกว่า 30 ราย และยังมีผู้ที่จะทยอยเดินทางมาแจ้งความเพิ่มขึ้นอีกเรื่อยๆ เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนได้ตรวจสอบข้อมูลพบว่า บริษัท เซาเธิร์นพลัสเทรเวล จำกัด ไม่ได้จดทะเบียนจัดตั้งกับกระทรวงพาณิชย์ เป็นเพียงบริษัทที่อุปโลกน์ตัวเองขึ้นมา ซึ่งการกระทำผิดในลักษณะนี้เข้าข่ายฉ้อโกงประชาชน โดยผู้บริหารของบริษัทอาจคิดไปเองว่าการจัดงานออกบูทภายใต้การดำเนินงาน และประชาสัมพันธ์ของหน่วยงานราชการน่าจะทำให้ประชาชนไว้ใจให้ความเชื่อถือ จึงย่ามใจแฝงตัวเข้ามาหากินกับประชาชน ตนจึงอยากฝากไปถึงหน่วยงานราชการทั้งหลายด้วยว่า หากจะมีการเปิดบูทจัดงานใดๆ ขึ้นมาอีก ขอให้ตรวจสอบความเป็นมาของห้างร้าน และบริษัทต่างๆ เหล่านี้ให้ละเอียดถี่ถ้วนก่อนจะได้ไม่มีผู้ตกเป็นเหยื่ออีกต่อไป
พล.ต.ต.อำนวย กล่าวอีกว่า เมื่อวานนี้ (11 ม.ค.) พนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี ได้ขออนุมัติหมายจับจากศาลอาญากรุงเทพใต้ เลขที่ จ.10/2553 ลงวันที่ 11 ม.ค.53 เพื่อจับกุมตัว น.ส.สุรัชวดี โยงราช เจ้าของบริษัท เซาเธิร์นพลัสเทรเวล จำกัด ในข้อหาฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงข้อความอันเป็นเท็จว่าได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวในฐานะนิติบุคคลจากนายทะเบียนเอาไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งข้อหานี้มีอัตราโทษจำคุกถึง 7 ปี และคดีนี้เป็นความผิดอาญาแผ่นดิน จึงไม่จำเป็นต้องออกหมายเรียก ซึ่งสามารถออกหมายจับได้ในทันที โดยหลังจากนี้เป็นหน้าที่ของตำรวจ สน.ลุมพินี ที่จะเร่งติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหารายนี้มาดำเนินคดีต่อไป