ASTVผู้จัดการรายวัน - ย้ายฟ้าผ่า “ศศิธารา” ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวเข้ากรุนั่งที่ปรึกษาสำนักนายกรัฐมนตรี ให้เหตุผลง่ายช่วยงาน “ไตรรงค์” ด้านท่องเที่ยว ลือหึ่ง! ทำงานขัดใจการเมือง จับตาดัน “อรรถชัย” ข้ามห้วยจากสำนักงบประมาณเสียบแทน
นายชุมพล ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา เปิดเผยถึงกรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติโอนข้าราชการแต่งตั้ง โดยให้น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ไปดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ โดยเป็นที่ปรึกษานายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจว่า ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งสิ้น เป็นไปตามความเหมาะสม ทางสำนักนายกรัฐมนตรีอยากให้ไปช่วยงานทางด้านกีฬา และการท่องเที่ยว เพื่อประสานงานไปยังกระทรวง และส่วนราชการต่างๆ เพราะงานทางด้านกีฬา และการท่องเที่ยวมักไปเกี่ยวกับต่างประเทศ หลายกระทรวง ทบวง กรม
“ก็เลยพิจารณากันว่า ขณะนี้มีแผนยุทธศาสตร์ทางการกีฬา 8 ปี เสนอเข้าครม. มีแผนการท่องเที่ยวในการฟื้นฟูและกู้วิกฤตของการท่องเที่ยวในปี 2553-54 เป็นจำนวนมาก งบประมาณต้องเข้าสู่ครม. อยากได้คนพอรู้เรื่องช่วยอำนวยความสะดวกทางด้านสำนักนายกฯ ได้ดีขึ้น เพราะวันนี้ไม่มีคนประสานงานเลย และพิจารณากันแล้วเห็นว่า ท่านน่าจะเหมาะสมที่สุด ไม่ได้มีความขัดแย้งอะไร และโดยระบบราชการก็ไม่ได้มีการแจ้งให้เจ้าตัวได้ทราบอะไรก่อน ส่วนตำแหน่งปลัดกระทรวงฯ คนใหม่ขอเวลา 1 สัปดาห์น่าจะจบ ซึ่งอาจเป็นคนในกระทรวงหรือนอกกระทรวง”นายชุมพลกล่าว
นายยุทธพล อังกินันทน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า นายชุมพลจะทาบทามนายอรรถชัย บุรกรรมโกวิท รองผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง เข้ามารับตำแหน่งปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาแทน
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การที่ครม.มีมติโอนข้าราชการ โดยให้น.ส.ศศิธารา ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ เป็นเหตุผลทางการบริหาร ซึ่งนายไตรรงค์จะเป็นผู้ชี้แจงรายละเอียด
“ท่านปลัด จะมาช่วยงานที่ทำเนียบรัฐบาล นายไตรรงค์ก็จะทำงานกับท่านด้วย เพราะต้องการที่จะใช้ท่านทำงาน”นายอภิสิทธิ์กล่าว
ขณะที่นายไตรรงค์ กล่าวสั้นๆ ว่า เป็นเรื่องที่ดีที่ได้น.ส.ศศิธารา มาช่วยงานด้านการท่องเที่ยว เพราะการท่องเที่ยวไทยมีมูลค่ามากกว่าแสนล้านบาท
น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ไม่รู้มาก่อนเลยว่าจะมีการโยกย้ายไปรับตำแหน่งที่ปรึกษาสำนักนายกรัฐมนตรี แต่เมื่อเป็นความต้องการของรัฐมนตรี และ ครม.ก็ยินดีปฎิบัติตาม เพราะที่ผ่านมา ก็ไม่เคยทำงานนอกคำสั่งของผู้บังคับบัญชาอยู่แล้ว
“พี่มีนิสัยเชื่อฟังนายมาโดยตลอด และยืนยันทำในสิ่งที่ถูกต้องและโปร่งใสตรวจสอบได้ โดยเฉพาะงานด้านการใช้งบประมาณการจัดซื้อจัดจ้าง รับประกันโดยชื่อเสียงและวงศ์ตระกูลของตัวเอง ไม่รู้จริงๆ ว่าถูกโยกย้ายครั้งนี้เพราะสาเหตุใด เพราะจริงๆ ก็ยังไม่ใช่ช่วงการโยกย้าย และเพิ่งรับตำแหน่งมาได้ 3 ปี ยังเหลืออายุราชการอีก 6 ปี ก็ไม่ได้ยึดติดกับตำแหน่ง ไม่เคยคิดว่าปลัดเป็นตำแหน่งที่สูงที่สุด แต่ต้องทำงานเพื่อประโยชน์ของส่วนรวมตามภารกิจของข้าราชการประจำ ส่วนกรณีจะร้องเรียนขอความเป็นธรรมในการโยกย้ายครั้งนี้ต่อ ปปช.หรือไม่คงต้องขอคิดดูก่อน”น.ส.ศศิธารากล่าว
แหล่งข่าวจากวงการท่องเที่ยว ระบุว่า การโยกย้ายน.ส.ศศิธาราในครั้งนี้ เป็นความต้องการของฝ่ายการเมืองที่กำกับดูแลกระทรวงการท่องเที่ยว โดยที่ผ่านมางานที่น.ส.ศศิธารา ทำหลายอย่างไม่เป็นไปตามที่สั่งการ รวมถึงงานที่ น.ส.ศศิธารา เคยไปนั่งเป็นประธานบอร์ดอีลิทการ์ด ซึ่งมีกรณีจัดซื้อจัดจ้างรถประจำตำแหน่งให้กับผู้บริหาร ขณะเดียวกัน ยังมองว่าเป็นการรุกคืบของพรรคการเมืองที่กำกับดูแลงานของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่จะทยอยปรับเปลี่ยนตำแหน่งข้าราชการระดับผู้อำนวยการและหัวหน้างาน โดยส่วนใหญ่ผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจะเป็นผู้ที่มีความใกล้ชิดกับพรรคการเมืองนี้
ล่าสุด มีกระแสข่าวว่า นายอรรถชัย บุรกรรมโกวิท รองผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ที่จะมาเป็นปลัดกระทรวงฯ คนใหม่ ก็เป็นบุคคลที่มีความใกล้ชิดกับอดีตหัวหน้าพรรคชาติไทยเช่นกัน และเป็นเรื่องที่ไม่ทำกันบ่อยนักกับการย้ายข้าราชการข้ามกระทรวง และนอกฤดูกาลโยกย้าย และเป็นการย้ายจากข้าราชการระดับ 10 ขึ้นเป็นข้าราชการระดับ 11 ทั้งที่ไม่ใช่ฤดูกาลโยกย้ายตามปีงบประมาณ
นายเจริญ วังอนานนท์ โฆษกสหพันธ์สมาคมท่องเที่ยวไทย (เฟตต้า) กล่าวว่า การที่นายชุมพล โยกย้ายน.ส.ศศิธารา เหมือนกับเป็นการไม่ให้ความสำคัญกับภาคการท่องเที่ยว ซึ่งในเร็วๆ นี้ เฟตต้าเตรียมทำหนังสือคัดค้านกรณีโยกย้าย น.ส.ศศิธาราไปเป็น ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ
นายชุมพล ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา เปิดเผยถึงกรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติโอนข้าราชการแต่งตั้ง โดยให้น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ไปดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ โดยเป็นที่ปรึกษานายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจว่า ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งสิ้น เป็นไปตามความเหมาะสม ทางสำนักนายกรัฐมนตรีอยากให้ไปช่วยงานทางด้านกีฬา และการท่องเที่ยว เพื่อประสานงานไปยังกระทรวง และส่วนราชการต่างๆ เพราะงานทางด้านกีฬา และการท่องเที่ยวมักไปเกี่ยวกับต่างประเทศ หลายกระทรวง ทบวง กรม
“ก็เลยพิจารณากันว่า ขณะนี้มีแผนยุทธศาสตร์ทางการกีฬา 8 ปี เสนอเข้าครม. มีแผนการท่องเที่ยวในการฟื้นฟูและกู้วิกฤตของการท่องเที่ยวในปี 2553-54 เป็นจำนวนมาก งบประมาณต้องเข้าสู่ครม. อยากได้คนพอรู้เรื่องช่วยอำนวยความสะดวกทางด้านสำนักนายกฯ ได้ดีขึ้น เพราะวันนี้ไม่มีคนประสานงานเลย และพิจารณากันแล้วเห็นว่า ท่านน่าจะเหมาะสมที่สุด ไม่ได้มีความขัดแย้งอะไร และโดยระบบราชการก็ไม่ได้มีการแจ้งให้เจ้าตัวได้ทราบอะไรก่อน ส่วนตำแหน่งปลัดกระทรวงฯ คนใหม่ขอเวลา 1 สัปดาห์น่าจะจบ ซึ่งอาจเป็นคนในกระทรวงหรือนอกกระทรวง”นายชุมพลกล่าว
นายยุทธพล อังกินันทน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า นายชุมพลจะทาบทามนายอรรถชัย บุรกรรมโกวิท รองผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง เข้ามารับตำแหน่งปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาแทน
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การที่ครม.มีมติโอนข้าราชการ โดยให้น.ส.ศศิธารา ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ เป็นเหตุผลทางการบริหาร ซึ่งนายไตรรงค์จะเป็นผู้ชี้แจงรายละเอียด
“ท่านปลัด จะมาช่วยงานที่ทำเนียบรัฐบาล นายไตรรงค์ก็จะทำงานกับท่านด้วย เพราะต้องการที่จะใช้ท่านทำงาน”นายอภิสิทธิ์กล่าว
ขณะที่นายไตรรงค์ กล่าวสั้นๆ ว่า เป็นเรื่องที่ดีที่ได้น.ส.ศศิธารา มาช่วยงานด้านการท่องเที่ยว เพราะการท่องเที่ยวไทยมีมูลค่ามากกว่าแสนล้านบาท
น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ไม่รู้มาก่อนเลยว่าจะมีการโยกย้ายไปรับตำแหน่งที่ปรึกษาสำนักนายกรัฐมนตรี แต่เมื่อเป็นความต้องการของรัฐมนตรี และ ครม.ก็ยินดีปฎิบัติตาม เพราะที่ผ่านมา ก็ไม่เคยทำงานนอกคำสั่งของผู้บังคับบัญชาอยู่แล้ว
“พี่มีนิสัยเชื่อฟังนายมาโดยตลอด และยืนยันทำในสิ่งที่ถูกต้องและโปร่งใสตรวจสอบได้ โดยเฉพาะงานด้านการใช้งบประมาณการจัดซื้อจัดจ้าง รับประกันโดยชื่อเสียงและวงศ์ตระกูลของตัวเอง ไม่รู้จริงๆ ว่าถูกโยกย้ายครั้งนี้เพราะสาเหตุใด เพราะจริงๆ ก็ยังไม่ใช่ช่วงการโยกย้าย และเพิ่งรับตำแหน่งมาได้ 3 ปี ยังเหลืออายุราชการอีก 6 ปี ก็ไม่ได้ยึดติดกับตำแหน่ง ไม่เคยคิดว่าปลัดเป็นตำแหน่งที่สูงที่สุด แต่ต้องทำงานเพื่อประโยชน์ของส่วนรวมตามภารกิจของข้าราชการประจำ ส่วนกรณีจะร้องเรียนขอความเป็นธรรมในการโยกย้ายครั้งนี้ต่อ ปปช.หรือไม่คงต้องขอคิดดูก่อน”น.ส.ศศิธารากล่าว
แหล่งข่าวจากวงการท่องเที่ยว ระบุว่า การโยกย้ายน.ส.ศศิธาราในครั้งนี้ เป็นความต้องการของฝ่ายการเมืองที่กำกับดูแลกระทรวงการท่องเที่ยว โดยที่ผ่านมางานที่น.ส.ศศิธารา ทำหลายอย่างไม่เป็นไปตามที่สั่งการ รวมถึงงานที่ น.ส.ศศิธารา เคยไปนั่งเป็นประธานบอร์ดอีลิทการ์ด ซึ่งมีกรณีจัดซื้อจัดจ้างรถประจำตำแหน่งให้กับผู้บริหาร ขณะเดียวกัน ยังมองว่าเป็นการรุกคืบของพรรคการเมืองที่กำกับดูแลงานของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่จะทยอยปรับเปลี่ยนตำแหน่งข้าราชการระดับผู้อำนวยการและหัวหน้างาน โดยส่วนใหญ่ผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจะเป็นผู้ที่มีความใกล้ชิดกับพรรคการเมืองนี้
ล่าสุด มีกระแสข่าวว่า นายอรรถชัย บุรกรรมโกวิท รองผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ที่จะมาเป็นปลัดกระทรวงฯ คนใหม่ ก็เป็นบุคคลที่มีความใกล้ชิดกับอดีตหัวหน้าพรรคชาติไทยเช่นกัน และเป็นเรื่องที่ไม่ทำกันบ่อยนักกับการย้ายข้าราชการข้ามกระทรวง และนอกฤดูกาลโยกย้าย และเป็นการย้ายจากข้าราชการระดับ 10 ขึ้นเป็นข้าราชการระดับ 11 ทั้งที่ไม่ใช่ฤดูกาลโยกย้ายตามปีงบประมาณ
นายเจริญ วังอนานนท์ โฆษกสหพันธ์สมาคมท่องเที่ยวไทย (เฟตต้า) กล่าวว่า การที่นายชุมพล โยกย้ายน.ส.ศศิธารา เหมือนกับเป็นการไม่ให้ความสำคัญกับภาคการท่องเที่ยว ซึ่งในเร็วๆ นี้ เฟตต้าเตรียมทำหนังสือคัดค้านกรณีโยกย้าย น.ส.ศศิธาราไปเป็น ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ