“สอยดาว สิขรเยี่ยม ตระหง่านเทียม นภาลัย
คิด คิด ประหลาดใจ สิขรหรือ จะสอยดาว
คิดจริง ก็อย่าเลย สิขรเอ๋ย จะยืนหาว
ดารา นิภาพราว ละลิบลอย ฤ สอยถึง”
ผมจำได้จับใจตั้งแต่ครั้งยังเป็นเด็ก ไม่แน่ใจว่าผู้ใดรจนา เสวตร เปี่ยมพงศ์สานต์ บุตรเขยผู้เป็นรัฐมนตรีที่ชาวระยองควรภูมิใจ หรือกาญจนาคพันธุ์ ผู้พ่อตา
สมัยนั้นคำว่า “ไปถึงดวงดาว” ที่แปลว่าขึ้นสู่อำนาจสูงสุดยังไม่เกิดในปทานุกรมการเมืองไทย
สมัยนี้ มีมนุษย์เดินดินที่ขึ้นไปถึงดวงดาว และพ่นพิษลงมาทำลายต้นน้ำลำธารขุนเขาป่าไม้ของบ้านเมืองเราจนแทบจะไม่เหลือหลอ
ท่านผู้อ่านที่เคารพ ทำไมผมไม่ยุติการเขียน แม้คนใกล้ชิดก็ยังบอกว่าเขียนให้เมื่อยทำไม ยิ่งเรื่องฝรั่งมังค่าไม่มีประโยชน์หรอก เพราะนี่มันไทยแลนด์นะ(จ๊ะ)โว้ย
ผมคิดเงียบๆ อยู่ในใจว่า ยังงั้นเลิกอ้างว่าการเมืองของมึงเหมือนอังกฤษ หรือรัฐมนตรีของมึงเหมือนรัฐมนตรีอังกฤษซะทีซิโว้ย
ผมขอขอบคุณนายกฯ อภิสิทธิ์สำหรับโครงการไทยเข้มแข็ง ผมขอขอบคุณรัฐมนตรีวิทยา แก้วภราดัย ที่ลาออกเป็นตัวอย่าง ผมขอขอบคุณกระสือกระทรวงสาธารณสุข พวกท่านเปิดโอกาสให้ผมมีเรื่องเขียน
เราจะได้เชิดชูความดี และถือความชั่วเป็นบทเรียน
ผมเชื่อว่าคนไทยคงไม่คิดว่าแท้ที่จริงนายกรัฐมนตรีก็คือรัฐมนตรีคนหนึ่ง และคงลืมอีกเหมือนกันว่า นายกรัฐมนตรีไทยตั้ง 8 คนเป็นนักเรียนเก่าอังกฤษ จากสถาบันที่เลิศลอยทั้งสิ้น
เรียงจากนายกฯ คนแรก พระยามโนฯ (เนติบัณฑิต) นายทวี บุณยเกตุ (Kings College) ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช (เคมบริดจ์และเนติบัณฑิต) อาจารย์สัญญา ธรรมศักดิ์(เนติบัณฑิต) ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช (ออกซฟอร์ด) นายธานินทร์ กรัยวิเชียร (ลอนดอนสกูลฯ และเนติบัณฑิต) นายอานันท์ ปันยารชุน (เคมบริดจ์) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (ออกซฟอร์ด)
ผมรับรองว่าท่านเหล่านี้ กินเล็กกินน้อยแม้แต่นิดเดียวก็ไม่มี ล้วนแต่ซื่อสัตย์สุจริต เป็นคนดี-คนเก่ง ควรกราบไหว้บูชาทั้งสิ้น
แต่เหตุไฉน บ้านเมืองของเราจึงติดอันดับคอร์รัปชันสูงสูดของโลก ท่านเหล่านี้แต่ละคนหรือรวมกันทิ้งหรือสร้างมรดกอะไรไว้ให้การเมืองไทยบ้าง ทำไมโอกาสที่จะเกิดนองเลือดอีกหรือเกิดสงครามการเมืองจึงสูงขึ้นทุกวัน จนกระทั่งเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2552 ในหลวงทรงระบายความห่วงว่า “บ้านเมืองกำลังจะล่มจม ไม่รู้จะไปทางไหน ไปอย่างไร”
ถึงปานนี้แล้ว หากพวกเราไม่ช่วยกันคิดหาทางออก เมื่อไรจะคิด
คนต่างกับสัตว์เพราะคนรู้จักคิด เจ้าข้าเอ้ย
ขณะนี้ ธาตุทั้งสี่คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ กำลังพิโรธโกรดเกรี้ยวประเทศไทยอย่างไม่เคยมาก่อน แต่การเมืองเป็นพิษที่มีอานุภาพทำลายสูงกว่า
ท่านที่ศึกษาอย่างดีมาจากอังกฤษ เปรียบเสมือนเมล็ดพืชพันธุ์ดี แต่ก็ไม่สามารถงอกงามขยายพันธุ์ในผืนแผ่นดินการเมืองที่เป็นพิษของประเทศไทยได้
เพราะอะไร เพราะท่านติดอนุรักษนิยมหรือความเป็นนักรักษาของเก่าแบบอังกฤษ ท่านมาจากระบบไหนท่านก็รักษาระบบนั้น ไม่คิดเปลี่ยนแปลง ท่านคิดว่าระบบจะเป็นอย่างไรก็ได้ ถ้าคน (มัน) ดีซะอย่าง ท่านไม่เข้าใจว่า ระบบดีมันทอนกำลังคนชั่ว และระบบชั่วมันทอนกำลังคนดี คนดีอย่างท่านก็ด้วย
แท้จริง รัฐมนตรีอังกฤษกับรัฐมนตรีไทยก็เหมือนกันร้อยเปอร์เซ็นต์ตรงที่ต่างก็เป็นคน มีโลภโมโทสันกระสันกามไม่แผกผิดกัน แต่มันผิดกันอยู่ที่ระบบ เพราะผู้นำลดความเป็นมนุษย์ลงมาทำลายศีลธรรมและกฎหมาย เขาถือว่าแย่กว่าคนธรรมดา เขาจึงมีกลไกตอนคัดเลือกเพื่อป้องกันไว้ก่อน และมีกลไกแก้ไขเมื่อกระทำผิด ไม่ปล่อยให้ลากยาวแก้ตัวไปหน้าด้านๆ เหมือนของเรา
ของเราถือว่ามีอำนาจเสียอย่าง ไม่แยแสจนกว่าจะเสียท่าถูกลากคอเข้าคุกไม่เฉพาะนักการเมืองเท่านั้น ข้าราชการทหาร ตำรวจใหญ่ๆ ก็ยิ่งนัก ดู ก.ตร.เป็นตัวอย่าง เพราะกลไกทางสังคมและการเมืองที่จะควบคุมคนชั่วเหล่านั้นยังไม่มี หรือมีก็ยังไม่เข้มแข็งพอ
ตรงนี้อย่างไรเล่าที่ในหลวงทรงเป็นห่วง ทรงเฝ้าเตือนว่า เราจะทำให้ทุกคนเป็นคนดีไม่ได้ แต่เราต้องช่วยกันระวังอย่าให้คนชั่วมีอำนาจ มีอะไรที่จะต้องอธิบายอีก ทำอย่างไรเราจะ (กล้า) เอาตำราจากอังกฤษมาใช้บ้าง
ตำราจากอังกฤษนั้นมีทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ แต่พวกนักการเมืองหัวหมอและนักวิชาการรับใช้กลับพากันหลอกสังคมไทยอีกว่าทฤษฎีคือตัวหนังสือที่เอามาปฏิบัติมิได้ ที่แท้ทฤษฎี คือ สิ่งที่นำมาปฏิบัติและพิสูจน์ได้แล้วว่าเป็นความจริง
อังกฤษมีคำเปรียบเปรยนักการเมืองที่มัวหมองจริยธรรมกระทำเสื่อมว่า sleaze สังคมไทยประณาม sleaze ของเราที่ต่ำช้า มูมมาม สกปรก หมกเม็ด ว่า “ซกมก” หรือ “นายขยะแขยง” จะดีไหม
ในสภาและครม.ตั้งแต่ยุคทักษิณมา ซกมกเต็มไปหมด
1. เปรียบเทียบรัฐมนตรีเรื่องศีลธรรมและจริยธรรมกรณีทางเพศ และครอบครัว ตัวอย่างของอังกฤษ กรณี 1. Profumo Affair (1963) เมื่อ John Profumo รมว.กลาโหมวัย 48 ต้องลาออกเพราะถูกจับได้ว่าเลี้ยงนางโลม Christine Keeler ซึ่งเป็นคู่ขาของสปายโซเวียตอีกด้วย 2. Earl Jellicoe และ Lord Lambton (1973) : รมช.กลาโหมต้องลาออกและต้องคดีหลับนอนกับโสเภณี 3. Ron Davies ต้องลาออกเพราะเรื่องแดงว่าไปถูกปลดทรัพย์โดยกระเทยหนุ่มคู่ขาชั่วคืนในดงที่เรียกว่า Clapham Common (1998) 4. กรณี The Iris Robinson scandal ซึ่ง Peter Robinson ในฐานะ First Minister of Northern Ireland ต้องออกชั่วคราวเพราะภริยาแอบสวมเขาและกู้เงินให้ชายชู้ลงทุน โดยท่านรัฐมนตรีรู้แต่ปกปิดไม่รายงานเงินกู้ของภริยา สดๆ ร้อนๆ (2010)
ตัวอย่างไทย ก็มีไม่น้อยกว่าเขา ซ้ำอื้อฉาวโจ่งแจ้งกว่า เช่น 1. เรื่องจอมพลผ้าขะม้าแดงสฤษดิ์ ธนะรัชต์ 2. เรื่องสมชายม่านรูด 3. เรื่องสุเทพ เทือกสุบรรณ (กับภริยาปัจจุบันก่อนหย่าจากพรเทพ เตชะไพบูลย์) 4. เรื่องน.ส.นริศรา ชวาลตันพิทักษ์ รมช.ศึกษาฯ ปัจจุบัน ซึ่งลือว่าเป็นภริยานอกสมรสของนายสุชาติ ตันเจริญ ฯลฯ
ข้อสังเกต 1. นายกฯ ศิษย์อังกฤษของเราเป็นตัวอย่างที่ดีพิเศษเรื่องครอบครัว ยกเว้นม.ร.ว.คึกฤทธิ์หย่าร้างและเป็นโสดเหมือนพลเอกเปรม นายกฯ ศิษย์เก่า จปร.แย่หน่อย มากชู้หลายเมียอื้อฉาว ยกเว้นจอมพลถนอมกับพลเอกเกรียงศักดิ์ นายกฯ ศิษย์เก่าธรรมศาสตร์ สมชาย sleaze ที่สุด ชวนถูกครหาบ้าง แต่สมัครดีไม่ด่างพร้อย ฯลฯ
2. ของอังกฤษพออื้อฉาวเขาลาออกเรียบไม่รอช้า บ้างก็ต้องลหุโทษฐานให้การเท็จ แต่ของเราหน้าด้านทั้งคนทั้งระบบ มองอย่างเชื่อมโยง ถ้าไม่หน้าด้านบ้านเมืองจะไม่เดือดร้อนเหมือนทุกวันนี้ (ถึงแม้จะทำอัปรีย์เรื่องอื่นๆ ด้วย)
ผมมีรายละเอียดสองประเทศอย่างมหาศาล ให้ซ้อเจ็ดเอาไปเขียนดีมั้ยครับ (อ่านต่อฉบับหน้า)
คิด คิด ประหลาดใจ สิขรหรือ จะสอยดาว
คิดจริง ก็อย่าเลย สิขรเอ๋ย จะยืนหาว
ดารา นิภาพราว ละลิบลอย ฤ สอยถึง”
ผมจำได้จับใจตั้งแต่ครั้งยังเป็นเด็ก ไม่แน่ใจว่าผู้ใดรจนา เสวตร เปี่ยมพงศ์สานต์ บุตรเขยผู้เป็นรัฐมนตรีที่ชาวระยองควรภูมิใจ หรือกาญจนาคพันธุ์ ผู้พ่อตา
สมัยนั้นคำว่า “ไปถึงดวงดาว” ที่แปลว่าขึ้นสู่อำนาจสูงสุดยังไม่เกิดในปทานุกรมการเมืองไทย
สมัยนี้ มีมนุษย์เดินดินที่ขึ้นไปถึงดวงดาว และพ่นพิษลงมาทำลายต้นน้ำลำธารขุนเขาป่าไม้ของบ้านเมืองเราจนแทบจะไม่เหลือหลอ
ท่านผู้อ่านที่เคารพ ทำไมผมไม่ยุติการเขียน แม้คนใกล้ชิดก็ยังบอกว่าเขียนให้เมื่อยทำไม ยิ่งเรื่องฝรั่งมังค่าไม่มีประโยชน์หรอก เพราะนี่มันไทยแลนด์นะ(จ๊ะ)โว้ย
ผมคิดเงียบๆ อยู่ในใจว่า ยังงั้นเลิกอ้างว่าการเมืองของมึงเหมือนอังกฤษ หรือรัฐมนตรีของมึงเหมือนรัฐมนตรีอังกฤษซะทีซิโว้ย
ผมขอขอบคุณนายกฯ อภิสิทธิ์สำหรับโครงการไทยเข้มแข็ง ผมขอขอบคุณรัฐมนตรีวิทยา แก้วภราดัย ที่ลาออกเป็นตัวอย่าง ผมขอขอบคุณกระสือกระทรวงสาธารณสุข พวกท่านเปิดโอกาสให้ผมมีเรื่องเขียน
เราจะได้เชิดชูความดี และถือความชั่วเป็นบทเรียน
ผมเชื่อว่าคนไทยคงไม่คิดว่าแท้ที่จริงนายกรัฐมนตรีก็คือรัฐมนตรีคนหนึ่ง และคงลืมอีกเหมือนกันว่า นายกรัฐมนตรีไทยตั้ง 8 คนเป็นนักเรียนเก่าอังกฤษ จากสถาบันที่เลิศลอยทั้งสิ้น
เรียงจากนายกฯ คนแรก พระยามโนฯ (เนติบัณฑิต) นายทวี บุณยเกตุ (Kings College) ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช (เคมบริดจ์และเนติบัณฑิต) อาจารย์สัญญา ธรรมศักดิ์(เนติบัณฑิต) ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช (ออกซฟอร์ด) นายธานินทร์ กรัยวิเชียร (ลอนดอนสกูลฯ และเนติบัณฑิต) นายอานันท์ ปันยารชุน (เคมบริดจ์) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (ออกซฟอร์ด)
ผมรับรองว่าท่านเหล่านี้ กินเล็กกินน้อยแม้แต่นิดเดียวก็ไม่มี ล้วนแต่ซื่อสัตย์สุจริต เป็นคนดี-คนเก่ง ควรกราบไหว้บูชาทั้งสิ้น
แต่เหตุไฉน บ้านเมืองของเราจึงติดอันดับคอร์รัปชันสูงสูดของโลก ท่านเหล่านี้แต่ละคนหรือรวมกันทิ้งหรือสร้างมรดกอะไรไว้ให้การเมืองไทยบ้าง ทำไมโอกาสที่จะเกิดนองเลือดอีกหรือเกิดสงครามการเมืองจึงสูงขึ้นทุกวัน จนกระทั่งเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2552 ในหลวงทรงระบายความห่วงว่า “บ้านเมืองกำลังจะล่มจม ไม่รู้จะไปทางไหน ไปอย่างไร”
ถึงปานนี้แล้ว หากพวกเราไม่ช่วยกันคิดหาทางออก เมื่อไรจะคิด
คนต่างกับสัตว์เพราะคนรู้จักคิด เจ้าข้าเอ้ย
ขณะนี้ ธาตุทั้งสี่คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ กำลังพิโรธโกรดเกรี้ยวประเทศไทยอย่างไม่เคยมาก่อน แต่การเมืองเป็นพิษที่มีอานุภาพทำลายสูงกว่า
ท่านที่ศึกษาอย่างดีมาจากอังกฤษ เปรียบเสมือนเมล็ดพืชพันธุ์ดี แต่ก็ไม่สามารถงอกงามขยายพันธุ์ในผืนแผ่นดินการเมืองที่เป็นพิษของประเทศไทยได้
เพราะอะไร เพราะท่านติดอนุรักษนิยมหรือความเป็นนักรักษาของเก่าแบบอังกฤษ ท่านมาจากระบบไหนท่านก็รักษาระบบนั้น ไม่คิดเปลี่ยนแปลง ท่านคิดว่าระบบจะเป็นอย่างไรก็ได้ ถ้าคน (มัน) ดีซะอย่าง ท่านไม่เข้าใจว่า ระบบดีมันทอนกำลังคนชั่ว และระบบชั่วมันทอนกำลังคนดี คนดีอย่างท่านก็ด้วย
แท้จริง รัฐมนตรีอังกฤษกับรัฐมนตรีไทยก็เหมือนกันร้อยเปอร์เซ็นต์ตรงที่ต่างก็เป็นคน มีโลภโมโทสันกระสันกามไม่แผกผิดกัน แต่มันผิดกันอยู่ที่ระบบ เพราะผู้นำลดความเป็นมนุษย์ลงมาทำลายศีลธรรมและกฎหมาย เขาถือว่าแย่กว่าคนธรรมดา เขาจึงมีกลไกตอนคัดเลือกเพื่อป้องกันไว้ก่อน และมีกลไกแก้ไขเมื่อกระทำผิด ไม่ปล่อยให้ลากยาวแก้ตัวไปหน้าด้านๆ เหมือนของเรา
ของเราถือว่ามีอำนาจเสียอย่าง ไม่แยแสจนกว่าจะเสียท่าถูกลากคอเข้าคุกไม่เฉพาะนักการเมืองเท่านั้น ข้าราชการทหาร ตำรวจใหญ่ๆ ก็ยิ่งนัก ดู ก.ตร.เป็นตัวอย่าง เพราะกลไกทางสังคมและการเมืองที่จะควบคุมคนชั่วเหล่านั้นยังไม่มี หรือมีก็ยังไม่เข้มแข็งพอ
ตรงนี้อย่างไรเล่าที่ในหลวงทรงเป็นห่วง ทรงเฝ้าเตือนว่า เราจะทำให้ทุกคนเป็นคนดีไม่ได้ แต่เราต้องช่วยกันระวังอย่าให้คนชั่วมีอำนาจ มีอะไรที่จะต้องอธิบายอีก ทำอย่างไรเราจะ (กล้า) เอาตำราจากอังกฤษมาใช้บ้าง
ตำราจากอังกฤษนั้นมีทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ แต่พวกนักการเมืองหัวหมอและนักวิชาการรับใช้กลับพากันหลอกสังคมไทยอีกว่าทฤษฎีคือตัวหนังสือที่เอามาปฏิบัติมิได้ ที่แท้ทฤษฎี คือ สิ่งที่นำมาปฏิบัติและพิสูจน์ได้แล้วว่าเป็นความจริง
อังกฤษมีคำเปรียบเปรยนักการเมืองที่มัวหมองจริยธรรมกระทำเสื่อมว่า sleaze สังคมไทยประณาม sleaze ของเราที่ต่ำช้า มูมมาม สกปรก หมกเม็ด ว่า “ซกมก” หรือ “นายขยะแขยง” จะดีไหม
ในสภาและครม.ตั้งแต่ยุคทักษิณมา ซกมกเต็มไปหมด
1. เปรียบเทียบรัฐมนตรีเรื่องศีลธรรมและจริยธรรมกรณีทางเพศ และครอบครัว ตัวอย่างของอังกฤษ กรณี 1. Profumo Affair (1963) เมื่อ John Profumo รมว.กลาโหมวัย 48 ต้องลาออกเพราะถูกจับได้ว่าเลี้ยงนางโลม Christine Keeler ซึ่งเป็นคู่ขาของสปายโซเวียตอีกด้วย 2. Earl Jellicoe และ Lord Lambton (1973) : รมช.กลาโหมต้องลาออกและต้องคดีหลับนอนกับโสเภณี 3. Ron Davies ต้องลาออกเพราะเรื่องแดงว่าไปถูกปลดทรัพย์โดยกระเทยหนุ่มคู่ขาชั่วคืนในดงที่เรียกว่า Clapham Common (1998) 4. กรณี The Iris Robinson scandal ซึ่ง Peter Robinson ในฐานะ First Minister of Northern Ireland ต้องออกชั่วคราวเพราะภริยาแอบสวมเขาและกู้เงินให้ชายชู้ลงทุน โดยท่านรัฐมนตรีรู้แต่ปกปิดไม่รายงานเงินกู้ของภริยา สดๆ ร้อนๆ (2010)
ตัวอย่างไทย ก็มีไม่น้อยกว่าเขา ซ้ำอื้อฉาวโจ่งแจ้งกว่า เช่น 1. เรื่องจอมพลผ้าขะม้าแดงสฤษดิ์ ธนะรัชต์ 2. เรื่องสมชายม่านรูด 3. เรื่องสุเทพ เทือกสุบรรณ (กับภริยาปัจจุบันก่อนหย่าจากพรเทพ เตชะไพบูลย์) 4. เรื่องน.ส.นริศรา ชวาลตันพิทักษ์ รมช.ศึกษาฯ ปัจจุบัน ซึ่งลือว่าเป็นภริยานอกสมรสของนายสุชาติ ตันเจริญ ฯลฯ
ข้อสังเกต 1. นายกฯ ศิษย์อังกฤษของเราเป็นตัวอย่างที่ดีพิเศษเรื่องครอบครัว ยกเว้นม.ร.ว.คึกฤทธิ์หย่าร้างและเป็นโสดเหมือนพลเอกเปรม นายกฯ ศิษย์เก่า จปร.แย่หน่อย มากชู้หลายเมียอื้อฉาว ยกเว้นจอมพลถนอมกับพลเอกเกรียงศักดิ์ นายกฯ ศิษย์เก่าธรรมศาสตร์ สมชาย sleaze ที่สุด ชวนถูกครหาบ้าง แต่สมัครดีไม่ด่างพร้อย ฯลฯ
2. ของอังกฤษพออื้อฉาวเขาลาออกเรียบไม่รอช้า บ้างก็ต้องลหุโทษฐานให้การเท็จ แต่ของเราหน้าด้านทั้งคนทั้งระบบ มองอย่างเชื่อมโยง ถ้าไม่หน้าด้านบ้านเมืองจะไม่เดือดร้อนเหมือนทุกวันนี้ (ถึงแม้จะทำอัปรีย์เรื่องอื่นๆ ด้วย)
ผมมีรายละเอียดสองประเทศอย่างมหาศาล ให้ซ้อเจ็ดเอาไปเขียนดีมั้ยครับ (อ่านต่อฉบับหน้า)