xs
xsm
sm
md
lg

นช.ทักษิณ คน 8 มาตรฐาน

เผยแพร่:   โดย: สุทธิพงษ์ ปรัชญพฤทธิ์

ปี 2000 เป็นช่วงที่ตลาดหุ้นแนสแดกซ์ของประเทศสหรัฐอเมริกาพังทลายรุนแรง ส่งผลให้ค่าเงินเหรียญสหรัฐเสียหาย ไม่ได้รับความเชื่อมั่น เงินไหลออกจากสกุลเงินดอลลาร์ ไปถือสกุลเงินอื่นและสินทรัพย์สกุลเงินอื่นแทน เงินเหรียญสหรัฐเป็นสกุลเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก เมื่อมันไหลออก มันจึงส่งผลให้ค่าเงิน ตลาดหุ้น และทุนสำรองของประเทศต่างๆ สูงขึ้นทั่วหน้า เพราะค่าเงินเหรียญเสียหาย ต้องใช้เงินดอลลาร์มากขึ้นในการซื้อสินค้าและบริการในปริมาณเท่าเดิม จึงเห็นว่าราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทั้งหลายสูงขึ้น

เรื่องทั้งหมดอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลโดย World Fund ซึ่งแน่นอน มีการสวมรอยปั่นให้ขึ้นสูงสุด และตกต่ำสุด ไม่ว่าราคาต่างๆ จะขึ้นสูงสุด-และตกต่ำสุด ก็ล้วนเป็นประโยชน์ต่อ World Fund ทั้งสิ้น

เศรษฐกิจโดยรวมของโลกจึงดีขึ้นเป็นเวลา 7 ปี คือระหว่างปี 2001-2007 แล้วก็พังทลายลงในปี 2008

ประเทศไทย ก่อนหน้านั้นก็ย่ำแย่จากการพังทลายของ SET Index ในปี 2537 ต้องลอยค่าเงินบาทและเข้าโครงการไอเอ็มเอฟในปี 2540 ทั้งสถาบันการเงินและภาคการผลิตจริงล้มลงทั่วประเทศ

ผู้คนหวังกับการมาใหม่ของรัฐบาลทักษิณ หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน แห่งวัดป่าบ้านตาด อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี พลตรีจำลอง ศรีเมือง และกลุ่มญาติธรรมแห่งชุมชนอโศก ศ.นพ.เสม พริ้งพวงแก้ว ราษฎรอาวุโส ต่างก็หวังกับการมาของรัฐบาลทักษิณ หมอเสม ถึงกับตั้งฉายาให้เป็นกำลังใจว่า “อัศวินควายดำ” ผู้คนทั้ง 3 กลุ่มนี้ ต่างล่ารายชื่อมาสนับสนุนให้ทักษิณหลุดพ้นคดีซุกหุ้น ทักษิณได้รับชัยชนะในคดีซุกหุ้น แต่คงไม่เป็นเพราะรายชื่อที่สนับสนุน เป็นความสามารถเฉพาะตัวของทักษิณมากกว่า

ภายหลังคนทั้ง 3 กลุ่ม ผิดหวังกับการบริหารประเทศของทักษิณ ทักษิณไม่ได้ทำอะไรเพื่อประเทศชาติ การบริหารประเทศเป็นเพียงงานอดิเรก งานหลักคือการใช้อำนาจหน้าที่หาแต่ประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้อง ผู้คนทั้ง 3 กลุ่มเปลี่ยนมาวิจารณ์ทักษิณแทน แม้อุบาสกอุบาสิกาแห่งวัดป่าบ้านตาด และชุมชนอโศกจะไม่เอาด้วย ทักษิณก็ไม่ยี่หระ เอาวัดธรรมกายมาแทน และใช้รายการนายกฯ พบประชาชนทุกเช้าวันเสาร์ ปลุกระดม สร้างมวลชนของตนเองได้

คน 3 กลุ่มแรกหวังและเชื่อทักษิณอย่างมีสติ แต่คนกลุ่มหลังหลงใหลเพียงวาจาทักษิณ

รัฐบาลทักษิณ บริหารประเทศระหว่างปี 2544-2549 (2001-2006) ซึ่งเป็นช่วงที่เศรษฐกิจของโลก รวมทั้งของไทยได้รับผลดีจากการพังทลายของค่าเงินเหรียญสหรัฐ เศรษฐกิจไทยดีขึ้น ไม่ได้เกิดจากฝีมือทักษิณ แต่ทักษิณเพียงสวมรอยว่าเป็นฝีมือตน

ค่าเงินบาทแข็งขึ้น ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศสูงขึ้น ตลาดหุ้นสูงขึ้น ทักษิณสวมรอยบอกว่าเพราะความเชื่อมั่นในรัฐบาลของตน

ราคาสินค้าเกษตร ไม่ว่า ข้าว ข้าวโพด น้ำตาล มันสำปะหลัง ยางพารา ฯลฯ ต่างสูงขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ข่าวตีพิมพ์ยกย่องทักษิณให้เป็นผู้นำอาเซียน เนื่องจากทำให้ราคายางทั่วโลกสูงขึ้น ก็ไม่เห็นทำอะไร ราคายางสูงขึ้นตามกลไกตลาด คนทั่วไปอาจจะงวยงง แต่ผู้เขียนไม่งวยงง เพราะทราบว่าอะไรเป็นอะไร

ทักษิณได้ประโยชน์จากเงินทุนไหลเข้า แทนที่จะทยอยใช้หนี้ไอเอ็มเอฟให้หมดตามกำหนดเวลา เพราะจะได้ผลดีจากเงินบาทแข็งค่า จะทำให้ใช้เงินบาทในการชำระหนี้น้อยลง แต่ทักษิณเลือกที่จะใช้หนี้ไอเอ็มเอฟให้หมดก่อนกำหนดเป็นเวลา 2 ปี เพื่อนำมาเป็นข่าวดีประกอบการหาประโยชน์ส่วนตน

มีปัจจัยซ่อนเร้น คือเอามาเป็นข่าวดี ลากตลาดหุ้นไปขายทำกำไร หนี้ไอเอ็มเอฟถูกกำหนดให้ล้างหมดในกลางปี 2546 แล้วตลาดหุ้นถูกลากขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรง โดยเฉพาะหุ้นตัวใหญ่ที่มีอยู่แล้วในตลาด และหุ้นรัฐวิสาหกิจที่เพิ่งเข้าตลาด ยกตัวอย่างเช่น PTT ราคาจอง 35 บาท ลากไปขายต้นปี 2547 ที่ราคา 190 บาท ราคาเพิ่มขึ้นมากกว่า 5 เท่า

เชื่อว่าปี 2546 - ต้นปี 2547 ทักษิณและพวกพ้องได้ประโยชน์จากตลาดหุ้นมาก นอมินีต่างชาติ คือช่องทางให้คนไทยขนเงินผ่านตลาดหุ้นออกนอกประเทศได้ง่าย เสียงร่ำลือว่าทักษิณมีเงินกว่า 4 แสนล้าน จึงไม่ไกลไปจากข้อเท็จจริง เงินส่วนหนึ่งอยู่ในประเทศ ส่วนใหญ่อยู่ต่างประเทศ และเป็นไปได้ว่าทักษิณขาดทุนในตลาดล่วงหน้าที่ต่างประเทศในปี 2551 (2008) ไม่น้อยเช่นกัน

ตลาดหุ้นยุคทักษิณช่วง 3 ปีแรก ขึ้นเร็วและแรงมากกว่าประเทศใดๆ ในโลก แต่หลัง 3 ปีแรก ตลาดหุ้นทักษิณไม่เคยมีจุดสูงสุดใหม่อีกเลย ผิดกับประเทศส่วนใหญ่ทั่วโลก ที่มีจุดสูงสุดใหม่ตลอดเวลา ทักษิณได้ประโยชน์ส่วนตนจากเหตุการณ์การใช้หนี้ไอเอ็มเอฟล้นปรี่

ทักษิณไม่ได้รับผิดชอบต่อสังคมและประเทศชาติ หากสิ่งใดเป็นประโยชน์ต่อตัวเอง เขาจะไม่สนใจเรื่องอื่นใดทั้งสิ้น ทักษิณถูกต่อต้านการแปรรูปรัฐวิสาหกิจจากพนักงานรัฐวิสาหกิจ ทักษิณขึ้นเงินเดือนให้ 50 เปอร์เซ็นต์ และให้พนักงานกู้เงินมาจองซื้อหุ้นได้ ปตท.ที่มีธุรกิจด้านพลังงานเข้าตลาดหุ้นแล้ว กลับมาขูดรีดประชาชนทั่วประเทศ ผ่านค่าการกลั่นและราคาขายหน้าปั๊ม ส่งผลให้ค่าขนส่ง ค่าเดินทาง ค่าไฟฟ้า ค่าความเป็นอยู่สูงขึ้น เงินเฟ้อเป็นเรื่องที่ต้องระวัง เมื่อมันสูงขึ้นแล้ว ยากที่จะทำให้มันลดลงได้ ยกตัวอย่างเช่น ค่ารถเมล์เพิ่มขึ้นจาก 3.50 มาเป็น 7-8 บาท เป็นต้น เอา อสมท เข้าตลาดหุ้น อสมท ขึ้นราคาค่าโฆษณา ทำให้ราคาสินค้าสูงขึ้นไปอีก ชาวบ้านยุคทักษิณ ไม่ได้มีความสุขแต่อย่างใด เดือดร้อนด้วยค่าปัจจัยสี่ที่สูงขึ้น ความสุขของชาวบ้านเป็นเพียงวาจาโฆษณาชวนเชื่อของทักษิณเท่านั้น

ทักษิณใช้วาจาได้คล่องแคล่ว และชอบการใช้วาจามาก หวย จะบนดินหรือใต้ดิน ไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง จะเห็นว่ามีการนำหวยบนดินมาเสนอทางบวกได้ เช่น จะทำให้ไม่มีหวยใต้ดิน หรือช่วยนำเด็กฉลาดด้อยโอกาสไปศึกษาต่างประเทศ จะอ้างอย่างไรก็เบี่ยงเบน เนื่องจากเป็นอบายมุข

ที่นำเสนอมาข้างต้น คือมาตรฐานของทักษิณ นับได้ถึง 8 มาตรฐาน คือ มิจฉาทิฏฐิ มิจฉาสังกัปปะ มิจฉาวาจา มิจฉากัมมันตะ มิจฉาอาชีวะ มิจฉาวายามะ มิจฉาสติ และมิจฉาสมาธิ
กำลังโหลดความคิดเห็น