ASTV ผู้จัดการรายวัน- "มาร์ค"อ้างพบ"ป๋าเปรม"เพื่ออวยพรปีใหม่ ไม่เกี่ยวการเมือง เผยป๋าให้ยึดมั่นซื่อสัตย์ สุจริต "เทือก"ยันป๋าไม่เกี่ยวที่ดินสนามกอล์ฟเขาสอยดาว ไม่สนปฏิทินเคลื่อนไหวเสื้อแดง ลั่นทำผิดจับทันที ด้าน"ลิ่วล้อแม้ว" เรียงหน้าถล่มป๋ายุ่งการเมือง "ไอ้กี้ร์" ปั้นเรื่องถูกตามอุ้ม "ไอ้ตู่" ขู่จัดชุดติดตาม"มาร์ค-เทือก" เผยแม้วสั่งชุมนุมใหญ่หลังตรุษจีน คุยจัดกองกำลัง 3 หมื่น พร้อมรบทั้ง"ทหารพราน-ตำรวจ-อดีตคอมมิวนิตส์" กระจายตัวกรุงเทพ-ปริมณฑลแล้ว พร้อมสบทบภายใน 1 ชั่วโมง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเดินทางเข้าพบพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ เมื่อช่วงเย็นวันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมาว่า เป็นเพียงการเข้าเยี่ยมอวยพรปีใหม่ ที่หนังสือพิมพ์เขียนเยอะแยะว่าไปคุยเรื่องนั้น เรื่องนี้ ก็เพิ่งทราบ เพราะไม่ได้คุย เรื่องยุบสภาก็ไม่มี ท่านสอบถามเกี่ยวกับเรื่องภาพรวมบ้านเมืองเท่านั้น บอกให้ยึดมั่นความซื่อสัตย์สุจริต และไม่ได้แสดงความกังวลอะไรเป็นพิเศษเลย
เมื่อถามว่า เรื่องที่ป๋าเปรมจะไปช่วยคุยกับนายบรรหาร ศิลปอาชา แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ประเด็นเรื่องรัฐธรรมนูญ ไม่มีการพูดถึงเลยแม้แต่เรื่องเดียว
เมื่อถามว่า ตรงนี้จะต้องชี้แจงให้นายบรรหาร ทราบหรือไม่ เพราะอาจจะไม่พอใจ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่าหนังสือพิมพ์คงต้องไปชี้แจง เพราะตนไม่ได้พูด เมื่อถามถึงกรณีเขาสอยดาว และเขายายเที่ยง นายอภิสิทธิ์ ย้อนถามกลับว่า ทำไมหรือครับ
**ยัน"ป๋า"ไม่เกี่ยวเรื่องเขาสอยดาว
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง กล่าวถึงเรื่องนี้ว่าไม่คิดว่านายกฯ จะมีเรื่องร้อนใจอะไร คงแค่ไปรายงานสถานการณ์บ้านเมืองให้พล.อ.เปรม ทราบในฐานะที่ท่านเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมือง แต่ไม่น่าจะเกี่ยวกับกรณีเรื่องเขาสอยดาว
" เรื่องที่ป๋าจะมีที่ดินอยู่ที่เขาสอยดาวนั้น ไม่เป็นความจริง ไม่มี ผมบังเอิญรู้เรื่องพื้นที่เขาสอยดาว ตอนเป็นฝ่ายค้าน ซึ่งตอนนั้นมีคนฝ่ายรัฐบาลพยายามที่จะไปเล่นงานบริษัทเอกชน ที่เขาไปซื้อที่ดินมาทำสนามกอล์ฟ และบังเอิญผมทราบข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร และก็เคยมีการอภิปรายในสภา ยืนยันไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับพล.อ.เปรม แน่นอน" นายสุเทพกล่าว
เมื่อถามว่าได้สรุปสถานการณ์เสื้อแดงให้นายกฯรับทราบก่อนที่จะไปพบป๋าเปรม หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ได้สรุปเป็นกิจจะลักษณะ แต่ตอนประชุมครม.ได้รายงานด้วยวาจาว่าการชุมนุมของคนเสื้อแดงนั้น ทางฝ่ายความมั่นคงพยายามดูแลอย่างดีที่สุด และจะป้องกันไม่ให้เกิดเหตุร้ายแรง ลุกลาม เจ้าหน้าที่จะใช้ความอดทน อดกลั้นอย่างถึงที่สุด
ผู้สื่อข่าวถามว่ารัฐบาลจะดูแลไม่ให้มีปัญหากระทบกระเทือนไปถึงสถาบันองคมนตรีอย่างไร จากกรณี เขายายเที่ยง มาถึงกรณี เขาสอยดาว นายสุเทพ กล่าวว่าไม่มีเรื่องอะไรที่จะเป็นเรื่องของสถาบันฯ ทั้งหมดที่กลุ่มเสื้อแดงพยายามทำและให้เกิดความเสียหายต่อสถาบันฯ แต่จริงๆ แล้วเขาพุ่งเป้าไปที่ตัวบุคคล โดยเฉพาะองคมนตรี 3 ท่าน โดยมีประธานองคมนตรี เป็นเป้าใหญ่ แต่ตนคิดว่าบรรดาองคมนตรีทั้งหลาย ก็มีคุณงามความดี ทำงานให้กับประเทศชาติ ประชาชนมาก่อน มีประวัติที่ดีงาม จะมาโจมตีกันไม่กี่วันแล้วจะทำให้เปลี่ยนแปลงไปคงไม่ได้ และคนส่วนใหญ่ก็ทราบเรื่องดี ดังนั้นจึงไม่คิดว่าจะมีปัญหาอะไร
ส่วนกรณีที่เขาสอยดาว จะต้องให้กรมป่าไม้ไปตรวจสอบเพื่อให้เกิดความชัดเจนหรือไม่นั้น รองนายกฯ กล่าวว่าหากที่ดินที่มีปัญหากับกรมป่าไม้ ไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็เป็นหน้าที่ของกรมป่าไม้ที่ต้องดำเนินการตามกฎเกณฑ์ กติกา ซึ่งก็มีอยู่ทุกจังหวัดก็ต้องสะสางกันไป เมื่อถามว่า เรื่องนี้กำลังจะกลายเป็นประเด็นทางการเมือง จะทำให้เกิดความชัดเจนได้อย่างไร รองนายกฯ กล่าวว่า ก็เป็นหน้าที่ของกรมป่าไม้ ที่จะไปดำเนินการ และเชื่อว่าเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้จะทำให้ดีที่สุด
นายสุเทพยังกล่าวปฏิเสธ เรื่องที่ว่าเจ้าของที่ดินบนเขาสอยดาว เป็นนายทุนใหญ่ของพรรคประชาธิปัตย์ เป็นเพียงการปั้นเรื่องกล่าวหากันเท่านั้น
ส่วนที่กลุ่มเสื้อแดงที่กำหนดปฏิทินการเคลื่อนไหวไปในที่ต่างๆนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่ห่วง หน้าที่ของตนคือเตรียมการดูแลรักษาความสงบ เขาจะไปทำอะไรที่ไหน ห้ามกันไม่ได้ แต่ถ้าทำผิดกฎหมายก็ต้องดำเนินคดีกัน
**ท้า"แม้ว"ไม่ต้องรอสัญญาณพิเศษ
ส่วนที่เป็นห่วงถึงขบวนการล้มเจ้า ที่อาจแฝงตัวมากับการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงนั้น ก็จะต้องมีการติดตาม เราคนไทยมีหน้าที่ถวายความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ คนไทยทั้งประเทศซาบซึ้งอยู่แก่ใจดีว่า สถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชน และของชาติ จะให้ใครมาแตะต้อง ทำร้ายไม่ได้ ใครที่มีพฤติกรรมอย่างนี้ ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย
" ท่าทีที่กลุ่มเสื้อแดงเคลื่อนไหวนั้น ก็ชัดเจนว่าเขาต้องการเรียกร้องให้ ทักษิณ ไม่ต้องรับโทษ และต้องการให้ ทักษิณได้รับเงินคืน และสุดท้ายต้องการให้ทักษิณได้รับสถานภาพทางการเมืองคืนมา" นายสุเทพกล่าว
อย่างไรก็ตาม ทักษิณ สามารถกลับมาประเทศไทยได้ทุกเวลา เราพร้อมที่จะต้อนรับกลับ แต่ก็ต้องว่ากันไปตามกฎหมาย ส่วนที่พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี บอกว่ามีสัญญาณพิเศษว่า พ.ต.ท. ทักษิณ จะกลับมานั้น ตนคิดว่าไม่ต้องมีสัญญาณพิเศษอะไร พรุ่งนี้ วันนี้ ก็กลับได้ ตนจะไปรับถึงสนามบินเลย
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีข่าวว่าการเข้าพบพล.อ.เปรม ครั้งนี้ มีการพูดถึงเรื่องการยุบสภาด้วย จริงหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่น่าจะจริง น่าจะเป็นเพียงการหาโอกาสไปกราบผู้ใหญ่ในฐานะที่บริหารงานมาครบ 1 ปี คงไม่มีนัยยะอย่างอื่น
**"ป๋า"ไม่กังวลเรื่องเขาสอยดาว
พล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีป หัวหน้าสำนักงานประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ กล่าวถึงกรณีกลุ่มคนเสื้อแดงระบุว่าพล.อ.เปรม อยู่เบื้องหลัง สนามกอล์ฟสอยดาว ไฮแลนด์ จ.จันทบุรี และกล่าวหาว่าสนามกอลฟ์ดังกล่าว เป็นสนามกอลฟ์ ที่ได้มากจาการบุกรุกที่ป่าสงวนบนเขาสอยดาว ว่า พล.อ.เปรม ไม่ได้สั่งการอะไรในเรื่องนี้
อย่างไรก็ตาม ในเรื่องนี้พล.อ.เปรมไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรทั้งนั้น ดังนั้นหากกลุ่มเสื้อแดงจะมาชุมนุมที่เขาสอยดาว ท่านคงไม่ไปยุ่ง ส่วนพล.อ.เปรม จะใช้มาตรการทางกฎหมายดำเนินการกับกลุ่มเสื้อแดงหรือไม่นั้น ไม่ทราบ เพราะท่านไม่ได้สั่งอะไร คงต้องไปถามทำเนียบองคมนตรี
พล.ร.อ. กำธร พุ่มหิรัญ ผบ.ทร. กล่าวถึงกลุ่มเสื้อแดงจะเดินทางไปชุมนุมที่เขาสอยดาวว่า เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะดูแล คิดว่าคงไม่มีอะไร ขณะนี้ตำรวจยังไม่ได้ร้องขอกำลังจากกองทัพเรือ แม้ว่าพื้นที่ดังกล่าวจะอยู่ในความรับผิดชอบของกองทัพเรือ ทั้งนี้ ไม่ห่วงเรื่องการชุมนุม แต่จะเฝ้าติดตามสถานการณ์คิดว่า ที่ผ่านมาเป็นการชุมนุมโดยสันติวิธี ไม่มีสิ่งใดที่แสดงท่าทีว่าจะรุนแรง การดำเนินการก็อยู่ในกรอบของกฎหมาย หากมีความเรียบร้อยก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร และอยากให้ประชาชนใช้วิจารณญาณว่า ควรจะช่วยกันทำให้เกิดความสงบเรียบร้อยกันอย่างไร
**"แม้ว"ยังทำปากเก่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ (14 ม.ค.) พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรได้เขียนข้อความลงบนเว็บไซต์ทวิตเตอร์ดอทคอม ถึงกรณีนายอภิสิทธิ์ เข้าพบพล.อ.เปรม ที่บ้านสี่เสาเทเวศร์ โดยมีใจความว่า
"เข้าพบเพื่อเน้นให้สังคมรู้ว่า ประธานองคมนตรีเปล่ายุ่งการเมืองนะ การเมืองมายุ่งเองต่างหาก น่าจะทำเป็น reality show จะได้โปร่งใส"
ทั้งนี้ มีผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งชงเรื่องว่า ตอนนี้บ่อนเถื่อนกับยาบ้าแถว อ.ฝาง มีเยอะมาก พ.ต.ท.ทักษิณ ตอบกลับไปว่า " มี 3 เหตุผล 1. เศรษฐกิจตกต่ำคนไม่รู้หากินอะไร และไม่ถูกจับ 2. ตำรวจและฝ่ายปกครองต้องซื้อตำแหน่ง 3. พวกนี้คือผู้สนับสนุนพันธมิตรฯ รัฐบาลไม่แตะ"
นอกจากนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังได้ทวิตข้อความอีกว่า "วันนี้ได้ข่าวว่า อริสมันต์ ถูกตามประกบจากเจ้าหน้าที่การข่าว ดีที่ไหวตัวทันจึงเข้าไปจับตัวส่งตำรวจ เจ้าตัวบอกว่า เขาไม่ได้เห็นด้วยที่จะทำ แต่ถูกฝ่ายการเมืองสั่งให้ทำ ไม่รู้จะทำอย่างไร นี่ละครับตัวอย่างเบาๆ ของการไม่เคารพสิทธิเสรีภาพของประชาชนตามหลักประชาธิปไตย"
**"เด็จพี่"ทะลึ่งด่า"ป๋า"ยุ่งเกี่ยวการเมือง
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายอภิสิทธิ์ เข้าพบพล.อ.เปรม เพื่อหารือปัญหาทางการเมืองว่า รัฐธรรมนูญ มาตรา 14 ระบุไว้ชัดเจนถึงหน้าที่ขององคมนตรี และประธานองคมนตรีว่า ต้องไม่ฝักใฝ่พรรคการเมืองใดๆ หรือเข้ามายุ่งเกี่ยวทางการเมือง ดังนั้นการที่พล.อ.เปรม พบกับนายอภิสิทธิ์ นั้นเหมาะสมหรือไม่ ทั้งนี้ เมื่อครั้งที่นายอภิสิทธิ์ เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พล.อ.เปรม ก็ได้ออกมาชื่นชมว่า คนไทยโชคดีที่ได้นายกรัฐมนตรีชื่อนายอภิสิทธิ์ มาครั้งหนึ่งแล้ว ทำให้สังคมเกิดความสับสน ขณะที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทยมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย กลับถูกกล่าวหาว่าทรยศชาติ สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่า พล.อ.เปรม เป็นคู่ขัดแย้ง และอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ทางการเมือง
"ขอฝากคำถามไปยังประชาชนให้ช่วยกันพิจารณาด้วยว่า หัวหน้ารัฐบาลตัวจริงคือพล.อ.เปรมใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ ขาดภาวะความเป็นผู้นำโดยยอมอยู่ภายใต้ระบอบอำมาตย์ เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจและตำแหน่งใช่หรือไม่ และพล.อ.เปรม มีบทบาทอยู่เหนือรัฐบาล ประชาชน และพรรคประชาธิปัตย์ ใช่หรือไม่ ดังนั้นขอเรียกร้องพล.อ.เปรม ว่า มีหน้าที่อะไรที่จะตัดสินใจแทนรัฐบาลหรือประชาชนทั้งประเทศ หากพล.อ.เปรม ต้องการยุ่งเกี่ยวกับการเมืองก็ขอให้ลาออกจากประธานองคมนตรี อย่าเป็นอีแอบทางการเมืองให้บ้านเมืองเกิดความวุ่นวาย" นายพร้อมพงศ์กล่าว
**ไม่เคยพูดว่า"ป๋า"รุกป่าเขาสอยดาว
นายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ แกนนำกลุ่มเสื้อแดง กล่าวว่า การที่นายอภิสิทธิ์ เข้าพบพล.อ.เปรม เป็นการแสดงให้ประชาชนเห็นว่า พล.อ.เปรม เป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังการบริหารงานของรัฐบาลชุดนี้ ให้คำปรึกษาในการแก้ปัญหาทางการเมือง ทั้งๆที่ประธานองคมนตรี ไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการเมือง ซึ่งกลุ่มคนเสื้อแดงจะนำกรณีดังกล่าว เป็นอีกประเด็นหนึ่งนอกจากกรณีการครอบครองที่ดินบนเขายายเที่ยงของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ที่จะมีการยื่นจดหมายเปิดผนึก ที่ทำเนียบองคมนตรีในวันที่ 18 ม.ค.นี้ด้วย เพื่อทวงถามคำตอบจากองคมนตรีทุกคนเพื่อเป็นหลักยึดให้ประชาชนเข้าใจตรงกันถึงคุณสมบัติขององคมนตรี
นายณัฐวุฒิ ยังกล่าวปฏิเสธด้วยว่า ไม่เคยกล่าวหาว่า พล.อ.เปรม มีที่ดินบนเขาสอยดาวจำนวน 400 ไร่ เพียงแต่กล่าวว่า กลุ่มทุนจากธนาคารกรุงเทพ ที่บุกรุกพื้นที่เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว มีความใกล้ชิดกับพล.อ.เปรม เนื่องจากพล.อ.เปรม เป็นประธานเปิดสนามกอล์ฟบนเขาสอยดาว จึงได้ตั้งข้อสังเกตว่า อาจเป็นเพราะบารมีของ พล.อ.เปรม ที่ทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่กล้าตรวจสอบการครอบครองที่ดินบนเขาสอยดาวกับกลุ่มทุนดังกล่าว
ส่วนกรณีที่สำนักองคมนตรี จะยื่นฟ้องกลุ่มคนเสื้อแดงนั้นถือว่า เป็นสิทธิ์ตามกฎหมาย แต่อยากเตือนว่า อย่าลุกลี้ลุกลนที่จะดำเนินการอะไรโดยไม่เข้าใจประเด็น
**"ไอ้กี้ร์"ปั้นเรื่องถูกตามอุ้ม
นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำคนเสื้อแดงได้แถลงที่ห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียล ลาดพร้าว ถึงกรณีที่มีกลุ่มบุคคลนำโดย นายประมินทร์ รัตนประเสริฐ อ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ติดตามความเคลื่อนไหวตน เมื่อวันที่ 14 ม.ค.ว่า นายประมินทร์ ระบุว่าตัวเองเป็นเจ้าหน้าที่สำนักข่าวกรอง ทำเนียบรัฐบาล สารภาพว่ามีคำสั่งให้อุ้มแกนนำเพื่อทำสงครามจิตวิทยากับคนเสื้อแดง จนเกิดความวุ่นวายจะเป็นช่องทางให้รัฐบาลใช้กำลังจัดการกับแกนนำที่เหลือ โดยได้มีการเตรียมชุดที่จะจัดการกับแกนนำไว้ 4 ชุด โดยชุดของ นายประมินทร์ เป็นชุดที่ 2 ทำหน้าที่ชี้เป้า ให้อีกชุดหนึ่งดำเนินการต่อ ซึ่งเป็นการคุกคามสิทธิ์เสรีภาพของแกนนำคนเสื้อแดงอย่างรุนแรง
ดังนั้นนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ จะต้องรับผิดชอบ ซึ่งการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงนั้นไม่มีใครทำผิดกฎหมาย แต่เป็นการทำตามกรอบที่ถูกต้อง เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย ซึ่งไม่ได้มีการหวาดกลัวใดๆ ทั้งสิ้น
"ผมได้เขียนแถลงการณ์ว่า หากรัฐบาลใช้อำนาจมืดอย่างนี้ บ้านเมืองไม่มีความสงบสุข ดังนั้นจึงขอให้รัฐบาลยุติการใช้รัฐธรรมนูญปี 50 แล้วนำรัฐธรรมนูญปี 40 กลับมาใช้ และนิรโทษกรรมคดีทางการเมืองทุกอย่าง ตั้งแต่มีการรัฐประหาร โดยให้ใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรมและไม่สองมาตรฐาน แล้วให้มีการจัดการเลือกตั้งให้เร็วที่สุด จากนั้นให้ทุกคนทำสัตยาบรรณร่วมกันว่าจะต้องยอมรับผลการเลือกตั้ง" นายอริสมันต์ กล่าว
นายอริสมันต์ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้รัฐบาลกำลังทำสงครามจิตวิทยากับคนเสื้อแดง ดังนั้น คนเสื้อแดงอย่าหวั่นไหวไปกับเกมของรัฐบาล ไม่ต้องตกใจกับการที่แกนนำจะถูกทำร้าย ขอให้ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อม และรู้ไว้ว่า คนที่จะทำอะไรกับพวกเรา คือรัฐบาล โดยมีกลุ่มอำมาตย์อยู่เบื้องหลัง หากเกิดอะไรขึ้นกับแกนนำ ขอให้พี่น้องคนเสื้อแดงรวมตัวกันให้เหนียวแน่น เพื่อขับไล่รัฐบาล และขอให้รัฐบาลเลิกพฤติกรรมโจรเช่นนี้เสีย หากอยากเห็นสงครามครั้งนี้เกิดขึ้นเร็วกว่ากำหนด เราก็พร้อม ทุกที่ทุกเวลา
** ขู่จัดชุดตาม"มาร์ค-เทือก"ไปทุกแห่ง
ด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การดำเนินการของฝ่ายความมั่นคง มีลักษณะการดำเนินการของพวกมือปืนที่จะไปสังหาร ฝ่ายตรงข้าม ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นแก๊งเดียวกับที่ลอบสังหาร นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 17 เมษายน จนนายสนธิ ต้องไปอาศัยอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกาแบบไม่มีวันกลับ เป็นการกระทำแบบศาลเตี้ย ซึ่งกรณีของนายอริสมันต์ ที่มีใบเสร็จ คือ จับตัวได้และสารภาพอย่างเสร็จสรรพนั้นนายสุเทพ และนายอภิสิทธิ์ จะต้องรับผิดชอบ
"หากยังมีการติดตามคุกคามลักษณะนี้ คนเสื้อแดง ก็จะจัดชุดติดตามนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ ทุกที่รวมถึงที่บ้าน แบบไปไหนไปนั่น ตั้งแต่ออกจากบ้าน เพื่อลองดูว่าการใช้ชีวิตแบบนี้ นายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ จะอยู่ต่อไปอย่างไร"
**คิวต่อไป"รอยัลเชียงใหม่ กอล์ฟ"
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย แกนนำคนเสื้อแดง กล่าวว่า ตนมีหลักฐานที่แสดงว่า พล.อ.เปรม มีส่วนเกี่ยวข้องกับสนามกอล์ฟที่เขาสอยดาว โดยเดินทางไปเป็นประธานในพิธีเปิดสนามกอล์ฟแห่งนี้ด้วยตัวเอง นอกจากนี้ ตนยังมีหลักฐานว่าพล.อ.เปรม ไปเป็นประธานในพิธีเปิดสนามกอล์ฟ รอยัล เชียงใหม่ กอล์ฟ รีสอร์ท ที่บุกรุกพื้นที่ป่าสงวน ใน จ.เชียงใหม่ อีก โดยสนามกอล์ฟแห่งนี้จะเป็นเป้าหมายต่อไป ที่คนเสื้อแดงจะไปชุมนุมเพื่อเรียกร้องที่ดินคืนให้กับแผ่นดิน ต่อจากการการชุมนุมที่เขาสอยดาว จ.จันทบุรี
**"แม้ว"สั่งชุมนุมใหญ่หลังตรุษจีน
นายจตุพร ยังกล่าวถึงการชุมนุมใหญ่ของคนเสื้อแดง ในพื้นที่กรุงเทพฯว่า ตนได้พูดคุยกับพ.ต.ท.ทักษิณ โดยพ.ต.ท.ทักษิณ บอกว่าอย่าได้เอาเรื่องคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาท มาเกี่ยวข้องกับการชุมนุมของคนเสื้อแดงเพื่อหลีกเลี่ยงข้อกล่าวหาต่างๆ ดังนั้น แกนนำคนเสื้อแดงจึงกำหนดที่จะชุมนุมใหญ่ ก่อนที่ศาลจะมีการพิพากษา เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้มีใครมากล่าวหาว่า เราขาดความชอบธรรมในการชุมนุม โดยขณะนี้แกนนำได้กำหนดวันเป็นตุ๊กตาเอาไว้แล้ว เหลือเพียงแต่เคาะในขั้นสุดท้ายว่าจะประกาศนัดชุมนุมใหญ่เลยหรือไม่ คาดว่าจะอยู่ในห้วงเดือนกุมภาพันธ์ อาจจะเป็นหลังตรุษจีนไปแล้ว โดยจะพิจารณาจากการเสร็จภารกิจการชุมนุม ที่สนามกอล์ฟ เขาสอยดาว และการชุมนุมที่สนามกอล์ฟ รอยัล เชียงใหม่ กอล์ฟ รีสอร์ท จ.เชียงใหม่
"ครั้งนี้คนเสื้อแดงจะต่อสู้ให้ได้รับชัยชนะ ซึ่งจะเป็นครั้งที่เดิมพันทั้งชีวิต หากพ่ายแพ้ก็มีอยู่เพียง 2 หนทางคือ ถูกหามออกสนามรบ กับการถูกจับไปขังคุกเท่านั้น ถ้าหากเราไม่สามารถขับไล่รัฐบาลอภิสิทธิ์ ให้ออกไปได้ ก็จะไม่มีการชุมนุมใหญ่ครั้งที่ 2 อีก แต่ผมเชื่อว่ารัฐบาลนี้จะอยู่ได้ไม่นานแล้ว" นายจตุพรกล่าว และว่าการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ จะทำหลังการชุมนุมใหญ่ไปแล้ว
**คุยทหารพร้อมร่วมเสื้อแดง
นายจตุพร ยังกล่าวถึงกรณี พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี สมาชิกพรรคเพื่อไทย ระบุว่า จะมีทหารพรานมาร่วมงานกับคนเสื้อแดงกว่า 500 คนว่า ขณะนี้ไม่เพียงแต่ทหารพรานเท่านั้น แต่ยังมีทหารหลักที่อยู่ในกองทัพแจ้งความจำนงจะมาร่วมงานกับคนเสื้อแดงอีกเป็นจำนวนมาก
ด้านนายอริสมันต์ กล่าวว่า ตนและ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง เป็นคนช่วยกันดูเรื่องกำลังพลที่จะมาสนับสนุนคนเสื้อแดง ซึ่งวันนี้เราเตรียมพร้อมแล้ว โดยแบ่งเป็น
1.ประชาชนทั่วไปที่จะเข้ามาชุมนุมใหญ่ประมาณ 1 ล้านคน 2. กองกำลังหลายฝ่าย ที่จะทำหน้าที่เป็นกองหนุน ที่จะเคลื่อนพลออกมาทันทีภายใน 1 ชั่วโมง หากมีการใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุม ซึ่งได้กระจายกำลังอยู่ในพื้นที่ กทม. และปริมณฑล เรียบร้อยแล้ว ประกอบด้วยทหารพราน ตำรวจใน และนอกเครื่องแบบ ประมาณ 3 หมื่นคน นอกจากนี้ จะมีกลุ่มอดีตผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย จากภาคอีสาน ทั้ง นครพนม สกลนคร และสระแก้ว ไปจนถึงภาคใต้ ก็มาร่วมผนึกกำลังกัน โดยล่าสุดได้มีการส่งรายชื่อมาตรวจสอบแล้วประมาณ 7-8 หมื่นคน
**"ปทีป"คุมเข้มแดงดาวกระจาย
พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดง มีการนัดชุมนุมดาวกระจายในหลายพื้นที่ ในกรุงเทพฯ จะเข้าเงื่อนไขในการถอนประกันแกนนำที่ถูกดำเนินคดีก่อนหน้าหรือไม่ ว่า คงไม่ใช่ เพราะการนัดชุมนุมไม่ใช่เงื่อนไขในการถอนประกันตัว เงื่อนไขเท่าที่ทราบคือ การเดินทางออกนอกประเทศ ห้ามการกระทำโดยไม่ชอบทางกฎหมาย
สำหรับการเตรียมการรับมือผู้ชุมนุมได้สั่งการไปแล้วเหมือนกรณีที่เขายายเที่ยง ได้ให้กองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 3 ดูแล และหากส่วนไหนที่มีการชุมนุม ก็ให้พื้นที่เตรียมการไป
เมื่อถามว่า การชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงจะมีความรุนแรงเพิ่มขึ้นหรือไม่ เนื่องจากใกล้มีการพิพากษาคดียึดทรัพย์ ทักษิณ พล.ต.อ.ปทีป กล่าวว่า คงไม่มีการจับตามองเป็นพิเศษ ซึ่งเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ เมื่อมีการชุมนุมเราก็จัดกำลังไปดูแลความสงบเรียบร้อยให้ ต้องฟังข่าวไปเรื่อยๆ
ส่วนคำปราศรัยของนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำเสื้อแดงที่พูดในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ เพื่อปลุกปั่นให้จับตัวบุคคลสำคัญนั้น พล.ต.อ.ปทีป กล่าวว่า ทางกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ได้มีการบันทึกคำปราศรัย และตรวจสอบอยู่ว่าจะดำเนินการอย่างไร
**ปล่อยตัวคนสะกดรอย“อริสมันต์”
พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 เปิดเผยถึงกรณี นายอริสมันต์ได้นำตัว นายประมินทร์ รัตนาประเสริฐ ที่อ้างเป็นลูกจ้างสำนักข่าวกรองแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี มาส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ บช.น. หลังจากที่ขับรถจักรยานยนต์ สะกดรอยตามจากบ้านพัก และควบคุมตัวได้ ที่ย่านห้วยขวาง เมื่อวันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมาว่า ขณะนี้ได้มีการสอบสวนนายประมินทร์แล้ว ว่าสาเหตุใดจึงต้องติดตามความเคลื่อนไหวของนายอริสมันต์
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบสวนคู่กรณีแล้วโดยจะให้ความเป็นธรรมแก่ทั้ง 2 ฝ่าย เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปล่อยตัวนายประมินทร์ ไปชั่วคราวแล้ว และหากมีข้อสงสัยใด จะเรียกมาสอบสวนอีกครั้ง ซึ่งยังไม่มีการแจ้งข้อหาในชั้นสอบสวนแต่อย่างใด
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเดินทางเข้าพบพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ เมื่อช่วงเย็นวันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมาว่า เป็นเพียงการเข้าเยี่ยมอวยพรปีใหม่ ที่หนังสือพิมพ์เขียนเยอะแยะว่าไปคุยเรื่องนั้น เรื่องนี้ ก็เพิ่งทราบ เพราะไม่ได้คุย เรื่องยุบสภาก็ไม่มี ท่านสอบถามเกี่ยวกับเรื่องภาพรวมบ้านเมืองเท่านั้น บอกให้ยึดมั่นความซื่อสัตย์สุจริต และไม่ได้แสดงความกังวลอะไรเป็นพิเศษเลย
เมื่อถามว่า เรื่องที่ป๋าเปรมจะไปช่วยคุยกับนายบรรหาร ศิลปอาชา แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ประเด็นเรื่องรัฐธรรมนูญ ไม่มีการพูดถึงเลยแม้แต่เรื่องเดียว
เมื่อถามว่า ตรงนี้จะต้องชี้แจงให้นายบรรหาร ทราบหรือไม่ เพราะอาจจะไม่พอใจ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่าหนังสือพิมพ์คงต้องไปชี้แจง เพราะตนไม่ได้พูด เมื่อถามถึงกรณีเขาสอยดาว และเขายายเที่ยง นายอภิสิทธิ์ ย้อนถามกลับว่า ทำไมหรือครับ
**ยัน"ป๋า"ไม่เกี่ยวเรื่องเขาสอยดาว
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง กล่าวถึงเรื่องนี้ว่าไม่คิดว่านายกฯ จะมีเรื่องร้อนใจอะไร คงแค่ไปรายงานสถานการณ์บ้านเมืองให้พล.อ.เปรม ทราบในฐานะที่ท่านเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมือง แต่ไม่น่าจะเกี่ยวกับกรณีเรื่องเขาสอยดาว
" เรื่องที่ป๋าจะมีที่ดินอยู่ที่เขาสอยดาวนั้น ไม่เป็นความจริง ไม่มี ผมบังเอิญรู้เรื่องพื้นที่เขาสอยดาว ตอนเป็นฝ่ายค้าน ซึ่งตอนนั้นมีคนฝ่ายรัฐบาลพยายามที่จะไปเล่นงานบริษัทเอกชน ที่เขาไปซื้อที่ดินมาทำสนามกอล์ฟ และบังเอิญผมทราบข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร และก็เคยมีการอภิปรายในสภา ยืนยันไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับพล.อ.เปรม แน่นอน" นายสุเทพกล่าว
เมื่อถามว่าได้สรุปสถานการณ์เสื้อแดงให้นายกฯรับทราบก่อนที่จะไปพบป๋าเปรม หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ได้สรุปเป็นกิจจะลักษณะ แต่ตอนประชุมครม.ได้รายงานด้วยวาจาว่าการชุมนุมของคนเสื้อแดงนั้น ทางฝ่ายความมั่นคงพยายามดูแลอย่างดีที่สุด และจะป้องกันไม่ให้เกิดเหตุร้ายแรง ลุกลาม เจ้าหน้าที่จะใช้ความอดทน อดกลั้นอย่างถึงที่สุด
ผู้สื่อข่าวถามว่ารัฐบาลจะดูแลไม่ให้มีปัญหากระทบกระเทือนไปถึงสถาบันองคมนตรีอย่างไร จากกรณี เขายายเที่ยง มาถึงกรณี เขาสอยดาว นายสุเทพ กล่าวว่าไม่มีเรื่องอะไรที่จะเป็นเรื่องของสถาบันฯ ทั้งหมดที่กลุ่มเสื้อแดงพยายามทำและให้เกิดความเสียหายต่อสถาบันฯ แต่จริงๆ แล้วเขาพุ่งเป้าไปที่ตัวบุคคล โดยเฉพาะองคมนตรี 3 ท่าน โดยมีประธานองคมนตรี เป็นเป้าใหญ่ แต่ตนคิดว่าบรรดาองคมนตรีทั้งหลาย ก็มีคุณงามความดี ทำงานให้กับประเทศชาติ ประชาชนมาก่อน มีประวัติที่ดีงาม จะมาโจมตีกันไม่กี่วันแล้วจะทำให้เปลี่ยนแปลงไปคงไม่ได้ และคนส่วนใหญ่ก็ทราบเรื่องดี ดังนั้นจึงไม่คิดว่าจะมีปัญหาอะไร
ส่วนกรณีที่เขาสอยดาว จะต้องให้กรมป่าไม้ไปตรวจสอบเพื่อให้เกิดความชัดเจนหรือไม่นั้น รองนายกฯ กล่าวว่าหากที่ดินที่มีปัญหากับกรมป่าไม้ ไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็เป็นหน้าที่ของกรมป่าไม้ที่ต้องดำเนินการตามกฎเกณฑ์ กติกา ซึ่งก็มีอยู่ทุกจังหวัดก็ต้องสะสางกันไป เมื่อถามว่า เรื่องนี้กำลังจะกลายเป็นประเด็นทางการเมือง จะทำให้เกิดความชัดเจนได้อย่างไร รองนายกฯ กล่าวว่า ก็เป็นหน้าที่ของกรมป่าไม้ ที่จะไปดำเนินการ และเชื่อว่าเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้จะทำให้ดีที่สุด
นายสุเทพยังกล่าวปฏิเสธ เรื่องที่ว่าเจ้าของที่ดินบนเขาสอยดาว เป็นนายทุนใหญ่ของพรรคประชาธิปัตย์ เป็นเพียงการปั้นเรื่องกล่าวหากันเท่านั้น
ส่วนที่กลุ่มเสื้อแดงที่กำหนดปฏิทินการเคลื่อนไหวไปในที่ต่างๆนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่ห่วง หน้าที่ของตนคือเตรียมการดูแลรักษาความสงบ เขาจะไปทำอะไรที่ไหน ห้ามกันไม่ได้ แต่ถ้าทำผิดกฎหมายก็ต้องดำเนินคดีกัน
**ท้า"แม้ว"ไม่ต้องรอสัญญาณพิเศษ
ส่วนที่เป็นห่วงถึงขบวนการล้มเจ้า ที่อาจแฝงตัวมากับการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงนั้น ก็จะต้องมีการติดตาม เราคนไทยมีหน้าที่ถวายความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ คนไทยทั้งประเทศซาบซึ้งอยู่แก่ใจดีว่า สถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชน และของชาติ จะให้ใครมาแตะต้อง ทำร้ายไม่ได้ ใครที่มีพฤติกรรมอย่างนี้ ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย
" ท่าทีที่กลุ่มเสื้อแดงเคลื่อนไหวนั้น ก็ชัดเจนว่าเขาต้องการเรียกร้องให้ ทักษิณ ไม่ต้องรับโทษ และต้องการให้ ทักษิณได้รับเงินคืน และสุดท้ายต้องการให้ทักษิณได้รับสถานภาพทางการเมืองคืนมา" นายสุเทพกล่าว
อย่างไรก็ตาม ทักษิณ สามารถกลับมาประเทศไทยได้ทุกเวลา เราพร้อมที่จะต้อนรับกลับ แต่ก็ต้องว่ากันไปตามกฎหมาย ส่วนที่พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี บอกว่ามีสัญญาณพิเศษว่า พ.ต.ท. ทักษิณ จะกลับมานั้น ตนคิดว่าไม่ต้องมีสัญญาณพิเศษอะไร พรุ่งนี้ วันนี้ ก็กลับได้ ตนจะไปรับถึงสนามบินเลย
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีข่าวว่าการเข้าพบพล.อ.เปรม ครั้งนี้ มีการพูดถึงเรื่องการยุบสภาด้วย จริงหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่น่าจะจริง น่าจะเป็นเพียงการหาโอกาสไปกราบผู้ใหญ่ในฐานะที่บริหารงานมาครบ 1 ปี คงไม่มีนัยยะอย่างอื่น
**"ป๋า"ไม่กังวลเรื่องเขาสอยดาว
พล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีป หัวหน้าสำนักงานประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ กล่าวถึงกรณีกลุ่มคนเสื้อแดงระบุว่าพล.อ.เปรม อยู่เบื้องหลัง สนามกอล์ฟสอยดาว ไฮแลนด์ จ.จันทบุรี และกล่าวหาว่าสนามกอลฟ์ดังกล่าว เป็นสนามกอลฟ์ ที่ได้มากจาการบุกรุกที่ป่าสงวนบนเขาสอยดาว ว่า พล.อ.เปรม ไม่ได้สั่งการอะไรในเรื่องนี้
อย่างไรก็ตาม ในเรื่องนี้พล.อ.เปรมไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรทั้งนั้น ดังนั้นหากกลุ่มเสื้อแดงจะมาชุมนุมที่เขาสอยดาว ท่านคงไม่ไปยุ่ง ส่วนพล.อ.เปรม จะใช้มาตรการทางกฎหมายดำเนินการกับกลุ่มเสื้อแดงหรือไม่นั้น ไม่ทราบ เพราะท่านไม่ได้สั่งอะไร คงต้องไปถามทำเนียบองคมนตรี
พล.ร.อ. กำธร พุ่มหิรัญ ผบ.ทร. กล่าวถึงกลุ่มเสื้อแดงจะเดินทางไปชุมนุมที่เขาสอยดาวว่า เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะดูแล คิดว่าคงไม่มีอะไร ขณะนี้ตำรวจยังไม่ได้ร้องขอกำลังจากกองทัพเรือ แม้ว่าพื้นที่ดังกล่าวจะอยู่ในความรับผิดชอบของกองทัพเรือ ทั้งนี้ ไม่ห่วงเรื่องการชุมนุม แต่จะเฝ้าติดตามสถานการณ์คิดว่า ที่ผ่านมาเป็นการชุมนุมโดยสันติวิธี ไม่มีสิ่งใดที่แสดงท่าทีว่าจะรุนแรง การดำเนินการก็อยู่ในกรอบของกฎหมาย หากมีความเรียบร้อยก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร และอยากให้ประชาชนใช้วิจารณญาณว่า ควรจะช่วยกันทำให้เกิดความสงบเรียบร้อยกันอย่างไร
**"แม้ว"ยังทำปากเก่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ (14 ม.ค.) พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรได้เขียนข้อความลงบนเว็บไซต์ทวิตเตอร์ดอทคอม ถึงกรณีนายอภิสิทธิ์ เข้าพบพล.อ.เปรม ที่บ้านสี่เสาเทเวศร์ โดยมีใจความว่า
"เข้าพบเพื่อเน้นให้สังคมรู้ว่า ประธานองคมนตรีเปล่ายุ่งการเมืองนะ การเมืองมายุ่งเองต่างหาก น่าจะทำเป็น reality show จะได้โปร่งใส"
ทั้งนี้ มีผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งชงเรื่องว่า ตอนนี้บ่อนเถื่อนกับยาบ้าแถว อ.ฝาง มีเยอะมาก พ.ต.ท.ทักษิณ ตอบกลับไปว่า " มี 3 เหตุผล 1. เศรษฐกิจตกต่ำคนไม่รู้หากินอะไร และไม่ถูกจับ 2. ตำรวจและฝ่ายปกครองต้องซื้อตำแหน่ง 3. พวกนี้คือผู้สนับสนุนพันธมิตรฯ รัฐบาลไม่แตะ"
นอกจากนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังได้ทวิตข้อความอีกว่า "วันนี้ได้ข่าวว่า อริสมันต์ ถูกตามประกบจากเจ้าหน้าที่การข่าว ดีที่ไหวตัวทันจึงเข้าไปจับตัวส่งตำรวจ เจ้าตัวบอกว่า เขาไม่ได้เห็นด้วยที่จะทำ แต่ถูกฝ่ายการเมืองสั่งให้ทำ ไม่รู้จะทำอย่างไร นี่ละครับตัวอย่างเบาๆ ของการไม่เคารพสิทธิเสรีภาพของประชาชนตามหลักประชาธิปไตย"
**"เด็จพี่"ทะลึ่งด่า"ป๋า"ยุ่งเกี่ยวการเมือง
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายอภิสิทธิ์ เข้าพบพล.อ.เปรม เพื่อหารือปัญหาทางการเมืองว่า รัฐธรรมนูญ มาตรา 14 ระบุไว้ชัดเจนถึงหน้าที่ขององคมนตรี และประธานองคมนตรีว่า ต้องไม่ฝักใฝ่พรรคการเมืองใดๆ หรือเข้ามายุ่งเกี่ยวทางการเมือง ดังนั้นการที่พล.อ.เปรม พบกับนายอภิสิทธิ์ นั้นเหมาะสมหรือไม่ ทั้งนี้ เมื่อครั้งที่นายอภิสิทธิ์ เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พล.อ.เปรม ก็ได้ออกมาชื่นชมว่า คนไทยโชคดีที่ได้นายกรัฐมนตรีชื่อนายอภิสิทธิ์ มาครั้งหนึ่งแล้ว ทำให้สังคมเกิดความสับสน ขณะที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทยมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย กลับถูกกล่าวหาว่าทรยศชาติ สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่า พล.อ.เปรม เป็นคู่ขัดแย้ง และอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ทางการเมือง
"ขอฝากคำถามไปยังประชาชนให้ช่วยกันพิจารณาด้วยว่า หัวหน้ารัฐบาลตัวจริงคือพล.อ.เปรมใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ ขาดภาวะความเป็นผู้นำโดยยอมอยู่ภายใต้ระบอบอำมาตย์ เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจและตำแหน่งใช่หรือไม่ และพล.อ.เปรม มีบทบาทอยู่เหนือรัฐบาล ประชาชน และพรรคประชาธิปัตย์ ใช่หรือไม่ ดังนั้นขอเรียกร้องพล.อ.เปรม ว่า มีหน้าที่อะไรที่จะตัดสินใจแทนรัฐบาลหรือประชาชนทั้งประเทศ หากพล.อ.เปรม ต้องการยุ่งเกี่ยวกับการเมืองก็ขอให้ลาออกจากประธานองคมนตรี อย่าเป็นอีแอบทางการเมืองให้บ้านเมืองเกิดความวุ่นวาย" นายพร้อมพงศ์กล่าว
**ไม่เคยพูดว่า"ป๋า"รุกป่าเขาสอยดาว
นายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ แกนนำกลุ่มเสื้อแดง กล่าวว่า การที่นายอภิสิทธิ์ เข้าพบพล.อ.เปรม เป็นการแสดงให้ประชาชนเห็นว่า พล.อ.เปรม เป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังการบริหารงานของรัฐบาลชุดนี้ ให้คำปรึกษาในการแก้ปัญหาทางการเมือง ทั้งๆที่ประธานองคมนตรี ไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการเมือง ซึ่งกลุ่มคนเสื้อแดงจะนำกรณีดังกล่าว เป็นอีกประเด็นหนึ่งนอกจากกรณีการครอบครองที่ดินบนเขายายเที่ยงของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ที่จะมีการยื่นจดหมายเปิดผนึก ที่ทำเนียบองคมนตรีในวันที่ 18 ม.ค.นี้ด้วย เพื่อทวงถามคำตอบจากองคมนตรีทุกคนเพื่อเป็นหลักยึดให้ประชาชนเข้าใจตรงกันถึงคุณสมบัติขององคมนตรี
นายณัฐวุฒิ ยังกล่าวปฏิเสธด้วยว่า ไม่เคยกล่าวหาว่า พล.อ.เปรม มีที่ดินบนเขาสอยดาวจำนวน 400 ไร่ เพียงแต่กล่าวว่า กลุ่มทุนจากธนาคารกรุงเทพ ที่บุกรุกพื้นที่เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว มีความใกล้ชิดกับพล.อ.เปรม เนื่องจากพล.อ.เปรม เป็นประธานเปิดสนามกอล์ฟบนเขาสอยดาว จึงได้ตั้งข้อสังเกตว่า อาจเป็นเพราะบารมีของ พล.อ.เปรม ที่ทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่กล้าตรวจสอบการครอบครองที่ดินบนเขาสอยดาวกับกลุ่มทุนดังกล่าว
ส่วนกรณีที่สำนักองคมนตรี จะยื่นฟ้องกลุ่มคนเสื้อแดงนั้นถือว่า เป็นสิทธิ์ตามกฎหมาย แต่อยากเตือนว่า อย่าลุกลี้ลุกลนที่จะดำเนินการอะไรโดยไม่เข้าใจประเด็น
**"ไอ้กี้ร์"ปั้นเรื่องถูกตามอุ้ม
นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำคนเสื้อแดงได้แถลงที่ห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียล ลาดพร้าว ถึงกรณีที่มีกลุ่มบุคคลนำโดย นายประมินทร์ รัตนประเสริฐ อ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ติดตามความเคลื่อนไหวตน เมื่อวันที่ 14 ม.ค.ว่า นายประมินทร์ ระบุว่าตัวเองเป็นเจ้าหน้าที่สำนักข่าวกรอง ทำเนียบรัฐบาล สารภาพว่ามีคำสั่งให้อุ้มแกนนำเพื่อทำสงครามจิตวิทยากับคนเสื้อแดง จนเกิดความวุ่นวายจะเป็นช่องทางให้รัฐบาลใช้กำลังจัดการกับแกนนำที่เหลือ โดยได้มีการเตรียมชุดที่จะจัดการกับแกนนำไว้ 4 ชุด โดยชุดของ นายประมินทร์ เป็นชุดที่ 2 ทำหน้าที่ชี้เป้า ให้อีกชุดหนึ่งดำเนินการต่อ ซึ่งเป็นการคุกคามสิทธิ์เสรีภาพของแกนนำคนเสื้อแดงอย่างรุนแรง
ดังนั้นนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ จะต้องรับผิดชอบ ซึ่งการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงนั้นไม่มีใครทำผิดกฎหมาย แต่เป็นการทำตามกรอบที่ถูกต้อง เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย ซึ่งไม่ได้มีการหวาดกลัวใดๆ ทั้งสิ้น
"ผมได้เขียนแถลงการณ์ว่า หากรัฐบาลใช้อำนาจมืดอย่างนี้ บ้านเมืองไม่มีความสงบสุข ดังนั้นจึงขอให้รัฐบาลยุติการใช้รัฐธรรมนูญปี 50 แล้วนำรัฐธรรมนูญปี 40 กลับมาใช้ และนิรโทษกรรมคดีทางการเมืองทุกอย่าง ตั้งแต่มีการรัฐประหาร โดยให้ใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรมและไม่สองมาตรฐาน แล้วให้มีการจัดการเลือกตั้งให้เร็วที่สุด จากนั้นให้ทุกคนทำสัตยาบรรณร่วมกันว่าจะต้องยอมรับผลการเลือกตั้ง" นายอริสมันต์ กล่าว
นายอริสมันต์ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้รัฐบาลกำลังทำสงครามจิตวิทยากับคนเสื้อแดง ดังนั้น คนเสื้อแดงอย่าหวั่นไหวไปกับเกมของรัฐบาล ไม่ต้องตกใจกับการที่แกนนำจะถูกทำร้าย ขอให้ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อม และรู้ไว้ว่า คนที่จะทำอะไรกับพวกเรา คือรัฐบาล โดยมีกลุ่มอำมาตย์อยู่เบื้องหลัง หากเกิดอะไรขึ้นกับแกนนำ ขอให้พี่น้องคนเสื้อแดงรวมตัวกันให้เหนียวแน่น เพื่อขับไล่รัฐบาล และขอให้รัฐบาลเลิกพฤติกรรมโจรเช่นนี้เสีย หากอยากเห็นสงครามครั้งนี้เกิดขึ้นเร็วกว่ากำหนด เราก็พร้อม ทุกที่ทุกเวลา
** ขู่จัดชุดตาม"มาร์ค-เทือก"ไปทุกแห่ง
ด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การดำเนินการของฝ่ายความมั่นคง มีลักษณะการดำเนินการของพวกมือปืนที่จะไปสังหาร ฝ่ายตรงข้าม ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นแก๊งเดียวกับที่ลอบสังหาร นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 17 เมษายน จนนายสนธิ ต้องไปอาศัยอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกาแบบไม่มีวันกลับ เป็นการกระทำแบบศาลเตี้ย ซึ่งกรณีของนายอริสมันต์ ที่มีใบเสร็จ คือ จับตัวได้และสารภาพอย่างเสร็จสรรพนั้นนายสุเทพ และนายอภิสิทธิ์ จะต้องรับผิดชอบ
"หากยังมีการติดตามคุกคามลักษณะนี้ คนเสื้อแดง ก็จะจัดชุดติดตามนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ ทุกที่รวมถึงที่บ้าน แบบไปไหนไปนั่น ตั้งแต่ออกจากบ้าน เพื่อลองดูว่าการใช้ชีวิตแบบนี้ นายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ จะอยู่ต่อไปอย่างไร"
**คิวต่อไป"รอยัลเชียงใหม่ กอล์ฟ"
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย แกนนำคนเสื้อแดง กล่าวว่า ตนมีหลักฐานที่แสดงว่า พล.อ.เปรม มีส่วนเกี่ยวข้องกับสนามกอล์ฟที่เขาสอยดาว โดยเดินทางไปเป็นประธานในพิธีเปิดสนามกอล์ฟแห่งนี้ด้วยตัวเอง นอกจากนี้ ตนยังมีหลักฐานว่าพล.อ.เปรม ไปเป็นประธานในพิธีเปิดสนามกอล์ฟ รอยัล เชียงใหม่ กอล์ฟ รีสอร์ท ที่บุกรุกพื้นที่ป่าสงวน ใน จ.เชียงใหม่ อีก โดยสนามกอล์ฟแห่งนี้จะเป็นเป้าหมายต่อไป ที่คนเสื้อแดงจะไปชุมนุมเพื่อเรียกร้องที่ดินคืนให้กับแผ่นดิน ต่อจากการการชุมนุมที่เขาสอยดาว จ.จันทบุรี
**"แม้ว"สั่งชุมนุมใหญ่หลังตรุษจีน
นายจตุพร ยังกล่าวถึงการชุมนุมใหญ่ของคนเสื้อแดง ในพื้นที่กรุงเทพฯว่า ตนได้พูดคุยกับพ.ต.ท.ทักษิณ โดยพ.ต.ท.ทักษิณ บอกว่าอย่าได้เอาเรื่องคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาท มาเกี่ยวข้องกับการชุมนุมของคนเสื้อแดงเพื่อหลีกเลี่ยงข้อกล่าวหาต่างๆ ดังนั้น แกนนำคนเสื้อแดงจึงกำหนดที่จะชุมนุมใหญ่ ก่อนที่ศาลจะมีการพิพากษา เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้มีใครมากล่าวหาว่า เราขาดความชอบธรรมในการชุมนุม โดยขณะนี้แกนนำได้กำหนดวันเป็นตุ๊กตาเอาไว้แล้ว เหลือเพียงแต่เคาะในขั้นสุดท้ายว่าจะประกาศนัดชุมนุมใหญ่เลยหรือไม่ คาดว่าจะอยู่ในห้วงเดือนกุมภาพันธ์ อาจจะเป็นหลังตรุษจีนไปแล้ว โดยจะพิจารณาจากการเสร็จภารกิจการชุมนุม ที่สนามกอล์ฟ เขาสอยดาว และการชุมนุมที่สนามกอล์ฟ รอยัล เชียงใหม่ กอล์ฟ รีสอร์ท จ.เชียงใหม่
"ครั้งนี้คนเสื้อแดงจะต่อสู้ให้ได้รับชัยชนะ ซึ่งจะเป็นครั้งที่เดิมพันทั้งชีวิต หากพ่ายแพ้ก็มีอยู่เพียง 2 หนทางคือ ถูกหามออกสนามรบ กับการถูกจับไปขังคุกเท่านั้น ถ้าหากเราไม่สามารถขับไล่รัฐบาลอภิสิทธิ์ ให้ออกไปได้ ก็จะไม่มีการชุมนุมใหญ่ครั้งที่ 2 อีก แต่ผมเชื่อว่ารัฐบาลนี้จะอยู่ได้ไม่นานแล้ว" นายจตุพรกล่าว และว่าการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ จะทำหลังการชุมนุมใหญ่ไปแล้ว
**คุยทหารพร้อมร่วมเสื้อแดง
นายจตุพร ยังกล่าวถึงกรณี พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี สมาชิกพรรคเพื่อไทย ระบุว่า จะมีทหารพรานมาร่วมงานกับคนเสื้อแดงกว่า 500 คนว่า ขณะนี้ไม่เพียงแต่ทหารพรานเท่านั้น แต่ยังมีทหารหลักที่อยู่ในกองทัพแจ้งความจำนงจะมาร่วมงานกับคนเสื้อแดงอีกเป็นจำนวนมาก
ด้านนายอริสมันต์ กล่าวว่า ตนและ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง เป็นคนช่วยกันดูเรื่องกำลังพลที่จะมาสนับสนุนคนเสื้อแดง ซึ่งวันนี้เราเตรียมพร้อมแล้ว โดยแบ่งเป็น
1.ประชาชนทั่วไปที่จะเข้ามาชุมนุมใหญ่ประมาณ 1 ล้านคน 2. กองกำลังหลายฝ่าย ที่จะทำหน้าที่เป็นกองหนุน ที่จะเคลื่อนพลออกมาทันทีภายใน 1 ชั่วโมง หากมีการใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุม ซึ่งได้กระจายกำลังอยู่ในพื้นที่ กทม. และปริมณฑล เรียบร้อยแล้ว ประกอบด้วยทหารพราน ตำรวจใน และนอกเครื่องแบบ ประมาณ 3 หมื่นคน นอกจากนี้ จะมีกลุ่มอดีตผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย จากภาคอีสาน ทั้ง นครพนม สกลนคร และสระแก้ว ไปจนถึงภาคใต้ ก็มาร่วมผนึกกำลังกัน โดยล่าสุดได้มีการส่งรายชื่อมาตรวจสอบแล้วประมาณ 7-8 หมื่นคน
**"ปทีป"คุมเข้มแดงดาวกระจาย
พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดง มีการนัดชุมนุมดาวกระจายในหลายพื้นที่ ในกรุงเทพฯ จะเข้าเงื่อนไขในการถอนประกันแกนนำที่ถูกดำเนินคดีก่อนหน้าหรือไม่ ว่า คงไม่ใช่ เพราะการนัดชุมนุมไม่ใช่เงื่อนไขในการถอนประกันตัว เงื่อนไขเท่าที่ทราบคือ การเดินทางออกนอกประเทศ ห้ามการกระทำโดยไม่ชอบทางกฎหมาย
สำหรับการเตรียมการรับมือผู้ชุมนุมได้สั่งการไปแล้วเหมือนกรณีที่เขายายเที่ยง ได้ให้กองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 3 ดูแล และหากส่วนไหนที่มีการชุมนุม ก็ให้พื้นที่เตรียมการไป
เมื่อถามว่า การชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงจะมีความรุนแรงเพิ่มขึ้นหรือไม่ เนื่องจากใกล้มีการพิพากษาคดียึดทรัพย์ ทักษิณ พล.ต.อ.ปทีป กล่าวว่า คงไม่มีการจับตามองเป็นพิเศษ ซึ่งเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ เมื่อมีการชุมนุมเราก็จัดกำลังไปดูแลความสงบเรียบร้อยให้ ต้องฟังข่าวไปเรื่อยๆ
ส่วนคำปราศรัยของนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำเสื้อแดงที่พูดในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ เพื่อปลุกปั่นให้จับตัวบุคคลสำคัญนั้น พล.ต.อ.ปทีป กล่าวว่า ทางกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ได้มีการบันทึกคำปราศรัย และตรวจสอบอยู่ว่าจะดำเนินการอย่างไร
**ปล่อยตัวคนสะกดรอย“อริสมันต์”
พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 เปิดเผยถึงกรณี นายอริสมันต์ได้นำตัว นายประมินทร์ รัตนาประเสริฐ ที่อ้างเป็นลูกจ้างสำนักข่าวกรองแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี มาส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ บช.น. หลังจากที่ขับรถจักรยานยนต์ สะกดรอยตามจากบ้านพัก และควบคุมตัวได้ ที่ย่านห้วยขวาง เมื่อวันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมาว่า ขณะนี้ได้มีการสอบสวนนายประมินทร์แล้ว ว่าสาเหตุใดจึงต้องติดตามความเคลื่อนไหวของนายอริสมันต์
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบสวนคู่กรณีแล้วโดยจะให้ความเป็นธรรมแก่ทั้ง 2 ฝ่าย เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปล่อยตัวนายประมินทร์ ไปชั่วคราวแล้ว และหากมีข้อสงสัยใด จะเรียกมาสอบสวนอีกครั้ง ซึ่งยังไม่มีการแจ้งข้อหาในชั้นสอบสวนแต่อย่างใด