เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2553 นักโทษชายทักษิณ ชินวัตร ได้ปราศรัยผ่านระบบวิดีโอลิงก์มายังเวทีชุมนุมคนเสื้อแดง หน้าบ้านพัก พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี ที่เขายายเที่ยง โดยความตอนหนึ่งในการปราศรัยระบุว่า
“ผมมาเล่นทวิตเตอร์อยู่ที่นี่ ผมรู้ครับว่าหลายคน แน่นอนครับ เห็นมีไอ้พวกเสื้อเหลืองมันปั่นป่วน ปั่นบอกว่าให้เอาทวิตเตอร์ส่งทวิตเตอร์มาปั่นป่วนผม ผมอ่านไปผมก็รู้ครับว่าใครคิดอย่างไร ใครปั่นแบบโง่ๆ ใครปั่นแบบถูกปั่นเข้ามาอีกทีหนึ่ง ผมอ่านออกหมดครับว่าเขาคิดยังไง แต่สรุปก็คนกลางๆ ที่ไปฟังมา คนเหล่านี้ไม่สนใจบ้านเมือง อยู่ไปวันๆหนึ่ง ใครจะทำอะไรก็ช่างอย่ายุ่งกับกูก็แล้วกัน แต่ในที่สุดเนี่ยก็ถูกพวกนี้จูง”
ในที่สุดก็แสดงให้เห็นว่าปฏิบัติการทวิตเตอร์ของคนในโลกไซเบอร์เพื่ออบรมสั่งสอนนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร เพียงไม่กี่วันก็ประสบความสำเร็จเป็นที่ประจักษ์อย่างชัดเจน
ที่ว่าประสบความสำเร็จก็เพราะเป็นการยืนยันจากนักโทษชายทักษิณเองข้อความทั้งหมดที่ได้ส่งให้นักโทษชายทักษิณนั้น ได้ผ่านตา ผ่านการอ่าน แล้วก็ถูกบันทึกเอาไว้ในสมอง ซึ่งส่งผลต่อการนึกคิดและจิตใจของนักโทษชายทักษิณแล้วแน่นอน
และนับวันก็จะมีปริมาณที่มากขึ้นเรื่อยๆ มากจนนักโทษชายทักษิณรู้สึกได้จนต้องใช้คำว่าเกิดการ “ปั่นป่วน” ในการปราศรัยของตัวเอง และนักโทษชายทักษิณเข้ามาตอบในทวิตเตอร์ของตัวเองน้อยลงในช่วงหลังปีใหม่เป็นต้นมา เพราะเข้ามาอ่านเมื่อใดก็เต็มไปด้วยข้อความที่แทงใจดำนักโทษชายทักษิณเป็นจำนวนมาก
ตามปกตินิสัยของนักโทษชายทักษิณ เป็นคนที่สามารถสื่อสารได้เพียงข้างเดียวเท่านั้น และทนไม่ได้กับการถูกตรวจสอบหรือถูกตอบโต้ซึ่งหน้า ดังจะสังเกตให้เห็นได้ว่าตอนที่นักโทษชายทักษิณเป็นหัวหน้าพรรคไทยรักไทยนั้นได้หลีกเลี่ยงการขึ้นทุกเวทีซึ่งมีการปาฐกถาของหลายคน และจะเลือกพูดคนเดียวเท่านั้น แม้แต่จัดรายการวิทยุหรือโทรทัศน์ก็จะเลือกพูดอยู่คนเดียว
หนำซ้ำยังต้องถึงขั้นมีการกวาดต้อนนักการเมืองจากพรรคต่างๆ เข้ามาสังกัดตัวเอง และทำการควบรวมพรรคการเมืองหลายพรรคเข้าเป็นพรรคไทยรักไทยเพื่อทำให้ฝ่ายตัวเองมีจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมากเกินพอที่จะไม่ต้องถูกตรวจสอบหรือซักฟอกจากฝ่ายค้านในการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีได้
เพราะฉะนั้นนักโทษชายทักษิณ จึงเป็นนักการเมืองที่ไม่ตอบกระทู้ในสภาผู้แทนราษฎร และจะออกอาการหงุดหงิดเสมอเมื่อถูกซักถามโดยสื่อมวลชน
นักโทษชายทักษิณยังได้เคยนำกลุ่มธุรกิจชินคอร์ปของครอบครัว เข้าซื้อสื่อมวลชนอย่างไอทีวี แล้วยังมีการปลดผู้ประกาศและนักข่าวออกจากไอทีวีหลายคนเพราะไม่ตอบสนองนโยบายของรัฐบาล
รัฐบาลทักษิณยังได้เคยใช้อำนาจรัฐและอำนาจทุนปลดผู้ดำเนินรายการออกจากสื่อภาครัฐหลายคน ทั้ง ศ.ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง, น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายสนธิ ลิ้มทองกุล, นายสำราญ รอดเพชร, นายเติมศักดิ์ จารุปราณ ฯลฯ
แม้ในปี 2549 นักโทษชายทักษิณ ชินวัตร เคยตอบว่าพร้อมที่จะออกทีวีพร้อมๆ กับนายสนธิ ลิ้มทองกุล แต่พอนายสนธิรับคำท้าจริงก็กลัวหัวหดไม่กล้าเผชิญหน้าอีก
ดังนั้นการที่นักโทษชายทักษิณมาพูดเรื่อง เสรีภาพของสื่อ และจะมาปฏิรูปสื่อ ทั้งๆ ที่พฤติกรรมของตัวเองที่ผ่านมานั้นตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง จึงเป็นเรื่องเหลวไหลแบบ “ทักษิณาธาน” สิ้นดี
นักโทษชายทักษิณ ชินวัตร เป็นคนที่ต้องการได้ยินแต่คำชม ทนไม่ได้กับคำด่า ดังนั้นเมื่อตัวเองต้องหนีคำพิพากษาของศาลฎีกาซึ่งกระทำในพระปรมาภิไธยไปอยู่ต่างประเทศแล้ว ก็คงเกิดอาการเหงาและคิดถึงคำยกยอปอปั้นเหล่านั้น จึงเลือกหนทางในการใช้ทวิตเตอร์เพื่อหวังว่าจะสื่อสารกับคนเสื้อแดงและทำให้ตัวเองมีกำลังใจเพิ่มมากขึ้น
ช่วงแรกก็ปรากฏว่ามีแต่คนเสื้อแดงเข้าไปทวิตเตอร์ยกยอปอปั้นนักโทษชายทักษิณ อีกทั้งการส่งข้อความของนักโทษชายทักษิณก็สามารถเป็นข่าวช่วงชิงพื้นที่สื่อกระแสหลักได้ทุกวัน ก็ยิ่งทำให้นักโทษชายทักษิณอาจหลงใหลเข้าใจผิดว่ามีคนที่ใช้ทวิตเตอร์ทั้งหลายต่างมาสนับสนุนตัวเองเป็นอย่างมาก นักโทษชายทักษิณจึงได้ส่งข้อความตอบการทวิตเตอร์วันละหลายๆ ครั้ง กลายเป็นคนที่ใช้ทวิตเตอร์มากที่สุดในประเทศไทย
ด้วยความหลงผิดในบรรยากาศที่ตัวเองสร้างขึ้น นักโทษชายทักษิณจึงได้กำลังใจแบบผิดๆ เกิดความฮึกเหิมประเมินสถานการณ์ผิดพลาดมาโดยตลอด แม้ความผิดพลาดเหล่านั้นจะทำให้นักโทษชายทักษิณเสื่อมความนิยมลงไปเรื่อยๆ แต่ก็ได้ทำให้ประเทศชาติต้องถูกปั่นป่วนจนเกิดความเสียหายมาโดยตลอดเช่นกัน
ประชาชนชาวไทยที่รักชาติบ้านเมืองเมื่อทนไม่ได้ที่เห็นบ้านเมืองเกิดความวุ่นวายและเสียหาย จึงต้องหาทางช่วยกันในการทำให้บ้านเมืองเข้าสู่ภาวะ “ปกติสุข” โดยเร็วที่สุด
หนึ่งในปฏิบัติการที่ทำได้อยู่ในขณะนี้ก็คือการทวิตเตอร์ถึงนักโทษชายทักษิณให้มากที่สุด
ประโยชน์ด้านแรก ประชาชนชาวไทยผู้รักชาติจะได้ใช้นักโทษชายทักษิณ เป็นที่ระบายความรู้สึกของตัวเองในสถานการณ์ที่บ้านเมืองไม่ปกติสุข จะทำให้ความเครียดของประชาชนผู้ส่งข้อความได้ถูกปลดปล่อยไปให้นักโทษชายทักษิณเสียบ้าง เพราะนักโทษชายทักษิณได้ยืนยันแล้วว่า ได้อ่านทุกข้อความที่ส่งทวิตเตอร์ไปทั้งหมด
ประโยชน์ด้านที่สอง ทำให้นักโทษชายทักษิณ ได้เข้าสู่โลกความเป็นจริงเสียทีว่า คนที่เขาเล่นทวิตเตอร์ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่มีความรู้ในการใช้เทคโนโลยีนั้น เขารู้ทันทักษิณกันมากขนาดไหน และนักโทษชายทักษิณพึงจะได้รับบทเรียนและคำสั่งสอนจากการส่งข้อความเหล่านั้นโดยตรงว่า มีคนที่ไม่เห็นด้วยกับนักโทษชายทักษิณอีกมากโดยเฉพาะคนที่ติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างใกล้ชิด เผื่อที่นักโทษชายทักษิณจะได้หยุดหลงใหลในข้อความยกยอปอปั้น และหยุดความปั่นป่วนวุ่นวายให้กับประเทศชาติเสียที
ลองคิดดูว่าในทวิตเตอร์ประเทศไทยได้เคยให้คนเล่นทวิตเตอร์โหวตคะแนนหมวดสัตว์ในประเทศไทย ปรากฏว่าครอบครัวของนักโทษชายทักษิณมาแรงเป็นอันดับหนึ่งมาแล้ว เป็นบุคคลที่มีคะแนนมากที่สุดในหมวด “สัตว์” เพราะฉะนั้นลองคิดดูว่าถ้านักทวิตเตอร์พร้อมใจกันให้บทเรียนกับนักโทษชายทักษิณแล้ว อะไรจะเกิดขึ้น!?
ประการสุดท้าย การสื่อสารโดยการส่งข้อความทวิตเตอร์ไปให้นักโทษชายทักษิณนั้น จะทำให้คนเสื้อแดงและสาวกของนักโทษชายทักษิณซึ่งเป็นกลุ่มที่เข้ามาพูดคุยทวิตเตอร์กับนักโทษชายทักษิณมากที่สุดได้อ่านข้อความไปด้วย การทวิตเตอร์ของประชาชนผู้รักชาติจะทำให้เหตุผลในการส่งข้อความเหล่านั้นสามารถดึงคนที่หลงผิดได้ตื่นรู้และออกมาจากขบวนการระบอบทักษิณได้อีกพอควร
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากนักโทษชายทักษิณ ไม่ตอบคำถามของคนที่ไม่เห็นด้วยกับตัวเอง ก็ย่อมแสดงให้เห็นว่า นักรบทวิตเตอร์รักชาติมีเหตุผลเกินกว่าที่นักโทษชายทักษิณจะตอบได้ ยิ่งไปบล็อกความเห็นให้มากขึ้นเมื่อใด ก็ยิ่งประจานให้เห็นว่านักโทษชายทักษิณ นอกจากหนีสภา หนีศาล หนีคนเสื้อเหลือง หนีคนเสื้อแดงในยามวิกฤต หนีสื่อ หนีเมีย แล้วยัง “หนีทวิตเตอร์” อีกด้วย
ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างการทวิตเตอร์ของประชาชนผู้รักชาติถึงนักโทษชายทักษิณ @thaksinlive ซึ่งนักโทษชายทักษิณได้อ่านแล้ว ไม่สามารถตอบโต้ได้ เป็นใบ้รับประทาน ตัวอย่างเช่น
จาก @milkplus : คุณช่วยสั่งให้เสื้อแดงไปชุมนุมทวงสนามกอล์ฟคืนให้วัดหน่อยสิ จะได้มีมาตรฐานเดียว ปั่นกระแสสองมาตรฐาน แต่ทำเอง
คดีที่ดินรัชดาฯ ผิดกฎหมายทั้งเจตนาและพฤติกรรม เพิ่มวันหยุดปีใหม่เพื่อเลี่ยงภาษี แก้ระเบียบให้ขึ้นตึกสูงได้ ใช้อำนาจหาประโยชน์
จาก @plai_apex : มีเรื่องข้องใจคือองคมนตรีเป็นคนที่ในหลวงแต่งตั้งและถอดถอนออกเองไม่ใช่หรือ ทำไมคุณต้องมุ่งโจมตีองคมนตรีด้วย รึว่ามีประสงค์อื่น
จาก @parkphum : ตักขี้....หนีลูกเดียว ไม่กล้าที่จะผจญความจริง บาปกรรมมีจริง เคยทบทวนสิ่งที่เคยทำลงไปบ้างหรือไม่
จาก @taya9 : เพ้อเจ้อใหญ่แล้ว คุณไม่กล้าสู้ความจริง คุณเป็นนักโทษหนีคุก ควรจะสงบใจได้แล้ว ตักขี้เอ๋ย
ใช่ ความจริงก็ปรากฏแล้ว ว่าคุณถูกตัดสินจำคุก จำคุกแต่หนี ตอนเป็นนายกฯ คุณไม่เคยกล้าตอบกระทู้ในสภาเพราะคุณทำจริง
จาก @network_2010 : ผมไม่เข้าใจว่า คุณทักษิณถึงต้องทำร้ายประเทศชาติ ทำร้ายประชาชน ทำร้ายสถาบัน ไปอยู่ซาอุฯ ก็ได้หรือเขมรก็ดี อย่าทำร้ายประเทศไทย
จาก @Nomanland4TK : ทักษิณเอ๋ย หากมึงรักประเทศไทยจริง ตามที่ปากพูด...มึงจงหยุดป่วน แล้วทุกอย่างจะดีเอง หากมึงไม่มีเงิน มึงก็แค่หมาขี้เรื้อนตัวหนึ่ง
จาก @flyingmantis007 : พูดเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่นตลอด ตัวเองก็ร่ำรวยมาจากเผด็จการทหาร ยังจะมากระแดะเรียกร้อง ปชต.
จาก @Mr_affair : เมื่อคราวที่ท่านเป็นนายกฯ เคยกล่าวว่า ถ้าเลือกเรา จะได้รับการดูแลเป็นอันดับต้น นี่คือสองมาตรฐานหรือเปล่าครับ
จาก @sawangm : ตัวคุณอ้างหน้าด้านๆ มาตลอดว่าจงรักภักดี แต่ในพวกเสื้อแดงก็มีการกล่าวจาบจ้วงตลอดเวลา คนอย่างคุณมันปากว่าตาขยิบ
แล้วสมัยคุณทักษิณมันมาตรฐานเดียวหรือครับ มันมีเสรีภาพสื่อนักหรือ คุณก็ถอดรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ของไอ้ตาสนธิมันออกไม่ใช่หรือ
จาก @everysundays ในวันเด็ก : คำขวัญวันเด็ก @thaksinlive-หากินเรื่องเก่าๆ สร้างข่าวรายวัน ขยันหมั่นโฟนอิน แผ่นดินไม่มีอยู่
จาก @jamessaren ในวันเด็ก : สอนเด็กให้โกงข้อสอบหน่อยครับ
จาก @ekkapop : ตามนิสัยของไอ้สันขวาน @Thaksinlive มันบล็อกแน่ๆ เพราะมันชอบหนี (หนีความจริง หนีคุก หนีเมีย) ชอบแอบ และชอบปิดกั้น 55
การที่นักโทษชายทักษิณถึงขั้นที่ต้องบอกว่าการทวิตเตอร์ที่เข้ามาหาตัวเองนั้น เป็นข้อความแบบโง่ๆ บ้าง แบบถูกชักจูงมาบ้าง ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นการดูถูกสติปัญญาของคนที่ส่งข้อความให้กับตัวเองทั้งสิ้น ทั้งๆ ที่ข้อความที่กล่าวมาข้างต้นนั้นเป็นการตั้งคำถามทางการเมืองที่แหลมคมและจับโกหกนักโทษชายทักษิณได้อย่างหมดเปลือก
ก็ต้องตั้งคำถามว่า การที่นักโทษชายทักษิณตอบคำถามในการทวิตเตอร์เหล่านี้จากประชาชนผู้รักชาติไม่ได้แม้แต่ครั้งเดียว นักโทษชายทักษิณไม่โง่กว่าคนเหล่านี้หรืออย่างไร? หรือว่าแท้ที่จริงแล้วตอบไม่ได้เพราะสิ่งที่นักรบทวิตเตอร์ผู้รักชาติส่งข้อความมานั้นมันเป็นเรื่องจริงที่เถียงไม่ได้ ใช่หรือไม่!?
อย่าเพิ่งหลบหนีหายไปไหน เพราะยังมีคนไทยที่อยากจะทวิตเตอร์ส่งข้อความหา @thaksinlive อีกมากนะ “ทักษิณาธาน”!!!
“ผมมาเล่นทวิตเตอร์อยู่ที่นี่ ผมรู้ครับว่าหลายคน แน่นอนครับ เห็นมีไอ้พวกเสื้อเหลืองมันปั่นป่วน ปั่นบอกว่าให้เอาทวิตเตอร์ส่งทวิตเตอร์มาปั่นป่วนผม ผมอ่านไปผมก็รู้ครับว่าใครคิดอย่างไร ใครปั่นแบบโง่ๆ ใครปั่นแบบถูกปั่นเข้ามาอีกทีหนึ่ง ผมอ่านออกหมดครับว่าเขาคิดยังไง แต่สรุปก็คนกลางๆ ที่ไปฟังมา คนเหล่านี้ไม่สนใจบ้านเมือง อยู่ไปวันๆหนึ่ง ใครจะทำอะไรก็ช่างอย่ายุ่งกับกูก็แล้วกัน แต่ในที่สุดเนี่ยก็ถูกพวกนี้จูง”
ในที่สุดก็แสดงให้เห็นว่าปฏิบัติการทวิตเตอร์ของคนในโลกไซเบอร์เพื่ออบรมสั่งสอนนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร เพียงไม่กี่วันก็ประสบความสำเร็จเป็นที่ประจักษ์อย่างชัดเจน
ที่ว่าประสบความสำเร็จก็เพราะเป็นการยืนยันจากนักโทษชายทักษิณเองข้อความทั้งหมดที่ได้ส่งให้นักโทษชายทักษิณนั้น ได้ผ่านตา ผ่านการอ่าน แล้วก็ถูกบันทึกเอาไว้ในสมอง ซึ่งส่งผลต่อการนึกคิดและจิตใจของนักโทษชายทักษิณแล้วแน่นอน
และนับวันก็จะมีปริมาณที่มากขึ้นเรื่อยๆ มากจนนักโทษชายทักษิณรู้สึกได้จนต้องใช้คำว่าเกิดการ “ปั่นป่วน” ในการปราศรัยของตัวเอง และนักโทษชายทักษิณเข้ามาตอบในทวิตเตอร์ของตัวเองน้อยลงในช่วงหลังปีใหม่เป็นต้นมา เพราะเข้ามาอ่านเมื่อใดก็เต็มไปด้วยข้อความที่แทงใจดำนักโทษชายทักษิณเป็นจำนวนมาก
ตามปกตินิสัยของนักโทษชายทักษิณ เป็นคนที่สามารถสื่อสารได้เพียงข้างเดียวเท่านั้น และทนไม่ได้กับการถูกตรวจสอบหรือถูกตอบโต้ซึ่งหน้า ดังจะสังเกตให้เห็นได้ว่าตอนที่นักโทษชายทักษิณเป็นหัวหน้าพรรคไทยรักไทยนั้นได้หลีกเลี่ยงการขึ้นทุกเวทีซึ่งมีการปาฐกถาของหลายคน และจะเลือกพูดคนเดียวเท่านั้น แม้แต่จัดรายการวิทยุหรือโทรทัศน์ก็จะเลือกพูดอยู่คนเดียว
หนำซ้ำยังต้องถึงขั้นมีการกวาดต้อนนักการเมืองจากพรรคต่างๆ เข้ามาสังกัดตัวเอง และทำการควบรวมพรรคการเมืองหลายพรรคเข้าเป็นพรรคไทยรักไทยเพื่อทำให้ฝ่ายตัวเองมีจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมากเกินพอที่จะไม่ต้องถูกตรวจสอบหรือซักฟอกจากฝ่ายค้านในการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีได้
เพราะฉะนั้นนักโทษชายทักษิณ จึงเป็นนักการเมืองที่ไม่ตอบกระทู้ในสภาผู้แทนราษฎร และจะออกอาการหงุดหงิดเสมอเมื่อถูกซักถามโดยสื่อมวลชน
นักโทษชายทักษิณยังได้เคยนำกลุ่มธุรกิจชินคอร์ปของครอบครัว เข้าซื้อสื่อมวลชนอย่างไอทีวี แล้วยังมีการปลดผู้ประกาศและนักข่าวออกจากไอทีวีหลายคนเพราะไม่ตอบสนองนโยบายของรัฐบาล
รัฐบาลทักษิณยังได้เคยใช้อำนาจรัฐและอำนาจทุนปลดผู้ดำเนินรายการออกจากสื่อภาครัฐหลายคน ทั้ง ศ.ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง, น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายสนธิ ลิ้มทองกุล, นายสำราญ รอดเพชร, นายเติมศักดิ์ จารุปราณ ฯลฯ
แม้ในปี 2549 นักโทษชายทักษิณ ชินวัตร เคยตอบว่าพร้อมที่จะออกทีวีพร้อมๆ กับนายสนธิ ลิ้มทองกุล แต่พอนายสนธิรับคำท้าจริงก็กลัวหัวหดไม่กล้าเผชิญหน้าอีก
ดังนั้นการที่นักโทษชายทักษิณมาพูดเรื่อง เสรีภาพของสื่อ และจะมาปฏิรูปสื่อ ทั้งๆ ที่พฤติกรรมของตัวเองที่ผ่านมานั้นตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง จึงเป็นเรื่องเหลวไหลแบบ “ทักษิณาธาน” สิ้นดี
นักโทษชายทักษิณ ชินวัตร เป็นคนที่ต้องการได้ยินแต่คำชม ทนไม่ได้กับคำด่า ดังนั้นเมื่อตัวเองต้องหนีคำพิพากษาของศาลฎีกาซึ่งกระทำในพระปรมาภิไธยไปอยู่ต่างประเทศแล้ว ก็คงเกิดอาการเหงาและคิดถึงคำยกยอปอปั้นเหล่านั้น จึงเลือกหนทางในการใช้ทวิตเตอร์เพื่อหวังว่าจะสื่อสารกับคนเสื้อแดงและทำให้ตัวเองมีกำลังใจเพิ่มมากขึ้น
ช่วงแรกก็ปรากฏว่ามีแต่คนเสื้อแดงเข้าไปทวิตเตอร์ยกยอปอปั้นนักโทษชายทักษิณ อีกทั้งการส่งข้อความของนักโทษชายทักษิณก็สามารถเป็นข่าวช่วงชิงพื้นที่สื่อกระแสหลักได้ทุกวัน ก็ยิ่งทำให้นักโทษชายทักษิณอาจหลงใหลเข้าใจผิดว่ามีคนที่ใช้ทวิตเตอร์ทั้งหลายต่างมาสนับสนุนตัวเองเป็นอย่างมาก นักโทษชายทักษิณจึงได้ส่งข้อความตอบการทวิตเตอร์วันละหลายๆ ครั้ง กลายเป็นคนที่ใช้ทวิตเตอร์มากที่สุดในประเทศไทย
ด้วยความหลงผิดในบรรยากาศที่ตัวเองสร้างขึ้น นักโทษชายทักษิณจึงได้กำลังใจแบบผิดๆ เกิดความฮึกเหิมประเมินสถานการณ์ผิดพลาดมาโดยตลอด แม้ความผิดพลาดเหล่านั้นจะทำให้นักโทษชายทักษิณเสื่อมความนิยมลงไปเรื่อยๆ แต่ก็ได้ทำให้ประเทศชาติต้องถูกปั่นป่วนจนเกิดความเสียหายมาโดยตลอดเช่นกัน
ประชาชนชาวไทยที่รักชาติบ้านเมืองเมื่อทนไม่ได้ที่เห็นบ้านเมืองเกิดความวุ่นวายและเสียหาย จึงต้องหาทางช่วยกันในการทำให้บ้านเมืองเข้าสู่ภาวะ “ปกติสุข” โดยเร็วที่สุด
หนึ่งในปฏิบัติการที่ทำได้อยู่ในขณะนี้ก็คือการทวิตเตอร์ถึงนักโทษชายทักษิณให้มากที่สุด
ประโยชน์ด้านแรก ประชาชนชาวไทยผู้รักชาติจะได้ใช้นักโทษชายทักษิณ เป็นที่ระบายความรู้สึกของตัวเองในสถานการณ์ที่บ้านเมืองไม่ปกติสุข จะทำให้ความเครียดของประชาชนผู้ส่งข้อความได้ถูกปลดปล่อยไปให้นักโทษชายทักษิณเสียบ้าง เพราะนักโทษชายทักษิณได้ยืนยันแล้วว่า ได้อ่านทุกข้อความที่ส่งทวิตเตอร์ไปทั้งหมด
ประโยชน์ด้านที่สอง ทำให้นักโทษชายทักษิณ ได้เข้าสู่โลกความเป็นจริงเสียทีว่า คนที่เขาเล่นทวิตเตอร์ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่มีความรู้ในการใช้เทคโนโลยีนั้น เขารู้ทันทักษิณกันมากขนาดไหน และนักโทษชายทักษิณพึงจะได้รับบทเรียนและคำสั่งสอนจากการส่งข้อความเหล่านั้นโดยตรงว่า มีคนที่ไม่เห็นด้วยกับนักโทษชายทักษิณอีกมากโดยเฉพาะคนที่ติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างใกล้ชิด เผื่อที่นักโทษชายทักษิณจะได้หยุดหลงใหลในข้อความยกยอปอปั้น และหยุดความปั่นป่วนวุ่นวายให้กับประเทศชาติเสียที
ลองคิดดูว่าในทวิตเตอร์ประเทศไทยได้เคยให้คนเล่นทวิตเตอร์โหวตคะแนนหมวดสัตว์ในประเทศไทย ปรากฏว่าครอบครัวของนักโทษชายทักษิณมาแรงเป็นอันดับหนึ่งมาแล้ว เป็นบุคคลที่มีคะแนนมากที่สุดในหมวด “สัตว์” เพราะฉะนั้นลองคิดดูว่าถ้านักทวิตเตอร์พร้อมใจกันให้บทเรียนกับนักโทษชายทักษิณแล้ว อะไรจะเกิดขึ้น!?
ประการสุดท้าย การสื่อสารโดยการส่งข้อความทวิตเตอร์ไปให้นักโทษชายทักษิณนั้น จะทำให้คนเสื้อแดงและสาวกของนักโทษชายทักษิณซึ่งเป็นกลุ่มที่เข้ามาพูดคุยทวิตเตอร์กับนักโทษชายทักษิณมากที่สุดได้อ่านข้อความไปด้วย การทวิตเตอร์ของประชาชนผู้รักชาติจะทำให้เหตุผลในการส่งข้อความเหล่านั้นสามารถดึงคนที่หลงผิดได้ตื่นรู้และออกมาจากขบวนการระบอบทักษิณได้อีกพอควร
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากนักโทษชายทักษิณ ไม่ตอบคำถามของคนที่ไม่เห็นด้วยกับตัวเอง ก็ย่อมแสดงให้เห็นว่า นักรบทวิตเตอร์รักชาติมีเหตุผลเกินกว่าที่นักโทษชายทักษิณจะตอบได้ ยิ่งไปบล็อกความเห็นให้มากขึ้นเมื่อใด ก็ยิ่งประจานให้เห็นว่านักโทษชายทักษิณ นอกจากหนีสภา หนีศาล หนีคนเสื้อเหลือง หนีคนเสื้อแดงในยามวิกฤต หนีสื่อ หนีเมีย แล้วยัง “หนีทวิตเตอร์” อีกด้วย
ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างการทวิตเตอร์ของประชาชนผู้รักชาติถึงนักโทษชายทักษิณ @thaksinlive ซึ่งนักโทษชายทักษิณได้อ่านแล้ว ไม่สามารถตอบโต้ได้ เป็นใบ้รับประทาน ตัวอย่างเช่น
จาก @milkplus : คุณช่วยสั่งให้เสื้อแดงไปชุมนุมทวงสนามกอล์ฟคืนให้วัดหน่อยสิ จะได้มีมาตรฐานเดียว ปั่นกระแสสองมาตรฐาน แต่ทำเอง
คดีที่ดินรัชดาฯ ผิดกฎหมายทั้งเจตนาและพฤติกรรม เพิ่มวันหยุดปีใหม่เพื่อเลี่ยงภาษี แก้ระเบียบให้ขึ้นตึกสูงได้ ใช้อำนาจหาประโยชน์
จาก @plai_apex : มีเรื่องข้องใจคือองคมนตรีเป็นคนที่ในหลวงแต่งตั้งและถอดถอนออกเองไม่ใช่หรือ ทำไมคุณต้องมุ่งโจมตีองคมนตรีด้วย รึว่ามีประสงค์อื่น
จาก @parkphum : ตักขี้....หนีลูกเดียว ไม่กล้าที่จะผจญความจริง บาปกรรมมีจริง เคยทบทวนสิ่งที่เคยทำลงไปบ้างหรือไม่
จาก @taya9 : เพ้อเจ้อใหญ่แล้ว คุณไม่กล้าสู้ความจริง คุณเป็นนักโทษหนีคุก ควรจะสงบใจได้แล้ว ตักขี้เอ๋ย
ใช่ ความจริงก็ปรากฏแล้ว ว่าคุณถูกตัดสินจำคุก จำคุกแต่หนี ตอนเป็นนายกฯ คุณไม่เคยกล้าตอบกระทู้ในสภาเพราะคุณทำจริง
จาก @network_2010 : ผมไม่เข้าใจว่า คุณทักษิณถึงต้องทำร้ายประเทศชาติ ทำร้ายประชาชน ทำร้ายสถาบัน ไปอยู่ซาอุฯ ก็ได้หรือเขมรก็ดี อย่าทำร้ายประเทศไทย
จาก @Nomanland4TK : ทักษิณเอ๋ย หากมึงรักประเทศไทยจริง ตามที่ปากพูด...มึงจงหยุดป่วน แล้วทุกอย่างจะดีเอง หากมึงไม่มีเงิน มึงก็แค่หมาขี้เรื้อนตัวหนึ่ง
จาก @flyingmantis007 : พูดเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่นตลอด ตัวเองก็ร่ำรวยมาจากเผด็จการทหาร ยังจะมากระแดะเรียกร้อง ปชต.
จาก @Mr_affair : เมื่อคราวที่ท่านเป็นนายกฯ เคยกล่าวว่า ถ้าเลือกเรา จะได้รับการดูแลเป็นอันดับต้น นี่คือสองมาตรฐานหรือเปล่าครับ
จาก @sawangm : ตัวคุณอ้างหน้าด้านๆ มาตลอดว่าจงรักภักดี แต่ในพวกเสื้อแดงก็มีการกล่าวจาบจ้วงตลอดเวลา คนอย่างคุณมันปากว่าตาขยิบ
แล้วสมัยคุณทักษิณมันมาตรฐานเดียวหรือครับ มันมีเสรีภาพสื่อนักหรือ คุณก็ถอดรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ของไอ้ตาสนธิมันออกไม่ใช่หรือ
จาก @everysundays ในวันเด็ก : คำขวัญวันเด็ก @thaksinlive-หากินเรื่องเก่าๆ สร้างข่าวรายวัน ขยันหมั่นโฟนอิน แผ่นดินไม่มีอยู่
จาก @jamessaren ในวันเด็ก : สอนเด็กให้โกงข้อสอบหน่อยครับ
จาก @ekkapop : ตามนิสัยของไอ้สันขวาน @Thaksinlive มันบล็อกแน่ๆ เพราะมันชอบหนี (หนีความจริง หนีคุก หนีเมีย) ชอบแอบ และชอบปิดกั้น 55
การที่นักโทษชายทักษิณถึงขั้นที่ต้องบอกว่าการทวิตเตอร์ที่เข้ามาหาตัวเองนั้น เป็นข้อความแบบโง่ๆ บ้าง แบบถูกชักจูงมาบ้าง ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นการดูถูกสติปัญญาของคนที่ส่งข้อความให้กับตัวเองทั้งสิ้น ทั้งๆ ที่ข้อความที่กล่าวมาข้างต้นนั้นเป็นการตั้งคำถามทางการเมืองที่แหลมคมและจับโกหกนักโทษชายทักษิณได้อย่างหมดเปลือก
ก็ต้องตั้งคำถามว่า การที่นักโทษชายทักษิณตอบคำถามในการทวิตเตอร์เหล่านี้จากประชาชนผู้รักชาติไม่ได้แม้แต่ครั้งเดียว นักโทษชายทักษิณไม่โง่กว่าคนเหล่านี้หรืออย่างไร? หรือว่าแท้ที่จริงแล้วตอบไม่ได้เพราะสิ่งที่นักรบทวิตเตอร์ผู้รักชาติส่งข้อความมานั้นมันเป็นเรื่องจริงที่เถียงไม่ได้ ใช่หรือไม่!?
อย่าเพิ่งหลบหนีหายไปไหน เพราะยังมีคนไทยที่อยากจะทวิตเตอร์ส่งข้อความหา @thaksinlive อีกมากนะ “ทักษิณาธาน”!!!