“ชายจืด” ป้อง “แม้ว” บอกรับที่ปรึกษา ศก.เขมรไม่เสียหาย อ้างเป็นเกียรติให้ประเทศ

“ชายจืด” เจอมนต์เขมร หลับหูหลับตาหกยาง “เเม้ว” บอกรับเป็นที่ปรึกษาเศรษฐกิจให้เขมรไม่เสียหายถือเป็นเกียรติให้ประเทศ แถมช่วยรักษาความสัมพันธ์อันดี ระบุไม่อยากให้ยกเลิกเอ็มโอยูอ้างห่วงประชาชนเสียผลประโยชน์ ด้าน “ยิ่งลักษณ์” เมินพี่ชายคะแนนตก อ้างมีเจตนาดีต่อประเทศ

วันนี้ (7 พ.ย.) แกนนำพรรคเพื่อไทย และคณะทำงานด้านเศรษฐกิจของพรรค นำโดยนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวพ .ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่หลบหนีคดีไปอยู่ต่างประเทศ นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองหัวหน้าพรรค นายวิทยา บุรณศิริ ส.ส.พระนครศรีอยุธยาและ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรค ได้เดินทางลงพื้นที่รับฟังปัญหาในพื้นที่ภาคกลาง และจัดสัมมนาที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ระหว่างวันที่ 7-8 พ.ย. ในช่วงบ่ายคณะพรรคเพื่อไทยได้เข้าพบปะหารือรับฟังความเห็นประชาชนจากชุมชนต่างๆ ที่อาคาร 100 ปี มหาวิทยาลัยราชภัฎพระนครศรีอยุธยา โดยปัญหาส่วนใหญ่ที่ชาวบ้านต้องการให้แก้ปัญหาคือ เรื่องยาเสพติด ปัญหาอาชญากรรม เศรษฐกิจที่ทรุดตัว ขณะที่พรรคเพื่อไทยรับปากว่าจะนำปัญหาไปศึกษาจัดทำเป็นนโยบายหาเสียง

นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี น้องเขย พ.ต.ท.ทักษิณ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวถึงกรณีที่ประเทศกัมพูชาแต่งตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจรัฐบาลกัมพูชาว่า ส่วนตัวแล้วไม่สามารถตอบได้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ สมควรควรรับตำแหน่งดังกล่าวหรือไม่ แต่ประเด็นอยู่ที่ว่าเมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณตกลงรับตำแหน่งนั้นประเทศเสียหายอะไรบ้างซึ่งตนเองคิดว่าคงไม่มีต้องถือเป็นเกียรติและภาคภูมิใจด้วยซ้ำ เนื่องจากก่อนหน้านี้มีตัวอย่างของรัฐบาลลาว ได้แต่งตั้งนายวีรพงษ์ รามางกูร อดีต รมว.คลัง เป็นที่ปรึกษารัฐบาลลาว สำหรับกรณีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาในอีกหลานประเทศ เช่น นิคารากัว ฮอนดูรัส

ทั้งนี้ นายสมชายไม่ได้พูดถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกศาลพิพากษาให้มีโทษจำคุก 2 ปีในคดีที่ดินรัชดา ซึ่งการที่รัฐบาลกัมพูชาแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษา ซ้ำยังออกแถลงการณ์ว่าจะไม่ส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนให้รัฐบาลไทยอย่างเด็ดขาด โดยอ้างว่าเป็นคดีทางการเมืองทั้งที่คดีดังกล่าวเป็นการทำผิดกฎหมาย ป.ป.ช. จะถือเป็นการไม่เคารพคำตัดสินของศาลไทยหรือไม่

นอกจากนี้ นายสมชายได้กล่าวถึงประเด็นที่รัฐบาลจะยกเลิกบันทึกความเข้าใจ(เอ็มโอยู)ในพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทย-กัมพูชาที่ทำไว้ในสมัย พ.ต.ท.ทักษิณเป็นนายกฯ ว่า อยากให้ดูให้แน่ชัดว่าจะเกิดความเสียหายจริงหรือไม่ และไม่อยากให้เอาความรู้สึกมาทำลายให้ประเทศเสียหายกระทบผลประโยชน์ประชาชน ถ้าใช้วิธีการเจรจารัฐบาลไม่มีทางเสียเปรียบอยู่แล้ว

“ปัญหาข้อพิพาทไทยกับประเทศกัมพูชานั้นอาจเป็นเพราะว่าเราระหองระแหงกันก่อนหน้านั้นอยู่เเล้ว และ พอมีการแต่งตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณให้เป็นที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจก็เลยกลายเป็นชนวนความขัดแย้ง ทั้งๆ ที่ความจริงนั้นต้องแยกแยะให้ออกว่า ว่าการไปเป็นที่ปรึกษาไม่ได้ทำลายประเทศหรือสร้างปัญหาจึงอยากให้มองด้วยความเป็นธรรม ว่าไม่มีอะไรเสียหาย มีแต่จะส่งเสริมให้เกิดการช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ส่วนข้อกล่าวหาที่ว่ากัมพูชาแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมของไทย คงไม่ใช่ เพราะต่างชาติไม่สามารถเข้ามาได้อยู่แล้ว เนื่องจากคดี พ.ต.ท.ทักษิณก็มีการตัดสินสิ้นสุดไปแล้ว ซึ่งอยากให้คิดก่อนว่ามันเป็นประเด็นเดียวกันหรือไม่ เพราะเอาความสัมพันธ์มาผูกติดกับการเมืองก็อันตราย” นายสมชายกล่าว

ทางด้าน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ ได้กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า รายละเอียดต่างๆ อยากให้ไปฟัง พ.ต.ท.ทักษิณชี้แจงผ่านรายการ ทอล์ก อะราวด์ เดอะ เวิลด์ ทาง www.thaksinlive.com และทางสถานีพีเพิลชาเนล ในวันที่ 10 พ.ย.เวลา 20.30 น. ส่วนผลโพลที่ระบุว่าหลังจากรับตำแหน่งที่ปรึกษาเศรษฐกิจให้รัฐบาลกัมพูชาทำให้คะแนนนิยม พ.ต.ท.ทักษิณตกเป็นรองนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะนั้น โดยส่วนตัวเชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ยังมีเจตนารมณ์ที่ดีและ ยังห่วงประเทศไทย