นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช กล่าวถึงกรณี พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ในฐานะส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย ได้ทาบทามตนให้เข้ามาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยว่า
"ส.ส.พรรคเพื่อไทยได้มาพูดคุยให้มาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยจริง แต่ยังไม่มีการพูดคุยในระดับแกนนำ โดยส.ส.ที่เข้ามาชวนนั้นส่วนใหญ่เป็นลูกศิษย์ลูกหาทั้งนั้น โดยชวนให้เข้ามาร่วมดูแลบ้านเมือง เพราะตอนนี้มีวิกฤติมาก แต่ส่วนตัวยังไม่ได้รับปากอะไร ทั้งนี้ที่ผ่านมาทุกคนรู้ดีว่าพรรคเพื่อไทยมาจากพรรคไทยรักไทย ที่ทางกลุ่มของผมมีส่วนในการก่อสร้างพรรคขึ้นมา"
นายเสนาะ กล่าวว่า ตอนนี้พรรคเพื่อไทยไร้ญาติผู้ใหญ่ที่คอยให้ความอบอุ่น แต่ตอนนี้ยอมรับว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องมีการพูดคุยและสอบถามประชาชนอีกครั้ง สำหรับตนแล้วอะไรก็ได้ ขอให้ประเทศชาติ บ้านเมือง ประชาชนอยู่ได้ ผ่านวิกฤตไปได้ อย่าให้เรือบรรทุกคน 60 ล้านคน ต้องอับปางลงเพราะบ้านเมืองวันนี้น่าห่วงมาก
เมื่อถามว่า ท่าทีอย่างนี้แสดงว่า ยอมรับที่มาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย ใช่หรือไม่ นายเสนาะ กล่าว ยังไม่ได้ยอมรับ แต่ต้องมีการหารือกันก่อนเพื่อทำงานแต่ต้องมีการหารือเพื่อส่วนรวมอย่างแท้จริง ซึ่งตนไม่ได้มีเงื่อนไขใดทั้งสิ้น
เมื่อถามว่าได้มีการพูดคุยกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แล้วหรือไม่ นายเสนาะกล่าวว่าพ.ต.ท. ทักษิณ ไม่ได้โทรศัพท์มา อย่างไรก็ตามขอเวลาตัดสินใจก่อน เพราะตอนนี้ยังมีเวลา
ด้านพ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย กล่าวว่า การทาบทามนายเสนาะ เพื่อให้มาทำงานการเมืองร่วมกัน โดยมีตำแหน่งที่สำคัญในพรรค แต่ไม่ใช่หัวหน้าพรรค ซึ่งตำแหน่งหัวหน้าพรรคนั้นต้องรอดูมติของสส.ในพรรคด้วย ส่วนจะเป็นตำแหน่งอะไรนั้น ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม แต่ต้องมีการหารือกับผู้ใหญ่ภายในพรรคอีกครั้ง และขณะนี้ยังเห็นว่านาย ยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรค ยังเป็นหัวหน้าพรรคที่ดี หากจะมีการเปลี่ยนหัวหน้าพรรค ต้องมีการยุบสภาก่อน
"นายเสนาะเป็นคนหนึ่งที่จะสามารถรวมใจของทุกฝ่ายเข้าหากันได้ และนายเสนาะก็หวังที่จะแก้ปัญหาชองบ้านเมือง ลดความขัดแย้ง ซึ่งมีแนวทางคล้ายกัน ส่วนส.ส.ในพรรคเพื่อไทยจะยอมรับหรือไม่นั้น ก็แล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละคน แต่เชื่อว่าน่าจะยอมรับได้"
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ ในการรวมพรรคประชาราชกับพรรคเพื่อไทย พ.อ.อภิวันท์ กล่าวว่า แนวโน้มก็น่าจะเป็นเช่นนั้น แต่ยังไม่ได้มีการพูดคุยถึงรายละเอียดว่าจะเป็นการรวมพรรคการเมืองเลยหรือไม่
ส่วนกรณีที่จะให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็นหัวหน้าพรรคนั้น ตนไม่ขอวิจารณ์ และการที่ร.ต.อ.เฉลิม เสนอชื่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นหัวหน้าพรรค เรื่องนี้ตนมองว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็มีความสามารถไม่แพ้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แต่น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ปฎิเสธ ไม่รับตำแหน่งดังกล่าว
ด้านนายอิทธิเดช แก้วหลวง ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เสนอให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ว่า ตนได้คุยกับส.ส.หลายคนในพรรค และได้เสนอความเห็นส่วนตัวว่า ต้องให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นหัวหน้าพรรค เพราะมีคุณสมบัติที่โดดเด่นกว่า นายอภิสิทธ์ เวชชาชีวะ และน.ส.ยิ่งลักษณ์ มีประวัติโปร่งใส มีความสามารถด้านเศรษฐกิจ และที่สำคัญคือเป็นน้องสาวของพ.ต.ท.ทักษิณ ที่ประชาชนนิยมชมชอบ และหากจะให้ร.ต.อ.เฉลิม ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรค เห็นว่าไม่เหมาะสม เพราะต้องถูกฝ่ายตรงข้างขุดคุ้ยย้อนหลังไปสมัยเป็นนายร้อยตำรวจ มาเปิดเผยต่อสาธารณะ หากเป็นแบบนี้อยู่ไม่ไหวแน่ รับไม่ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า ข้อเสนอของร.ต.อ.เฉลิม นั้น ดูเหมือนว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ และนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ภรรยานายสมชาย วงศ์ศวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่ค่อยพอใจ เพราะมองว่าเป็นการเสนอที่ผิดเวลา นายอิทธิเดช กล่าวว่า เหมือนกับเวลาที่พี่ หรือน้องจะไปเป็นดาราภาพยนตร์ คนในบ้านก็ต้องท้วงติงเป็นธรรมดาว่า อย่าดีกว่า ไม่มีใครบอกให้เอาเลยๆ แบบนั้นจะเสียราคา แต่เมื่อได้เป็นหัวหน้าพรรคจริงๆแล้ว ก็ต้องช่วยกันทำงานอยู่แล้ว
**ชี้"เหนาะ"แก่เกินที่จะนั่งหน.พรรค
ส่วนที่มีการไปทาบทามนายเสนาะ เทียนทอง ให้มาเป็นหัวหน้าพรรค หรือคณะผู้บริหารพรรคเพื่อไทยนั้น นายอิทธิเดช กล่าวว่า ส.ส.ในพรรคเป็นคนรุ่นใหม่เยอะมาก โดยเฉพาะในภาคอีสาน จึงมีความเป็นไปได้สูงมากว่า นายเสนาะน่าจะมาเป็นที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค หรือประธานที่ปรึกษาพรรค หากให้มาเป็นหัวหน้าพรรคนั้น คงจะเกินวัยไปแล้ว เพราะต้องนำไปเปรียบกับนายอภิสิทธิ์ด้วย ดังนั้นจะต้องมีคุณสมบัติเท่ากัน หรือดีกว่า
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม เสนอให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่ว่า เจ้าตัวได้ออกมาปฏิเสธแล้ว เนื่องจากยังไม่พร้อมเพราะไม่เคยคิดจะเป็นหัวหน้าพรรค หรือแม้แต่นายกฯ อีกทั้งยังมีภารกิจทางด้านธุรกิจที่ต้องรับผิดชอบอยู่ การเดินทางไปช่วยหาเสียงเลือกตั้งซ่อมส.ส.สกลนคร และศรีสะเกษ ที่ผ่านมานั้นเป็นเพราะพรรคทำหนังสือเชิญไป ส่วนการปรับโครงสร้างพรรคใหม่นั้นขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็น เพราะหัวหน้าพรรคคนปัจจุบันก็ยังทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทย จะเน้นการบริหารในรูปแบบของคณะกรรมการที่จะขับเคลื่อน ไม่ใช่ดี เด่น ดัง คนเดียว
**ยก"พ่อแม้ว"ศูนย์รวมใจคนในพรรค
ด้านนายจตุพร เจริญเชื้อ ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ถ้ามีหัวหน้าพรรคคนใหม่ในขณะนี้แล้วทำให้พรรคเกิดความแตกแยก แบ่งฝักแบ่งฝ่าย ก็ยังไม่จำเป็นต้องมี เพราะส.ส.ทุกคนยังยึดมั่นอยู่ในใจว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นหัวหน้าพรรค เป็นจุดศูนย์รวมของทุกคนในพรรค แม้แต่ประชาชนก็รับรู้ ส่วนงานในสภานั้นก็มี ร.ต.อ.เฉลิม ทำหน้าที่ประธานส.ส.ขับเคลื่อนงานในสภาได้ดีอยู่แล้ว
"ถ้าเอานาย ก. พล.ต. หรือ พล.อ. มาเป็น ก็จะเกิดความขัดแย้งอีก ที่พรรคเพื่อไทยกอดคอกันอยู่ได้ทุกวันนี้ เพราะจุดศูนย์รวมอยู่ที่คนๆ เดียว ซึ่งเป็นวัฒนธรรมขององค์กรนี้ตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทยแล้ว และเป็นวัฒนธรรมที่ทำให้พรรคการเมืองนี้ใหญ่โต และยังเป็นความรู้สึก ความต้องการของประชาชน ไม่มีใครมาแทนพ.ต.ท.ทักษิณได้ ซึ่งเป็นสภาพความเป็นจริงที่พรรคไม่สามารถฝืนความรู้สึก ความต้องการของประชาชนได้ พ.ต.ท.ทักษิณ สร้างมาตรฐานไว้สูง ทำให้หาคนที่จะมาเป็นหัวหน้าพรรคที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงลำบาก" นายจตุพรกล่าว
"ส.ส.พรรคเพื่อไทยได้มาพูดคุยให้มาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยจริง แต่ยังไม่มีการพูดคุยในระดับแกนนำ โดยส.ส.ที่เข้ามาชวนนั้นส่วนใหญ่เป็นลูกศิษย์ลูกหาทั้งนั้น โดยชวนให้เข้ามาร่วมดูแลบ้านเมือง เพราะตอนนี้มีวิกฤติมาก แต่ส่วนตัวยังไม่ได้รับปากอะไร ทั้งนี้ที่ผ่านมาทุกคนรู้ดีว่าพรรคเพื่อไทยมาจากพรรคไทยรักไทย ที่ทางกลุ่มของผมมีส่วนในการก่อสร้างพรรคขึ้นมา"
นายเสนาะ กล่าวว่า ตอนนี้พรรคเพื่อไทยไร้ญาติผู้ใหญ่ที่คอยให้ความอบอุ่น แต่ตอนนี้ยอมรับว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องมีการพูดคุยและสอบถามประชาชนอีกครั้ง สำหรับตนแล้วอะไรก็ได้ ขอให้ประเทศชาติ บ้านเมือง ประชาชนอยู่ได้ ผ่านวิกฤตไปได้ อย่าให้เรือบรรทุกคน 60 ล้านคน ต้องอับปางลงเพราะบ้านเมืองวันนี้น่าห่วงมาก
เมื่อถามว่า ท่าทีอย่างนี้แสดงว่า ยอมรับที่มาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย ใช่หรือไม่ นายเสนาะ กล่าว ยังไม่ได้ยอมรับ แต่ต้องมีการหารือกันก่อนเพื่อทำงานแต่ต้องมีการหารือเพื่อส่วนรวมอย่างแท้จริง ซึ่งตนไม่ได้มีเงื่อนไขใดทั้งสิ้น
เมื่อถามว่าได้มีการพูดคุยกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แล้วหรือไม่ นายเสนาะกล่าวว่าพ.ต.ท. ทักษิณ ไม่ได้โทรศัพท์มา อย่างไรก็ตามขอเวลาตัดสินใจก่อน เพราะตอนนี้ยังมีเวลา
ด้านพ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย กล่าวว่า การทาบทามนายเสนาะ เพื่อให้มาทำงานการเมืองร่วมกัน โดยมีตำแหน่งที่สำคัญในพรรค แต่ไม่ใช่หัวหน้าพรรค ซึ่งตำแหน่งหัวหน้าพรรคนั้นต้องรอดูมติของสส.ในพรรคด้วย ส่วนจะเป็นตำแหน่งอะไรนั้น ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม แต่ต้องมีการหารือกับผู้ใหญ่ภายในพรรคอีกครั้ง และขณะนี้ยังเห็นว่านาย ยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรค ยังเป็นหัวหน้าพรรคที่ดี หากจะมีการเปลี่ยนหัวหน้าพรรค ต้องมีการยุบสภาก่อน
"นายเสนาะเป็นคนหนึ่งที่จะสามารถรวมใจของทุกฝ่ายเข้าหากันได้ และนายเสนาะก็หวังที่จะแก้ปัญหาชองบ้านเมือง ลดความขัดแย้ง ซึ่งมีแนวทางคล้ายกัน ส่วนส.ส.ในพรรคเพื่อไทยจะยอมรับหรือไม่นั้น ก็แล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละคน แต่เชื่อว่าน่าจะยอมรับได้"
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ ในการรวมพรรคประชาราชกับพรรคเพื่อไทย พ.อ.อภิวันท์ กล่าวว่า แนวโน้มก็น่าจะเป็นเช่นนั้น แต่ยังไม่ได้มีการพูดคุยถึงรายละเอียดว่าจะเป็นการรวมพรรคการเมืองเลยหรือไม่
ส่วนกรณีที่จะให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็นหัวหน้าพรรคนั้น ตนไม่ขอวิจารณ์ และการที่ร.ต.อ.เฉลิม เสนอชื่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นหัวหน้าพรรค เรื่องนี้ตนมองว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็มีความสามารถไม่แพ้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แต่น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ปฎิเสธ ไม่รับตำแหน่งดังกล่าว
ด้านนายอิทธิเดช แก้วหลวง ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เสนอให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ว่า ตนได้คุยกับส.ส.หลายคนในพรรค และได้เสนอความเห็นส่วนตัวว่า ต้องให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นหัวหน้าพรรค เพราะมีคุณสมบัติที่โดดเด่นกว่า นายอภิสิทธ์ เวชชาชีวะ และน.ส.ยิ่งลักษณ์ มีประวัติโปร่งใส มีความสามารถด้านเศรษฐกิจ และที่สำคัญคือเป็นน้องสาวของพ.ต.ท.ทักษิณ ที่ประชาชนนิยมชมชอบ และหากจะให้ร.ต.อ.เฉลิม ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรค เห็นว่าไม่เหมาะสม เพราะต้องถูกฝ่ายตรงข้างขุดคุ้ยย้อนหลังไปสมัยเป็นนายร้อยตำรวจ มาเปิดเผยต่อสาธารณะ หากเป็นแบบนี้อยู่ไม่ไหวแน่ รับไม่ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า ข้อเสนอของร.ต.อ.เฉลิม นั้น ดูเหมือนว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ และนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ภรรยานายสมชาย วงศ์ศวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่ค่อยพอใจ เพราะมองว่าเป็นการเสนอที่ผิดเวลา นายอิทธิเดช กล่าวว่า เหมือนกับเวลาที่พี่ หรือน้องจะไปเป็นดาราภาพยนตร์ คนในบ้านก็ต้องท้วงติงเป็นธรรมดาว่า อย่าดีกว่า ไม่มีใครบอกให้เอาเลยๆ แบบนั้นจะเสียราคา แต่เมื่อได้เป็นหัวหน้าพรรคจริงๆแล้ว ก็ต้องช่วยกันทำงานอยู่แล้ว
**ชี้"เหนาะ"แก่เกินที่จะนั่งหน.พรรค
ส่วนที่มีการไปทาบทามนายเสนาะ เทียนทอง ให้มาเป็นหัวหน้าพรรค หรือคณะผู้บริหารพรรคเพื่อไทยนั้น นายอิทธิเดช กล่าวว่า ส.ส.ในพรรคเป็นคนรุ่นใหม่เยอะมาก โดยเฉพาะในภาคอีสาน จึงมีความเป็นไปได้สูงมากว่า นายเสนาะน่าจะมาเป็นที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค หรือประธานที่ปรึกษาพรรค หากให้มาเป็นหัวหน้าพรรคนั้น คงจะเกินวัยไปแล้ว เพราะต้องนำไปเปรียบกับนายอภิสิทธิ์ด้วย ดังนั้นจะต้องมีคุณสมบัติเท่ากัน หรือดีกว่า
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม เสนอให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่ว่า เจ้าตัวได้ออกมาปฏิเสธแล้ว เนื่องจากยังไม่พร้อมเพราะไม่เคยคิดจะเป็นหัวหน้าพรรค หรือแม้แต่นายกฯ อีกทั้งยังมีภารกิจทางด้านธุรกิจที่ต้องรับผิดชอบอยู่ การเดินทางไปช่วยหาเสียงเลือกตั้งซ่อมส.ส.สกลนคร และศรีสะเกษ ที่ผ่านมานั้นเป็นเพราะพรรคทำหนังสือเชิญไป ส่วนการปรับโครงสร้างพรรคใหม่นั้นขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็น เพราะหัวหน้าพรรคคนปัจจุบันก็ยังทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทย จะเน้นการบริหารในรูปแบบของคณะกรรมการที่จะขับเคลื่อน ไม่ใช่ดี เด่น ดัง คนเดียว
**ยก"พ่อแม้ว"ศูนย์รวมใจคนในพรรค
ด้านนายจตุพร เจริญเชื้อ ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ถ้ามีหัวหน้าพรรคคนใหม่ในขณะนี้แล้วทำให้พรรคเกิดความแตกแยก แบ่งฝักแบ่งฝ่าย ก็ยังไม่จำเป็นต้องมี เพราะส.ส.ทุกคนยังยึดมั่นอยู่ในใจว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นหัวหน้าพรรค เป็นจุดศูนย์รวมของทุกคนในพรรค แม้แต่ประชาชนก็รับรู้ ส่วนงานในสภานั้นก็มี ร.ต.อ.เฉลิม ทำหน้าที่ประธานส.ส.ขับเคลื่อนงานในสภาได้ดีอยู่แล้ว
"ถ้าเอานาย ก. พล.ต. หรือ พล.อ. มาเป็น ก็จะเกิดความขัดแย้งอีก ที่พรรคเพื่อไทยกอดคอกันอยู่ได้ทุกวันนี้ เพราะจุดศูนย์รวมอยู่ที่คนๆ เดียว ซึ่งเป็นวัฒนธรรมขององค์กรนี้ตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทยแล้ว และเป็นวัฒนธรรมที่ทำให้พรรคการเมืองนี้ใหญ่โต และยังเป็นความรู้สึก ความต้องการของประชาชน ไม่มีใครมาแทนพ.ต.ท.ทักษิณได้ ซึ่งเป็นสภาพความเป็นจริงที่พรรคไม่สามารถฝืนความรู้สึก ความต้องการของประชาชนได้ พ.ต.ท.ทักษิณ สร้างมาตรฐานไว้สูง ทำให้หาคนที่จะมาเป็นหัวหน้าพรรคที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงลำบาก" นายจตุพรกล่าว
