หน.เพื่อไทยอ้างพรรคไม่รู้เรื่องถวายฎีกาช่วย “แม้ว” โบ้ย ส.ส.ทำส่วนตัว อ้างถ้ากฎหมายไม่ห้ามก็ไม่มีปัญหา พร้อมตีกัน กกต.ฟันนายใหญ่โฟนอินช่วยหาเสียงเลือกตั้งซ่อม โบ้ยให้ดูพรรคอื่นด้วย ด้านโฆษกหน้ายี่เก ตีฝีปาก “ข้าชั่ว-เอ็งเลว” โยน “ตือ” ก็ช่วยหาเสียง
วันนี้ (29 มิ.ย.) นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย เตรียมตั้งโต๊ะล่ารายชื่อประชาชนถวายฎีกาแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีให้ได้กลับประเทศไทยว่า เรื่องนี้คณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยไม่ได้มีส่วนรู้เห็น เนื่องจากไม่ได้มีมติให้ ส.ส.ของพรรคไปดำเนินการล่ารายชื่อประชาชน เแต่น่าจะเป็นการดำเนินการส่วนตัวของ ส.ส. ซึ่งถ้ากฎหมายไม่ห้าม ส.ส.ทำก็ไม่มีปัญหา ส่วนเรื่องสมควรหรือไม่สมควรนั้นเป็นเรื่องของความรู้สึก
นายยงยุทธแถลงถึงผลการเลือกตั้งซ่อม จ.ศรีสะเกษ ที่พรรคเพื่อไทยได้รับชัยชนะเหนือพรรคชาติไทยพัฒนาว่า พรรคเพื่อไทยขอขอบพระคุณพี่น้องประชาชน จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเสียงประชาชนคือเสียงสวรรค์ที่ให้กำลังใจพวกเรามาเสมอ และขอขอบคุณทีมหาเสียงทุกทีมที่ช่วยกันลงพื้นที่หาเสียงอย่างไม่รู้จักเหน็ดไม่รู้จักเหนื่อย สำหรับตัวผู้สมัครก็ต้องขอบคุณที่ไว้วางใจอยู่กับพรรคเรา และจะมาเป็นกำลังสำคัญของพรรคเราต่อไป
สำหรับกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะพิจารณาการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ มายังเวทีปราศรัยของผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย ในการเลือกตั้งซ่อมนั้น นายยงยุทธกล่าวว่า กกต.ต้องดูตามตัวบทกฎหมายให้เคร่งครัดว่า เขียนไว้อย่างไรก็ต้องวินิจฉัยให้เป็นไปตามนั้น นอกจากนี้ กกต.ก็ต้องพิจารณาการดำเนินการหาเสียงของพรรคการเมืองอื่นๆ ว่าได้ดำเนินการไว้อย่างไร โดยตนหวังว่าการพิจารณาของ กกต.เกี่ยวกับเรื่องนี้ จะเป็นมาตรฐานเดียวกันหมดทุกพรรค
ด้าน นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวอีกว่า การโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ นั้นวันนี้ กกต.ควรต้องพิจารณาความเคลื่อนไหวของพรรคการเมืองอื่นๆ ด้วยว่า ทั้งอดีต 111 กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย และ 109 อดีตกรรมการบริหารพรรคการเมืองที่ถูกยุบพรรคนั้นเป็นอย่างไร เพราะล่าสุดในการหาเสียงเลือกตั้งซ่อมเขต 3 จ.ศรีสะเกษ คณะหาเสียงของตนก็ได้พบกับคณะของนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล อดีตรองหัวหน้าพรรคชาติไทยที่ไปช่วยผู้สมัคร ส.ส.ศรีสะเกษ ของพรรคชาติไทยพัฒนา ในการเลือกตั้งซ่อมเหมือนกัน