xs
xsm
sm
md
lg

UKEMลุ้นรู้ผลดีลใหญ่ในม.ค.นี้ ถ้าสำเร็จดันรายได้ทั้งปีโต2.5พันล.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTV ผู้จัดการรายวัน - "ยูเนี่ยน ปิโตรเคมีคอล"รอสรุปดีลใหญ่ภายในเดือนมกราคมนี้ คาดหากคว้างานเป็นตัวแทนจำหน่ายเคมีภัณฑ์จากสหรัฐฯได้จะช่วยปั๊มรายได้ปีนี้โตเพิ่มเป็น 2,500 ล้านบาท ชี้สินค้าเป็นวัตถุดิบที่มีความต้องการใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม มีการนำเข้าถึง 4-5หมื่นตันต่อปี ขณะที่โครงการโรงงานเอทอนอลได้ข้อสรุปเรื่องกำลังการผลิตที่ 3 หมื่นตัน เหลือแค่จัดหาแหล่งเงินทุนและสถานที่ ยอมรับอาจต้องเลื่อนเปิดเชิงพาณิชย์ไปเป็นปี 2555 แทน

นายพีรเจต สุวรรณภาศรี รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูเนี่ยน ปิโตรเคมีคอล จำกัด (มหาชน) หรือUKEM เปิดเผยว่า ในเดือนมกราคมนี้บริษัทจะได้ข้อสรุปในเรื่องการรับเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าจากผู้ผลิตในสหรัฐอเมริกา หลังล่วงเลยมาจากเมื่อสิ้นปีที่ผ่านมา ซึ่งหากทุกอย่างลุล่วงจะช่วยผลักดันรายได้ของบริษัทปีนี้เพิ่มขึ้น 200 – 300 ล้านบาท

สำหรับ สินค้าใหม่ที่บริษัทคาดหวังจะเป็นตัวแทนจำหน่ายนี้ คือ ผงสีขาว หรือ ไททาเนี่ยม ไดอ๊อกไซด์ ซึ่งเป็นวัตถุดิบด้านเคมีภัณฑ์ที่มีความต้องการในหลายอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมสี ก่อสร้าง กระดาษ พลาสติก เป็นต้น โดยในประเทศประเทศไทยมีการนำเข้าและซื้อขายสารเคมีดังกล่าวประมาณ 4 – 5 หมื่นตันต่อปี หรือคิดเป็นเม็กเงินประมาณ 3,000 – 4,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ แผนการเข้ารับเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าเคมีภัณฑ์ประเภทอื่นของบริษัทนั้น เริ่มขึ้นเมื่อUKEM มองว่าโครงการใหญ่ของมีบริษัทยังไม่สามารถดำเนินการได้ตามที่คาดการณ์ไว้ และเพื่อต้องการสร้างความแข็งแกร่งทางธุรกิจ และขยายตลาดเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต

ขณะเดียวกัน รองกรรมการผู้จัดการ UKEM กล่าวถึงความคืบหน้าในการก่อสร้างโรงงานเอทานอลของบริษัทย่อย UKEM ETHANOL AND EASTER Co., Ltd.ว่า ตอนนี้คณะกรรมการของบริษัทได้สรุปขนาดกำลังผลิตเอทานอลของโรงงานแห่งนี้ไว้ที่ 30,000ตัน ซึ่งขั้นตอนในขณะนี้อยู่ในช่วงดำเนินการด้านเงินลงทุน และการพิจารณาเลือกทำเลที่ตั้งโรงงานให้มีศักยภาพและเอื้ออำนวยต่อการดำเนินธุรกิจมากที่สุด โดยเฉพาะในเรื่องน้ำซึ่งถือว่ามีความจำเป็นมาก ทำให้การเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ในโครงการดังกล่าวอาจต้องเลื่อนออกไปเป็นปี 2555 จากเดิมที่ตั้งเป้ามาจะสามารถดำเนินการได้ภายในปี 2554 อย่างไรก็ตาม บริษัทจะพยายามให้ทุกอย่างลงตัวและแล้วตามแผนเดิมที่กำหนดไว้

โดยสถานที่จัดตั้งโรงงานใหม่นี้คาดว่าจะอยู่ที่ จ.สุพรรณบุรี เพราะมองว่าเป็นทำเลที่มีทรัพยากรทางน้ำที่สมบูรณ์ อีกทั้งอยู่ใกล้กับจ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นแหล่งเพาะปลูกมันสัมปะหลัง ที่จะเป็นวัตถุในการผลิตเอทานอลของบริษัท นอกจากนี้ โรงงานดังกล่าวจะใช้เวลาก่อสร้างและติดตั้งเครื่องจักรประมาณ 1 ปี ด้วยงบลงทุนประมาณ 250 -300 ล้านบาท และถ้าทุกอย่างแล้วเสร็จจะสามารถช่วยสร้างรายได้ให้แก่บริษัทประมาณ 600 - 700 ล้านบาทต่อปี

ส่วนแนวโน้มอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ในปี 2553 นายพีรเจต กล่าวว่า ภาพรวมดูดีขึ้นจากปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในช่วงปลายไตรมาส4/52 จนถึงไตรมาส1ปีนี้ เนื่องจากราคาเคมีภัณฑ์มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกับราคาน้ำมัน รวมไปถึงปริมาณความต้องการใช้ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งยอมรับว่าเกิดจากกรณีที่หลายโครงการด้านเคมีภัณฑ์ ในนิคมอุตสหกรรมมาบตาพุดถูกระงับการก่อสร้าง ส่งผลให้วัตถุดิบในด้านนี้มีน้อยลงและไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้โดยรวมที่มี จนผลักดันให้ราคาสินค้าเคมีภัณฑ์ปรับตัวขึ้น อย่างไรก็ตามหลังเดือนมีนาคม หรือไตรมาส1 ไปแล้ว จำเป็นที่จะต้องประเมินถึงทิศทางของธุรกิจนี้อีกครั้ง

"ผลดำเนินงานในไตรมาส4ปีที่ผ่านมา ผมมองว่าใกล้เคียงกับไตรมาส3 ไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ในช่วงปลายไตรมาส4 ราคาน้ำมันและเคมีภัณฑ์ปรับตัวสูงขึ้น ตามดีมานต์ที่มีอยู่สูงมองว่า แนวโน้มของธุรกิจในปีนี้ น่าจะเติบโตไปได้ด้วยดีตามภาวะการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ"

พร้อมกันนี้ UKEM ยืนยันว่า โซลเว้นท์ ยังเป็นสินค้าหลักของบริษัท โดยในปี2553 หากประเมินจากยอดความต้องการที่เพิ่มขึ้นน่าจะผลักดันให้รายได้ในส่วนนี้โตขึ้นอีก 10% หรือ 2,200 ล้านบาท จากปีที่ผ่านซึ่งอยู่ที่ระดับ 2,000ล้านบาท และถ้าบริษัทได้รับการแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าตัวอื่นๆ คาดว่าจะทำให้รายได้ในปีนี้โตขึ้นประมาณ 2,400 – 2,500 ล้านบาท

ก่อนหน้านี้ รองกรรมการผู้จัดการUKEM กล่าวว่า การก่อสร้างโรงงานเอทานอล ว่า เมื่อได้ทำการศึกษาถึงแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจและความต้องการเอทานอลในอนาคตแล้ว บริษัทจึงมีการขยายโปรเจกต์ดังกล่าวให้ใหญ่ขึ้น ซึ่งโปรเจกต์นี้ไม่เพียงต้องการจะมุ่งผลิตแต่เอทานอล หรือแก๊สโซลฮอล์เท่านั้น แต่ในเฟสต่อๆไปก็จะมีการขยายสินค้าในด้านเคมีภัณฑ์อื่นๆเพิ่มเติมออกมาต่อเนื่อง เพราะมองว่าเอทานอลเพียงอย่างเดียวไม่ได้ช่วยในแง่ธุรกิจได้มากนัก แต่หากพัฒนาไปสู่เคมีภัณฑ์ตัวอื่นๆได้จะเป็นเรื่องที่ดีกว่า

ขณะที่ความคืบหน้าในการเจรจากับคู่ค้าทางธุรกิจให้รับเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าจากสหรัฐอเมริกานั้นคาดว่าจะทราบผลการเจรจาภายในสิ้นปีที่ผ่านมา เหตุเพราะต้องมีการพูดถึงรายละเอียดต่างๆอีกหลายเรื่อง ทั้งเรื่องคุณภาพ ศักยภาพ เนื่องจากเนื่องจากเป็นโปรเจกต์ขนาดใหญ่
กำลังโหลดความคิดเห็น