"เด็ดดอกไม้รายทาง"
โดย...อัญชะลี ไพรีรัก
ช่วงปีใหม่ไปพักผ่อนที่ “หัวหิน” ได้เจอ “คนกรุงเทพฯ” กับ “นักท่องเที่ยว”เยอะแยะ บรรยากาศคึกคักเบียดเสียด แย่งกันกินแย่งกันใช้ รถราแน่นขนัดไม่ต่างจาก “ปากช่อง”
ปีหลังๆมานี้ไปหัวหินทีไร ต้องมีเรื่องกลุ้มใจกลับมาบ่นเสียทุกเที่ยว เพราะหัวหินกำลังจะสิ้นมนต์ขลัง ไม่ใช่เพราะใคร แต่เป็นเพราะเรา !!!
เฝ้ามองดูการเติบโตของหัวหินแล้วพาลนึกไปถึง ความรกรุงรังของบ้านเมือง แลสภาพเสื่อมโทรมของ แหล่งท่องเที่ยวทุกแห่งในบ้านเราแล้วหดหู่น่าใจหาย
ถึงเวลาแล้วที่จะต้องเรียกร้องให้ปรับมาตรฐานการศึกษา จัดการทำผังเมือง วางระบบสาธารณูปโภค ให้เข้มแข็ง รวมถึงการจัดเก็บขยะบ้าน-ขยะอุตสาหกรรมอย่างประณีตจริงจังทั่วประเทศ
สื่อมวลชนและประชาชนต้องร่วมมือกันจี้ให้รัฐจัดการแบ่งโซนพื้นที่ ตามลักษณะการใช้งานของแต่ละท้องถิ่น บ้านเมืองทุกแห่งต้องเป็นระเบียบเรียบร้อย แยกเขตที่อยู่อาศัย ออกจากแหล่งการค้า และย่านอุตสาหกรรม
ซึ่งจะช่วยให้ง่ายต่อการจัดการด้านสาธารณะสุข สะดวกต่อการบำรุงดูแลรักษา ดีต่อการจัดการคมนาคม และสาธารณูปโภคพื้นฐานที่จำเป็น
เหลือเชื่อที่สังคมไทยละเลยเพิกเฉยและปล่อยให้เมืองใหญ่ๆ กับสถานที่ท่องเที่ยวทุกแห่งในบ้านเรา ถูกทำลายทั้งรู้และไม่รู้ ทุกแห่งเต็มไปด้วยความเจริญน่าเกลียดตามแบบฉบับกรุงเทพฯ และเห็นแก่ตัว
เดี๋ยวนี้...ถึงกับมีการพูดกันต่อๆไปแล้วว่า “รีบไปเที่ยวเมืองปาย ก่อนปายจะเปลี่ยน” ความเจริญ และ การเติบโตของการท่องเที่ยวอย่างมูมมาม กำลังทำลายเมืองปายเหมือนที่เคยทำลาย “เชียงใหม่” และเมืองท่องเที่ยวอื่นๆ
จะเห็นได้ว่า ความงดงามของสถานที่ท่องเที่ยวทั่วไทย กำลังถูกรุกล้ำย่ำยีด้วยการตัดไม้ทำลายป่า ทำลายต้นน้ำลำธาร แผ้วถางพื้นที่เพื่อก่อสร้างอาคารก่ออิฐถือปูนอย่างขาดศิลปะ ตั้งร้านค้ารุกล้ำพื้นที่สาธารณะเพื่อขายเครื่องดื่ม อาหาร ของที่ระลึก ทิ้งขยะไปทั่ว จนถึงกับผุดบ่อน – รำซิ่ง-ซ่องโสเภณีมั่วไปหมด
ทั้งนี้ก็เพื่อ “ธุรกิจท่องเที่ยว”โดยไม่คำนึงถึงธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม ระบบสาธารณูปโภค และ ความกลมกลืนกับทัศนียภาพ
สถานที่ท่องเที่ยวของไทยทุกแห่งที่ได้รับความนิยม จึงมีสภาพเหมือนผู้หญิงสวยกำลังถูกคนรัก รูปหล่อ ปากหวาน ตลบตะแลง “ข่มขืนใจ” โดยมีญาติโกโหติกา พ่อ แม่ พี่น้อง เพื่อนฝูงและชาวต่างชาติมายืนเข้าคิว “รุมโทรม” อย่างไม่ปราณีปราศรัย
หัวหินวันนี้จึงเหมือน “ปาย” เหมือน “ปากช่อง” เหมือน “กระบี่” และเหมือนๆกับเมืองท่องเที่ยวทุกเมืองที่ถูกกระทำชำเราจากนายทุน และนักท่องเที่ยว โดยภาครัฐยืนดูและเชียร์การย่ำยีครั้งนี้ อย่างคนอ่อนแอไร้สติปัญญาจะแก้ไข
“ความนิยม” ที่เกินขอบเขต ขาดความรับผิดชอบตัวเดียวเท่านั้น ทำให้เมืองท่องเที่ยวที่งดงามของเรา ถูกรุมทึ้งอย่างไม่มีกติกา และ ไร้วัฒนธรรม โดยมีคนท้องถิ่นร่วมมือด้วยความกระหายและรู้เท่าไม่ถึงการณ์
วันนี้เงินเป็นฟ่อนจากคนมือใหญ่ถูกโปรยลงมาให้คนท้องถิ่น เพื่อแลกกับเกาะแสนสวย ชายหาดขาวสะอาด ต้นไม่ดกหนาทึบ ปุยเมฆบางเบา น้ำตกซู่ซ่า ลำธารไหลเอื่อย และ ความหนาวเย็นที่เราชื่นอกชื่นใจ
เงินหนาของนายทุนหิวกระหาย ทำลายความสวยงามของธรรมชาติเสียสิ้น และ ทดแทนความสูญเสียนั้นๆด้วยบังกะโลคอนกรีตไร้รสนิยม รุกป่า ล้ำลงไปในทะเล คอนโดมิเนียมสูงเสียดฟ้าบังแดด -บังลมธรรมชาติ ภัตตาคารอาหารรสชาติห่วยแตกราคาแพงลิบลิ่ว ยาเสพติด และคาราโอเกะ ที่ส่งเสียงแหกปากไม่บันยะบันยังไปทั้งท้องทุ่ง ขุนเขา และ ชายหาด
ตัวอย่างของหัวหิน หมู่บ้านชาวประมง และ ถิ่นพักร้อนที่เคยเงียบสงบ สวย สดชื่น ....เวลานี้แปรเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงจน “ปริศนา” กับ “ท่านชายพจน์” ที่เคยเกาะเกี่ยวหยอกล้อกันบนชายหาดของชนชั้น “ศักดินา” อาจจำหัวหิน “ในวันวาน”ไม่ได้แล้ว และ บางทีต้องพากันไปเดินรำลึกความหลังครั้งเก่าที่หมู่บ้านโบราณ จำลอง “เพลินวาน”แทนก็เป็นได้
ภาพล่าสุดของหัวหิน คือ ความแน่นขนัดจนหายใจไม่ออก เพราะ หาดทุกหาดถูกจับจองโดยนายทุนต่างถิ่น เพื่อผุดคอนโดมิเนียม สูงลิบลิ่วริมทะเล และ ริมถนน เครื่องมือก่อสร้างทำงานทั้งวันทั้งคืน ฝุ่นฟุ้งกระจายไปทั่ว เกิดการปิดกั้นอาณาเขต แบ่งชายหาดออกไปของใครของมัน จนนักท่องเที่ยวทั่วๆไปไม่สามารถหาทางลงไปนอนเล่นบนชายหาดได้เหมือนเก่า
ชายหาดหัวหินวันนี้ไม่ขาวละเอียดกว้างขวางตีวงโค้งยาวสุดลูกหูลูกตาดังอดีต หลายส่วนปนเปื้อนน้ำเสียจากที่พักอาศัย ทรายจึงเริ่มเปลี่ยนสี มีสิ่งก่อสร้างกีดขวางทางเดินและรุกล้ำทะเล
บนชายหาดจะหาที่นั่งสงบๆ ปูผ้าปูเตียงที่หิ้วมาด้วยได้ยากเต็มที่ เนื่องจากถูกจับจองด้วยเตียงพ่อค้า ร่มแม่ค้า บาร์เบียร์ หนวกหู บานาน่า โบ้ท เสียงดัง เรือเร็ว แข่งกันแล่นฉวัดเฉวียน และร่มชูชีพ ลอยเกลื่อนฟ้า
ของเล่นใหม่ของคนทันสมัยเหล่านี้ค่อยๆ เบียด “ม้าแกลบ” และ “เก็บหอยจับปูลม” ซึ่งเคยเป็นเกมกีฬาแสนสุขแก่นเซี้ยวของเราในวันวานให้ตกทะเลไปอย่างน่าเสียดาย
ร้านอาหารริมทะเลหัวหินก็มีสภาพไม่ต่างไปจากร้านอาหารริมทะเลของเมืองชายหาดทุกแห่งในบ้านเรา ที่จะต้องสร้างอาคารรูปทรงประหลาดๆ กั้นทางน้ำ รุกล้ำยื่นเข้าไปในทะเลให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ แน่นอนแทบทุกร้าน ทิ้งสิ่งสกปรกโสโครกและเศษอาหารลงทะเลด้วยเช่นกัน
ส่วนบนบกก็มีร้านอาหารทุกรูปแบบ เครื่องดื่มทันสมัย ผับ บาร์ คาราโอเกะ ล้วนสีสันฉูดฉาด ผุดขึ้นไม่บันยะบันยัง แม้จะแซมด้วยร้านอาหารแสนสวย และ ร้านขนมแสนเก๋ ของเหล่าศิลปิน-คนดังเปี่ยมรสนิยมหลายคนที่เลือกฝังชีวิตไว้ที่หัวหิน แต่กระนั้นน้ำน้อยก็ย่อมแพ้ไฟอยู่ดี
วันนี้เราจึงได้เห็นเรือนไม้โบราณของตลาดหัวหินกลายเป็นตึกแถวน่าเกลียด ตัวเมืองร้อนแรงคึกคักไปด้วยห้างสรรพสินค้าทันสมัย โรงโบว์ลิ่ง โรงหนัง ร้านขายเฟอร์นิเจอร์ชื่อดัง กาแฟต่างชาติ ไอศกรีม พิซซ่า ดีลิเวอร์รี่ จนถึงร้านตัดสูท 24 ชั่วโมง
หมดกันสำหรับ “หัวหิน” กับภาพชายหาดสีขาว บ้านขนมปังขิง ลีลาวดีดกดื่น และความน่ารักของหมู่บ้านชาวประมง
มนต์เสน่ห์ของหัวหิน ค่อยๆ ถูกกลืนหายไปกับกองทัพนักท่องเที่ยว และ นายทุน รวมถึงสิ่งที่เรียกกันว่า “ความเจริญ” ที่มากับนโยบายการท่องเที่ยวไม่มีวิสัยทัศน์
หัวหินกำลังจะถูกเปลี่ยนโฉมจาก ลูกสาว ชาวประมงผู้สวยบริสุทธิ์แสนดี ให้กลายเป็นหญิงงาม สูงศักดิ์ หัวนอก เปรี้ยวจี๊ดจ๊าด จอมปาร์ตี้ เหมือน “ภูเก็ต ” ขืนปล่อยให้หัวหินมีชีวิตเยี่ยงนี้ อีกไม่นานคงมีชะตากรรมไม่ต่างไปจาก “พัทยา”
ล่าสุด...ด้วยความที่หาดหัวหินสวย ไปมาสะดวกสบาย กินอยู่ไม่แพงนัก ฝรั่งมังค่าตาน้ำข้าวเลือกหัวหินเป็นถิ่นเกษียนวัย
การเข้ามาปักหลักของเศรษฐีชราที่มาพร้อมเงินดอลล่าร์ และ ยูโร ทำให้เกิดโรงเรียนสอนภาษา ร้านอาหารฝรั่ง บาร์เบียร์ การค้าประเวณี และ วิถีเมียเช่า
วันนี้สามล้อถีบหายไป กลายเป็นวินมอเตอร์ไซค์ เสียงดังไปทุกบ้านร้านตลาด ตกค่ำหน่อยจะเห็นสาวๆต่างถิ่น แต่งกายเปิ๊ดสะก๊าดเกาะหลังพี่วินมอ’ไซค์อาศัยพาไป “ทำงาน” ที่โน่นที่นี่ เร็ว ไว ดังใจนึก
เห็นสภาพหัวหินในปัจจุบันแล้วขนลุก นึกๆก็เสียดายวันคืนเก่าๆของหัวหินที่เต็มไปด้วยความบริสุทธิ์ สะอาดอบอุ่น สวยงาม อาหารทะเลสด สะอาด อร่อย ตลาดโต้รุ่งมีเอกลักษณ์น่ารัก ทุกอย่างของหัวหินช่างติดตาตรึงใจ
ผิดกับหัวหินในปัจจุบัน...ช่างเป็นหัวหินที่ฉูดฉาด เอะอะมะเทิ่ง มูมมาม ไร้ระเบียบ
จัดระเบียบหัวหินเสียเถิด...ก่อนที่การรุกคืบของนายทุน และการท่องเที่ยว จะทำลายหัวหินไปมากกว่านี้ อย่าลืมว่า ความเจริญต้องไม่บั่นทอนวิถีดั้งเดิมและทำลายธรรมชาติ
ก่อนจบวันนี้ฝากใครก็ได้ช่วยบอก “เจ้เขียว” ให้ด้วยว่าระบอบทักษิณเลว และ จาบจ้วง “ในหลวง”แค่ไหน
ปลดรูปทักษิณ และ ยกถ้อยคำเชิดชูลงจากเสากลางร้านเดี๋ยวนี้ …ไม่งั้น...ไม่กิน
