ASTVผู้จัดการออนไลน์-- ทางการคอมมิวนิสต์นครโฮจิมินห์ต้องตกตะลึง เมื่อกองกำลังผสมของเจ้าหน้าที่กระทรวงความมั่นคงภายในบุกเข้าทลายสถานอาบอบนวดสองแห่งในย่านใจกลางกรุง ในคืนวันอังคาร (9 ธ.ค.) ที่ผ่านมา และ ที่นั่นกักขังหญิงสาวเกือบ 100 คนเป็นทาสค้าสวาท เกือบทั้งหมดเป็นหญิงสาวที่ถูกล่อหลวงล่อลวงจากเขตชนบทของประเทศ
เจ้าหน้าที่กล่าวว่าสถานอบอบนวดเติ่นหว่างฟ๊าต (Tan Hoang Phat) ทั้งสองแห่งที่ตั้งอยู่ในเขตถูดึ๊ก (Thu Duc) เป็นเพียงการแอบแฝงเท่านั้น แต่ข้างในเป็นซ่องโสเภณีขนาดใหญ่เปิดเย้ยกฎหมาย มีการซอยเป็นห้องเล็กๆ กักขังหญิงสาวเอาไว้รวม 80 คน
เจ้าหน้าที่ปฏิบัติคัร้งนี้โดยไม่แจ้งให้ตำรวจโฮตจิมินห์ทราบล่วงหน้า โดยนำกำลังจากส่วนกลางบุกตรวจค้นบ้านพักของนางฟานถิเอี๋ยน (Phan Thi Yen) วัย 29 ปีกับนายฟานกาวจิ (Phan Cao Tri) วัย 35 ปี สามีภรรยาเจ้าของซ่อง ยังได้พบหญิงสาวถูกขังเอาไว้อีก 18 คน
หญิงสาวที่ตกเป็นเหยื่อส่วนใหญ่จะไปจากจังหวัดทางภาคใต้ของประเทศ พวกเธอให้การว่าถูกว่าจ้างให้ไปทำงานในสถานบริการนวดแผนโบราณ โดยต้องเซ็นสัญญาเป็นหนี้ค่าเครื่องสำอาง เสื้อผ้าและค่าที่พักกับบริษัทเตินหว่างฟ๊าตคนละ 24 ล่านด่ง (1,500 ดอลลาร์) กับค่าฝึกอบรมอีกคนละ 15 ล้านด่ง
ตามรายงานของสำนักข่าวเวียดนามเอ๊กซ์เพรส "หมอนวด" แต่ละคนจะได้รับค่าจ้างเพียง 500,000 ด่ง (31 ดอลลาร์) ต่อเดือน เงินค่าทิปที่ได้จากแขกทั้งหมด ต้องให้นายจิกับนางเอี๋ยนเป็นการจ่ายหนี้ และ ยังมีการหักโน่นหักนี่อีกเป็นระยะๆ
หญิงสาวที่ต้องการกลับไปเยี่ยมครอบครัวจะต้องเซ็นสัญญาเป็นหนี้บริษัทอีก 15 ล้านด่ง หากต้องการหยุดพักผ่อนจะต้องเซ็นสัญญาหนี้ครั้งละ 50 ล้านด่ง "หมอนวด" ที่ขยันขันแข็งอาจจะมีรายได้หลายร้อยดอลลาร์ แต่เงินส่วนใหญ่จะถูกนายจิกับนางเอี๋ยนหักไป
หญิงสาวที่ถูกกักขังให้เป็นทาสค้าสวาทเริ่มทำงานตั้งแต่ 9:00 น. ไปจนถึงตีสองของวันใหม่ทุกวัน โดยมีแก๊งแมงดาคอยควบคุม
ตำรวจกล่าวว่าหลายคนถูกทุบตี กระทั่งถูกพวกแมงดารุมข่มขืนหากแข็งข้อ และ หากหญิงสาวคนใดพยายามหลบหนีก็จะถูกกักบริเวณให้อยู่ในห้องแคบๆ ไม่ต่างกับ "กรงสุนัข" บางครั้งนายจิลงมือทำร้ายหญิงสาวด้วยตัวเอง พร้อมใช้ปืนจ่อศีรษะขู่จะสังหารถ้าหากคิดหลบหนีอีก
หญิงสาวหลายคนทนการถูกทรมานไม่ไหวพยายามหนีจากซ่องนรก โดยกระโดดจากชั้นสองของอาคารถึงกับขาหัก หลายคนได้โทรศัพท์ไปขอความช่วยเหลือจากทางบ้าน แต่พ่อแม่จะต้องจ่ายให้กับเจ้าของซ่องแห่งนี้ 1,200-1,500 ดอลลาร์จึงจะช่วยลูกสาวออกไปได้ หลายครอบครัวต้องยินยอมมอบใบครอบครองกรรมสิทธิ์ที่ดินให้แก่นายจิกับนางเอี๋ยนแทน
ตำรวจกล่าวว่านอกจากจะมีซ่อง "เตินหว่างฟ๊าต" สองแห่งในย่านใจกลางโฮจิมินห์แล้ว สองสามีภรรยายังมีสถานบริการแบบเดียวกันนี้อีก 4 แห่งในเขตอื่นของโฮจิมินห์ รวมทั้งใน จ.บี่งซเวือง (Binh Duong) กับ จ.ด่งนาย (Dong Nai) ที่อยู่ติดกัน
ตำรวจได้จับกุมนางเอี๋ยนกับนายจิ พร้อมด้วยแมงดาคุมซ่องอีก 5 คน และ เร่งทำการสอบสวนเพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดกรณีซ่องนรกนี้
เจ้าหน้าที่กระทรวงความมั่นคงฯ ยังกล่าวด้วยว่ากำลังจะมีการสอบสวนว่า เพราะเหตุใดจึงมีการปล่อยให้มีการค้าประเวณีอย่างโจ่งครึ่มเช่นนี้ในกลางนครใหญ่ของประเทศ เวียดนามเอ๊กซ์เพรสกล่าว
การค้าประเวณีเป็นหนึ่งในสาม "สิ่งชั่วร้ายทางสัมคม" (Social Evil) ในคำจำกัดความของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม อีกสองสิ่งคือ การคอร์รัปชั่น กับ ยาเสพติด ซึ่งคณะกรรมการกลางพรรคกล่าวว่าทั้งหมดนี้เกิดจากการพัฒนาทางศีลธรรมที่ก้าวไม่ทันไม่สมดุลกับการพัฒนาเศรษฐกิจ
พรรคคอมมิวนิสต์ได้ออกเตือนรัฐบาลมาตั้งแต่ปี 2548 ให้เร่งปราบปรามความชั่วร้ายทางสังคมเหล่านี้ให้หมดสิ้นโดยเร็ว.