xs
xsm
sm
md
lg

ปูนใหญ่-ปตท.ยื่นศาลปลดล็อก 12 กิจการ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน- เผยเครือ ปตท.-ปูนใหญ่ดอดยื่นศาลฯขอยกเว้นคำสั่งระงับกิจการชั่วคราวแล้ว รายละ 6 กิจการ ขณะที่มีผู้ยื่นคลินิกรับปรึกษาของก.อุตฯ 6รายโดย 1 รายจ่อยื่นพุธหน้าคือบ.บีอาร์พีสตีล “กนอ.”เล่นบทโหดสั่งระงับหน่วยกำจัดกากฯบ.อินโดรามา ปิโตรเคมหลังพบรอยรั่วให้เวลาปรับปรุง 15 ก.พ. ด้านบิ๊กไฝปตท.ลั่นฐานะการเงินย่ำปึกไม่มีเจรจายืดหนี้มาบตาพุดกระทบกำไรจิ๊บจ๊อย 5%

นางมณฑา ประณุทนรพาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(กนอ.) เปิดเผยว่า กนอ.ได้รับแจ้งจากบริษัทปตท. จำกัด (มหาชน) และเครือซิเมนต์ไทย ได้ยื่นต่อศาลปกครองกลางเพื่อขอยกเว้นคำสั่งระงับกิจการชั่วคราวแล้วรวม 12 กิจการโดยแบ่งเป็นปตท. 6 กิจการและเครือซิเมนต์ไทย 6 กิจการ โดยส่วนของปตท.ยังไม่มีรายละเอียด แต่เครือซิเมนต์ไทยมีมูลค่าประมาณ 3.2 หมื่นล้านบาท

โดยรายละเอียดของเครือซิเมนต์ไทยทั้ง 6 โครงการได้แก่ 1. โครงการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดวิธีการจัดการ PTA และ CTA ของโครงการผลิตพีทีเอ สายการผลิตที่ 3 ของบ.สยามมิตซุย พีทีเอ 2.โครงการนิคมอุตสาหกรรม อาร์ ไอ แอล (ส่วนขยาย) ของบ.อาร์ ไอ แอล 1996 จำกัด 3. โครงการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการโรงงานผลิตเม็ดพลาสติกโพลิเอททีลีนชนิดความหนาแน่นสูง โดยการเพิ่มเติมหน่วยเตรียมคะตะลิสต์ ของบ.ไทยโพลิเอททีลีน จำกัด

4. โครงการผลิตเม็ดพลาสติกโพลิเอททีลีน โดยเพิ่มประเภทผลิตภัณฑืโพลิโพรไพลีนและนำสานอินทรีย์ระเหยง่ายกลับมาใช้ใหม่ทีโรงงาน HDPE หน่วยที่ 1 ของบ.ไทยโพลิเอททลีน จำกัด 5. โครงการผลิตสารโพรพิลีนอกไซด์ และโพรพิลีนไกลคอล บ.เอ็มทีพี เอชพีพีโอแมนูแฟคเจอร์ริ่ง จำกัด 6. โครงการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการโรงงานผลิตสารโพรพิลีนออกไซด์และสารโพรพิลีนไกลคอล บ.เอชพีพีโอแมนูแฟคเจอริ่งจำกัด

นอกจากนี้ ยังมีบริษัทที่มาขอคำปรึกษาผ่านคลินิกให้คำปรึกษาที่กระทรวงอุตสาหกรรมจัดตั้งเบื้องต้นอีก 6 รายแบ่งเป็นกิจการที่อยู่ในนิคมฯ 5 รายได้แก่ บ.บลูสโคป สตีล(ประเทศไทย) จำกัด , บ.สยามแผ่นเหล็กวิลาส จำกัดซึ่ง 2 กิจการนี้ยอมรับว่าจัดอยู่ในกลุ่มที่จะต้องหาเหตุผลเพิ่มเติม ส่วนอีก 3 รายคือ บ.อทิตยาเบอร์ล่า เคมีคัลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ,พีทีทีฟีนอล และบ.กรุงเทพซินซิติกส์ จัดอยู่ในกลุ่มที่มีเหตุผลลักษณะเดียวกับ 11 กิจการที่ศาลฯให้ดำเนินการต่อ ส่วนอีก 1 รายอยู่นอกนิคมฯ คือบ. บีอาร์พีสตีล ล่าสุดได้รับแจ้งเตรียมยื่นศาลฯวันที่ 13 ม.ค.นี้

**ระงับหน่วยกำจัดกากฯ บ.อินโดรามา ปิโตรเคม

นางมณฑา ยังกล่าวถึง ความคืบหน้าการดำเนินงานร่วมกับกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) ภายใต้คณะกรรมการและคณะทำงานตรวจสอบและแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมและความปลอภัยโรงงานอุตสาหกรรม ที่ล่าสุดได้มีการเข้าตรวจสอบโรงงานเบื้องต้น 17 แห่งในนิคมมาบตาพุดและ 1 ในจำนวนดังกล่าวได้เข้าไปตรวจสอบโรงงานของบริษัทอินโดรามา ปิโตรเคม จำกัด ระหว่าง 24-25 ธ.ค. 52 พบเครือ Thermal Oxidizer ที่ใช้เผากากอุตสาหกรรมมีร่องรอยการรั่วมีกลิ่นคล้ายน้ำส้มสายชูรบกวน และยังพบค่าออกไซด์ไนโตรเจนและคาร์บอนไดออกไซด์เกินมาตรฐานจึงสั่งให้ระงับหน่วยกำจัดกากดังกล่าวและให้ดำเนินการปรับปรุงระบบขจัดมลพิษให้เป็นไปตามเกณฑ์ภายใน 15 ก.พ. 53

**ปตท.ชี้มาบตาพุดกระทบกำไรจิ๊บจ๊อย 5%

นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. ปตท. กล่าวยืนยันว่า เครือปตท.มีฐานะการเงินมั่นคง และไม่มีการเจรจากับสถาบันการเงินเพื่อยืดเวลาการชำระหนี้หรือปรับโครงสร้างหนี้แต่อย่างใด เนื่องจากโครงการของกลุ่มปตท.ทั้ง 18 โครงการที่ถูกคำสั่งศาลให้ระงับกิจการเป็นการชั่วคราวนั้นเป็นเพียงส่วนเล็กน้อย เมื่อเทียบกับกิจการทั้งหมด รวมทั้งผลไม่ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการปี 53 แม้โรงแยกก๊าซฯ หน่วยที่ 6 จะไม่สามารถเปิดดำเนินการได้ในปีนี้ เพราะความต้องการใช้พลังงานที่มากขึ้นและราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น

"ยอมรับว่า 18 โครงการที่ต้องชะลอตามคำสั่งศาล อาจทำให้บริษัทในเครือ เช่น ปตท.เคมิคอล หรืออีกหลายแห่ง ต้องปรับเปลี่ยนแผนธุรกิจที่วางไว้ในช่วง 6 เดือน และโรงแยกก๊าซฯหน่วยที่ 6 หากต้องเลื่อนเปิดดำเนินการไป 1 ปีจะมีผลทำให้ไทยต้องนำเข้าแอลพีจีจากต่างประเทศมากขึ้น และกระทบต่อธุรกิจปิโตรเคมีไม่มาก เบื้องต้นประเมินว่า หาก 18 โครงการดังกล่าว ล่าช้าไป 1 ปี จะกระทบต้นทุนทางการเงิน และกำไรสุทธิของปตท. ประมาณ 5% แต่ถ้าล่าช้าปัย 1 ปี 6 เดือน จะกระทบต่อกำไรสุทธิ 10%"

**ไออาร์พีซีลงทุน 5 ปี 2 พันล้านเหรียญ

นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน)ในเครือปตท. กล่าวว่า บริษัทไม่มีแผนเจรจาปรับโครงสร้างหนี้แต่อย่างใด เนื่องจากฐานะการเงินแข็งแกร่งและที่ผ่านมาผลการดำเนินงานก็เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ยอดขายที่ 1.8 แสนล้านบาท โดยปีนี้คาดว่ายอดขายจะเติบโตขึ้น 15%จากปีก่อน เนื่องจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยวางเป้าหมายการกลั่นน้ำมันเพิ่มขึ้นเป็น 75%ของกำลังการผลิต 2.15 แสนบาร์เรล/วัน จากปีก่อนที่กลั่นเพียง 1.45 แสนบาร์เรล/วัน และบริษัทฯมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตด้วย

สำหรับแผนการลงทุน 5 ปีนี้จะใช้เงินลงทุนประมาณ 2 พันล้านเหรียญสหรํฐใน 19 โครงการ โดยปีนี้คาดว่าบอร์ดบริษัทฯจะอนุมัติ 16 โครงการ จากที่ได้อนุมัติไปก่อนหน้านี้แล้ว 135 ล้านเหรียญใน3-4 โครงการ ซึ่งโครงการเหล่านี้จะเดินหน้าได้เร็วมากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับกฎระเบียบที่ออกมาจากกรณีมาบตาพุดเพราะจะบังคับใช้กับโรงงานใหม่ทั่วประเทศ

ส่วนแผนการธุรกิจพัฒนาที่ดินว่างเปล่าที่มีอยู่ 2 หมื่นไร่ บริษัทฯมีแผนจะนำที่ดินไปปลูกพืชพลังงานในพื้นที่อ.วังจันทร์ จ.ระยอง เพื่อต่อยอดธุรกิจไปทำธุรกิจเอทานอล ขณะที่ท่าเทียบเรือจะหาผู้ร่วมทุนพัฒนาท่าเทียบเรือตู้คอนเทนเนอร์ เนื่องจากบริษัทฯไม่มีความเชี่ยวชาญด้านนี้

นายไพรินทร์ กล่าวต่อไปว่า ต่อจากนี้ไปอยากให้จับตาราคาปิโตรเคมีอาจมีแนวโน้มสูงขึ้น เนื่องจากซัปพลายตึงตัวมาจากโรงโอเลฟินส์แครกเกอร์ในจีนระเบิด โรงแครกเกอร์ในซาอุดิอาระเบียไม่สามารถเดินได้เพราะมีปัญหาคลังน้ำจืด ขณะที่โรงโอเลฟินส์แครกเกอร์ใหม่อีก 2โรงในไทยก็ติดปัญหามาบตาพุด
กำลังโหลดความคิดเห็น