xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ว่าฯ ระยอง สั่งดำเนินคดี บ.ทำก๊าซรั่ว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวศรีราชา - ผู้ว่าฯระยองสั่งล้อมคอกมลพิษในนิคมมาบตาพุด พร้อมสั่ง ผบก.ระยองดำเนินคดีกับเจ้าของเรือบรรทุกก๊าซและการท่าเรือมาบตาพุด ในข้อหา "กระทำการโดยประมาท เป็นเหตุให้ประชาชนได้รับอันตราย" และตรวจสอบสัญญาของบริษัทด้วย ขณะเดียวกันเกิดเหตุไฟไหม้ถังเก็บสารเคมีของโรงงานกำจัดกากอุตสาหกรรม “เจนโก้” ซ้ำอีก 10 ถัง แต่โชคดีไม่มีใครบาดเจ็บ กนอ.สั่ง บริษัทมาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินัล ผู้ดำเนินการขนส่งสินค้าเหลว ให้หยุดดำเนินการขนถ่ายสินค้า

เมื่อเวลา 10.00 น. วานนี้ (7 ธ.ค.) นายสยุมพร ลิ่มไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ได้แถลงข่าวกรณีก๊าซรั่วจากเรือขนถ่ายก๊าซบิเทน-วันบริเวณท่าเรือมาบตาพุด ในเขตนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ทำให้มีชาวบ้าน และชาวประมงได้รับผลกระทบล้มป่วยเป็นจำนวนมาก โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมาว่า หลังเกิดเหตุทำให้ทราบว่า การประสานงานการแจ้งข่าวของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องล่าช้ามาก เพราะชาวบ้านเกิดความตื่นตระหนกและพากันอพยพเอง จนเกิดความสับสนวุ่นวาย โดยไม่รู้ข้อเท็จจริงว่าสารที่ได้รับเป็นอันตรายหรือไม่เพียงไร

"หลังจากนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องมานั่งหารือในการปรับระบบให้สามารถรับสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที" ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง กล่าว และว่า นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระยอง ดำเนินการเกี่ยวกับคดีกับบริษัทเจ้าของเรือบรรทุกก๊าซและการท่าเรือมาบตาพุดด้วย เพราะจากการตรวจสอบพบว่า ท่าเรือมาบตาพุด แท็งค์ เทอร์มินอล เป็นจุดที่ทำให้ชาวบ้านได้รับก๊าซ จึงตั้งข้อหากระทำการโดยประมาท เป็นเหตุให้ประชาชนได้รับอันตรายและต้องตรวจสอบในสัญญาของบริษัทเจ้าของเรือบรรทุกก๊าซด้วยว่า ภาระข้อผูกพันธ์เป็นอย่างไร อาจต้องมีใครที่เกี่ยวข้องเข้ามารับผิดในเรื่องนี้อีก ส่วนความรับผิดชอบที่ทำให้ประชาชนเจ็บป่วย บริษัทเจ้าของก๊าซเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด

"ส่วนผู้เจ็บป่วย หลังออกจากโรงพยาบาลแล้วก็จะมีหน่วยงานสาธารณสุข จังหวัดระยองเข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิดและได้สั่งให้ระตรวจอากาศเข้าประจำในพื้นที่ เพื่อตรวจสภาพอากาศให้แน่ใจว่าไม่มีกลิ่นก๊าซตกค้างอยู่ เพื่อให้เกิดความสบายใจ" ผู้ว่าราชการจังหวัดกล่าว

ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ยังกล่าวถึงกรณีเกิดไฟไหม้ในโรงงานกำจัดขยะของบริษัท บริหารและพัฒนาเพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม จำกัด (มหาชน) หรือเจนโก้ เลขที่ 5 ต.ห้วยโป่ง อ.เมืองระยอง เป็นโรงงานกำจัดกากอุตสาหกรรม ซึ่งอยู่ติดกับโรงพยาบาลมาบตาพุด เมื่อคืนวันที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมาด้วยว่า หลังเกิดเหตุได้รับรายงานจากนายพีระวัฒน์ รุ่งเรืองศรี ผู้อำนวยการการนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดว่า เกิดไฟไหม้เวลา 20.00 น.บริษัท เจนโก้ รับจ้างกำจัดขยะกากของเสียกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ในขบวนการกำขัดขยะกากของเสียจะใช้สารชนิดหนึ่งเป็นตัวทำละลาย

"ก่อนเกิดเหตุถังเหล็กขนาด 200 ลิตรจำนวน 10 ใบ ใส่ขยะกากของเสียรับมาจากโรงงาน ตั้งอยู่ภายในโรงกำจัด เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยโรงงานเห็นแสงไฟและควันพวยพุ่งในถังขยะดังกล่าว เจ้าหน้าที่โรงงานรับแจ้งรีบเข้าตรวจสอบพร้อมแจ้งดับเพลิงเทศบาลเมืองมาบตาพุด ไฟได้ลุกลามถังขยะที่ตั้งอยู่ติดกันจนไหม้หมด เจ้าหน้าที่ดับเพลิงใช้เวลาเพียง 10 กว่านาทีเพลิงก็สงบ เหตุการณ์ไม่เกิดผลกระทบต่อชุมชน และไม่ได้รับรายงานว่ามีผลกระทบต่อชุมชนแต่อย่างใด"

ด้านนายสุรทิน มาลีหวล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมาบตาพุด กล่าวว่า กล่าวถึงเหตุการณ์เพลิงไหม้โรงกำจัดขยะของเจนโก้ว่า นับว่าเป็นความโชคดีที่หน่วยดับเพลิงเทศบาลมาบตาพุดอยู่ใกล้ๆ เมื่อเกิดไฟไหม้ในโรงงานเจนโก้ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงรีบนำดับเพลิงออกมารวดเร็ว หากมาช้าอาจจะเกิดผลกระทบกับผู้ป่วยที่นอนรักษาอาการในโรงพยาบาลแน่ เพราะในโรงงานกำจัดขยะกากของเสียโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งอาจจะมีสารเคมีอันตรายปะปนมากับขยะโรงงานได้ นับว่าเป็นความโชคดี ที่ไม่เกิดเหตุร้ายแรงซ้ำซ้อนขึ้นมาอีก

**กนอ.สั่งหยุดขนถ่ายสินค้า

นายวีรพงศ์ ไชยเพิ่ม รองผู้ว่าการ (ท่าเรืออุตสาหกรรม) การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ กนอ.ได้ เร่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องคลี่คลายสถานการณ์อย่างเร่งด่วน จากกรณีที่เกิดปัญหาเซพตี้วาล์วเกิดการชำรุด จนทำให้เกิดการรั่วไหลของก๊าซบิวทีน-1 ในเรือสินค้า GLOBAL HIME บริเวณท่าเรือมาบตาพุด (MTT) โดยสำนักท่าเรือมาบตาพุดได้สั่งการบริษัท มาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด ผู้ดำเนินการขนส่งสินค้าเหลวหยุดดำเนินการขนถ่ายสินค้าไว้ก่อนจนกว่าเหตุการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ และเร่งตรวจสอบระบบความปลอดภัยภายในบริษัท

หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว กนอ.ได้รับแจ้งประมาณ 16.00 น. จึงได้สั่งการให้ดำเนินการแจ้งให้ประธานชุมชนได้รับทราบ รวมทั้งได้สั่งการให้ระงับกิจกรรมในพื้นที่ท่าเรือ และนำเรือออกไปห่างพื้นที่ประมาณ 7 ไมล์ทะเล (10 กม.) เพื่อความปลอดภัยในพื้นที่ แต่เนื่องด้วยกระแสลมในช่วงเวลาดังกล่าวได้พัดจากทะเลเข้าสู่ฝั่ง ทำให้ก๊าซบิวเทน -1 ซึ่งเป็นลักษณะใกล้เคียงกับก๊าซหุงต้ม มีกลิ่นเหม็นรบกวนทางเดินหายใจ ได้ฟุ้งกระจายในชุมชนตากวน - อ่าวประดู่ ประมาณ 30 นาที ส่งผลให้มีชาวบ้านเกิดอาการระคายเคืองประมาณ 17 คน กนอ.และผู้บริหารท่าเรือ ได้ประสานกับทางโรงพยาบาลกรุงเทพระยอง ในการให้การรักษาพยาบาลจนปลอดภัยทุกราย ภายหลังได้มีผู้ประสงค์จะขอตรวจอาการเพิ่มเติมอีก 46 คน ซึ่งก็ได้ให้การดูแลและรักษาพยาบาลจนครบถ้วนทุกราย รวมทั้งการติดตามอาการภายหลังด้วย

"ขณะนี้เหตุการณ์ได้เข้าสู่ภาวะปกติและได้กำชับให้ผู้อำนวยการสำนักงานท่าเรืออุตสาหกรรมสังเกตการณ์อยู่ในพื้นที่โดยตลอด อีกทั้ง กนอ.และกรมควบคุมมลพิษได้ร่วมกันเฝ้าระวังคุณภาพอากาศบริเวณดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับชุมชนโดยรอบพื้นที่ท่าเรืออุตสาหกรรม" นายวีรพงศ์ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น