ผู้สื่อข่าวรายงานจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ วานนี้ (8 ม.ค.) ว่า ตั้งแต่เช้าก็ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบจาก สน.ทุ่งสองห้องและพื้นที่ใกล้เคียงรวม 300 นายมาคอยรักษาความปลอดภัยบริเวณโดยรอบอาคาร และมีการนำแผงเหล็กมาตั้งกั้นเป็นแนว บริเวณด้านหน้าตัวอาคารหลังจากปรากฎข่าวว่าจะมีการมาชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงเพื่อกดดัน กกต.
ขณะที่ภายในสำนักงานฯผู้บริหารที่เดินทางเข้ามาก็มีเพียงนายวิสุทธิ์ โพธิแท่น กกต.ด้านการมีส่วนร่วมและนายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการกกต.เท่านั้น โดยนายสุทธิพล กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้รับรายงานว่าจะมีการมาชุมนุม ราว 200 คน โดยเป็นกลุ่มแท๊กซี่ ที่ต้องการยืนเรื่องเพิ่มเติมกรณีพยานคดียุบพรรคไทยรักไทยกลับคำให้การ ทางสำนักงาน กกต.จึงต้องมีการประชุมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเตรียมความพร้อม ซึ่งคาดว่าการชุมนุมหากอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย คงไม่มีสถานการณ์อะไรที่หน้าเป็นห่วง โดย กกต.ก็ได้เตรียมเจ้าหน้าที่ไว้รับเรื่องของผู้ชุมนุมแล้ว
ส่วนจะมีการตรึงกำลังไว้จนถึงวันจันทร์ที่ 11 ม.ค.ที่กลุ่มเสื้อแดงประกาศว่าจะมาชุมนุมหรือไม่นั้น นายสุทธิพลกล่าวว่า คงดูตามสถานการณ์ถ้าไม่มีความจำเป็นอะไรก็คงไม่ใช้ตำรวจ แต่ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้ามาดูแล เพราะไม่ต้องการ ให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย ที่นี่เป็นศูนย์ราชการ มีหน่วยงานราชการอยู่ เป็นจำนวนมาก จึงต้องคำนึ่งถึงความปลอดภัยของตัวอาคารด้วย และการที่ กกต. ไม่ได้เข้ามาทำงานในวันเดียวกันนี้ก็เนื่องจากไม่มีกำหนดการประชุม ไม่ได้เพราะหวั่นไหวกับกระแสข่าวที่ว่าจะมีการชุมนุม
นายสุทธิพล ยังชี้แจงกรณีนายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต.เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลว่า ทราบว่าขณะนี้อาการปกติแล้ว และกลับบ้านได้ในวันเดียวกัน( 8ม.ค.) ซึ่งอาการป่วยเกิดอาจเกิดจากความดันขึ้น เพราะประธาน กกต.มีโรคประจำตัวเป็นโรคความดันอยู่แล้วประกอบกับน่าจะพักผ่อนไม่เพียงพอ ในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา คงตรากตรำกับการศึกษาสำนวนต่างๆ รวมถึงคดีเงินบริจาค 258 ล้านของพรรคประชาธิปัตย์ที่ที่ประชุม กกต.มีมติให้นายทะเบียนทำความเห็นตามมาตรา 95 ของ พ.ร.บ.พรรคการมือง
เชื่อว่าปัญหาสุขภาพของประธาน กกต.จะไม่ส่งผลกับการใช้ดุลพินิจ ในคดีเงินบริจาคของพรรคประชาธิปัตย์ เพราะโรคความดันไม่ใช่โรคเรื้อรัง ประกอบกับประธาน กกต.เป็นคนที่แข็งแรงมาก แต่ที่ผ่านมาอาจจะกินยาไม่ครบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าต่อมา เวลา 13.00 น. กลุ่มคนเสื้อแดงจาก วิทยุชุมนุมคนแท๊กซี่ ประมาณ 30 คน นำโดยนายวุฒิ สุนทรเดช ได้ยื่นหนังสือต่อประธานกกต.ผ่านนายอิสระ เสียงเพราะดี ผอ.สำนักงานเลขานุการ กกต.เนื้อหาสรุปได้ว่า ตามที่กลุ่มคนเสื้อแดงได้เคยยื่นหนังสือร้องเรียนต่อประธาน กกต.เพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้จ้างวานให้เบิกความเท็จต่อศาลรัฐธรรมนูญ จนเป็นเหตุให้ศาลรัฐธรรมนูญ ถือเอาคำเบิกความอันเป็นเท็จมาเป็นหลักการในการยุบพรรคไทยรักไทย ขณะนี้เวลาได้ผ่านมากว่า 1 เดือน แต่ไม่มีความคืบหน้า จึงเดินทางมาทวงถาม
ภายใน 1 เดือนนี้หากยังไม่มีความคืบหน้าเรื่องดังกล่าวก็จะมาชุมนุม เพื่อทวงถามกับ กกต.อีกครั้ง พร้อมทั้งจะเพิ่มความเข้มด้วยการเข้าแจ้งความ ดำเนินคดีกับ กกต.ฐานละเง้นการปฎิบัติหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
อย่างไรก็ตามการชุมนุมเป็นไปโดยสงบ ไม่มีการนำเครื่องขยายเสียงมาปราศัย หรือมีกิจกรรมใดๆ ซึ่งนอกจากมีการนำแผงเหล็กมากั้นประตูทางเข้า ด้านทิศตะวันออก และเจ้าที่ตำรวจ ตั้งแถวเรียงหน้ากระดานพร้อมโล่ห์ ป้องกันไม่ให้ผู้ชุมนุมบุกรุก เข้ามาภายในอาคารแล้ว ยังห้ามผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้า-ออก ขณะที่พนักงานและผู้ที่มาติดต่อราชการ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดให้เข้าทางประตูด้านทิศเหนือทางเดียว เท่านั้น ซึ่งหลังผู้ชุมนุมยื่นหนังสือแล้วก็ได้เดินทางกลับในเวลา 14.50 น.
ขณะที่ภายในสำนักงานฯผู้บริหารที่เดินทางเข้ามาก็มีเพียงนายวิสุทธิ์ โพธิแท่น กกต.ด้านการมีส่วนร่วมและนายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการกกต.เท่านั้น โดยนายสุทธิพล กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้รับรายงานว่าจะมีการมาชุมนุม ราว 200 คน โดยเป็นกลุ่มแท๊กซี่ ที่ต้องการยืนเรื่องเพิ่มเติมกรณีพยานคดียุบพรรคไทยรักไทยกลับคำให้การ ทางสำนักงาน กกต.จึงต้องมีการประชุมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเตรียมความพร้อม ซึ่งคาดว่าการชุมนุมหากอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย คงไม่มีสถานการณ์อะไรที่หน้าเป็นห่วง โดย กกต.ก็ได้เตรียมเจ้าหน้าที่ไว้รับเรื่องของผู้ชุมนุมแล้ว
ส่วนจะมีการตรึงกำลังไว้จนถึงวันจันทร์ที่ 11 ม.ค.ที่กลุ่มเสื้อแดงประกาศว่าจะมาชุมนุมหรือไม่นั้น นายสุทธิพลกล่าวว่า คงดูตามสถานการณ์ถ้าไม่มีความจำเป็นอะไรก็คงไม่ใช้ตำรวจ แต่ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้ามาดูแล เพราะไม่ต้องการ ให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย ที่นี่เป็นศูนย์ราชการ มีหน่วยงานราชการอยู่ เป็นจำนวนมาก จึงต้องคำนึ่งถึงความปลอดภัยของตัวอาคารด้วย และการที่ กกต. ไม่ได้เข้ามาทำงานในวันเดียวกันนี้ก็เนื่องจากไม่มีกำหนดการประชุม ไม่ได้เพราะหวั่นไหวกับกระแสข่าวที่ว่าจะมีการชุมนุม
นายสุทธิพล ยังชี้แจงกรณีนายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต.เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลว่า ทราบว่าขณะนี้อาการปกติแล้ว และกลับบ้านได้ในวันเดียวกัน( 8ม.ค.) ซึ่งอาการป่วยเกิดอาจเกิดจากความดันขึ้น เพราะประธาน กกต.มีโรคประจำตัวเป็นโรคความดันอยู่แล้วประกอบกับน่าจะพักผ่อนไม่เพียงพอ ในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา คงตรากตรำกับการศึกษาสำนวนต่างๆ รวมถึงคดีเงินบริจาค 258 ล้านของพรรคประชาธิปัตย์ที่ที่ประชุม กกต.มีมติให้นายทะเบียนทำความเห็นตามมาตรา 95 ของ พ.ร.บ.พรรคการมือง
เชื่อว่าปัญหาสุขภาพของประธาน กกต.จะไม่ส่งผลกับการใช้ดุลพินิจ ในคดีเงินบริจาคของพรรคประชาธิปัตย์ เพราะโรคความดันไม่ใช่โรคเรื้อรัง ประกอบกับประธาน กกต.เป็นคนที่แข็งแรงมาก แต่ที่ผ่านมาอาจจะกินยาไม่ครบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าต่อมา เวลา 13.00 น. กลุ่มคนเสื้อแดงจาก วิทยุชุมนุมคนแท๊กซี่ ประมาณ 30 คน นำโดยนายวุฒิ สุนทรเดช ได้ยื่นหนังสือต่อประธานกกต.ผ่านนายอิสระ เสียงเพราะดี ผอ.สำนักงานเลขานุการ กกต.เนื้อหาสรุปได้ว่า ตามที่กลุ่มคนเสื้อแดงได้เคยยื่นหนังสือร้องเรียนต่อประธาน กกต.เพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้จ้างวานให้เบิกความเท็จต่อศาลรัฐธรรมนูญ จนเป็นเหตุให้ศาลรัฐธรรมนูญ ถือเอาคำเบิกความอันเป็นเท็จมาเป็นหลักการในการยุบพรรคไทยรักไทย ขณะนี้เวลาได้ผ่านมากว่า 1 เดือน แต่ไม่มีความคืบหน้า จึงเดินทางมาทวงถาม
ภายใน 1 เดือนนี้หากยังไม่มีความคืบหน้าเรื่องดังกล่าวก็จะมาชุมนุม เพื่อทวงถามกับ กกต.อีกครั้ง พร้อมทั้งจะเพิ่มความเข้มด้วยการเข้าแจ้งความ ดำเนินคดีกับ กกต.ฐานละเง้นการปฎิบัติหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
อย่างไรก็ตามการชุมนุมเป็นไปโดยสงบ ไม่มีการนำเครื่องขยายเสียงมาปราศัย หรือมีกิจกรรมใดๆ ซึ่งนอกจากมีการนำแผงเหล็กมากั้นประตูทางเข้า ด้านทิศตะวันออก และเจ้าที่ตำรวจ ตั้งแถวเรียงหน้ากระดานพร้อมโล่ห์ ป้องกันไม่ให้ผู้ชุมนุมบุกรุก เข้ามาภายในอาคารแล้ว ยังห้ามผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้า-ออก ขณะที่พนักงานและผู้ที่มาติดต่อราชการ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดให้เข้าทางประตูด้านทิศเหนือทางเดียว เท่านั้น ซึ่งหลังผู้ชุมนุมยื่นหนังสือแล้วก็ได้เดินทางกลับในเวลา 14.50 น.