ASTVผู้จัดการรายวัน - นครหลวงไทยขยายโปรโมชั่นสินเชื่อบ้านดอกเบี้ยคงที่ 2 ปีแรก จนถึงสิ้นเดือนนี้ สานต่อแผนขยายฐานลูกค้าสินเชื่อรายย่อย หลังปีที่ผ่านมียอดสินเชื่อใหม่เพิ่มถึง 70%
นายชัยวัฒน์ อุทัยวรรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการขยายฐานลูกค้าสินเชื่อรายย่อยของธนาคารอย่างต่อเนื่องตามแผนระหว่างปี 2550-2253 ธนาคารจึงขยายเวลาโปรโมชั่น "สินเชื่อบ้านธนาคารนครหลวงไทย" (SCIB Home Loan) แก่ลูกค้ารายย่อยที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยสำหรับบ้านใหม่ในโครงการที่ธนาคารร่วมสนับสนุนหรือเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์หรือรีไฟแนนซ์ (Refinance)
โดยให้ดอกเบี้ยพิเศษ 2 ทางเลือก ได้แก่ ทางเลือกที่ 1 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 2 ปีแรก ปีที่ 1 เท่ากับ 1.75% ต่อปี ปีที่ 2 เท่ากับ 5.00% ต่อปี หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี (MLR) ลบ 1.00% ต่อปี ตลอดอายุสัญญา และทางเลือกที่ 2 อัตราดอกเบี้ยลอยตัว 2 ปีแรก คิดอัตราดอกเบี้ย MLR ลบ 3.00% ต่อปี หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ย MLR ลบ 1.00% ต่อปี ตลอดอายุสัญญา ระยะเวลาการกู้สูงสุด 30 ปี โดยสามารถเลือกรับเงื่อนไขอัตราดอกเบี้ยได้ถึงภายในวันที่ 31 มกราคม 2553 เท่านั้น
"ในปี 2552 ที่ผ่านมา ถือว่าธนาคารประสบความสำเร็จในการขยายฐานลูกค้าสินเชื่อที่อยู่อาศัย โดยสามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ 3 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราขยายตัวสูงถึงเกือบ 70% จากปีก่อนหน้านี้ นับเป็นอัตราการปล่อยสินเชื่อที่ใกล้เคียงกับธนาคารขนาดใหญ่ ทำให้ปัจจุบันมียอดสินเชื่อคงค้างรวมแล้วกว่า 58,000 ล้านบาท"
นายอภิชาติ อรรฆย์ฐากูร ผู้จัดการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายสินเชื่อเคหะ กล่าวว่า สาเหตุที่ธนาคารสามารถปล่อยสินเชื่อบ้านได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนสำคัญเกิดจากผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง ซึ่งดอกเบี้ย 0% ในช่วงแรก อาจดึงความสนใจลูกค้าในขั้นต้นได้ แต่เมื่อลูกค้าทำการวิเคราะห์ต่อไปแล้ว ก็พบว่า ดอกเบี้ยเฉลี่ย 2 ปี หรือ 3 ปี กลับสูงกว่า นอกจากนี้ ยังเสียสิทธิ์ในการนำดอกเบี้ยเงินกู้ไปลดหย่อนภาษีในปีแรกๆ ด้วย แต่ในปีที่จ่ายดอกเบี้ยแพงขึ้น กลับไม่สามารถนำดอกเบี้ยที่จ่ายไปใช้ลดหย่อนได้ทั้งหมด ขณะที่ดอกเบี้ยที่ธนาคารนำเสนอพยายามดูแลผลประโยชน์ให้ลูกค้าในทุกๆด้าน
"แนวโน้มการแข่งขันการปล่อยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยในปีนี้ คาดว่าผู้ประกอบการทั้งที่เป็นสถาบันการเงินและกลุ่มบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จะมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายออกมาเสนอกับผู้ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง ปัจจัยหนึ่งเป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นจากเดิมที่มีอัตราการขยายตัวติดลบก่อนหน้านี้ ส่งผลให้ผู้ซื้อบ้านมีความมั่นใจในการที่จะตัดสินใจซื้อเพิ่มขึ้นประกอบกับปัจจัยบวกเรื่องอัตราดอกเบี้ยในระบบที่ยังทรงตัวส่งผลให้ภาระการผ่อนชำระของลูกค้าไม่ได้ปรับเพิ่มขึ้น รวมทั้งการเร่งตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยเนื่องจากมีความกังวลว่าแนวโน้มราคาที่อยู่อาศัยในอนาคตอาจจะมีการปรับเพิ่มขึ้นตามต้นทุนที่สูงขึ้น รวมทั้งการใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีของผู้ซื้อบ้านก่อนที่จะหมดลง” นายอภิชาติ กล่าว
นายชัยวัฒน์ อุทัยวรรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการขยายฐานลูกค้าสินเชื่อรายย่อยของธนาคารอย่างต่อเนื่องตามแผนระหว่างปี 2550-2253 ธนาคารจึงขยายเวลาโปรโมชั่น "สินเชื่อบ้านธนาคารนครหลวงไทย" (SCIB Home Loan) แก่ลูกค้ารายย่อยที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยสำหรับบ้านใหม่ในโครงการที่ธนาคารร่วมสนับสนุนหรือเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์หรือรีไฟแนนซ์ (Refinance)
โดยให้ดอกเบี้ยพิเศษ 2 ทางเลือก ได้แก่ ทางเลือกที่ 1 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 2 ปีแรก ปีที่ 1 เท่ากับ 1.75% ต่อปี ปีที่ 2 เท่ากับ 5.00% ต่อปี หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี (MLR) ลบ 1.00% ต่อปี ตลอดอายุสัญญา และทางเลือกที่ 2 อัตราดอกเบี้ยลอยตัว 2 ปีแรก คิดอัตราดอกเบี้ย MLR ลบ 3.00% ต่อปี หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ย MLR ลบ 1.00% ต่อปี ตลอดอายุสัญญา ระยะเวลาการกู้สูงสุด 30 ปี โดยสามารถเลือกรับเงื่อนไขอัตราดอกเบี้ยได้ถึงภายในวันที่ 31 มกราคม 2553 เท่านั้น
"ในปี 2552 ที่ผ่านมา ถือว่าธนาคารประสบความสำเร็จในการขยายฐานลูกค้าสินเชื่อที่อยู่อาศัย โดยสามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ 3 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราขยายตัวสูงถึงเกือบ 70% จากปีก่อนหน้านี้ นับเป็นอัตราการปล่อยสินเชื่อที่ใกล้เคียงกับธนาคารขนาดใหญ่ ทำให้ปัจจุบันมียอดสินเชื่อคงค้างรวมแล้วกว่า 58,000 ล้านบาท"
นายอภิชาติ อรรฆย์ฐากูร ผู้จัดการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายสินเชื่อเคหะ กล่าวว่า สาเหตุที่ธนาคารสามารถปล่อยสินเชื่อบ้านได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนสำคัญเกิดจากผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง ซึ่งดอกเบี้ย 0% ในช่วงแรก อาจดึงความสนใจลูกค้าในขั้นต้นได้ แต่เมื่อลูกค้าทำการวิเคราะห์ต่อไปแล้ว ก็พบว่า ดอกเบี้ยเฉลี่ย 2 ปี หรือ 3 ปี กลับสูงกว่า นอกจากนี้ ยังเสียสิทธิ์ในการนำดอกเบี้ยเงินกู้ไปลดหย่อนภาษีในปีแรกๆ ด้วย แต่ในปีที่จ่ายดอกเบี้ยแพงขึ้น กลับไม่สามารถนำดอกเบี้ยที่จ่ายไปใช้ลดหย่อนได้ทั้งหมด ขณะที่ดอกเบี้ยที่ธนาคารนำเสนอพยายามดูแลผลประโยชน์ให้ลูกค้าในทุกๆด้าน
"แนวโน้มการแข่งขันการปล่อยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยในปีนี้ คาดว่าผู้ประกอบการทั้งที่เป็นสถาบันการเงินและกลุ่มบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จะมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายออกมาเสนอกับผู้ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง ปัจจัยหนึ่งเป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นจากเดิมที่มีอัตราการขยายตัวติดลบก่อนหน้านี้ ส่งผลให้ผู้ซื้อบ้านมีความมั่นใจในการที่จะตัดสินใจซื้อเพิ่มขึ้นประกอบกับปัจจัยบวกเรื่องอัตราดอกเบี้ยในระบบที่ยังทรงตัวส่งผลให้ภาระการผ่อนชำระของลูกค้าไม่ได้ปรับเพิ่มขึ้น รวมทั้งการเร่งตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยเนื่องจากมีความกังวลว่าแนวโน้มราคาที่อยู่อาศัยในอนาคตอาจจะมีการปรับเพิ่มขึ้นตามต้นทุนที่สูงขึ้น รวมทั้งการใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีของผู้ซื้อบ้านก่อนที่จะหมดลง” นายอภิชาติ กล่าว