*แนะนำซื้อราคาปิด (บาท) 2.58ราคาเป้าหมาย (บาท)3.20
ราคาหุ้นยังไม่สะท้อนปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง
เราแนะนำ ซื้อ GLOBAL จากแนวโน้มการฟื้นตัวของกำไรรวมทั้งราคาหุ้นที่น่าสนใจ หุ้นซื้อขายที่ PER 9.4 เท่า ซึ่งนับว่าต่ำที่สุดในหุ้นกลุ่มค้าปลีกที่เราทำบทวิเคราะห์ ได้แก่ CPALL, HMPRO และ BIGC ซึ่งซื้อขายที่ PER 20.4 เท่า, 14.2 เท่า และ 11.8 เท่า ตามลำดับ อีกทั้ง GLOBAL ยังปรับตัวขึ้นจากราคา IPO เพียง 1% ขณะที่ HMPRO เพิ่มขึ้น 39% ภายในช่วงระยะเวลาเดียวกัน เราได้ปรับราคาเหมาะสมของ GLOBAL ขึ้นเป็น 3.20 บาทเนื่องจากเปลี่ยนวิธีประเมินมูลค่าหุ้นจากวิธี PER มาเป็นวิธีคิดลดกระแสเงินสดระยะยาว
แนวโน้มยังเป็นบวกแม้ปรับลดประมาณการ
เรายังมีความเห็นเชิงบวกต่อ GLOBAL แม้จะมีการปรับลดประมาณการกำไรปี 2552 และ 2553 ลง 20% และ 22% ตามลำดับ โดยเราคาดว่าผลประกอบการของบริษัทจะเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นหลังจากทรงตัวในปี 2552 ซึ่งได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวและการที่สาขาเชียงใหม่ถูกไฟไหม้ในช่วงปลายปี 2551 สำหรับปัจจัยผลักดันผลประกอบการจะมาจาก การขยายสาขา การควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ การเติบโตของเศรษฐกิจและภาคอสังหาริมทรัพย์ รวมทั้งมาตรการภาครัฐในการกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน เราจึงประเมินว่ากำไรปี 2553 จะเติบโตถึง 48% เป็น 264 ล้านบาท (0.27 บาท/หุ้น) จากกำไรปกติปี 2552 ซึ่งคาดไว้ที่ 178 ล้านบาท (ไม่รวมรายการพิเศษ คือ รายได้ค่าสินไหมทดแทนและการขายสินค้าเสียหายจากไฟไหม้สาขาเชียงใหม่ 206 ล้านบาท)
เปิดสาขาอย่างน้อย 3 แห่งในปีนี้
GLOBAL จะเปิดสาขาใหม่อย่างน้อย 3 แห่งในปีนี้ ได้แก่ สาขา กาฬสินธุ์ นครสวรรค์ และ เมืองทองธานี จากปัจจุบันที่มีสาขาทั้งหมด 8 แห่ง ได้แก่ ร้อยเอ็ด ขอนแก่น อุดรธานี เชียงใหม่ ระยอง ชลบุรี นครปฐม และ ราชบุรี ซึ่งมีพื้นที่ขายรวมทั้งหมดประมาณ 180,000 ตารางเมตร โดยสาขาล่าสุดที่ราชบุรีซึ่งเพิ่งเปิดเมื่อ 19 ธันวาคม ได้รับการตอบรับดีจากลูกค้า ส่วนสาขาที่จะเปิดถัดไปคือ กาฬสินธุ์ และ นครสวรรค์ อยู่ระหว่างการก่อสร้างโดยจะเปิดในเดือนมีนาคมและพฤษภาคม-มิถุนายน ตามลำดับ ในขณะที่สาขาแห่งแรกในกรุงเทพฯ ที่บริเวณเมืองทองธานี บนพื้นที่ 140 ไร่ คาดว่าจะเปิดในช่วงไตรมาส 4/53 โดยจะมี 3 ส่วน คือ อาคารของ GLOBAL พื้นที่สำหรับให้เช่า และ Community Mall
ฐานะการเงินเข้มแข็ง
แม้ GLOBAL มีแผนจะเปิดสาขาอย่างต่อเนื่องแต่ฐานะการเงินยังมีแนวโน้มเข้มแข็ง โดยเราคาดว่าอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนจะอยู่ที่ 0.9 เท่าในสิ้นปี 2553 สำหรับแหล่งเงินลงทุนจะนำมาจากเม็ดเงินที่ได้จากการเพิ่มทุน กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน รวมทั้งเงินกู้จากธนาคาร นอกจากนั้นเราคาดว่าบริษัทจะจ่ายเงินปันผลจากผลประกอบการปี 2552 ได้ 0.12 บาท/หุ้นซึ่งคิดเป็นอัตราผลตอบแทน 4.7%
สุทธาทิพย์ พีรทรัพย์
Suttatip.p@kimeng.co.th
ราคาหุ้นยังไม่สะท้อนปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง
เราแนะนำ ซื้อ GLOBAL จากแนวโน้มการฟื้นตัวของกำไรรวมทั้งราคาหุ้นที่น่าสนใจ หุ้นซื้อขายที่ PER 9.4 เท่า ซึ่งนับว่าต่ำที่สุดในหุ้นกลุ่มค้าปลีกที่เราทำบทวิเคราะห์ ได้แก่ CPALL, HMPRO และ BIGC ซึ่งซื้อขายที่ PER 20.4 เท่า, 14.2 เท่า และ 11.8 เท่า ตามลำดับ อีกทั้ง GLOBAL ยังปรับตัวขึ้นจากราคา IPO เพียง 1% ขณะที่ HMPRO เพิ่มขึ้น 39% ภายในช่วงระยะเวลาเดียวกัน เราได้ปรับราคาเหมาะสมของ GLOBAL ขึ้นเป็น 3.20 บาทเนื่องจากเปลี่ยนวิธีประเมินมูลค่าหุ้นจากวิธี PER มาเป็นวิธีคิดลดกระแสเงินสดระยะยาว
แนวโน้มยังเป็นบวกแม้ปรับลดประมาณการ
เรายังมีความเห็นเชิงบวกต่อ GLOBAL แม้จะมีการปรับลดประมาณการกำไรปี 2552 และ 2553 ลง 20% และ 22% ตามลำดับ โดยเราคาดว่าผลประกอบการของบริษัทจะเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นหลังจากทรงตัวในปี 2552 ซึ่งได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวและการที่สาขาเชียงใหม่ถูกไฟไหม้ในช่วงปลายปี 2551 สำหรับปัจจัยผลักดันผลประกอบการจะมาจาก การขยายสาขา การควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ การเติบโตของเศรษฐกิจและภาคอสังหาริมทรัพย์ รวมทั้งมาตรการภาครัฐในการกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน เราจึงประเมินว่ากำไรปี 2553 จะเติบโตถึง 48% เป็น 264 ล้านบาท (0.27 บาท/หุ้น) จากกำไรปกติปี 2552 ซึ่งคาดไว้ที่ 178 ล้านบาท (ไม่รวมรายการพิเศษ คือ รายได้ค่าสินไหมทดแทนและการขายสินค้าเสียหายจากไฟไหม้สาขาเชียงใหม่ 206 ล้านบาท)
เปิดสาขาอย่างน้อย 3 แห่งในปีนี้
GLOBAL จะเปิดสาขาใหม่อย่างน้อย 3 แห่งในปีนี้ ได้แก่ สาขา กาฬสินธุ์ นครสวรรค์ และ เมืองทองธานี จากปัจจุบันที่มีสาขาทั้งหมด 8 แห่ง ได้แก่ ร้อยเอ็ด ขอนแก่น อุดรธานี เชียงใหม่ ระยอง ชลบุรี นครปฐม และ ราชบุรี ซึ่งมีพื้นที่ขายรวมทั้งหมดประมาณ 180,000 ตารางเมตร โดยสาขาล่าสุดที่ราชบุรีซึ่งเพิ่งเปิดเมื่อ 19 ธันวาคม ได้รับการตอบรับดีจากลูกค้า ส่วนสาขาที่จะเปิดถัดไปคือ กาฬสินธุ์ และ นครสวรรค์ อยู่ระหว่างการก่อสร้างโดยจะเปิดในเดือนมีนาคมและพฤษภาคม-มิถุนายน ตามลำดับ ในขณะที่สาขาแห่งแรกในกรุงเทพฯ ที่บริเวณเมืองทองธานี บนพื้นที่ 140 ไร่ คาดว่าจะเปิดในช่วงไตรมาส 4/53 โดยจะมี 3 ส่วน คือ อาคารของ GLOBAL พื้นที่สำหรับให้เช่า และ Community Mall
ฐานะการเงินเข้มแข็ง
แม้ GLOBAL มีแผนจะเปิดสาขาอย่างต่อเนื่องแต่ฐานะการเงินยังมีแนวโน้มเข้มแข็ง โดยเราคาดว่าอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนจะอยู่ที่ 0.9 เท่าในสิ้นปี 2553 สำหรับแหล่งเงินลงทุนจะนำมาจากเม็ดเงินที่ได้จากการเพิ่มทุน กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน รวมทั้งเงินกู้จากธนาคาร นอกจากนั้นเราคาดว่าบริษัทจะจ่ายเงินปันผลจากผลประกอบการปี 2552 ได้ 0.12 บาท/หุ้นซึ่งคิดเป็นอัตราผลตอบแทน 4.7%
สุทธาทิพย์ พีรทรัพย์
Suttatip.p@kimeng.co.th
