ASTVผู้จัดการรายวัน -ปชป.-ภท.ส่อแตกหัก นายกฯปัดรับใบลาพักราชการ มานิต เจ้าตัววิ่งโร่ฟ้องลูกพี่ เนวิน-สมศักดิ์ สั่งสู้ให้ยื่นใบลาพักผ่านเจ้าหน้าที่ อภิสิทธิ์ลั่นไม่ให้ลา ขู่ออก-ไม่ออกสุดท้ายจะฟันธงเอง ปู่จิ้นย้ำต้องถูก ชี้มูลจาก ป.ป.ช.ก่อนจึงจะออก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากพรรคภูมิใจไทย มีมติให้นายมานิต นพอมรบดี รมช.สาธารณสุข ยังคงดำรงตำแหน่งต่อแม้ ถูกคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีการทุจริต ในโครงการไทยเข้มแข็งของกระทรวงสาธารณสุข ที่ระบุนายมานิตล้วงลูกการจัดสรรงบประมาณลงในพื้นที่ของตนเอง และยังถือว่าเป็นการหักหน้านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎเหล็ก 9 ข้อที่วางไว้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (6 ม.ค.) นายมานิต ได้เดินทางเข้าทำงานที่กระทรวงสาธารณสุข ตามปกติท่ามกลางกระแสกดดัน โดยไม่ยอมให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวแต่อย่างใด โดยบอกสั้นๆ ว่า ขอไปขอนแก่นก่อน
**’มานิต’ บุกทำเนียบฯ พบนายกฯ
ต่อมาเวลา 15.00 น. วานนี้ (6 ม.ค.) นายมานิต เดินทาง เข้าพบนายอภิสิทธิ์ ที่ห้องทำงานตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายมานิตให้สัมภาษณ์หลังเข้าพบนาน 10 นาทีว่า มาพบนายกฯเพื่อเรียนถึงมติของพรรคภูมิใจไทย(ภท.) ในฐานะที่ท่านเป็นผู้บังคับบัญชา โดยตนยืนยันทำตามมติพรรคภูมิใจไทยที่จะไม่ลาออก และยังได้เล่าให้นายกฯฟังถึงโครงการไทยเข้มแข็งที่เป็นปัญหา
ส่วนที่มีข่าวว่าจะขอลาพักราชการ 30 วันนั้น นายมานิต กล่าวว่า ยังไม่ได้คุยกับนายกฯเรื่องนั้น แต่มาเรียนให้ท่านทราบถึงมติขอพรรคที่ให้ตนทำงานต่อ ไม่ได้มาลาพักการทำงาน ส่วนมติของพรรคภูมิใจไทยนายกฯพอใจ หรือไม่ต้องไปถามท่าน
ผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นห่วงเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ นายมาติ กล่าวว่า ประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวกับตนได้เล่าให้นายกฯฟังแล้ว ในแต่ละเรื่องว่ามีกระบวนการตามขั้นตอนราชการอย่างไร แต่ตนไม่ได้เป็นคนอนุมัติ และกรมที่เราดูแล ก็มีการโยกงบฯไปอีกส่วนหนึ่งที่เราไม่ได้ดูแล อันนั้นเราไม่รู้เป็นเรื่องของข้าราชการ
"ผมมาแจ้งให้ท่านฟัง ผมก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน บางเรื่องเราไม่เห็นชอบ แต่ก็มีประเด็นโยกเรื่องนี้ไป แล้วอย่างนี้จะมาบอกเราทุจริตมันก็คงไม่ใช่"
ผู้สื่อข่าวถามว่า กลุ่มแพทย์ชนบทประกาศชัดเจนให้ท่านลาออกจะเป็นเงาตามตัวไปตลอดในการทำงานจะทำอย่างไร นายมานิต กล่าวว่า งานในกระทรวงที่เราทำจะเป็นเรื่องของปัญหาเฉพาะหน้าต่างๆ ที่เกิดขึ้น ส่วนเรื่องของไทยเข้มแข็งก็มีคณะกรรมการดูแลอยู่แล้ว ฉะนั้นประเด็นต่างๆ ที่กลุ่มแพทย์ชนบทมองว่า ตนจะไม่ดูเรื่อง ไทยเข้มแข็ง ซึ่งจริงๆ ตั้งแต่แรก ตนก็ไม่ได้ดูอยู่แล้ว และกรมที่ดูแลโครงการ ไทยเข้มแข็ง ก็มีงบประมาณอยู่นิดเดียว เพราะส่วนใหญ่ งบประมาณไทยเข้มแข็งทั้งหมดอยู่ที่สำนักปลัดกระทวงทั้งหมดกว่า90% จะอยู่ในกรมที่ดูแลอยู่นิดเดียว
ต่อข้อถามว่านายฯได้พูดถึงเรื่องการลาออกหรือไม่ นายมานิต กล่าวว่า ยังเพิ่งคุยกับนายกฯได้แค่ 5 นาที เพราะนายกฯ ต้องรีบไปประชุมพรรค เมื่อถามว่า การเยื้อของรัฐมนตรีทำให้รัฐบาลมัวหมองไหม นายมานิต กล่าวว่า ไม่เกี่ยว อยากพิสูจน์เหมือนกันว่าผิดจริงหรือเปล่า ผู้สื่อข่าวแย้งว่า รัฐมนตรีจะทำงานอยู่ได้อย่างไร ในเมื่อยังมีข้อกังขา นายมานิต กล่าวว่า เดี๋ยวคงหารือกับผู้ใหญ่หลายๆ ฝ่าย
วิ่งหา’เนวิน-สมศักดิ์’ หลังถูกปฏิเสธใบลา
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังการอภิปรายมาไว้วางใจเสร็จจะแสดงสปีริตด้วยการลาออก หรือไม่ นายมานิต กล่าวว่า จริงๆ อยากดูผล ถ้ามีผลมันชัดที่สุด ไม่มีมีผลมันก็อึมครึมๆ ไป อย่างที่ตนบอกอนุมัติก็ไม่ได้อนุมัติ ถูกอะไรก็ไม่รู้ เมื่อถามว่า แสดงว่ายืนยันที่จะอยู่ต่อไป จนกว่าผลการสอบจะออกมาอย่างชัดเจน นายมานิต กล่าวย้ำว่า ก็คงจะเป็นเช่นนั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่นายมานิตให้สัมภาษณ์ ได้เดินทางออกจาก ทำเนียบรัฐบาลทันที เพื่อไปพบนายเนวิน ชิดชอบ และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำพรรคภูมิใจไทย ที่อาคารสิริภิญโญ พญาไท เพื่อหารือหลังจากที่นายกฯไม่รับใบลาราชการของนายมานิต แต่ต้องการให้นายมานิตลาออกจากตำแหน่ง รมว.สาธารณสุขเช่นเดียวกับนายวิทยา แก้วภราดัย ที่ลาออกไปก่อนหน้านี้
จนกระทั้งในเวลา 16.30 น.นายมานิตได้เดินทางกลับเข้ามาพบนายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และโฆษกพรรคภูมิใจไทย ที่ห้องทำงานจากนั้น เวลา 17.15 น. นายมานิตได้ให้สัมภาษณ์อีกครั้งพร้อมกับโชว์ใบลาขอพักราชการ 30 วัน กับสื่อมวลชน
**ยอมรับนายกฯ ไม่ให้ลาพักบีบให้ออก
นายมานิต ระบุว่า ก่อนหน้าที่ไม่ได้ตอบกับทางผู้สื่อข่าว จริงๆแล้วสาเหตุ ที่มาพบนายกฯ มีความตั้งใจมายื่นหนังสือลาพักราชการ 30วัน เพื่อให้มีการตรวจสอบ โครงการของกระทรวงฯโดยไม่มีการกดดันทางฝ่ายการเมือง หรือทางด้านใด และเมื่อพบนายกฯในฐานะผู้บังคับบัญชา ซึ่งนายกฯมีเหตุผลในฐานะผู้บังคับบัญชาส่วนหนึ่ง จึงยังไม่ให้มีการลาพักราชการ
"แต่ผมคิดว่า ถ้าเราไม่ลาพักราชการหลังจากที่บอกกับนายกฯต้องมานั่งคิดว่า การดำเนินการในกระทรวงจะมีความกดดันว่าเราเป็นนักการเมืองยังอยู่ในกระทรวงการตรวจสอบต่างๆในกระทรวงอาจจะมีผลหรือเปล่า ตรงนี้เป็นสาเหตุในการตัดสินใจ"
ผู้สื่อข่าวถามว่าแสดงว่าตอนมาพบนายกฯ ท่านไม่อนุมัติให้ลาพักราชการ แล้วตอนนี้อนุมัติแล้วหรือ นายมานิต กล่าวว่า อยู่ที่นายกฯ เมื่อถามอีกว่า หมายถึงการขอพักราชการต่อนายกฯทางอากาศหรือไม่ นายมานิต กล่าวว่า ไม่ใช่ ในส่วนนี้ไม่ได้ขอกลางอากาศ เป็นการยื่นหนังสือตามขั้นตอนราชการ ต่อข้อถามที่ว่า ทำไมไม่ลาออกจากการเป็นรมต.แทนการลาพักราชการ 30วัน นายมานิต กล่าวว่า ในแนวทางความรับผิดชอบทางการเมือง มีหลายวิธี เช่น นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าฯ กทม. ในคดีทุจริตรถดับเพลิง ก็ลาพักราชการก่อน และให้กระบวนการตรวจสอบทำงานไป ตรงนี้เรามองว่า ถ้าเรายังไม่ลาพักราชการอาจจะมีผลต่างๆ อย่างที่พูดไป จึงคิดว่า เราน่าจะลาเพื่อให้การตรวจสอบและการดำเนินการ ของคณะกรรมการรวมถึงภายในกระทรวงจะไม่มีแรงกดดันจากฝ่ายการเมือง
**ใช้วิธีลาพักผ่านเจ้าหน้าที่แทนยื่นกับมือ
ส่วนหากนายกฯไม่ลาอนุมัติให้ลาพักราชการจะมีแนวทางอย่างไรต่อไป นายมานิต กล่าวว่า อันนี้อยู่ที่นายกฯ เชื่อว่านายกฯคงจะมีเหตุผล แต่นายกฯยังไม่ได้เห็นหนังสือ แต่ที่พบนายกฯเป็นการพูดคุยเบื้องต้นก่อน ในฐานะผู้บังคับบัญชา ก็เล่าให้ฟังด้วย อย่างไรก็ตามตอนนี้ได้ยื่นใบลาพักราชการไปแล้วผ่านเจ้าหน้าที่
ผู้สื่อข่าวถามว่าถ้านายกฯไม่อนุมัติการลาจะหยุดการทำงานหรือไม่ นายมานิต กล่าวว่า ในหนังสือลามีผลตั้งแต่วันนี้ (7ม.ค.) แล้วคิดว่านายกฯ คงมีเหตุผล เมื่อถามว่า ทำไมถึงลา 30วัน นายมานิต กล่าวว่า คิดว่าจากนี้ไปสภาผู้แทนราษฎรจะเปิดสมัยประชุม ประมาณปลายเดือนม.ค. คงเข้าสู่กระบวนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็คงจะช่วงประมาณนั้น
ส่วนเหตุผลที่นายกฯไม่ให้ลาพักราชการคืออะไร นายมานิต กล่าวว่า ต้องถาม นายกฯ พอดีนายกฯรีบไปประชุมพรรคประชาธิปัตย์ที่มีการสรรหา รมว.สาธารณสุข ต่อข้อถามอีกว่า เป็นเพราะโดนผู้ใหญ่ในพรรคลอยแพถึงต้องวิ่งไปมา 2 รอบก่อนแถลงหรือไม่ นายมานิต กล่าวว่า "ไม่ได้วิ่ง บางครั้งอาจจะดูเหมือนอย่างที่ท่านว่า แต่นายกฯท่านรีบกลับไปที่พรรคประชาธิปัตย์ ทำให้การพูดคุยกันน้อยไป แต่เรามองว่า ถ้าเรามีความตั้งใจที่จะลาเพื่อให้การ ตรวจสอบดำเนินการอย่างเต็มที่ ผมคิดว่าเราน่าจะใช้ช่องทางนี้ เพื่อให้การทำงานต่างๆทำงานราบรื่นที่สุด"
ผู้สื่อข่าวถามว่าด้วยว่า นายกฯ ไม่ต้องการให้พักราชการแต่ต้องการให้ลาออก จากตำแหน่งจริงหรือไม่ นายมานิต กล่าวว่า อันนี้ต้องถามนายกฯ เมื่อถามว่า เป็นการชิงแถลงลาพักราชการที่จริงแล้วควรจะลาออกหรือไม่ นายมานิต กล่าวว่า นายกฯรู้อยู่แล้วเพราะความตั้งใจที่จะมาคือการพักราชการเพื่อให้การดำเนินการต่างๆ ราบรื่น แต่นายกฯรีบไปพรรคเลยมีเวลาคุยกันน้อย
ผู้สื่อข่าวถามว่าหลังจากนี้จะทำให้เกิดความขัดแย้งภายในพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายมานิต กล่าวว่า คงไม่ใช่ประเด็นนี้ไม่น่าจะเกี่ยวกันเพราะเรามองว่า การลาพักราชการการดูแลกระทรวงสาธารณสุขนายกฯสามารถตั้งรักษาราชการได้อยู่แล้ว
ต่อข้อถามว่ากังวลหรือไม่หากนายกฯไม่อนุญาตให้ลาพักแล้วทำให้ขาดราชการ จนเป็นเหตุให้ต้องปรับออกจากครม.หรือไม่ นายมานิต กล่าวว่า มันมีกระบวนการของเอกสารทางราชการ ว่า นายกฯต้องลงนาม หรือไม่ลงนามอย่างไร อันนี้คือหลักการทั่วไป เมื่อถามว่า เป็นการขัดความต้องการของผู้บัญชาการหรือไม่ นายมานิต กล่าวว่า คงไม่ใช่ ไม่เกี่ยวกัน เพราะเวลาคุยนายกฯรีบไปมีเวลาน้อย
นายมานิต ยังกล่าวในตอนท้ายว่า ก่อนยื่นใบลาพักราชการได้ปรึกษากับ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำพรรคภูมิใจไทย ซึ่งท่านบอกว่า ถ้าลาพักทำให้การ ตรวจสอบสามารถทำได้อย่างเต็มที่ ถ้าไม่ลาออกอยู่ต่อก็เป็นการกดดันข้าราชการ
**เนวิน-สมศักดิ์สั่ง’มานิต’สู้นายกฯ
แหล่งข่าวจากพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่า การเข้าพบนายกฯของนายมานิต ก็เพื่อยื่นหนังสือลาพักราชการ 30 วัน แต่เมื่อพุดคุยกันประมาณ 15 นาที นายกฯกลับมีท่าทีไม่เห็นด้วย โดยได้บอกกับนายมานิตว่า ยังมีเวลา ไม่จำเป็นต้องลาพัก ขอให้ทำงานต่อไป เมื่อพูดจบนายอภิสิทธิ์ ก็รีบเดินทางไปประชุมพรรคประชาธิปัตย์ ทำให้นายมานิต ต้องรับกลับไปพบนายสมศักดิ์ เทพสุทิน และนายเนวิน ชิดชอบ ที่อาคารศิริภิญโญ เพื่อหารือหลังนายกฯปฏิเสธที่จะรับใบลาราชการ โดยทั้ง 2 สั่งให้นายมานิตเดินหน้าเต็มที่ไม่ต้องกลัวแล้ว และการเข้ายื่นใบลาราชการเพราะคิดว่าเป็นทางออกในลักษณะวินๆ ทั้ง 2 ฝ่ายและเพื่อลดแรงกดดันต่างๆ เพื่อให้ทุกฝ่ายอยู่ร่วมกันต่อไปได้ ทำให้นายมานิตเดินทางกลับมายังทำเนียบฯ เพื่อยื่นใบลาราชการกับเจ้าหน้าที่โดยไม่ยื่นกับมือนายกฯ เหมือนที่มาครั้งแรก จากนั้นจึงแถลงข่าวกับสื่อมวลชน เสมือนบอกกล่าวนายกฯผ่านสื่อ
แหล่งข่าวเปิดเผยด้วยว่า ท่าทีของนายอภิสิทธิ์ ที่ปฏิเสธจะรับใบลาพักราชการของนายมานิต ก็เพราะต้องการบีบให้นาย มานิต ลาออก เพื่อรักษาจุดยืนของตัวเอง หากไม่ลาออกก็ต้องรับกระแสกดดันจากสังคมให้ได้
**อภิสิทธิ์ชี้สุดท้ายจะตัดสินใจเอง
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าขณะนี้ ยังไม่อนุมัติใบลาราชการของนายมานิต ซึ่งการพบกันตนได้ให้ข้อคิดกับนายมานิต ให้ทบทวนดูว่า ต้องช่วยกันสร้างมาตรฐานทางการเมือง เพราะจุดยืนในตอนนี้ ของนายมานิตไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ซึ่งขั้นสุดท้ายการตัดสินใจถือเป็นอำนาจของตน โดยกฎเหล็ก 9 ข้อต้องใช้กับรัฐมนตรีทุกคน ทั้งนี้ไม่คิดว่านายมานิตท้าทาย แต่เป็นแค่ความเห็นแตกต่าง เพราะนายมานิตอาจอยากจะพิสูจน์ตัวเอง โดยส่วนตัวไม่หนักใจและไม่คิดว่าเป็นเกมการเมือง ขณะที่ส่วนตัวมองว่าหากนายมานิตจะลาหยุดต่อไปเรื่องๆ ก็ไม่เกิดประโยชน์
ส่วนการตั้งกรรมการสอบสวนข้าราชการประจำนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าจะรอรัฐมนตรีใหม่ทำหน้าที่ก่อน เพราะนายมานิตไม่มีสิทธิ์ตั้งกรรมการชุดนี้
รายงานข่าวแจ้งว่า ในการประชุมกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ วานนี้ (6 ม.ค.) ซึ่งมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธานในที่ประชุม โดยมีการหารือถึงกรณีที่นายมานิต นพอมรวดี รมช.สาธารณสุข ไม่ยอมลาออก โดยที่ประชุมเห็นว่าเรื่องนี้ นายอภิสิทธิ์ ต้องใช้อำนาจ ในการเป็นหัวหน้าคณะบริหารจัดการโดยด่วน เพราะหากปล่อยทิ้งไว้จะมีปัญหาต่อภาวะการเป็นผู้นำได้
**ปู่จิ้นย้ำ ป.ป.ช.ชี้มูลก่อนมานิตถึงออก
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกรณีที่พรรคภูมิใจไทยมีมติให้ นายมานิต นพอมรวดี รมช.สาธารณสุข อยู่ในตำแหน่งต่อไป หลังจากถูกคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีการทุจริต ในโครงการไทยเข้มแข็งของกระทรวงสาธารณสุข ที่ระบุนายมานิตล้วงลูกการจัดสรรงบประมาณลงในพื้นที่ของตนเองว่า พรรคแถลงอย่างเป็นทางการไปแล้ว ซึ่งนายมานิตก็มีเหตุผลที่จะชี้แจงในที่ประชุมพรรค โดยพรรคก็เห็นชอบตามที่ นายมานิตร้องขอมา 3 ข้อ เชื่อว่า นายมานิตคงชี้แจงต่อสภาฯได้
นายชวรัตน์ ยอมรับว่ามติของพรรคภูมิใจไทยที่ออกมาเช่นนี้จะเป็นบรรทัดฐานให้รัฐมนตรีไม่ต้องลาออกหากพบมีการทุจริตและเรื่องยังไม่ถึง ป.ป.ช. เพราะยังไม่ถึงการตั้งข้อกล่าวหา เป็นเพียงแค่รายางานเท่านั้น
ส่วนที่มีกระแสข่าวนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ี มีความเห็นต่างกัน ในกรณีของนายมานิตนั้น นายชวรัตน์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ เพราะเป็นคนละพรรค คงไม่มีอะไร ในการทำงาน เมื่อเหตุผล ไม่ตรงกันก็ต้องคุยกันให้รู้เรื่อง แต่เห็นว่า หากทุกคนคิดเหมือนกัน สื่อก็ไม่มีข่าวที่จะลง เพราะสื่อมักลงข่าวฝั่ง ก. เป็นอย่างไร ฝั่ง ข.เป็นอย่างไร
**‘ปู่ชัย’ ให้กฎเหล็กใช้กับ ปชป.เท่านั้น
ด้านนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะส.ส.สัดส่วน พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า เป็นสิทธิของนายมานิตที่จะยังเป็น รมช.สาธารณสุข เพื่อจะได้ชี้แจงสภาฯได้ เชื่อว่านายมานิตจะชี้แจงได้และคงมีทีเด็ดอะไรถึงกล้าต่อสู้ เพราะการอภิปรายในสภาฯหากมีหลักฐานแน่ชัด รัฐมนตรีก็อยู่ไม่ได้ ยกเว้นจะมีทีเด็ด คือไม่ได้ทุจริตคอร์รัปชั่น ซึ่งอยากถามว่าเงินในโครงการนี้ได้รับการอนุมัติไปแล้วหรือยัง
ผู้สื่อข่าวถามว่าแสดงว่ากฎเหล็ก9 ข้อของนายกรัฐมนตรีใช้ไม่ได้ผล นายชัย กล่าวว่า กฎเหล็กของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นกฎเหล็กที่วางไว้ ในนามหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะไปก้าวก่ายพรรคอื่นไม่ได้ เป็นสิทธิของท่านในพรรคประชาธิปัตย์เท่านั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ไม่สามารถเข้ามาก้าวก่ายพรรคอื่น เมื่อถามย้ำว่า หากเป็นเช่นนั้นนายกรัฐมนตรีก็ไม่สามารถคุมรัฐมนตรีได้ นายชัย กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีมีอำนาจอยู่แล้ว สามารถสั่งปลดหรือแต่งตั้งใครก็ได้ หรือจะยุบสภาเมื่อใดก็ได้
**โวแม้มานิตดื้อแต่ภาพพจน์ ภท.ดีขึ้น
อย่างไรก็ตามตนยืนยันว่า พรรคภูมิใจไทยไม่ได้อุ้มนายมานิต แต่อยากให้สังคมให้ความเป็นธรรมกับนายมานิตด้วยว่ามีการเบิกจ่ายใช้งบไปจริงและทุจริตจริงหรือไม่ ทำในฐานะหน้าที่ของส.ส.หรือของรัฐมนตรี
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายมานิตจะทำให้ภาพพจน์ของพรรคภูมิใจไทยตกต่ำลง หรือไม่ นายชัย กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน เพราะวันนี้ภาพพจน์ของพรรคภูมิใจไทยดีขึ้น จะเห็นได้จากผลการเลือกตั้งซ่อมส.ส.ที่จ.มหาสารคาม และเชื่อว่าการเลือกตั้งใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตจะขึ้นอยู่กับฝีมือของแต่ละบุคคลเป็นหลัก ลักษณะตัวใครตัวมัน
สอน"มาร์ค"อย่าทำเรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่
ต่อข้อถามว่าดูเหมือนขณะนี้พรรคร่วมรัฐบาลกำลังบีบนายกรัฐมนตรี นายชัย กล่าวว่า ไม่ได้บีบ เพราะนายกรัฐมนตรีคนนี้เป็นตัวของตัวเอง แต่เรื่องเล็กจะทำให้เป็นเรื่องใหญ่ไม่ได้ ขณะนี้ควรดูเรื่องใหญ่ก่อนว่าจะทำอย่างไรให้บ้านเมืองไปได้ ที่ผ่านมาอาจมีกระทบกระทั่งกันบ้างเป็นเรื่องธรรมดา ตนเห็นว่าเรื่องใหญ่ในขณะนี้คือความสามัคคีของคนในชาติ ต้องคิดว่าทำอย่างไรถึงจะให้ประเทศไทยไม่มีเสื้อสีต่างๆ ขอให้เป็นคนไทยจริงๆ ซึ่งทุกฝ่ายต้องหยุดการกระแนะกระแหนกัน แล้วเอาตัวบทกฎหมายมาเป็นหลัก
ผู้สื่อข่าวาถามว่าการประเมินการทำหน้าที่ประธานรัฐสภาที่ผ่านมาสองปี อย่างไร นายชัย กล่าวว่า ตนยังใช้ความสามารถไม่ถึง 20 % ยังไม่ได้ใช้ความสามารถอะไรเลย คิดอย่างเดียวคือเรื่องสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ ยอมรับว่ายังมีปัญหาไม่ได้รับความร่วมมือจากฝ่ายนิติบัญญัติในการผลักดันกฎหมายเท่าที่ควร ซึ่งจะขออยู่ในตำแหน่งนี้ต่อไปจนกว่าจะมีการยุบสภา
"สุเทพ"ยังอ้างกฎเหล็ก 9 ข้อยังใช้ได้
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่ากรณี นายมานิต ต้องรอดูกันไป เพราะการเมืองไม่ได้ดั่งใจเราทุกอย่างและไม่ได้หมายความว่า ทุกอย่างต้องจบภายในวันนี้ หรือพรุ่งนี้ เรื่องนี้ต้องใช้เหตุผลในการพูดคุยกัน ต้องวิเคราะห์ผลดี ผลเสียทุกแง่มุม เพราะแต่ละพรรคมีระบบและวิธีคิดของเขา ซึ่งแตกต่างกัน จึงต้องให้โอกาสเขาได้คิด แต่ถึงแม้ว่าแต่ละพรรคจะมีวิธีคิด และระบบประเพณีที่ต่างกัน แต่เมื่อมาทำงานอยู่ด้วยกันต้องแลกเปลี่ยนและรับฟังซึ่งกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่าเมื่อการตัดสินใจของพรรคภูมิใจไทยที่ไม่ให้นายมานิต ลาออก ส่งผลให้กฎเหล็ก 9 ข้อ ถูกยกเลิกไปโดยปริยายหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ ทุกอย่างยังเหมือนเดิม
ส.วิชาชีพ สธ.จี้รัฐบาลฟัน"มานิต"
นายไพศาล บางชวด นายกสมาคมวิชาชีพสาธารณสุข กล่าวว่า เมื่อนายมานิต ยังยืนกรานไม่ยอมลาออก และปฏิเสธความรับผิดชอบต่อเรื่องนี้อย่างชัดเจน สมาคมฯ จึงมีข้อเรียกร้องไปยังรัฐบาลว่า รัฐบาลต้องกล้าตัดสินใจใช้มาตรการทางการบริหาร และมาตรการทางกฎหมายที่เป็นไปตามขั้นตอน โดยอิงกับข้อมูลการสอบสวน ของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงโครงการไทยเข้มแข็งของสธ.ที่มีนพ.บรรลุ ศิริพานิช เป็นประธานที่ปรากฏอย่างเปิดเผยผ่านสื่อต่างๆ โดยชัดเจน และสังคมต่างให้ความสนใจและเชื่อถือต่อผลการสอบสวนครั้งนี้ รัฐบาลต้องยึดหลักการพิจารณาที่ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายมิเช่นนั้น อาจสร้างปัญหาและความยุ่งยากในการบริหารงานของรัฐบาลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้แน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากพรรคภูมิใจไทย มีมติให้นายมานิต นพอมรบดี รมช.สาธารณสุข ยังคงดำรงตำแหน่งต่อแม้ ถูกคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีการทุจริต ในโครงการไทยเข้มแข็งของกระทรวงสาธารณสุข ที่ระบุนายมานิตล้วงลูกการจัดสรรงบประมาณลงในพื้นที่ของตนเอง และยังถือว่าเป็นการหักหน้านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎเหล็ก 9 ข้อที่วางไว้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (6 ม.ค.) นายมานิต ได้เดินทางเข้าทำงานที่กระทรวงสาธารณสุข ตามปกติท่ามกลางกระแสกดดัน โดยไม่ยอมให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวแต่อย่างใด โดยบอกสั้นๆ ว่า ขอไปขอนแก่นก่อน
**’มานิต’ บุกทำเนียบฯ พบนายกฯ
ต่อมาเวลา 15.00 น. วานนี้ (6 ม.ค.) นายมานิต เดินทาง เข้าพบนายอภิสิทธิ์ ที่ห้องทำงานตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายมานิตให้สัมภาษณ์หลังเข้าพบนาน 10 นาทีว่า มาพบนายกฯเพื่อเรียนถึงมติของพรรคภูมิใจไทย(ภท.) ในฐานะที่ท่านเป็นผู้บังคับบัญชา โดยตนยืนยันทำตามมติพรรคภูมิใจไทยที่จะไม่ลาออก และยังได้เล่าให้นายกฯฟังถึงโครงการไทยเข้มแข็งที่เป็นปัญหา
ส่วนที่มีข่าวว่าจะขอลาพักราชการ 30 วันนั้น นายมานิต กล่าวว่า ยังไม่ได้คุยกับนายกฯเรื่องนั้น แต่มาเรียนให้ท่านทราบถึงมติขอพรรคที่ให้ตนทำงานต่อ ไม่ได้มาลาพักการทำงาน ส่วนมติของพรรคภูมิใจไทยนายกฯพอใจ หรือไม่ต้องไปถามท่าน
ผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นห่วงเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ นายมาติ กล่าวว่า ประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวกับตนได้เล่าให้นายกฯฟังแล้ว ในแต่ละเรื่องว่ามีกระบวนการตามขั้นตอนราชการอย่างไร แต่ตนไม่ได้เป็นคนอนุมัติ และกรมที่เราดูแล ก็มีการโยกงบฯไปอีกส่วนหนึ่งที่เราไม่ได้ดูแล อันนั้นเราไม่รู้เป็นเรื่องของข้าราชการ
"ผมมาแจ้งให้ท่านฟัง ผมก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน บางเรื่องเราไม่เห็นชอบ แต่ก็มีประเด็นโยกเรื่องนี้ไป แล้วอย่างนี้จะมาบอกเราทุจริตมันก็คงไม่ใช่"
ผู้สื่อข่าวถามว่า กลุ่มแพทย์ชนบทประกาศชัดเจนให้ท่านลาออกจะเป็นเงาตามตัวไปตลอดในการทำงานจะทำอย่างไร นายมานิต กล่าวว่า งานในกระทรวงที่เราทำจะเป็นเรื่องของปัญหาเฉพาะหน้าต่างๆ ที่เกิดขึ้น ส่วนเรื่องของไทยเข้มแข็งก็มีคณะกรรมการดูแลอยู่แล้ว ฉะนั้นประเด็นต่างๆ ที่กลุ่มแพทย์ชนบทมองว่า ตนจะไม่ดูเรื่อง ไทยเข้มแข็ง ซึ่งจริงๆ ตั้งแต่แรก ตนก็ไม่ได้ดูอยู่แล้ว และกรมที่ดูแลโครงการ ไทยเข้มแข็ง ก็มีงบประมาณอยู่นิดเดียว เพราะส่วนใหญ่ งบประมาณไทยเข้มแข็งทั้งหมดอยู่ที่สำนักปลัดกระทวงทั้งหมดกว่า90% จะอยู่ในกรมที่ดูแลอยู่นิดเดียว
ต่อข้อถามว่านายฯได้พูดถึงเรื่องการลาออกหรือไม่ นายมานิต กล่าวว่า ยังเพิ่งคุยกับนายกฯได้แค่ 5 นาที เพราะนายกฯ ต้องรีบไปประชุมพรรค เมื่อถามว่า การเยื้อของรัฐมนตรีทำให้รัฐบาลมัวหมองไหม นายมานิต กล่าวว่า ไม่เกี่ยว อยากพิสูจน์เหมือนกันว่าผิดจริงหรือเปล่า ผู้สื่อข่าวแย้งว่า รัฐมนตรีจะทำงานอยู่ได้อย่างไร ในเมื่อยังมีข้อกังขา นายมานิต กล่าวว่า เดี๋ยวคงหารือกับผู้ใหญ่หลายๆ ฝ่าย
วิ่งหา’เนวิน-สมศักดิ์’ หลังถูกปฏิเสธใบลา
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังการอภิปรายมาไว้วางใจเสร็จจะแสดงสปีริตด้วยการลาออก หรือไม่ นายมานิต กล่าวว่า จริงๆ อยากดูผล ถ้ามีผลมันชัดที่สุด ไม่มีมีผลมันก็อึมครึมๆ ไป อย่างที่ตนบอกอนุมัติก็ไม่ได้อนุมัติ ถูกอะไรก็ไม่รู้ เมื่อถามว่า แสดงว่ายืนยันที่จะอยู่ต่อไป จนกว่าผลการสอบจะออกมาอย่างชัดเจน นายมานิต กล่าวย้ำว่า ก็คงจะเป็นเช่นนั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่นายมานิตให้สัมภาษณ์ ได้เดินทางออกจาก ทำเนียบรัฐบาลทันที เพื่อไปพบนายเนวิน ชิดชอบ และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำพรรคภูมิใจไทย ที่อาคารสิริภิญโญ พญาไท เพื่อหารือหลังจากที่นายกฯไม่รับใบลาราชการของนายมานิต แต่ต้องการให้นายมานิตลาออกจากตำแหน่ง รมว.สาธารณสุขเช่นเดียวกับนายวิทยา แก้วภราดัย ที่ลาออกไปก่อนหน้านี้
จนกระทั้งในเวลา 16.30 น.นายมานิตได้เดินทางกลับเข้ามาพบนายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และโฆษกพรรคภูมิใจไทย ที่ห้องทำงานจากนั้น เวลา 17.15 น. นายมานิตได้ให้สัมภาษณ์อีกครั้งพร้อมกับโชว์ใบลาขอพักราชการ 30 วัน กับสื่อมวลชน
**ยอมรับนายกฯ ไม่ให้ลาพักบีบให้ออก
นายมานิต ระบุว่า ก่อนหน้าที่ไม่ได้ตอบกับทางผู้สื่อข่าว จริงๆแล้วสาเหตุ ที่มาพบนายกฯ มีความตั้งใจมายื่นหนังสือลาพักราชการ 30วัน เพื่อให้มีการตรวจสอบ โครงการของกระทรวงฯโดยไม่มีการกดดันทางฝ่ายการเมือง หรือทางด้านใด และเมื่อพบนายกฯในฐานะผู้บังคับบัญชา ซึ่งนายกฯมีเหตุผลในฐานะผู้บังคับบัญชาส่วนหนึ่ง จึงยังไม่ให้มีการลาพักราชการ
"แต่ผมคิดว่า ถ้าเราไม่ลาพักราชการหลังจากที่บอกกับนายกฯต้องมานั่งคิดว่า การดำเนินการในกระทรวงจะมีความกดดันว่าเราเป็นนักการเมืองยังอยู่ในกระทรวงการตรวจสอบต่างๆในกระทรวงอาจจะมีผลหรือเปล่า ตรงนี้เป็นสาเหตุในการตัดสินใจ"
ผู้สื่อข่าวถามว่าแสดงว่าตอนมาพบนายกฯ ท่านไม่อนุมัติให้ลาพักราชการ แล้วตอนนี้อนุมัติแล้วหรือ นายมานิต กล่าวว่า อยู่ที่นายกฯ เมื่อถามอีกว่า หมายถึงการขอพักราชการต่อนายกฯทางอากาศหรือไม่ นายมานิต กล่าวว่า ไม่ใช่ ในส่วนนี้ไม่ได้ขอกลางอากาศ เป็นการยื่นหนังสือตามขั้นตอนราชการ ต่อข้อถามที่ว่า ทำไมไม่ลาออกจากการเป็นรมต.แทนการลาพักราชการ 30วัน นายมานิต กล่าวว่า ในแนวทางความรับผิดชอบทางการเมือง มีหลายวิธี เช่น นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าฯ กทม. ในคดีทุจริตรถดับเพลิง ก็ลาพักราชการก่อน และให้กระบวนการตรวจสอบทำงานไป ตรงนี้เรามองว่า ถ้าเรายังไม่ลาพักราชการอาจจะมีผลต่างๆ อย่างที่พูดไป จึงคิดว่า เราน่าจะลาเพื่อให้การตรวจสอบและการดำเนินการ ของคณะกรรมการรวมถึงภายในกระทรวงจะไม่มีแรงกดดันจากฝ่ายการเมือง
**ใช้วิธีลาพักผ่านเจ้าหน้าที่แทนยื่นกับมือ
ส่วนหากนายกฯไม่ลาอนุมัติให้ลาพักราชการจะมีแนวทางอย่างไรต่อไป นายมานิต กล่าวว่า อันนี้อยู่ที่นายกฯ เชื่อว่านายกฯคงจะมีเหตุผล แต่นายกฯยังไม่ได้เห็นหนังสือ แต่ที่พบนายกฯเป็นการพูดคุยเบื้องต้นก่อน ในฐานะผู้บังคับบัญชา ก็เล่าให้ฟังด้วย อย่างไรก็ตามตอนนี้ได้ยื่นใบลาพักราชการไปแล้วผ่านเจ้าหน้าที่
ผู้สื่อข่าวถามว่าถ้านายกฯไม่อนุมัติการลาจะหยุดการทำงานหรือไม่ นายมานิต กล่าวว่า ในหนังสือลามีผลตั้งแต่วันนี้ (7ม.ค.) แล้วคิดว่านายกฯ คงมีเหตุผล เมื่อถามว่า ทำไมถึงลา 30วัน นายมานิต กล่าวว่า คิดว่าจากนี้ไปสภาผู้แทนราษฎรจะเปิดสมัยประชุม ประมาณปลายเดือนม.ค. คงเข้าสู่กระบวนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็คงจะช่วงประมาณนั้น
ส่วนเหตุผลที่นายกฯไม่ให้ลาพักราชการคืออะไร นายมานิต กล่าวว่า ต้องถาม นายกฯ พอดีนายกฯรีบไปประชุมพรรคประชาธิปัตย์ที่มีการสรรหา รมว.สาธารณสุข ต่อข้อถามอีกว่า เป็นเพราะโดนผู้ใหญ่ในพรรคลอยแพถึงต้องวิ่งไปมา 2 รอบก่อนแถลงหรือไม่ นายมานิต กล่าวว่า "ไม่ได้วิ่ง บางครั้งอาจจะดูเหมือนอย่างที่ท่านว่า แต่นายกฯท่านรีบกลับไปที่พรรคประชาธิปัตย์ ทำให้การพูดคุยกันน้อยไป แต่เรามองว่า ถ้าเรามีความตั้งใจที่จะลาเพื่อให้การ ตรวจสอบดำเนินการอย่างเต็มที่ ผมคิดว่าเราน่าจะใช้ช่องทางนี้ เพื่อให้การทำงานต่างๆทำงานราบรื่นที่สุด"
ผู้สื่อข่าวถามว่าด้วยว่า นายกฯ ไม่ต้องการให้พักราชการแต่ต้องการให้ลาออก จากตำแหน่งจริงหรือไม่ นายมานิต กล่าวว่า อันนี้ต้องถามนายกฯ เมื่อถามว่า เป็นการชิงแถลงลาพักราชการที่จริงแล้วควรจะลาออกหรือไม่ นายมานิต กล่าวว่า นายกฯรู้อยู่แล้วเพราะความตั้งใจที่จะมาคือการพักราชการเพื่อให้การดำเนินการต่างๆ ราบรื่น แต่นายกฯรีบไปพรรคเลยมีเวลาคุยกันน้อย
ผู้สื่อข่าวถามว่าหลังจากนี้จะทำให้เกิดความขัดแย้งภายในพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายมานิต กล่าวว่า คงไม่ใช่ประเด็นนี้ไม่น่าจะเกี่ยวกันเพราะเรามองว่า การลาพักราชการการดูแลกระทรวงสาธารณสุขนายกฯสามารถตั้งรักษาราชการได้อยู่แล้ว
ต่อข้อถามว่ากังวลหรือไม่หากนายกฯไม่อนุญาตให้ลาพักแล้วทำให้ขาดราชการ จนเป็นเหตุให้ต้องปรับออกจากครม.หรือไม่ นายมานิต กล่าวว่า มันมีกระบวนการของเอกสารทางราชการ ว่า นายกฯต้องลงนาม หรือไม่ลงนามอย่างไร อันนี้คือหลักการทั่วไป เมื่อถามว่า เป็นการขัดความต้องการของผู้บัญชาการหรือไม่ นายมานิต กล่าวว่า คงไม่ใช่ ไม่เกี่ยวกัน เพราะเวลาคุยนายกฯรีบไปมีเวลาน้อย
นายมานิต ยังกล่าวในตอนท้ายว่า ก่อนยื่นใบลาพักราชการได้ปรึกษากับ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำพรรคภูมิใจไทย ซึ่งท่านบอกว่า ถ้าลาพักทำให้การ ตรวจสอบสามารถทำได้อย่างเต็มที่ ถ้าไม่ลาออกอยู่ต่อก็เป็นการกดดันข้าราชการ
**เนวิน-สมศักดิ์สั่ง’มานิต’สู้นายกฯ
แหล่งข่าวจากพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่า การเข้าพบนายกฯของนายมานิต ก็เพื่อยื่นหนังสือลาพักราชการ 30 วัน แต่เมื่อพุดคุยกันประมาณ 15 นาที นายกฯกลับมีท่าทีไม่เห็นด้วย โดยได้บอกกับนายมานิตว่า ยังมีเวลา ไม่จำเป็นต้องลาพัก ขอให้ทำงานต่อไป เมื่อพูดจบนายอภิสิทธิ์ ก็รีบเดินทางไปประชุมพรรคประชาธิปัตย์ ทำให้นายมานิต ต้องรับกลับไปพบนายสมศักดิ์ เทพสุทิน และนายเนวิน ชิดชอบ ที่อาคารศิริภิญโญ เพื่อหารือหลังนายกฯปฏิเสธที่จะรับใบลาราชการ โดยทั้ง 2 สั่งให้นายมานิตเดินหน้าเต็มที่ไม่ต้องกลัวแล้ว และการเข้ายื่นใบลาราชการเพราะคิดว่าเป็นทางออกในลักษณะวินๆ ทั้ง 2 ฝ่ายและเพื่อลดแรงกดดันต่างๆ เพื่อให้ทุกฝ่ายอยู่ร่วมกันต่อไปได้ ทำให้นายมานิตเดินทางกลับมายังทำเนียบฯ เพื่อยื่นใบลาราชการกับเจ้าหน้าที่โดยไม่ยื่นกับมือนายกฯ เหมือนที่มาครั้งแรก จากนั้นจึงแถลงข่าวกับสื่อมวลชน เสมือนบอกกล่าวนายกฯผ่านสื่อ
แหล่งข่าวเปิดเผยด้วยว่า ท่าทีของนายอภิสิทธิ์ ที่ปฏิเสธจะรับใบลาพักราชการของนายมานิต ก็เพราะต้องการบีบให้นาย มานิต ลาออก เพื่อรักษาจุดยืนของตัวเอง หากไม่ลาออกก็ต้องรับกระแสกดดันจากสังคมให้ได้
**อภิสิทธิ์ชี้สุดท้ายจะตัดสินใจเอง
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าขณะนี้ ยังไม่อนุมัติใบลาราชการของนายมานิต ซึ่งการพบกันตนได้ให้ข้อคิดกับนายมานิต ให้ทบทวนดูว่า ต้องช่วยกันสร้างมาตรฐานทางการเมือง เพราะจุดยืนในตอนนี้ ของนายมานิตไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ซึ่งขั้นสุดท้ายการตัดสินใจถือเป็นอำนาจของตน โดยกฎเหล็ก 9 ข้อต้องใช้กับรัฐมนตรีทุกคน ทั้งนี้ไม่คิดว่านายมานิตท้าทาย แต่เป็นแค่ความเห็นแตกต่าง เพราะนายมานิตอาจอยากจะพิสูจน์ตัวเอง โดยส่วนตัวไม่หนักใจและไม่คิดว่าเป็นเกมการเมือง ขณะที่ส่วนตัวมองว่าหากนายมานิตจะลาหยุดต่อไปเรื่องๆ ก็ไม่เกิดประโยชน์
ส่วนการตั้งกรรมการสอบสวนข้าราชการประจำนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าจะรอรัฐมนตรีใหม่ทำหน้าที่ก่อน เพราะนายมานิตไม่มีสิทธิ์ตั้งกรรมการชุดนี้
รายงานข่าวแจ้งว่า ในการประชุมกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ วานนี้ (6 ม.ค.) ซึ่งมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธานในที่ประชุม โดยมีการหารือถึงกรณีที่นายมานิต นพอมรวดี รมช.สาธารณสุข ไม่ยอมลาออก โดยที่ประชุมเห็นว่าเรื่องนี้ นายอภิสิทธิ์ ต้องใช้อำนาจ ในการเป็นหัวหน้าคณะบริหารจัดการโดยด่วน เพราะหากปล่อยทิ้งไว้จะมีปัญหาต่อภาวะการเป็นผู้นำได้
**ปู่จิ้นย้ำ ป.ป.ช.ชี้มูลก่อนมานิตถึงออก
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกรณีที่พรรคภูมิใจไทยมีมติให้ นายมานิต นพอมรวดี รมช.สาธารณสุข อยู่ในตำแหน่งต่อไป หลังจากถูกคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีการทุจริต ในโครงการไทยเข้มแข็งของกระทรวงสาธารณสุข ที่ระบุนายมานิตล้วงลูกการจัดสรรงบประมาณลงในพื้นที่ของตนเองว่า พรรคแถลงอย่างเป็นทางการไปแล้ว ซึ่งนายมานิตก็มีเหตุผลที่จะชี้แจงในที่ประชุมพรรค โดยพรรคก็เห็นชอบตามที่ นายมานิตร้องขอมา 3 ข้อ เชื่อว่า นายมานิตคงชี้แจงต่อสภาฯได้
นายชวรัตน์ ยอมรับว่ามติของพรรคภูมิใจไทยที่ออกมาเช่นนี้จะเป็นบรรทัดฐานให้รัฐมนตรีไม่ต้องลาออกหากพบมีการทุจริตและเรื่องยังไม่ถึง ป.ป.ช. เพราะยังไม่ถึงการตั้งข้อกล่าวหา เป็นเพียงแค่รายางานเท่านั้น
ส่วนที่มีกระแสข่าวนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ี มีความเห็นต่างกัน ในกรณีของนายมานิตนั้น นายชวรัตน์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ เพราะเป็นคนละพรรค คงไม่มีอะไร ในการทำงาน เมื่อเหตุผล ไม่ตรงกันก็ต้องคุยกันให้รู้เรื่อง แต่เห็นว่า หากทุกคนคิดเหมือนกัน สื่อก็ไม่มีข่าวที่จะลง เพราะสื่อมักลงข่าวฝั่ง ก. เป็นอย่างไร ฝั่ง ข.เป็นอย่างไร
**‘ปู่ชัย’ ให้กฎเหล็กใช้กับ ปชป.เท่านั้น
ด้านนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะส.ส.สัดส่วน พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า เป็นสิทธิของนายมานิตที่จะยังเป็น รมช.สาธารณสุข เพื่อจะได้ชี้แจงสภาฯได้ เชื่อว่านายมานิตจะชี้แจงได้และคงมีทีเด็ดอะไรถึงกล้าต่อสู้ เพราะการอภิปรายในสภาฯหากมีหลักฐานแน่ชัด รัฐมนตรีก็อยู่ไม่ได้ ยกเว้นจะมีทีเด็ด คือไม่ได้ทุจริตคอร์รัปชั่น ซึ่งอยากถามว่าเงินในโครงการนี้ได้รับการอนุมัติไปแล้วหรือยัง
ผู้สื่อข่าวถามว่าแสดงว่ากฎเหล็ก9 ข้อของนายกรัฐมนตรีใช้ไม่ได้ผล นายชัย กล่าวว่า กฎเหล็กของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นกฎเหล็กที่วางไว้ ในนามหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะไปก้าวก่ายพรรคอื่นไม่ได้ เป็นสิทธิของท่านในพรรคประชาธิปัตย์เท่านั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ไม่สามารถเข้ามาก้าวก่ายพรรคอื่น เมื่อถามย้ำว่า หากเป็นเช่นนั้นนายกรัฐมนตรีก็ไม่สามารถคุมรัฐมนตรีได้ นายชัย กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีมีอำนาจอยู่แล้ว สามารถสั่งปลดหรือแต่งตั้งใครก็ได้ หรือจะยุบสภาเมื่อใดก็ได้
**โวแม้มานิตดื้อแต่ภาพพจน์ ภท.ดีขึ้น
อย่างไรก็ตามตนยืนยันว่า พรรคภูมิใจไทยไม่ได้อุ้มนายมานิต แต่อยากให้สังคมให้ความเป็นธรรมกับนายมานิตด้วยว่ามีการเบิกจ่ายใช้งบไปจริงและทุจริตจริงหรือไม่ ทำในฐานะหน้าที่ของส.ส.หรือของรัฐมนตรี
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายมานิตจะทำให้ภาพพจน์ของพรรคภูมิใจไทยตกต่ำลง หรือไม่ นายชัย กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน เพราะวันนี้ภาพพจน์ของพรรคภูมิใจไทยดีขึ้น จะเห็นได้จากผลการเลือกตั้งซ่อมส.ส.ที่จ.มหาสารคาม และเชื่อว่าการเลือกตั้งใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตจะขึ้นอยู่กับฝีมือของแต่ละบุคคลเป็นหลัก ลักษณะตัวใครตัวมัน
สอน"มาร์ค"อย่าทำเรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่
ต่อข้อถามว่าดูเหมือนขณะนี้พรรคร่วมรัฐบาลกำลังบีบนายกรัฐมนตรี นายชัย กล่าวว่า ไม่ได้บีบ เพราะนายกรัฐมนตรีคนนี้เป็นตัวของตัวเอง แต่เรื่องเล็กจะทำให้เป็นเรื่องใหญ่ไม่ได้ ขณะนี้ควรดูเรื่องใหญ่ก่อนว่าจะทำอย่างไรให้บ้านเมืองไปได้ ที่ผ่านมาอาจมีกระทบกระทั่งกันบ้างเป็นเรื่องธรรมดา ตนเห็นว่าเรื่องใหญ่ในขณะนี้คือความสามัคคีของคนในชาติ ต้องคิดว่าทำอย่างไรถึงจะให้ประเทศไทยไม่มีเสื้อสีต่างๆ ขอให้เป็นคนไทยจริงๆ ซึ่งทุกฝ่ายต้องหยุดการกระแนะกระแหนกัน แล้วเอาตัวบทกฎหมายมาเป็นหลัก
ผู้สื่อข่าวาถามว่าการประเมินการทำหน้าที่ประธานรัฐสภาที่ผ่านมาสองปี อย่างไร นายชัย กล่าวว่า ตนยังใช้ความสามารถไม่ถึง 20 % ยังไม่ได้ใช้ความสามารถอะไรเลย คิดอย่างเดียวคือเรื่องสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ ยอมรับว่ายังมีปัญหาไม่ได้รับความร่วมมือจากฝ่ายนิติบัญญัติในการผลักดันกฎหมายเท่าที่ควร ซึ่งจะขออยู่ในตำแหน่งนี้ต่อไปจนกว่าจะมีการยุบสภา
"สุเทพ"ยังอ้างกฎเหล็ก 9 ข้อยังใช้ได้
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่ากรณี นายมานิต ต้องรอดูกันไป เพราะการเมืองไม่ได้ดั่งใจเราทุกอย่างและไม่ได้หมายความว่า ทุกอย่างต้องจบภายในวันนี้ หรือพรุ่งนี้ เรื่องนี้ต้องใช้เหตุผลในการพูดคุยกัน ต้องวิเคราะห์ผลดี ผลเสียทุกแง่มุม เพราะแต่ละพรรคมีระบบและวิธีคิดของเขา ซึ่งแตกต่างกัน จึงต้องให้โอกาสเขาได้คิด แต่ถึงแม้ว่าแต่ละพรรคจะมีวิธีคิด และระบบประเพณีที่ต่างกัน แต่เมื่อมาทำงานอยู่ด้วยกันต้องแลกเปลี่ยนและรับฟังซึ่งกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่าเมื่อการตัดสินใจของพรรคภูมิใจไทยที่ไม่ให้นายมานิต ลาออก ส่งผลให้กฎเหล็ก 9 ข้อ ถูกยกเลิกไปโดยปริยายหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ ทุกอย่างยังเหมือนเดิม
ส.วิชาชีพ สธ.จี้รัฐบาลฟัน"มานิต"
นายไพศาล บางชวด นายกสมาคมวิชาชีพสาธารณสุข กล่าวว่า เมื่อนายมานิต ยังยืนกรานไม่ยอมลาออก และปฏิเสธความรับผิดชอบต่อเรื่องนี้อย่างชัดเจน สมาคมฯ จึงมีข้อเรียกร้องไปยังรัฐบาลว่า รัฐบาลต้องกล้าตัดสินใจใช้มาตรการทางการบริหาร และมาตรการทางกฎหมายที่เป็นไปตามขั้นตอน โดยอิงกับข้อมูลการสอบสวน ของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงโครงการไทยเข้มแข็งของสธ.ที่มีนพ.บรรลุ ศิริพานิช เป็นประธานที่ปรากฏอย่างเปิดเผยผ่านสื่อต่างๆ โดยชัดเจน และสังคมต่างให้ความสนใจและเชื่อถือต่อผลการสอบสวนครั้งนี้ รัฐบาลต้องยึดหลักการพิจารณาที่ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายมิเช่นนั้น อาจสร้างปัญหาและความยุ่งยากในการบริหารงานของรัฐบาลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้แน่นอน