ASTVผู้จัดการรายวัน - บิ๊กแบงก์ชาติยันประเทศไทยจะไม่เจอปัญหาบัตรเอทีเอ็มเดี้ยงเหมือนที่เยอรมันเกิดปัญหาY2K ช่วงปีใหม่ เผยกำลังเร่งปรับปรุงระบบ-ค่าธรรมเนียมแบบวินวินทั้งแบงก์และลูกค้า
กรณีบัตรเอทีเอ็มกว่า 30 ล้านใบ ในประเทศเยอรมนี ใช้งานไม่ได้เมื่อปีใหม่ที่ผ่านมา เนื่องจากปัญหาคอมพิวเตอร์ Y2K ที่เคยกังวลเมื่อปี 2000 กลับมาเล่นงาน นางอัจนา ไวความดี รองผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า บัตรเอทีเอ็มที่ใช้ไม่ได้ทั้งหมดเป็นบัตรที่ติดไมโครชิพ ส่วนบัตรเอทีเอ็มที่ใช้ระบบแถบแม่เหล็กยังใช้การได้ตามปกติ สำหรับประเทศไทย ธปท.มั่นใจว่าความผิดพลาดดังกล่าวจะเกิดขึ้นกับระบบเอทีเอ็มของไทย
"หากเป็นกรณีที่การไม่ยอมรับปี ค.ศ.จากปัญหา Y2K ขณะนี้พ้นช่วงปีใหม่มาแล้ว ไม่มีปัญหาอะไร ก็ไม่น่าจะเกิดปัญหากับระบบเอทีเอ็มของประเทศไทย หรือประเทศอื่นอีก" นางอัจจนากล่าวและว่า คณะกรรมการระบบการชำระเงิน (กรช.) ของ ธปท.กำลังอยู่ระหว่างการศึกษาเพื่อปรับโครงสร้างการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านระบบอิเลกทรอนิกส์ โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มปริมาณการทำธุรกรรมผ่านระบบอิเลกทรอนิกส์ในประเทศไทยให้มากขึ้น รวมถึงค่าธรรมเนียมที่เป็นธรรมและสะท้อนต้นทุนที่แท้จริงกว่าในปัจจุบัน
“โครงสร้างค่าธรรมเนียมของแบงก์พาณิชย์มีความซับซ้อน มีสูตรคำนวณในการแบ่งเงินระหว่าง 2 แบงก์ผู้ส่งผู้รับ ธปท.กำลังศึกษาว่า การแบ่งเป็นเหล่านี้มีต้นทุนที่ควรเกิดขึ้นหรือไม่ และในลักษณะอย่างไร เช่น กรณีการโอนเงินข้ามธนาคาร ข้ามเขต หรือกดเอทีเอ็มข้ามธนาคารข้ามเขต ที่มีค่าธรรมเนียม 20-25 บาท ขณะที่ค่าโทรศัพท์มือถือทั่วประเทศนาทีละ 3 บาทเท่านั้น”
รองผู้ว่าฯ ธปท.กล่าวว่า เบื้องต้น ธปท.พยายามที่จะสร้างทางเลือกให้กับประชาชน โดยกำลังหารือกับธนาคารพาณิชย์เพื่อปรับปรุงระบบ โดยประชาชนต้องรู้ก่อนว่าในการทำธุรกรรมโอนเงินผ่านเอทีเอ็ม อกดเงินข้ามธนาคาร มีค่าธรรมเนียมเท่าไหร่ เป็นการสร้างการแข่งขันการให้บริการระหว่างธนาคารไปด้วย ทุกครั้งที่ประชาชนจะทำธุรกรรมทางการเงินผ่านทางเครื่องอิเลกทรอนิกส์ ควรจะมีคำเตือนขึ้นที่หน้าจอเอทีเอ็มก่อน ระบุธุรกรรมนี้มีค่าธรรมเนียมเท่านี้ เพื่อให้ประชาชนเปรียบเทียบกับราคาของตู้ของธนาคารพาณิชย์รายอื่นๆ.
กรณีบัตรเอทีเอ็มกว่า 30 ล้านใบ ในประเทศเยอรมนี ใช้งานไม่ได้เมื่อปีใหม่ที่ผ่านมา เนื่องจากปัญหาคอมพิวเตอร์ Y2K ที่เคยกังวลเมื่อปี 2000 กลับมาเล่นงาน นางอัจนา ไวความดี รองผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า บัตรเอทีเอ็มที่ใช้ไม่ได้ทั้งหมดเป็นบัตรที่ติดไมโครชิพ ส่วนบัตรเอทีเอ็มที่ใช้ระบบแถบแม่เหล็กยังใช้การได้ตามปกติ สำหรับประเทศไทย ธปท.มั่นใจว่าความผิดพลาดดังกล่าวจะเกิดขึ้นกับระบบเอทีเอ็มของไทย
"หากเป็นกรณีที่การไม่ยอมรับปี ค.ศ.จากปัญหา Y2K ขณะนี้พ้นช่วงปีใหม่มาแล้ว ไม่มีปัญหาอะไร ก็ไม่น่าจะเกิดปัญหากับระบบเอทีเอ็มของประเทศไทย หรือประเทศอื่นอีก" นางอัจจนากล่าวและว่า คณะกรรมการระบบการชำระเงิน (กรช.) ของ ธปท.กำลังอยู่ระหว่างการศึกษาเพื่อปรับโครงสร้างการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านระบบอิเลกทรอนิกส์ โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มปริมาณการทำธุรกรรมผ่านระบบอิเลกทรอนิกส์ในประเทศไทยให้มากขึ้น รวมถึงค่าธรรมเนียมที่เป็นธรรมและสะท้อนต้นทุนที่แท้จริงกว่าในปัจจุบัน
“โครงสร้างค่าธรรมเนียมของแบงก์พาณิชย์มีความซับซ้อน มีสูตรคำนวณในการแบ่งเงินระหว่าง 2 แบงก์ผู้ส่งผู้รับ ธปท.กำลังศึกษาว่า การแบ่งเป็นเหล่านี้มีต้นทุนที่ควรเกิดขึ้นหรือไม่ และในลักษณะอย่างไร เช่น กรณีการโอนเงินข้ามธนาคาร ข้ามเขต หรือกดเอทีเอ็มข้ามธนาคารข้ามเขต ที่มีค่าธรรมเนียม 20-25 บาท ขณะที่ค่าโทรศัพท์มือถือทั่วประเทศนาทีละ 3 บาทเท่านั้น”
รองผู้ว่าฯ ธปท.กล่าวว่า เบื้องต้น ธปท.พยายามที่จะสร้างทางเลือกให้กับประชาชน โดยกำลังหารือกับธนาคารพาณิชย์เพื่อปรับปรุงระบบ โดยประชาชนต้องรู้ก่อนว่าในการทำธุรกรรมโอนเงินผ่านเอทีเอ็ม อกดเงินข้ามธนาคาร มีค่าธรรมเนียมเท่าไหร่ เป็นการสร้างการแข่งขันการให้บริการระหว่างธนาคารไปด้วย ทุกครั้งที่ประชาชนจะทำธุรกรรมทางการเงินผ่านทางเครื่องอิเลกทรอนิกส์ ควรจะมีคำเตือนขึ้นที่หน้าจอเอทีเอ็มก่อน ระบุธุรกรรมนี้มีค่าธรรมเนียมเท่านี้ เพื่อให้ประชาชนเปรียบเทียบกับราคาของตู้ของธนาคารพาณิชย์รายอื่นๆ.