xs
xsm
sm
md
lg

คอนโดฯบูม รับรถไฟฟ้าทุกสายเชื่อมต่อ-สีม่วงเกิด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTV ผูจัดการรายวัน – ศูนย์ข้อมูลฯ ชี้อสังหาปี53 ปีทองคอนโดมิเนียม1-2ล้านบาท จับตาปัจจัยบวกโครงการไทยเข้มแข็ง- รถไฟฟ้าดันราคาที่ดินแนวรถไฟฟ้าMRT-BTSพุ่ง คาดหลังการเชื่อมต่อโครงข่าย การก่อสร้างเริ่มเป็นรูปธรรมได้เห็นราคาที่ดินขยับแน่ แจงน้ำมัน-เงินเฟ้อดอกเบี้ยปรับตัวปัจจัยลบ แจงทุนนอกมองลงทุนไทยระยะสั้นเหตุการเมือง-มาบตาพุดปัญหาใหญ่ หวั่นจีนคุมฟองสบู่อสังหาฯไม่อยู่กระทบไทยแรงกว่าดูไบ

นายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า ในปลาย52ปีที่ผ่านมาตลาดอสังหาริมทรัพย์มีการปรับตัวที่ดีขึ้นกว่าการคาดการณ์ของหลายๆฝ่ายในช่วงต้นปี ทำให้แนวโน้มการขยายตัวธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้สูงกว่าปี 52 นอกจากนี้ปัจจัยบวกต่างๆ ที่จะเข้ามาในปีนี้ยังจะส่งผลต่อการาขยายตัวของเศรษฐกิจและตลาดที่อยู่อาศัยชัดเจนมากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา
โดยเฉพาะโครการก่อสร้างต่างๆ ในโครงการไทยเข้มแข็ง และโครงการรถไฟฟ้า ซึ่งล่าสุดโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางซื่อ -บางใหญ่) ได้รับการบรรจุเป็นโครงการที่มีความพร้อมที่จะดำเนินการตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็งปี53 ที่จะเริ่มดำเนินการก่อสร้างและจะแล้วเสร็จใน 5 ปี ซึ่งหลังการก่อสร้างเริ่มเป็นรูปธรรม คาดว่าจะทำให้ความสนใจโครงการที่อยู่อาศัยตลอดเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีม่วงขยายตัวมากขึ้น และส่งผลต่อการปรับตัวของราคาที่ดินในแนวรถไฟฟ้าสายดังกล่าว และคาดว่าจะส่งผลให้ผู้ประกอบการมีการลงทุนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นด้วย โดยเฉพาะในจุดที่ใกล้ทางขึ้น-ลงสถานีตลอดเส้นทาง
นอกจากการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วงแล้วในปีนี้จะมีการเปิดเดินรถไฟฟ้าสายแอร์พอร์ตลิ้งค์ (Airport Link) และซิตี้ไลน์ (City Line) โดยสมบูรณ์ ซึ่งผู้โดยสารสามารถเดินทางเชื่อมโยงกับรถไฟฟ้าลอยฟ้าสาย BTS ที่สถานีพญาไท และเชื่อมรถไฟฟ้าใต้ดินสาย MRT ที่สถานีมักกะสัน-เพชรบุรี ซึ่งเป็นการเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน รวมทั้งคาดว่าจะมีการเปิดใช้ส่วนต่อขยายสายอ่อนนุช-แบริ่งอีกเส้นทาง นอกจากนี้ กรุงเทพมหานครยังจะเปิดการเดินรถโดยสารช่องทางพิเศษ BRT อีกด้วย การเชื่อมต่อกันของโครงข่ายระบบรางและรถ บีอาร์ที ที่เริ่มเชื่อมต่อกันและขยายวงกว้างออกไปเหล่านี้ น่าจะทำให้มีการซื้อขายที่อยู่อาศัยตามแนวเส้นทางขนส่งมวลชนมากขึ้น โดยเฉพาะที่อยู่อาศัยประเภทห้องชุดคอนโดมิเนียม
นอกจากนี้ รัฐบาลยังมีการประกาศว่าต้องการดำเนินการปฏิรูประบบการเดินรถไฟของประเทศ ซึ่งล้าหลังประเทศเพื่อนบ้านที่มีการพัฒนาใหม่ๆ รวมทั้งมีความเห็นจากบางภาคส่วนต้องการให้ย้ายสถานีรถไฟหัวลำโพงออกไปสู่ชานเมือง ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์เห็นว่ารัฐบาลควรย้ายชุมทางรถไฟปกติเส้นที่เดินทางสู่ภูมิภาคต่างๆออกไปสู่ชานเมืองคล้ายกับกรณีของสถานีรถโดยสาร ดำเนินการปรับปรุงสถานีรถไฟและขบวนรถไฟตั้งแต่ชานเมืองถึงในเมืองทั้งหมดให้มีความสะดวก และทันสมัย เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเดินทางและการอยู่อาศัยของประชาชน
นอกจากปัจจัยบวกต่างๆข้างต้นแล้ว ปริมาณเงินที่ไหลเข้าในปี53มาจะช่วยให้สถาบันการเงินมีสภาพคล่อง แต่สถาบันการเงินยังมีความกังวลต่อการปล่อยสินเชื่อภาคธุรกิจ จึงอาจทำให้ในปีนี้สถาบันการเงินหันมาเน้นการปล่อยสินเชื่อผู้บริโภคมากขึ้น โดยเฉพาะสินเชื่อที่อยู่อาศัย ซึ่งเป็นสินเชื่อที่มีหลักประกันและมีความเสี่ยงต่ำกว่าสินเชื่อผู้บริโภคประเภทอื่นๆ

2553ปีทองคอนโดฯ

นายสัมมา กล่าวว่า ปัจจัยบวกดังกล่าวคาดว่าจะส่งผลต่อตลาดที่อยู่อาศัยในปี53 มีอัตราการขยายตัวสูงกว่าปี52ที่ผ่านมาโดยเฉพาะที่อาศัยตลาดระดับกลาง ราคา1-2ล้านบาท เพราะนอกจากจะมีที่อยู่อาศัยในตลาดล่างที่ผู้ประกอบการบางรายมีความเชี่ยวชาญในการผลิตขายแล้ว ยังมีที่อยู่อาศัยราคาถูกอีกประมาณ10,000หน่วยที่ผู้ประกอบการสร้างขายตามโครงการของบ้านบีโอไอ เพื่อแลกกับสิทธิประโยชน์ทางภาษี นอกจากนี้ ยังมีบ้านตามโครงการเอื้ออาทรที่ยังก่อสร้างอยู่อีกประมาณ 40,000-50,000 หน่วยสุดท้ายทยอยออกมาในปีนี้ และคาดว่าส่วนใหญ่มากกว่า 80% ของที่อยู่อาศัยในตลาดล่างดังกล่าวนี้จะเป็นประเภทห้องชุดคอนโดมิเนียม

แนวโน้มคนไทยมีบ้านมากกว่าหนึ่งหลังเริ่มมีมากขึ้น โดยอาจใช้หลังที่สองสำหรับบุตรหลานเอยู่ใกล้สถาบันการศึกษาหรือเพื่อการพักผ่อนหรือบางกรณีใช้เป็นสินทรัพย์เพื่อการลงทุน แต่มูลค่าต่อหน่วยในการซื้อบ้านหลังที่สองอาจไม่สูงเท่าบ้านหลังแรกและมักเป็นห้องชุดคอนโดมิเนียม นอกจากนี้ ห้องชุดคอนโดมิเนียมยังเป็นทางเลือกใหม่ในการเป็นบ้านหลังแรกของครอบครัวใหม่ที่มีขนาดครอบครัวเล็ก

หวั่นฟองสบู่จีนแตกกระทบไทย

สำหรับปัจจัยลบที่นอกเหนือไปจากเรื่องเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยที่จะเพิ่มสูงขึ้น และทำให้กำลังซื้อลดลงบ้างเล็กน้อย ยังมีกรณีที่ผู้ประกอบการต้องปรับตัวมากขึ้นกับความเข้มงวดของกฎเกณฑ์ด้านมาตรการควบคุมสิ่งแวดล้อม ทำให้การพัฒนาโครงการและการก่อสร้างมีข้อจำกัดมากขึ้น อย่างไรก็ตาม กฎเกณฑ์ที่เข้มงวดขึ้นและเป็นปัญหาเฉพาะนั้นอาจทำให้ผู้บริโภคมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในระยะยาว ทั้งนี้ ปัจจัยลบที่เป็นความเสี่ยงสูงสุดยังคงเป็นสถานการณ์ความรุนแรงทางการเมือง
“อย่างไรก็ตามสถานการณ์อสังหาริมทรัพย์ในจีนและฮ่องกง ซึ่งราคาที่อยู่อาศัยในเมืองใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้นรวดเร็วมากตั้งแต่กลางปี 2552 นั้น เป็นสิ่งที่ทางการจีนและฮ่องกงเองก็มีความกังวล เห็นได้จากการออกมาตรการเข้มงวดขึ้นในช่วงท้ายปี52 เช่น มาตรการบังคับให้ผู้บริโภควางเงินดาวน์เพิ่มขึ้นในการซื้อที่อยู่อาศัยระดับหรู หรือมาตรการทางภาษีที่เคยผ่อนปรนให้ในปี52 ก็ยกเลิกการผ่อนปรนในปี53 หากจีนและฮ่องกงสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ก็จะเป็นผลดีต่อตลาดในภูมิภาค แต่หากไม่สามารถควบคุมได้และทำให้ฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์ในจีนแตก จะทำให้ฟองสบู่ตลาดหุ้นในจีนแตกไปด้วย และจะทำให้ความเชื่อมั่นในภูมิภาคเอเชียลดลงทันที ซึ่งไทยจะได้รับผลกระทบมากกว่าในกรณีของดูไบ เนื่องจากสภาพภูมิศาสตร์ วัฒนธรรม และราคาอสังหาริมทรัพย์ มีความใกล้เคียงกันมากกว่า”
นายสัมมา กล่าวว่า สำหรับภาพรวมของเศรษฐกิจและภาคอสังหาริมทรัพย์ไทยในปี 2552 ที่ผ่านมา ถือว่าไม่บอบช้ำมากนัก เนื่องจากได้รับอานิสงค์จากความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะจีน เกาหลีใต้ ไต้หวัน ฯลฯ ที่สามารถฟื้นตัวได้เร็ว และมีเม็ดเงินไหลเข้าจากการลงทุนที่หวังผลตอบแทนที่สูง ทำให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ในภูมิภาคปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นมากกว่าภูมิภาคอื่น สร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนทำให้สามารถพยุงกำลังซื้ออสังหาริมทรัพย์ได้ อีกทั้งเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวนมหาศาลของจีนและประเทศอื่นๆรวมทั้งไทยเอง ทำให้เกิดการลงทุนและการบริโภคในภูมิภาคมากขึ้น
นอกจากนี้ แนวโน้มการไหลเข้าของเม็ดเงินลงทุนในภูมิภาคเอชียในปี53 ที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะในตลาดขนาดใหญ่ เช่น จีน ซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจแซงหน้าเยอรมันนี ขึ้นมาเป็นอันดับที่สามของโลก รองจากสหรัฐและญี่ปุ่น และอาจจะแซงหน้าญี่ปุ่นขึ้นมาเป็นอันดับที่สองได้ภายใน 1-2 ปีนี้ ทำให้เม็ดเงินส่วนหนึ่งจะไหลเข้าสู่ประเทศไทยด้วย แต่การลงทุนคาดว่าจะยังเป้ฯการลงทุนในระยะสั้น เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติยังมองว่าประเทศไทยมีปัจจัยความเสี่ยงทางการเมืองและความเสี่ยงในการลงทุนจากกรณีมาบตาพุด
ทั้งนี้แม้ว่าต้นปีนี้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นแตะบาร์เรลละ 80 เหรียญสหรัฐ ทำให้ราคาน้ำมันในประเทศปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งหากราคาน้ำมันยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จะทำให้เกิดการปรับขึ้นของค่าใช้จ่ายในการขนส่งและราคาวัสดุก่อสร้าง และส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อในประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้นตั้งแต่ไตรมาสแรก และจะเริ่มชัดเจนในไตรมาส2 ทำให้มีความเป็นไปได้สูงที่จะมีการดำเนินนโยบายการเงินโดยปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้นตั้งแต่ไตรมาสสองหรือสาม แต่กรอบการเพิ่มขึ้นน่าจะค่อยเป็นค่อยไป จึงไม่ใช่ปัจจัยหลักที่จะกระทบภาคที่อยู่อาศัยในปีนี้มากนัก แต่อาจเป็นปัจจัยในปี54 หากมีการปรับเพิ่มขึ้นสูง
ดังนั้น โดยภาพรวม ตลาดที่อยู่อาศัยในปี 2553 น่าจะดีกว่าปี 2552 ทั้งการขายและการปล่อยสินเชื่อ แต่ราคาที่อยู่อาศัยไม่น่าจะปรับเพิ่มขึ้นมากนัก (ยกเว้นโครงการเปิดตัวใหม่ในพื้นที่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าซึ่งมีต้นทุนราคาที่ดินแพงขึ้น) เพราะมีแรงกดดันจากปริมาณที่อยู่อาศัยระดับล่างที่จะทะลักออกมาจำนวนมาก ขณะเดียวกัน มาตรการสนับสนุนด้านการลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอนและการจดจำนองที่ยังไม่ชัดเจนว่าจะต่ออายุหรือไม่ จะทำให้การซื้อขายในเดือนมีนาคมปีนี้คึกคักคล้ายเดือนมีนาคมปีที่แล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น