xs
xsm
sm
md
lg

ลูกค้าบีบีซี ปั้น โรเจอร์ และโรสแมรี่ ธนธร พลิมเมอร์ตัน (3)

เผยแพร่:   โดย: ชัยสิริ สมุทวณิช

ในหมู่ผู้ชมที่นั่งอยู่แถวสอง ก็คือผู้กำกับพร้อมผู้ช่วยและช่างกล้องที่นำกล้องขนาดเล็กพกไป โดยแอบถ่ายขณะที่มีการแสดงไปด้วย โดยกระทำอย่างมิดชิดเพราะหากโรงละครรู้ก็จะถูกไล่ออกและปรับหลายพันปอนด์

ส่วนผู้กำกับมองโรสแมรี่ตาแทบไม่กะพริบ รู้ว่าเขาได้นางเอกคนใหม่สำหรับภาพยนตร์แล้ว ที่ถ่ายทำมาทั้งหมดเป็นจำนวนมากถือว่าโยนทิ้งไปได้ เพราะถ้าเธอตกลงมันคุ้มกว่าที่เสียไป

เขาเพียงแต่ภาวนา ขอให้เธอตอบรับและเซ็นสัญญากับเขาเถอะ เธอจะเรียกร้องมากแค่ไหนเขายินดีจ่าย

ปัญหาเดียวที่เขาต้องขบคิด

คืนนี้เขาจะโทร.ไปบริษัทเมโทรโกลวินและเมเยอร์ตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อคุยกับยีน ขออนุมัติให้อยู่ต่อสำหรับฉากในอังกฤษและฉากต่อไปในปารีส และไปจบในฉากที่บอสตัน

เอียน สคอซซี่ นอนไม่หลับ เขาลุกขึ้นมาเข้าห้องน้ำถึง 5 ครั้ง ก่อนรุ่งเช้าเพื่ออ่านหนังสือพิมพ์และรับประทานอาหารเช้า

เขาได้ที่อยู่ของโรสแมรี่เรียบร้อยแล้ว จากผู้กำกับเวทีละครเมื่อคืนนี้เอง

“ผมไม่เข้าใจนะเอียน... คุณจะเอาใครมาแทนคนเก่าที่ว่ามีปัญหา ใช้เงินของบริษัทไปก็ล้านกว่าเหรียญ มันทำให้ภาพยนตร์เราล่าช้าไปเป็นเดือนแล้ว เด็กที่คุณพบ ผมไม่แน่ใจนะว่า แม้จะเล่นละครเก่ง แต่เล่นภาพยนตร์มันคนละเรื่อง มีประสบการณ์อะไรบ้างก็ไม่รู้”

เอียนหยุดฟังสักครู่ เขาก็พูดให้ช้าลง

“คือ....ผมแล้วก็ฟิลิป (หัวหน้าช่างกล้อง) ดูแล้วคิดว่าจะไม่มีปัญหาเลย เราถ่ายที่เธอเล่นละครมาด้วย ผมส่งให้กัปตันสายการบินแพนแอม เคยเล่นเป็นตัว extra ให้หนังเรา คงถึงมือคุณพรุ่งนี้เช้า คุณภาพก็พอดูได้”
“คุณได้สัญญามาหรือยัง”

“.... ยังไม่ได้พูดหรือผูกมัดอะไรเลยครับ”

“เฮ้ย... เอียน แสดงว่าคุณไม่มีอะไรในมือสินะ เลิกมั่วแบบนี้ซะที เอียนคราวที่แล้วก็แบบนี้ แล้วไง เธอมีคิวเล่นหนังเรื่องอื่นทั้ง 2 เรื่องน่ะ ดาราดังอย่างโรเจอร์ มัวร์ ใช่ไหมที่เขาปฏิเสธมา แล้ว แอน มาร์กาเรต นั้นก็เล่นหนังไม่ได้ท่าเลย...ให้ตายเถอะ”

เอาเป็นว่า... ได้สัญญาแล้วค่อยพูดกัน

เอียนวางหูโทรศัพท์ แล้วหันไปพูดกับผู้ช่วยผู้กำกับและฟิลิป

“สงสัยนายหัวเสีย คงทะเลาะกับเมียว่ะ นี่ 9 โมงกว่าแล้ว นายโทร.ไปนัดกับคุณโรส... โรสอะไรว่ะ ชื่อเรียกยากฉิบหาย”

“โรสแมรี่ ครับ”

“เออ ยัยนี่แหละ... ขอพบเธอสัก 10 โมงได้ไหม”

“ครับ” ฟิลิปพูดก่อนตบเท้าออกไป พร้อมโบรชัวร์

“โรสแมรี่ พูดค่ะ”

“ผมชื่อ ฟิลิป ครับ … ผมดูละครเมื่อคืน... แล้วก็ติดใจนะครับ อยากขอนัดคุณหน่อย”

“ดิฉันไม่นัดกับคนแปลกหน้า”

“คือผมเป็นช่างกล้อง อยู่กับกองถ่ายภาพยนตร์ของบริษัทเมโทรโกลวิน และเมเยอร์ คุณสกอตซี่ เป็นผู้กำกับครับ เวลานี้พวกเราอยู่ที่ลอนดอน”

“นั่นแหละ คุณก็คนแปลกหน้า”

เสียงโทรศัพท์ดัง “คลิ๊ก” แสดงว่าปลายทางวางสายแล้ว

ฟิลิปหน้าจ๋อย เขาหยิบเศษกระดาษ แล้วดูที่อยู่เห็นว่าไกลจากโรงแรมมาก วิธีเดียวที่จะพบเธอก็คือรีบไปทันที แต่เขายังไม่ได้อาบน้ำหรือรับประทานอาหารเช้าเลย ครั้นจะทำทั้งสองอย่างคงไม่ทันการ โรสแมรี่อาจออกจากบ้านไปแล้ว และโอกาสจะพบตัวคงเป็นตอนกลางคืน
ยิ่งถ้าเธอออกนอกเมือง ยิ่งหนักเข้าไปใหญ่

เขาตัดสินใจ วิ่งออกจากห้องกดลิฟต์ลงไปล็อบบี้ ทั้งที่ผมเผ้ายุ่งเหยิงถึงถนนก็พบคนยืนรอคิวรถแท็กซี่อยู่ 5-6 ราย

“คุณครับ... ผมกำลังจะขึ้นเครื่องบินไปนิวยอร์ก ถ้าไปไม่ทันผมแย่แน่”

“เฮ้ย... คุณไปต่อคิวข้างหลังโน่น ไอ้หนุ่ม”

“ขอร้องเถอะ… ผมจำเป็นจริงๆ”

“คุณจะไปถึงไหนล่ะ”

“ไปสนามบิน”

“เอางี้ไหม ผมจะไปแค่ชานเมือง ติดรถผมไปลงที่ไหน คุณไปต่อแท็กซี่ที่อื่นไป”

ฟิลิปยอมรับ เพราะตัวเองก็ไม่รู้จักว่าชานเมืองมันไกลแค่ไหน

เขาติดรถมาระยะหนึ่ง พอรถติดไปแดง เขามองซ้ายขวาที่ไม่รู้จักว่าที่ไหน ถนนอะไรก็ไม่มีป้ายบอกไว้ พอรถวิ่งไปได้สักพัก เห็นอาคารเหมือนที่พักอาศัยโก้หรูมากอยู่ทางซ้ายมือ เขาก็ตัดสินใจบอกให้คนขับแท็กซี่หยุดก้าวลงจากรถ คนที่อาศัยมาด้วยก็ตะโกนบอก

“ไอ้หนุ่ม.... เอ็งต้องจ่ายเงินค่าแท็กซี่ครึ่งหนึ่งโว้ย”

ฟิลิปรีบควักเศษสตางค์จ่าย พร้อมบ่นพึมพำ พอก้าวออกจากบาทวิถีได้ เขายืนงงอยู่ชั่วครู่ จำไม่ได้ว่าอยู่ถนนอะไรอีก แท็กซี่ก็ไม่มีวิ่งให้เห็นด้วย มีชายแก่เดินมาหยุดยืนเก้ๆ กังๆ หน้าอาคารพอดี

“คุณลุงครับ.....” เขาพูดพร้อมยื่นเศษกระดาษให้ชายแก่คนนั้นดู

“คือผมหาที่อยู่นี่ครับ... ไม่รู้ว่าไกลจากนี่มากแค่ไหน”

“พ่อหนุ่ม... ไอ้ที่เอ็งหาน่ะ มันอยู่ข้างหน้าเธอนี่แหละ ตัวหนังสือก็บอกเบ้อเริ่มเลย คราวหน้าก่อนจะถามก็ดูให้ดีซิว่ะ”

ฟิลิปเหลือบมองก็รู้ว่า โชคช่วยเขาแล้ว เขาลงจากแท็กซี่แบบเดาสุ่มแท้ๆ ลงมาพบอาคารพักซึ่งเป็นที่อยู่ของโรสแมรี่ พอดี เขานึกในใจอยู่ว่า ถ้าโรสแมรี่อยู่ในอาคารพักนี่ได้ เธอคงจัดชั้นอยู่ในระดับคนรวยคนหนึ่งเพราะอาคารหรูใหม่เอี่ยมขนาดนี้คนธรรมดาหรือคนชั้นกลางแม้แต่คนรวยก็เถอะ คงไม่มีปัญญาจ่ายค่าเช่าหรือซื้อได้

“คุณดูแลอาคารนี้หรือ?”

“เปล่า... ผมเป็นแค่ยาม รปภ.รักษาดูแลความสงบเท่านั้น”

“จ่ายค่าเช่าต่อเดือนเท่าไร”

“ที่นี้ไม่มีให้เช่าหรอก”

“อ้าว แล้วยังไง”

“ก็เขาขายเป็นอาคารชุดไงครับ”

“คงแพงนะ สงสัยเป็นล้านปอนด์”

“ก็แพงครับ แค่ 2-3 ล้านเท่านั้น”

ฟิลิปนึกแล้วว่าราคาอาคารหรูย่านดี ใกล้สวนสาธารณะแบบนี้คงแพง แต่ไม่คิดว่าแพงถึงขนาดนี้”

เขาไปกดลิฟต์ แต่ รปภ.รีบเดินเข้ามาขวาง

“คุณเข้าไปไม่ได้ คุณต้องบอกชื่อคุณแล้วก็ต้องบอกว่า บุคคลที่คุณต้องการพบก่อน”

“ผมมาพบคุณโรสแมรี่ ผมชื่อฟิลิป มีนัดกับเธอ”

ยามต่อโทรศัพท์ มีเสียงคุยกันพักหนึ่ง

“เธอบอกว่าไม่รู้จักคุณ บอกให้ผมเชิญคุณออกไป”

“เอางี้ เธอรู้จักผมแน่ ผมอยากให้คุณต่อสายให้ผมคุยกับเธออีกครั้งแล้วกัน”

“ก็ได้” (อ่านต่อวันพฤหัสฯ หน้า)
กำลังโหลดความคิดเห็น