ทักษิณ-อภิสิทธิ์-นรกอยู่ตรงหน้านะจ๊ะ!

“สอดแนมการเมือง”
โดย...ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย

หลายคนยังคงอ้อยอิ่งอยู่ในห้วงวันหยุดส่งท้ายปีเก่า 2552 ต้อนรับปีใหม่ 2553

แม้นอารมณ์เก่ากับใหม่ผสมผสานกันเรียบร้อยแล้วระดับหนึ่ง แต่รอยต่อที่ผู้คนต่างจดจ้อง ด้วยคำถามในใจมากมายว่า ปี2553เนี่ย..บ้านเมืองจะเกิดอะไรขึ้นหรือไม่?

เพราะกลุ่มนักโทษชายหน้าเหลี่ยม กับพลพรรคเสื้อแดงและกลุ่มทหารหมดอายุกับเสธฯ“ส้นตีนแดง” ไม่แยแสสนใจในกฎหมายบ้านเมือง ข่มขู่คุกคามความสงบสุขของชาติอย่างต่อเนื่อง ทำให้อุณหภูมิการเมืองไทยร้อนฉ่า ตั้งแต่ปลายปี 2552 จรดต้นปี 2553!

ทักษิณและพวกมีการประกาศชัดว่า นับแต่เดือนมกราคมเป็นต้นไป บรรดาสารพัด“ผี-โม่แป้ง”ของทักษิณ จะเคลื่อนไหวทุกวิธีการให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้น ส่วนจะถึงเสียเลือดเนื้อและชีวิตหรือไม่? จะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองมากน้อยแค่ไหนนั้น..อย่ากะพริบตา!

ท่ามกลางพลพรรคทักษิณที่รวมฝูงส่งเสียงขู่แฮ่..แฮ่..นั้น ผบ.ทบ.พล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดา ผู้ลุ่มลึกก็โผล่หน้าออกมานั่งยัน-ยืนยัน-นอนยัน-ตีลังกายันว่า สถานการณ์การเมืองปีหน้า..ไม่มีอะไรในกอไผ่..ไม่มีการนองเลือด ที่สำคัญ..ทหารไทยไม่ลากรถถังเก่าๆออกมารัฐประหารแน่นอน

แต่ดูเหมือนคนไทยไม่น้อยไม่เชื่อในคำพูดของพล.อ.อนุพงศ์ เพราะวันนี้คนชื่อทักษิณและพรรคพวก ดูจะหมดสิ้นในความเป็นคนไทยจนหมดสิ้นแล้วครับ

นั่นทำให้ทักษิณและพวกเหล่านั้น บังอาจกระทำเรื่องที่คนไทยเขาไม่ทำกัน นั่นคือ ไม่รู้จักที่ต่ำ-ที่สูง ไม่รู้จักอะไรดี-อะไรชั่ว ไม่รู้จักอะไรควร-ไม่ควร ไม่รู้จักกาละ-เทศะ ไม่รู้จักคำว่ารักชาติและไม่แยแสในความลับของชาติ เรียกว่า..ขายชาติกันได้แบบเต็มตัวและเปิดเผยกันแล้ว ฯลฯ

ประดาคนเหล่านั้นจึงไม่สนใจว่า บ้านเมืองจะวินาศสันตะโรสักปานใด ต่างมุ่งหน้าทำเรื่องชั่วๆกันแบบใจเกินร้อย ทำทุกรูปแบบ“ล้มทุน-ล้มปืน-ล้มเจ้า”กันอย่างโจ๋งครึ่ม เพื่อจะสร้างรัฐไทยใหม่และเอานักโทษหนีคุกทักษิณกลับมาเป็นใหญ่ในแผ่นดินอีกครั้งหนึ่งเท่านั้นครับ

ที่น่าเสียใจคือ หน้าที่จัดการคนชั่วๆ และเรื่องชั่วๆ แบบนี้ เป็นหน้าที่โดยตรงของนายกฯ อภิสิทธิ์ และ“เทพเทือก”ผู้บัญชาการนายกรัฐมนตรีตัวดำปิ๊ดปี๋จากสุราษฎร์ อ้อ..และจอมบงการห้อยโหนที่อยู่เบื้องหลังรัฐบาลรูปหล่อ รวมทั้งผบ.ทบ.พล.อ.อนุพงศ์ จะต้องจัดการกับพวกทำร้ายชาติและสถาบันสูงสุด ฯลฯ

แต่ประดาผู้คนที่รับผิดชอบบ้านเมืองเหล่านั้น กลับทำงานกันอย่างหน่อมแน้มชนิดเหลือเชื่อ จนทำให้สถานการณ์ร้ายบานปลาย กลายเป็นภัยร้ายแรงที่สุดต่อชาติบ้านเมืองกันถึงขนาดนี้?

อย่างไรก็ตาม..คิดมาถึงตรงนี้..ผมอดสะทกสะท้อนใจไม่ได้ว่า ขณะที่พวกเรากำลังส่งท้ายปีเก่า-ต้อนรับปีใหม่อยู่ในขณะนี้ อดีตนายกฯหน้าเหลี่ยมกลับจมอยู่ในความทุกข์เหลือแสน ทั้งๆที่คนหน้าเหลี่ยมอ้างว่า..ชอบทำบุญชอบไหว้พระ ชอบนั่งกรรมฐาน ชอบศึกษาปรัชญาแห่งพุทธ

แต่น่าแปลก..ทำไมคนหน้าเหลี่ยม ไฉนใยปล่อยชีวิต ให้ยังจมอยู่ในกองทุกข์หรือพูดภาษาชาวบ้านก็คือ ทักษิณยังจมอยู่ในกองอุจาระที่เน่าเหม็นของตัวเองจนทุกวันนี้

ทุกข์ของคน“หน้าเหลี่ยม”คือ ความอยากได้อะไรบางอย่างคืน โดยทักษิณไม่เข้าใจว่า..ทำไมไฉนผู้คนมากมายจึงต้องออกมาคัดค้านให้หนวกหูเช่นนี้ ก็สิ่งที่ทักษิณอยากได้คืนนั้นก็แค่..

หนึ่ง..ทักษิณแค่อยากพ้นจากความผิดทั้งปวง ที่ตนเป็นผู้ก่อและเป็นคนทำความผิดด้วยมือของตนเอง อ้อ...ต้องพ้นผิดโดยไม่มีเงื่อนไขนะ..เรื่องนี้ง่ายไหมล่ะ?

สอง..ทักษิณอยากได้เงินที่ตนอธิบายที่มาที่ไปไม่ได้ จำนวนเงินก็แค่ 76,000 กว่าล้านบาท ซึ่งเงินทั้งหมดขณะนี้ถูกอายัดไว้ แหม..แค่คืนเงินที่ไม่โปร่งใสให้ทักษิณเท่านั้น ไม่เห็นจะไปเดือดร้อนใครหน้าไหน? แถมเป็นเรื่องไม่เห็นยากอะไรเลยนี่หว่า..จริงไหม?

สาม..ทักษิณอยากได้เรื่องที่ไม่สลักสำคัญอะไรเลยนะ แค่ทักษิณอยากได้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคืนเท่านั้น ตำแหน่งนายกฯนี้ทักษิณเคยเป็นมาก่อน แต่ถูกยึดโดยทหารกลุ่มหนึ่งเมื่อวันที่19 กันยายน 2549 ไงล่ะจ๊ะ..เฮ้อ..งานนี้..ก็ง่ายอีกตามเคยใช่ไหมล่ะ?

ขอแค่นี้ไม่ได้..ทักษิณจึงต้องสู้-สู้ไว้ลาย-สู้ตาย ด้วยรูปแบบทั้งข่มขู่-คุกคาม-ก่อการร้าย หรือกระทั่งจะทำการเผาบ้านเผาเมืองจริงๆ ให้วินาศสันตะโรกันไปข้างหนึ่งเลย..ใช่ไหมล่ะ?

ความชั่วในสิ่งที่ทักษิณและพรรคพวกทำทั้งที่ผ่านมา และกำลังจะทำการป่วนบ้านเผาเมืองในปี 2553 นั้น ดูเหมือนรัฐบาลมาร์คทำท่าจะ“เห็นด้วย”และ“คล้อยตาม” หรือเชื่อว่าทักษิณกับพวกนั้นกระทำเรื่องที่“ชอบธรรม”และ“ถูกต้อง” เพราะหากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องและผิดกฎหมาย ทำไมรัฐบาลอภิสิทธิ์จึงไม่รีบจัดการทักษิณและพวกอย่างเด็ดขาดเสียทีล่ะ?

ที่สำคัญทำไมสื่อของรัฐบาลอภิสิทธิ์ จึงไม่ทำการแฉโพยหรือเปิดโปงการกระทำชั่วทั้งปวง ของทักษิณและพรรคพวกเท่าที่ควรเล่า? สื่อของรัฐที่กำกับโดยรัฐบาลอภิสิทธิ์ ไฉนจึงทำตัวดั่ง“สากกะเบือ”ไม่ทำหน้าที่-ที่ควรทำ-ที่ต้องทำ-เท่าที่ควรล่ะ?

ไฉนปล่อยให้สื่อเอกชนบางแห่งอย่างเครือเอเอสทีวี สู้และแฉโพยขบวนการคนชั่วทักษิณและพวกอย่างโดดเดี่ยว โดยรัฐบาลทำเป็นทองไม่รู้ร้อน..ปล่อยจนสถานการณ์บานปลาย ด้วยเหตุที่ประชาชนคนส่วนใหญ่ไม่รู้ข้อเท็จจริง ไม่รู้ว่าใครชั่ว-ใครดี ใครกำลังป่วนบ้านเผาเมือง ใครกำลังทำร้ายทำลาย“ในหลวง”ของปวงชนชาวไทย ฯลฯ

เพราะอะไร..รัฐบาลอภิสิทธิ์ จึงชอบทำตัวอยู่ในสถานการณ์ตั้งรับแบบซ้ำซาก ปล่อยให้ขบวนการคนชั่วเหิมเกริมแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งทำให้บ้านเมืองเสียหายมากขึ้นโดยไม่จำเป็น?

วันนี้คอการเมืองส่วนใหญ่จึงเชื่อว่า บ้านเมืองไทยคงหนีไม่พ้นความวุ่นวาย เพราะขบวนคนชั่วกำลังจะสร้างสถานการณ์ให้เกิดสงครามกลางเมือง ในขณะที่รัฐบาลและส่วนความมั่นคงของชาติ ยังจมอยู่ในฐานะตั้งรับ..ไม่ทันสถานการณ์ครับ

ผมเลยถือโอกาสก่อนเกิดสงครามกลางเมือง หลบไปไหว้พระยังต่างประเทศเสียหลายวันเพื่อแผ่ส่วนกุศล-อโหสิกรรมไว้ล่วงหน้า เพราะผมเชื่อว่า..สถานการณ์เลวร้ายเช่นนี้ จะต้องเกิดเหตุการณ์อะไรสักอย่างจากความไม่เอาไหนของรัฐบาลอภิสิทธิ์ และจากความชั่วช้าเกินจินตนาการของทักษิณและพวกครับ

ดังพันธมิตรที่รักชาติ-รักในหลวง เคยบาดเจ็บล้มตายพิการกับน้ำมือคนชั่ว ที่ครองอำนาจรัฐอย่างอธรรมมาแล้ว รวมทั้งในยุครัฐบาลอภิสิทธิ์ คุณสนธิ ลิ้มทองกุล ก็ถูกลอบยิงกว่าสองร้อยนัด แต่เดชะบุญ..สนธิรอดชีวิตมาได้อย่างหวุดหวิด และเขาได้อโหสิกรรมให้กันคนลอบยิงแล้วนั่นเอง

คนเป็นรัฐบาลไทยและทักษิณกับพวก ล้วนไม่รักในชาติและชีวิตคนไทยด้วยกันทั้งสองฝ่าย รัฐบาลนั้น..มิได้ใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด มิได้ขจัดความชั่ว-คนชั่วให้หมดอำนาจ และมิได้ใช้สื่อสารมวลชนของรัฐอย่างชาญฉลาด มาสยบสถานการณ์การเมืองอันเลวร้าย ฯลฯ

ทักษิณและพวกก็มิได้แยแสในคุณธรรม-จริยธรรม-ความเป็นคนไทย ไม่ยอมยุติการกระทำชั่ว ไม่ยอมรับความชั่วที่ตนก่อ ไม่ยอมรับโทษตามกระบวนการยุติธรรมตัดสิน เยี่ยงคนไทยทั่วไปในประเทศนี้เขากระทำกัน ฯลฯ

ไหว้พระไป..ก็อดคิดไม่ได้ว่า..ทักษิณกับพวก..อภิสิทธิ์กับพวก หากทั้งสองฝ่ายไม่ทำความดีเพื่อชาติอย่างจริงใจ-จริงจังล่ะก็ ตายเมื่อไหร่..อาจต้องลงนรกขุมลึกที่สุดก็ได้นะครับ!