เคาะข่าวริมโขง : “นช.แม้ว” คิดการใหญ่ เร่งเผด็จศึก "มาร์ค" ก่อนตาย เริ่มเดินเกม “ล้มเจ้า-สถาปนารัฐไทยใหม่” หวังผูกขาดอำนาจ ตามรอย “ฮุนเซน” แฉ สันดานเลวพอกันทั้งคู่ ในหัวจ้องคิดแต่เรื่องผลประโยชน์ ไม่สนบ้านเมืองตัวเองฉิบหาย ขอให้รวยไว้ก่อน จี้ “รบ.มาร์ค” เร่งตอบโต้เขมร เพื่อทวงศักดิ์ศรีประเทศ
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รายการ “เคาะข่าวริมโขง”
รายการ “เคาะข่าวริมโขง” ออกอากาศทาง “อีสานทีวี” ช่วงเวลา 18.30-20.30 น.วันศุกร์ที่ 23 ตุลาคม มี นายชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก เป็นผู้ดำเนินรายการ โดยวันนี้ได้มีการเชิญ นายโสภณ องค์การณ์ อดีตบรรณาธิการข่าวเศรษฐกิจของหนังสือพิมพ์เดอะเนชั่น และหนึ่งในพิธีกรรายการ NEWS HOUR สุดสัปดาห์ นายประยูร อัครบวร อดีตผู้นำนักศึกษา 6 ตุลา และ นายประพันธ์ คูณมี ว่าที่กรรมการบริหารพรรคการเมืองใหม่ มาร่วมพูดคุยถึงประเด็นข่าวร้อนแรงที่น่าสนใจ โดยเฉพาะท่าทีของรัฐบาลไทย และสมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา หลัง พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่หันหลังกลับไปร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย เดินทางไปเข้าพบ จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนัก
น.ส.อัญชะลี กล่าวเปิดประเด็นกรณีความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง ซึ่ง นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง แกนนำ นปช.ได้ออกมาระบุว่า จะชักชวน นายจักรภพ เพ็ญแข เดินทางไปยื่นหนังสือกับผู้นำอาเซียนในการประชุมสุดยอดอาเซียน ที่หัวหิน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจะไปบอกต่างชาติ ว่า ประเทศไทยตกอยู่ในระบอบเผด็จการ อีกทั้งจะมีการทำหนังสือเรียกร้องให้ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ รวมทั้ง นายชาญชัย ลิขิตจิตถะ องคมนตรี ให้ลาออกจากตำแหน่ง ด้วยเหตุผลที่อ้างว่าบุคคลทั้งสองอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ปฏิวัติเมื่อวันที่ 19 กันยายน ปี 2549
น.ส.อัญชะลี กล่าวต่อว่า สำหรับทางด้านรัฐบาลกัมพูชา ก็ได้มีการออกคำแถลง ระบุว่า จะไม่ส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้แก่รัฐบาลไทย ในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน โดยอ้างว่าสนธิสัญญาระหว่างทั้งสองประเทศ มีข้อยกเว้น กรณีผู้ร้ายตกเป็นเหยื่อทางการเมือง หรือผู้ร้องขอมีจุดประสงค์จะนำไปลงโทษทางการเมือง ซึ่งคำแถลงดังกล่าวถือเป็นการตบหน้ารัฐบาลไทย ที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อ ว่า ทางกัมพูชา เห็นแก่ประโยชน์ระหว่างทั้งสองประเทศ รวมทั้งยังคงยึดมั่นสนธิสัญญาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนเช่นเดิม
นายโสภณ กล่าวประเด็นนี้ว่า หาก สมเด็จฯ ฮุนเซน เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นเพื่อนแท้เพื่อนตายจริง งานนี้ตนว่าได้ต้องมีใครตายสมใจแน่ เพราะถ้าหากว่า จะมาอ้างไม่ทำตามสนธิสัญญาด้วยเหตุผลที่ว่า ตนถือว่ามันฟังไม่ขึ้น แล้วแบบนี้จะมีการทำสนธิสัญญาระหว่างประเทศทำไม การที่มาบอกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ตกเป็นเหยื่อคดีทางการเมือง ทั้งที่ความจริง พ.ต.ท.ทักษิณ กระทำผิดจริง โดยใช้อำนาจระหว่างดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แสวงหาผลประโยชน์ให้ตัวเอง ถ้าทาง สมเด็จฯ ฮุนเซน คิดจะให้การช่วยเหลือ ก็เท่ากับว่า ไปช่วยโจร หากคิดว่าคนอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ แค่คนเดียว สำคัญกว่าคนไทยทั้งประเทศ ก็นับว่าวันนี้ รัฐบาลกัมพูชา พร้อมที่จะแตกหักกับรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ แล้ว ดังนั้น ผู้นำไทย ต้องใช้เวทีการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน เจรจากับทางกัมพูชาให้รู้เรื่องว่าจะเอาอย่างไรกับเรื่องดังกล่าว รวมทั้ง นายสุเทพ ด้วย ต้องเลิกพฤติกรรมโอบอ้อมอารีกับผู้นำกัมพูชาได้แล้ว เพราะเห็นได้ชัดว่าตอนนี้ อีกฝ่ายต้องการเป็นมิตรกับไทยหรือไม่
นายประพันธ์ กล่าวว่า สำหรับกรณี นายอริสมันต์ ที่ต้องการเดินทางไปยื่นหนังสือให้แก่ผู้นำอาเซียน ตนคิดว่า ไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะทำเช่นนั้น รวมทั้งกรณีเรียกร้องให้ประธานองคมนตรีและองคมนตรี ลาออกจากตำแหน่ง โดยอ้างว่า อยู่เบื้องหลังปฏิวัติเมื่อปี 2549 ตนถือว่าคนพวกนี้ ต้องการประจานประเทศตัวเอง ทั้งที่คนไทยไม่ได้รับประโยชน์ใดๆ กลับไปปกป้องคนไม่ดี ที่กระทำการก่อกรรมทำเข็ญ สร้างความเสียหายให้แก่ประเทศ
นายประพันธ์ กล่าวต่อว่า สำหรับกรณี สมเด็จฯ ฮุนเซน ออกมาเปิดฉากหักหน้ารัฐบาลไทย ตนมองว่า สิ่งที่ผู้นำกัมพูชาพูดหรือแสดง เป็นการไม่เคารพคนไทยทั้งประเทศ เพราะเมื่อก่อน ที่กัมพูชา ยังตกระกำลำบาก ไทยได้ยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือตลอด ในฐานะประเทศเพื่อนบ้าน แต่วันนี้ สิ่งที่ สมเด็จฯ ฮุนเซน กระทำมันเป็นสิ่งที่น่าเสียใจ อีกทั้ง รัฐบาลไทย ก็ไม่ได้แสดงท่าทีชัดเจนหรือตอบโต้กัมพูชา ไม่ว่าจะเป็น นายอภิสิทธิ์ และนายกษิต ก็ยังคงนิ่งเฉยอยู่ ไม่ได้ออกมาปกป้องเกียรติ หรือศักดิ์ศรีของประเทศ ทั้งที่การกระทำ สมเด็จฯ ฮุนเซน ถือเป็นการแทรกแซงการเมืองไทย เนื่องจากได้วิพากษ์วิจารณ์สถานการณ์ต่างๆ
นายประพันธ์ กล่าวอีกว่า ส่วนประเด็นที่กัมพูชา ปฏิเสธจะส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ตามสนธิสัญญาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน ตนถือว่าไม่ถูกต้อง เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่คดีทางการเมือง แต่เป็นเพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ กระทำความผิดฐานทุจริตต่อบ้านเมือง ซึ่งถือเป็นคดีอาญา ดังนั้น สิ่งที่ผู้นำกัมพูชาไปเข้าข้างคนผิด ก็ถือว่าไม่ถูกต้อง
นายประยูร กล่าวเสริมว่า วันนี้ เหตุที่บ้านเมืองวุ่นวาย เพราะมีการคนบางกลุ่มสร้างภาพให้คนเห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นคนดี และถูกกลั่นแกล้ง คนเหล่านี้ เอาเรื่องเท็จมาพูดกรอกหูผู้อื่น จึงทำให้บ้านเมืองตกอยู่ในสภาพคนชั่วเดินเกลื่อนเมืองอยู่ทุกวันนี้
นายชัชวาลย์ กล่าวว่า นิสัย สมเด็จฯ ฮุนเซน ถือเป็นจอมกระล่อนแห่งอินโดจีน เพราะทำตัวเหมือนพญาละแวก ที่จ้องรุมทำลายรัฐบาลไทย และ นายอภิสิทธิ์ ซึ่งตนก็ไม่แปลกใจที่ พ.ต.ท.ทักษิณ และสมเด็จฯ ฮุนเซน คบหากันฉันท์มิตรได้ เนื่องจากทั้งคู่เอาผลประโยชน์มาเป็นตัวตั้ง โดยทั้งคู่เกื้อหนุนกันเป็นเวลานาน ตั้งแต่สมัยก่อน โดยเฉพาะช่วงที่ นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี เข้ามาเป็นนอมินีให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งช่วงนั้น ในกัมพูชากำลังจะมีการเลือกตั้ง ทาง สมเด็จฯ ฮุนเซน จึงเจรจาผลประโยชน์ โดยแลกกันระหว่าง การยกประสาทเขาพระวิหารให้กัมพูชา กับเรื่องผลประโยชน์ในกัมพูชา ดังนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ จึงสั่งการให้รัฐบาล นายสมัคร ยอมรับแผนที่กัมพูชา เพื่อเปิดทางให้เข้าครอบครอง ทางด้าน สมเด็จฯ ฮุนเซน จะได้คะแนนนิยมจากคนกัมพูชา จนสามารถชนะการเลือกตั้งแบบขาดลอย และได้เป็นผู้นำกัมพูชา จนกระทั่งถึงปัจจุบัน
นายชัชวาลย์ กล่าวต่อว่า สิ่งที่รัฐบาลไทย ต้องตระหนักตอนนี้ คือ เรื่อง พ.ต.ท.ทักษิณ กำลังคิดการใหญ่ โดยออกมาเปิดฉากว่าจะตั้งรัฐไทยใหม่ ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เพราะคนพวกนี้คิดจะทำเช่นนั้นจริงๆ ทั้งนี้ ตนคิดว่า หาก พ.ต.ท.ทักษิณ จะลงมือทำตามแผนการนี้ ทางด้าน สมเด็จฯ ฮุนเซน ต้องให้การสนับสนุนเต็มที่ เนื่องจากผู้นำกัมพูชาเล็งเห็นแล้วว่า ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณและพวกได้ครองประเทศ คนที่จะได้รับผลประโยชน์จำนวนมหาศาลร่วมกัน ก็คือ ทาง สมเด็จฯ ฮุนเซน ซึ่งก็เหมือนกับสิ่งที่เกิดขึ้นในกัมพูชา คือ เวลานี้แม้จะมีกษัตริย์ แต่คนที่ครองอำนาจจริงๆ คือ สมเด็จฯ ฮุนเซน
นายชัชวาลย์ กล่าวอีกว่า สิ่งที่น่าคิดคือ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้กล่าวขอบคุณ สมเด็จฯ ฮุนเซนอย่างเปิดเผย เรื่องการให้ความช่วยเหลือหากต้องการลี้ภัย สิ่งเหล่านี้ แสดงว่า เวลานี้ พ.ต.ท.ทักษิณ มีความมั่นใจมากหากจะลงมือทำการใหญ่ เพราะเชื่อว่าไม่ว่าจะเดินเกมล้มรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ อย่างไร ทาง สมเด็จฯ ฮุนเซน ก็พร้อมเป็นกองกำลังหนุน เป็นหน่วยเสริมให้ตลอด แต่สิ่งที่แน่ชัด คือ กัมพูชาถือเป็นหอกข้างแคร่ของไทย ที่ทำร้ายประเทศเรา
นายประพันธ์ กล่าวเสริมว่า เวลา พ.ต.ท.ทักษิณ เหลืออีกไม่มาก เพราะข่าวที่ว่าป่วย เป็นเรื่องจริง แม้จะมีการปิดบัง แต่ก็หนีความจริงไม่พ้น ดังนั้น ตอนนี้จึงต้องทำทุกอย่าง เพื่อเดินเกมเร่งเผด็จศึก ซึ่งเชื่อว่าคนพวกนี้ทำได้ทุกอย่าง เพราะไม่เคารพสิ่งใด นอกจากจะหาผลประโยชน์ให้แก่ตัวเอง
นายโสภณ กล่าวว่า สมเด็จฯ ฮุนเซน ไม่ต่างอะไรกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่เอาเรื่องผลประโยชน์มาก่อนสิ่งอื่นใด โดยผู้นำกัมพูชา หวังจะใช้เงินของ พ.ต.ท.ทักษิณ มาใช้พัฒนาความเจริญด้านธุรกิจ โดยเฉพาะที่เกาะกง ที่มีความพยายามจะเปิดเป็นแหล่งการพนันครบวงจร ซึ่งตนถือว่า พฤติกรรมดังกล่าว สมเด็จฯ ฮุนเซน ก็เหมือนผู้นำรัฐบาลที่มาจากโจร เมื่อมาคบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ จึงเข้ากันได้เป็นอย่างดี
นายชัชวาลย์ กล่าวเสริมว่า กรณีที่ พล.อ.ชวลิต เดินทางไปพบ สมเด็จฯ ฮุนเซน ไม่ได้เป็นการทำเพื่อประเทศ เพราะเห็นได้ว่าปกป้องผลประโยชน์ให้แก่กัมพูชา นำความลับของประเทศไปแพร่งพราย ทั้งที่ไม่ใช่หน้าที่ตัวเอง นับว่าเป็นการทำร้ายประเทศให้อ่อนแอลง ตนไม่เข้าใจว่า คนพวกนี้ทำไมถึงยังอยู่ในประเทศไทยได้อีก ทั้งที่เป็นคนไม่ดี
น.ส.อัญชะลี กล่าวปิดท้ายว่า วันนี้ทางด้าน พ.ต.ท.ทักษิณ มีความเคลื่อนไหว โดยออกมาเปิดเผยว่า วันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ จะส่งข้อความเข้ามือถือคนไทยทุกระบบ เพื่อแจ้งข่าวสารสำคัญที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ ซึ่งหากใครจะใช้บริการเป็นประจำสามารถสมัครสมาชิกได้ฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย อีกทั้งวันดังกล่าวจะทำการเปิดตัวทวิตเตอร์ใหม่ เพื่อให้คำปรึกษาด้านธุรกิจกับนักลงทุนที่สนใจจะขอคำแนะนำ พร้อมทั้งจะเริ่มออกอากาศทีวี 100 ช่องด้วย
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รายการ “เคาะข่าวริมโขง”
รายการ “เคาะข่าวริมโขง” ออกอากาศทาง “อีสานทีวี” ช่วงเวลา 18.30-20.30 น.วันศุกร์ที่ 23 ตุลาคม มี นายชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก เป็นผู้ดำเนินรายการ โดยวันนี้ได้มีการเชิญ นายโสภณ องค์การณ์ อดีตบรรณาธิการข่าวเศรษฐกิจของหนังสือพิมพ์เดอะเนชั่น และหนึ่งในพิธีกรรายการ NEWS HOUR สุดสัปดาห์ นายประยูร อัครบวร อดีตผู้นำนักศึกษา 6 ตุลา และ นายประพันธ์ คูณมี ว่าที่กรรมการบริหารพรรคการเมืองใหม่ มาร่วมพูดคุยถึงประเด็นข่าวร้อนแรงที่น่าสนใจ โดยเฉพาะท่าทีของรัฐบาลไทย และสมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา หลัง พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่หันหลังกลับไปร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย เดินทางไปเข้าพบ จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนัก
น.ส.อัญชะลี กล่าวเปิดประเด็นกรณีความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง ซึ่ง นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง แกนนำ นปช.ได้ออกมาระบุว่า จะชักชวน นายจักรภพ เพ็ญแข เดินทางไปยื่นหนังสือกับผู้นำอาเซียนในการประชุมสุดยอดอาเซียน ที่หัวหิน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจะไปบอกต่างชาติ ว่า ประเทศไทยตกอยู่ในระบอบเผด็จการ อีกทั้งจะมีการทำหนังสือเรียกร้องให้ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ รวมทั้ง นายชาญชัย ลิขิตจิตถะ องคมนตรี ให้ลาออกจากตำแหน่ง ด้วยเหตุผลที่อ้างว่าบุคคลทั้งสองอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ปฏิวัติเมื่อวันที่ 19 กันยายน ปี 2549
น.ส.อัญชะลี กล่าวต่อว่า สำหรับทางด้านรัฐบาลกัมพูชา ก็ได้มีการออกคำแถลง ระบุว่า จะไม่ส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้แก่รัฐบาลไทย ในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน โดยอ้างว่าสนธิสัญญาระหว่างทั้งสองประเทศ มีข้อยกเว้น กรณีผู้ร้ายตกเป็นเหยื่อทางการเมือง หรือผู้ร้องขอมีจุดประสงค์จะนำไปลงโทษทางการเมือง ซึ่งคำแถลงดังกล่าวถือเป็นการตบหน้ารัฐบาลไทย ที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อ ว่า ทางกัมพูชา เห็นแก่ประโยชน์ระหว่างทั้งสองประเทศ รวมทั้งยังคงยึดมั่นสนธิสัญญาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนเช่นเดิม
นายโสภณ กล่าวประเด็นนี้ว่า หาก สมเด็จฯ ฮุนเซน เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นเพื่อนแท้เพื่อนตายจริง งานนี้ตนว่าได้ต้องมีใครตายสมใจแน่ เพราะถ้าหากว่า จะมาอ้างไม่ทำตามสนธิสัญญาด้วยเหตุผลที่ว่า ตนถือว่ามันฟังไม่ขึ้น แล้วแบบนี้จะมีการทำสนธิสัญญาระหว่างประเทศทำไม การที่มาบอกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ตกเป็นเหยื่อคดีทางการเมือง ทั้งที่ความจริง พ.ต.ท.ทักษิณ กระทำผิดจริง โดยใช้อำนาจระหว่างดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แสวงหาผลประโยชน์ให้ตัวเอง ถ้าทาง สมเด็จฯ ฮุนเซน คิดจะให้การช่วยเหลือ ก็เท่ากับว่า ไปช่วยโจร หากคิดว่าคนอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ แค่คนเดียว สำคัญกว่าคนไทยทั้งประเทศ ก็นับว่าวันนี้ รัฐบาลกัมพูชา พร้อมที่จะแตกหักกับรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ แล้ว ดังนั้น ผู้นำไทย ต้องใช้เวทีการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน เจรจากับทางกัมพูชาให้รู้เรื่องว่าจะเอาอย่างไรกับเรื่องดังกล่าว รวมทั้ง นายสุเทพ ด้วย ต้องเลิกพฤติกรรมโอบอ้อมอารีกับผู้นำกัมพูชาได้แล้ว เพราะเห็นได้ชัดว่าตอนนี้ อีกฝ่ายต้องการเป็นมิตรกับไทยหรือไม่
นายประพันธ์ กล่าวว่า สำหรับกรณี นายอริสมันต์ ที่ต้องการเดินทางไปยื่นหนังสือให้แก่ผู้นำอาเซียน ตนคิดว่า ไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะทำเช่นนั้น รวมทั้งกรณีเรียกร้องให้ประธานองคมนตรีและองคมนตรี ลาออกจากตำแหน่ง โดยอ้างว่า อยู่เบื้องหลังปฏิวัติเมื่อปี 2549 ตนถือว่าคนพวกนี้ ต้องการประจานประเทศตัวเอง ทั้งที่คนไทยไม่ได้รับประโยชน์ใดๆ กลับไปปกป้องคนไม่ดี ที่กระทำการก่อกรรมทำเข็ญ สร้างความเสียหายให้แก่ประเทศ
นายประพันธ์ กล่าวต่อว่า สำหรับกรณี สมเด็จฯ ฮุนเซน ออกมาเปิดฉากหักหน้ารัฐบาลไทย ตนมองว่า สิ่งที่ผู้นำกัมพูชาพูดหรือแสดง เป็นการไม่เคารพคนไทยทั้งประเทศ เพราะเมื่อก่อน ที่กัมพูชา ยังตกระกำลำบาก ไทยได้ยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือตลอด ในฐานะประเทศเพื่อนบ้าน แต่วันนี้ สิ่งที่ สมเด็จฯ ฮุนเซน กระทำมันเป็นสิ่งที่น่าเสียใจ อีกทั้ง รัฐบาลไทย ก็ไม่ได้แสดงท่าทีชัดเจนหรือตอบโต้กัมพูชา ไม่ว่าจะเป็น นายอภิสิทธิ์ และนายกษิต ก็ยังคงนิ่งเฉยอยู่ ไม่ได้ออกมาปกป้องเกียรติ หรือศักดิ์ศรีของประเทศ ทั้งที่การกระทำ สมเด็จฯ ฮุนเซน ถือเป็นการแทรกแซงการเมืองไทย เนื่องจากได้วิพากษ์วิจารณ์สถานการณ์ต่างๆ
นายประพันธ์ กล่าวอีกว่า ส่วนประเด็นที่กัมพูชา ปฏิเสธจะส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ตามสนธิสัญญาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน ตนถือว่าไม่ถูกต้อง เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่คดีทางการเมือง แต่เป็นเพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ กระทำความผิดฐานทุจริตต่อบ้านเมือง ซึ่งถือเป็นคดีอาญา ดังนั้น สิ่งที่ผู้นำกัมพูชาไปเข้าข้างคนผิด ก็ถือว่าไม่ถูกต้อง
นายประยูร กล่าวเสริมว่า วันนี้ เหตุที่บ้านเมืองวุ่นวาย เพราะมีการคนบางกลุ่มสร้างภาพให้คนเห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นคนดี และถูกกลั่นแกล้ง คนเหล่านี้ เอาเรื่องเท็จมาพูดกรอกหูผู้อื่น จึงทำให้บ้านเมืองตกอยู่ในสภาพคนชั่วเดินเกลื่อนเมืองอยู่ทุกวันนี้
นายชัชวาลย์ กล่าวว่า นิสัย สมเด็จฯ ฮุนเซน ถือเป็นจอมกระล่อนแห่งอินโดจีน เพราะทำตัวเหมือนพญาละแวก ที่จ้องรุมทำลายรัฐบาลไทย และ นายอภิสิทธิ์ ซึ่งตนก็ไม่แปลกใจที่ พ.ต.ท.ทักษิณ และสมเด็จฯ ฮุนเซน คบหากันฉันท์มิตรได้ เนื่องจากทั้งคู่เอาผลประโยชน์มาเป็นตัวตั้ง โดยทั้งคู่เกื้อหนุนกันเป็นเวลานาน ตั้งแต่สมัยก่อน โดยเฉพาะช่วงที่ นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี เข้ามาเป็นนอมินีให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งช่วงนั้น ในกัมพูชากำลังจะมีการเลือกตั้ง ทาง สมเด็จฯ ฮุนเซน จึงเจรจาผลประโยชน์ โดยแลกกันระหว่าง การยกประสาทเขาพระวิหารให้กัมพูชา กับเรื่องผลประโยชน์ในกัมพูชา ดังนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ จึงสั่งการให้รัฐบาล นายสมัคร ยอมรับแผนที่กัมพูชา เพื่อเปิดทางให้เข้าครอบครอง ทางด้าน สมเด็จฯ ฮุนเซน จะได้คะแนนนิยมจากคนกัมพูชา จนสามารถชนะการเลือกตั้งแบบขาดลอย และได้เป็นผู้นำกัมพูชา จนกระทั่งถึงปัจจุบัน
นายชัชวาลย์ กล่าวต่อว่า สิ่งที่รัฐบาลไทย ต้องตระหนักตอนนี้ คือ เรื่อง พ.ต.ท.ทักษิณ กำลังคิดการใหญ่ โดยออกมาเปิดฉากว่าจะตั้งรัฐไทยใหม่ ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เพราะคนพวกนี้คิดจะทำเช่นนั้นจริงๆ ทั้งนี้ ตนคิดว่า หาก พ.ต.ท.ทักษิณ จะลงมือทำตามแผนการนี้ ทางด้าน สมเด็จฯ ฮุนเซน ต้องให้การสนับสนุนเต็มที่ เนื่องจากผู้นำกัมพูชาเล็งเห็นแล้วว่า ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณและพวกได้ครองประเทศ คนที่จะได้รับผลประโยชน์จำนวนมหาศาลร่วมกัน ก็คือ ทาง สมเด็จฯ ฮุนเซน ซึ่งก็เหมือนกับสิ่งที่เกิดขึ้นในกัมพูชา คือ เวลานี้แม้จะมีกษัตริย์ แต่คนที่ครองอำนาจจริงๆ คือ สมเด็จฯ ฮุนเซน
นายชัชวาลย์ กล่าวอีกว่า สิ่งที่น่าคิดคือ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้กล่าวขอบคุณ สมเด็จฯ ฮุนเซนอย่างเปิดเผย เรื่องการให้ความช่วยเหลือหากต้องการลี้ภัย สิ่งเหล่านี้ แสดงว่า เวลานี้ พ.ต.ท.ทักษิณ มีความมั่นใจมากหากจะลงมือทำการใหญ่ เพราะเชื่อว่าไม่ว่าจะเดินเกมล้มรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ อย่างไร ทาง สมเด็จฯ ฮุนเซน ก็พร้อมเป็นกองกำลังหนุน เป็นหน่วยเสริมให้ตลอด แต่สิ่งที่แน่ชัด คือ กัมพูชาถือเป็นหอกข้างแคร่ของไทย ที่ทำร้ายประเทศเรา
นายประพันธ์ กล่าวเสริมว่า เวลา พ.ต.ท.ทักษิณ เหลืออีกไม่มาก เพราะข่าวที่ว่าป่วย เป็นเรื่องจริง แม้จะมีการปิดบัง แต่ก็หนีความจริงไม่พ้น ดังนั้น ตอนนี้จึงต้องทำทุกอย่าง เพื่อเดินเกมเร่งเผด็จศึก ซึ่งเชื่อว่าคนพวกนี้ทำได้ทุกอย่าง เพราะไม่เคารพสิ่งใด นอกจากจะหาผลประโยชน์ให้แก่ตัวเอง
นายโสภณ กล่าวว่า สมเด็จฯ ฮุนเซน ไม่ต่างอะไรกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่เอาเรื่องผลประโยชน์มาก่อนสิ่งอื่นใด โดยผู้นำกัมพูชา หวังจะใช้เงินของ พ.ต.ท.ทักษิณ มาใช้พัฒนาความเจริญด้านธุรกิจ โดยเฉพาะที่เกาะกง ที่มีความพยายามจะเปิดเป็นแหล่งการพนันครบวงจร ซึ่งตนถือว่า พฤติกรรมดังกล่าว สมเด็จฯ ฮุนเซน ก็เหมือนผู้นำรัฐบาลที่มาจากโจร เมื่อมาคบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ จึงเข้ากันได้เป็นอย่างดี
นายชัชวาลย์ กล่าวเสริมว่า กรณีที่ พล.อ.ชวลิต เดินทางไปพบ สมเด็จฯ ฮุนเซน ไม่ได้เป็นการทำเพื่อประเทศ เพราะเห็นได้ว่าปกป้องผลประโยชน์ให้แก่กัมพูชา นำความลับของประเทศไปแพร่งพราย ทั้งที่ไม่ใช่หน้าที่ตัวเอง นับว่าเป็นการทำร้ายประเทศให้อ่อนแอลง ตนไม่เข้าใจว่า คนพวกนี้ทำไมถึงยังอยู่ในประเทศไทยได้อีก ทั้งที่เป็นคนไม่ดี
น.ส.อัญชะลี กล่าวปิดท้ายว่า วันนี้ทางด้าน พ.ต.ท.ทักษิณ มีความเคลื่อนไหว โดยออกมาเปิดเผยว่า วันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ จะส่งข้อความเข้ามือถือคนไทยทุกระบบ เพื่อแจ้งข่าวสารสำคัญที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ ซึ่งหากใครจะใช้บริการเป็นประจำสามารถสมัครสมาชิกได้ฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย อีกทั้งวันดังกล่าวจะทำการเปิดตัวทวิตเตอร์ใหม่ เพื่อให้คำปรึกษาด้านธุรกิจกับนักลงทุนที่สนใจจะขอคำแนะนำ พร้อมทั้งจะเริ่มออกอากาศทีวี 100 ช่องด้วย