วานนี้ราคาหุ้น ริษัท สตีล อินเตอร์เทค จำกัด (มหาชน) หรือ STEEL วิ่งรับข่าวการควบรวม โดยเปิดตลาด 2.04 บาท ปรับเพิ่มขึ้นจากวันก่อนซึ่งปิดที่ 1.98 บาท ก่อนปรับขึ้นไปเรื่อยและปิดที่ราคา 2.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.42 บาท คิดเป็น 21.21% มูลค่าซื้อขาย 3.62 ล้านบาท
นายประสิทธิ์ อุ่นวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สตีล อินเตอร์เทค จำกัด (มหาชน) หรือ STEEL แจ้งมติคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่
5/2552 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2552 ว่าบอร์ดมีความเห็นชอบในหลักการของแผนควบรวมกิจการระหว่าง STEEL และบริษัท โซล่า เพาเวอร์ จำกัด พันธมิตรทางธุรกิจในหมวดพลังงาน ซึ่งเป็นหมวดที่มีความมั่นคง มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เพราะมีการสนับสนุนจากหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชน และมีอัตราการเติบโตโดยตลอด การควบรวมจะทำให้บริษัทมีฐานะทางการเงินที่มั่นคง เพิ่มโอกาสในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ถือหุ้นของบริษัทได้รับผลตอบแทนในอนาคตเพิ่มขึ้น
" เราศึกษาอยู่หลายดีลและมาระยะหนึ่งแล้ว แต่ที่เลือกโซล่า เพาเวอร์ เพราะเราเป็นผู้ผลิตโครงเหล็ก ที่ใช้ในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าได้ และเรามองว่าหากเราร่วมกัน จะส่งเสริมซึ่งกันและกัน และปัจจุบันกระแสของการลดภาวะโลกร้อนได้รับความนิยมสูงมาก ซึ่ง โซล่า เพาเวอร์ มีโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ทั้งหมด และธุรกิจนี้เราไม่มีผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม "
นอกจากนี้ การก่อสร้างโรงไฟฟ้านั้นมีเทคนิคการก่อสร้างในทางเดียวกับที่บริษัทฯดำเนินการอยู่ อีกทั้งยังต้องใช้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทในการก่อสร้างเป็นจำนวนมาก ซึ่งถือเป็นประโยชน์ทางธุรกิจอย่างสูงกับบริษัท สาเหตุที่เลือกบริษัท โซล่า เพาเวอร์ จำกัด นั้น เนื่องจาก เป็นธุรกิจที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องและมีอัตราการเติบโตโดยตลอด ไฟฟ้าที่ผลิตขึ้นมานั้นจะส่งขายให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคทั้งจำนวน ซึ่งมีความเสี่ยงต่ำ อีกทั้งยังรับสร้างโรงไฟฟ้าให้กับหน่วยงานอื่น ๆ ด้วย
ทั้งนี้ โซล่า เพาเวอร์ มีทุนจดทะเบียน 350 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท ขณะที่ STEEL มีทุนจดทะเบียนเพียง 50 ล้านบาท ดังนั้น แผนการควบรวมดังกล่าวยังมีความไม่แน่นอน โดยอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในการควบรวม ซึ่งได้มอบหมายให้นายประสิทธิ์ อุ่นวรวงศ์ เป็นผู้ดำเนินการตามที่เสนอ รวมถึงได้รับมอบอำนาจให้ลงนามในสัญญาว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ ที่จำเป็น เช่น ที่ปรึกษาทางการเงินเพื่อประเมินมูลค่ากิจการ ผู้ประเมินราคาทรัพย์สินเป็นต้น และจะนำข้อมูลเกี่ยวกับแผนควบรวมกิจการทั้งหมด นำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเพื่ออนุมัติในครั้งต่อไป ซึ่งคาดว่าจะมีขึ้นประมาณปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2553
" เบื้องต้นการควบรวม บริษัทจะต้องออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจงและเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้น โซล่า เพาเวอร์ จำนวน 350 ล้านหุ้น มูลค่าตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท แต่ความชัดเจนคงต้องรอรายละเอียดหลังจากเราจัดตั้งที่ปรึกษาการเงิน และต้องประเมินและ เราต้องศึกษาอีกว่าแนวทางจะเป็นอย่างไร เพราะการควบรวมกันทุนจดทะเบียนของเราสูงกว่าเราเยอะ "
อย่างไรก็ดี เกณฑ์ที่จะใช้กำหนดราคาออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนนั้น ต้องรอขั้นตอนการทำ Due Diligent จากที่ปรึกษาทางการเงิน ซึ่งอยู่ในระหว่างการพิจารณาคัดเลือก
สำหรับ บริษัท โซล่า เพาเวอร์ จำกัด เป็นผู้ประกอบการด้านพลังงานแสงอาทิตย์ และเป็นผู้ก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ รวมถึงเป็นผู้ประกอบการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียนและชำระแล้ว 350 ล้านบาท โดยมีนางสาววันดี กุญชรยาคงและคุณชาญชัย กุลถาวรากร เป็นกรรมการและเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ซึ่งทั้งสองคนไม่เป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันกับบริษัทฯ ตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ปัจจุบันบริษัท โซล่า เพาเวอร์จำกัด มีโครงการการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 34 แห่ง และได้ก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงงานแสงอาทิตย์แห่งที่ 1 ซึ่งจะดำเนินงานในเดือนมีนาคม 2553 โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แห่งที่ 1 ตั้งอยู่ที่จังหวัดนครราชสีมา มีกำลังการผลิตไฟฟ้า 6 เมกกะวัตต์ส่งขายให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคทั้งจำนวน
นอกจากนี้ บอร์ด STEEL ยังอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาล ประจำปี 2552 จากกำไรสะสมอัตราหุ้นละ 0.20 บาท ทั้งนี้ จะจ่ายให้กับผู้ถือหุ้นตามรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผลในวันที่ 15 มกราคม 2553 และให้รวบรวมรายชื่อ ตามมาตรา 225 ของ พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ โดยวิธิปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นวันที่ 18 มกราคม 2553 กำหนดจ่ายปันผลวันที่ 22 มกราคม 2553
นายประสิทธิ์ อุ่นวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สตีล อินเตอร์เทค จำกัด (มหาชน) หรือ STEEL แจ้งมติคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่
5/2552 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2552 ว่าบอร์ดมีความเห็นชอบในหลักการของแผนควบรวมกิจการระหว่าง STEEL และบริษัท โซล่า เพาเวอร์ จำกัด พันธมิตรทางธุรกิจในหมวดพลังงาน ซึ่งเป็นหมวดที่มีความมั่นคง มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เพราะมีการสนับสนุนจากหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชน และมีอัตราการเติบโตโดยตลอด การควบรวมจะทำให้บริษัทมีฐานะทางการเงินที่มั่นคง เพิ่มโอกาสในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ถือหุ้นของบริษัทได้รับผลตอบแทนในอนาคตเพิ่มขึ้น
" เราศึกษาอยู่หลายดีลและมาระยะหนึ่งแล้ว แต่ที่เลือกโซล่า เพาเวอร์ เพราะเราเป็นผู้ผลิตโครงเหล็ก ที่ใช้ในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าได้ และเรามองว่าหากเราร่วมกัน จะส่งเสริมซึ่งกันและกัน และปัจจุบันกระแสของการลดภาวะโลกร้อนได้รับความนิยมสูงมาก ซึ่ง โซล่า เพาเวอร์ มีโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ทั้งหมด และธุรกิจนี้เราไม่มีผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม "
นอกจากนี้ การก่อสร้างโรงไฟฟ้านั้นมีเทคนิคการก่อสร้างในทางเดียวกับที่บริษัทฯดำเนินการอยู่ อีกทั้งยังต้องใช้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทในการก่อสร้างเป็นจำนวนมาก ซึ่งถือเป็นประโยชน์ทางธุรกิจอย่างสูงกับบริษัท สาเหตุที่เลือกบริษัท โซล่า เพาเวอร์ จำกัด นั้น เนื่องจาก เป็นธุรกิจที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องและมีอัตราการเติบโตโดยตลอด ไฟฟ้าที่ผลิตขึ้นมานั้นจะส่งขายให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคทั้งจำนวน ซึ่งมีความเสี่ยงต่ำ อีกทั้งยังรับสร้างโรงไฟฟ้าให้กับหน่วยงานอื่น ๆ ด้วย
ทั้งนี้ โซล่า เพาเวอร์ มีทุนจดทะเบียน 350 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท ขณะที่ STEEL มีทุนจดทะเบียนเพียง 50 ล้านบาท ดังนั้น แผนการควบรวมดังกล่าวยังมีความไม่แน่นอน โดยอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในการควบรวม ซึ่งได้มอบหมายให้นายประสิทธิ์ อุ่นวรวงศ์ เป็นผู้ดำเนินการตามที่เสนอ รวมถึงได้รับมอบอำนาจให้ลงนามในสัญญาว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ ที่จำเป็น เช่น ที่ปรึกษาทางการเงินเพื่อประเมินมูลค่ากิจการ ผู้ประเมินราคาทรัพย์สินเป็นต้น และจะนำข้อมูลเกี่ยวกับแผนควบรวมกิจการทั้งหมด นำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเพื่ออนุมัติในครั้งต่อไป ซึ่งคาดว่าจะมีขึ้นประมาณปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2553
" เบื้องต้นการควบรวม บริษัทจะต้องออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจงและเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้น โซล่า เพาเวอร์ จำนวน 350 ล้านหุ้น มูลค่าตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท แต่ความชัดเจนคงต้องรอรายละเอียดหลังจากเราจัดตั้งที่ปรึกษาการเงิน และต้องประเมินและ เราต้องศึกษาอีกว่าแนวทางจะเป็นอย่างไร เพราะการควบรวมกันทุนจดทะเบียนของเราสูงกว่าเราเยอะ "
อย่างไรก็ดี เกณฑ์ที่จะใช้กำหนดราคาออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนนั้น ต้องรอขั้นตอนการทำ Due Diligent จากที่ปรึกษาทางการเงิน ซึ่งอยู่ในระหว่างการพิจารณาคัดเลือก
สำหรับ บริษัท โซล่า เพาเวอร์ จำกัด เป็นผู้ประกอบการด้านพลังงานแสงอาทิตย์ และเป็นผู้ก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ รวมถึงเป็นผู้ประกอบการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียนและชำระแล้ว 350 ล้านบาท โดยมีนางสาววันดี กุญชรยาคงและคุณชาญชัย กุลถาวรากร เป็นกรรมการและเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ซึ่งทั้งสองคนไม่เป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันกับบริษัทฯ ตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ปัจจุบันบริษัท โซล่า เพาเวอร์จำกัด มีโครงการการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 34 แห่ง และได้ก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงงานแสงอาทิตย์แห่งที่ 1 ซึ่งจะดำเนินงานในเดือนมีนาคม 2553 โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แห่งที่ 1 ตั้งอยู่ที่จังหวัดนครราชสีมา มีกำลังการผลิตไฟฟ้า 6 เมกกะวัตต์ส่งขายให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคทั้งจำนวน
นอกจากนี้ บอร์ด STEEL ยังอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาล ประจำปี 2552 จากกำไรสะสมอัตราหุ้นละ 0.20 บาท ทั้งนี้ จะจ่ายให้กับผู้ถือหุ้นตามรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผลในวันที่ 15 มกราคม 2553 และให้รวบรวมรายชื่อ ตามมาตรา 225 ของ พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ โดยวิธิปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นวันที่ 18 มกราคม 2553 กำหนดจ่ายปันผลวันที่ 22 มกราคม 2553