ASTVผู้จัดการรายวัน - "จตุพร" โชว์เอกสารลับก๊อก 2 ไม่สมราคาคุย แค่จะวกพูดเรื่องสั่งฆ่า "ทักษิณ" โดยตีความเอาเองจากคำว่า "ขจัดภัยคุกคาม" ด้านบัวแก้ว ซัด "ตุ๊ดตู่" เล่นเกมหวังขยายผลขัดแย้งไทย-กัมพูชา ย้ำ "ขจัด"ไม่ได้หมายถึงไล่ล่า แค่วิเคราะห์สถานการณ์ ขณะที่ ปชป.เฉ่ง "จตุพร" กลัวจนขี้ขึ้นสมองตีความเว่อร์ "สุเทพ" ยันเอาความลับของชาติไปเปิดเผยโทษหนัก ขณะที่ "นช.แม้ว" เหิมส่งซิกก๊กเสื้อแดงบุกสื่อฝ่ายตรงข้าม ด้าน "ช้ยสิทธิ์" บีบผู้ใหญ่เร่งเจรจา "ทักษิณ" ขู่รุนแรงแน่ถ้ายังเฉย
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง แถลงเปิดเผยเอกสารลับของกระทรวงการต่างประเทศ ส่วนที่ 2 และ 3 เกี่ยวกับตารางวิเคราะห์เรื่อง การส่งสัญญาณและระดับความรุนแรงเพื่อเตรียมมาตรการป้องปรามและตอบโต้การกระทำ ของนายกรัฐมนตรีกัมพูชาอย่างเป็นขั้นเป็นตอน โดยเอกสารดังกล่าวมีการ นำเสนอมาตรการตอบโต้กัมพูชา 18 ข้อ พร้อมวิเคราะห์ผลดีผลเสีย โดยจัดหมวดหมู่ เป็น 3 ระดับ คือ ความรุนแรงน้อย ความรุนแรงปานกลาง ความรุนแรงมาก ซึ่งใน18 ข้อมีการวิเคราะห์ผลดีผลเสียครบ
นายจตุพร กล่าวว่า ระดับความรุนแรงมาก มี 8 ข้อ เช่นกำหนดมาตรการ ห้ามคนไทยเดินทางข้ามแดนไปเล่นการพนันในกัมพูชา ยกเลิกสนธิสัญญาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนไทย-กัมพูชา ยกเลิกความตกลงยกเว้นการตรวจลงตราหนังสือ เดินทางราชการไทย-กัมพูชา เสริมกำลังทางทหารของไทยบริเวณพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาทุกจุดให้เข้มแข็งโดยเฉพาะบริเวณปราสาทพระวิหาร ชะลอการพิจารณาเรื่อง ความร่วมมือไทยกัมพูชาที่ต้องผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา
"ที่อยากให้ความสำคัญคือ มาตรการยกเลิกเอ็มโอยูระหว่างไทย-กัมพูชา อ้างสิทธิในไหล่ทวีปทับซ้อน โดยเอกสารระบุข้อดีว่าเป็นการกระทบต่อผลประโยชน์ ของผู้นำกัมพูชาและพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อย่างชัดเจน สะท้อนให้สังคมเข้าใจว่า มีผลประโยชน์ทับซ้อนระหว่างผู้นำกัมพูชากับพ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งรัฐบาลปัจจุบันต้องการ ความโปร่งใส ส่วนข้อเสียระบุว่า จะนำไปสู่การเรียกร้องผลักดันในไทยให้ยกเลิก เอ็มโอยูเขตแดนทางบกปี 2543"
นายจตุพร กล่าวว่า ประเด็นนี้ทำให้รู้ว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่มีผลประโยชน์ หรือมีหุ้นเดียวในสัมปทานบ่อก๊าซ และรัฐบาลไทยก็รู้เช่นกันว่า ถ้าเกิดยกเลิกเอ็มโอยูปี 2544 ก็จะผลักให้มีการยกเลิกเอ็มโอยูปี 2543 ในสมัยรัฐบาลนายชวน หลีกภัย ซึ่ง ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร รมว.ต่างประเทศขณะนั้นได้ลงนามทำให้เสียค่าโง่ในกัมพูชา เพราะ เป็นการระบุการปักปันเขตแดนตามแผนที่ฝรั่งเศส ทำให้ไทยเสียปราสาทพระวิหาร ซึ่งวันนี้รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็ยังไม่มีการยกเลิกเอ็มโอยู2544 เพราะถ้ายกเลิกก็เท่ากับว่า ต้องยกเลิกมติครม.ของตัวเองถือเป็นการทำผิดมติครม.ตัวเอง ทั้งนี้ มาตรการทั้งหมด ถ้าทำตามนี้ประเทศไทยเสียกว่าได้
"ที่ผมนำเปิดเอกสารทั้งหมด จำนวน 12 หน้า มันอยู่ในฉบับเดียวกัน มีความต่อเนื่องกัน พวกผมเสียหาย หากปล่อยให้เอกสารนี้เดินหน้าต่อไป การเข่นฆ่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะต้องเกิดขึ้น โดยเฉพาะที่บอกว่า ขจัดภัยคุกคามหลัก ซึ่งคำว่า ขจัด ที่เขาพูดในวงในหมายถึงการฆ่า เอกสารนี้จึงสร้างความเสียหายกับประเทศไทย และกัมพูชาจะไม่ได้ประโยชน์อะไรจากเอกสารนี้ เพราะแต่ละข้อทำให้ประเทศไทยเสียหายทั้งสิ้น และประเทศที่ได้ประโยชน์ คือ เวียดนาม ซึ่งเป็นประเทศบรรพบุรุษของ นายอภิสิทธิ์"
"จตุพร"ท้าดำเนินคดีจะแจ้งความกลับ
นายจตุพร กล่าวว่าที่รัฐบาลระบุว่าจะดำเนินคดีกับตนข้อหานำเอกสารลับมา เปิดเผยนั้น ความจริงถ้าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการทำผิดกฎหมาย ตนก็คงไม่ใช้วิธีการ แบบนี้ แต่เอกสารนี้ทำผิดกฎหมายมุ่งเอาชีวิต พ.ต.ท.ทักษิณ แทรกแซงการทำหน้าที่ ของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองแม้ว่า ศาลฎีกาฯจะเลื่อนขอสอบพยานเพิ่มคดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ 7.6 หมื่นล้านบาท ชี้ให้เห็นว่า กระทรวงการต่างประเทศและรัฐบาลไม่มีสิทธิ์ก้าวก่ายศาล
อ้างวงในบัวแก้วบอกสั่งฆ่า"ทักษิณ"
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่บอกว่ามีการคุยกันในวงและมีการวิเคราะห์ว่าน่าจะเป็นการสังหารพ.ต.ท.ทักษิณนั้นหมายถึงวงในไหน นายจตุพร กล่าวว่า คือวงในกระทรวงการต่างประเทศโดยเฉพาะคำว่า ขจัดภัยหลัก และใช้คำว่า เอ็นเกม คิดเป็นอื่นไม่ได้นอกจากการฆ่า เมื่อถามว่าวงไหนที่มีการวิเคราะห์ว่า ถ้าจบเดือน ธ.ค.นี้ไม่ได้ ก็ต้องจบในเดือนเม.ย. 2553 ทั้งนี้ ประเด็นนี้จะเป็นเรื่องนี้ที่นำมาพูดในการชุมนุมใหญ่ เดือนม.ค.ด้วย และขอยืนยันว่าเราจะไม่มาชุมนุมเป็นครั้งที่สองอีก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นนายจตุพรได้มอบเอกสารลับดังกล่าวให้กับ นายต่อพงษ์ ไชยสาส์น ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร โดยนายต่อพงษ์ กล่าวว่า คณะกรรมาธิการฯจะส่งตารางการประชุมของคณะกรรมาธิการฯไปให้กับนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ เพื่อให้นายกษิต เลือกด้วยว่า ในวันประชุมของคณะกรรมาธิการฯ วันใดที่นายกษิตไม่มีภารกิจ
กต.ชี้คำว่า ขจัด ไม่ใช่ไล่ล่าทักษิณ
ด้านนายพนิช วิกฤตเศรษฐ์ ผู้ช่วย รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า กระทรวงได้ตั้ง นายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล ปลัดกระทรวงฯ เป็นประธานสอบกรณีเอกสารลับที่นายจตุพร นำมาเผยแพร่ว่าเป็นเอกสารจริงหรือไม่ ใครในกระทรวงเป็นผู้นำไปให้ เนื่องจากเป็นเอกสารสำคัญที่ รมว.ต่างประเทศทำรายงานถึงนายกรัฐมนตรีเท่านั้น
ส่วนที่พ.ต.ท.ทักษิณ นำเนื้อหาในเอกสารลับไปแปลกเป็นภาษาอังกฤษเผยแผร่ในเว็บไซด์ถือเป็นการกระทำที่ไม่สมควร เพราะเป็นการนำเนื้อหากิจการ ภายในประเทศไปเปิดเผยให้นานาประเทศทราบ ซึ่งถือเป็นการกระทำผิดกฎหมายอยู่แล้ว และถ้าเกิดความเสียหายก็ต้องชี้แจง
นายพนิช กล่าวว่าข้อความในเอกสารลับที่ระบุว่า ขจัดนั้น ไม่ได้จะไล่ล่า พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างที่พรรคเพื่อไทยบอก เพราะไม่ใช่หน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศ ความหมายจึงไม่ได้เป็นอย่างที่พรรคเพื่อไทยตีความเป็นเพียงการวิเคราะห์สถานการณ์ทางการเมืองระหว่างไทยกับกัมพูชา
"การออกมาเปิดเผยของนายจตุพรเป็นเกมการเมืองต้องการสร้างสถานการณ์นำไปสู่ความขัดแย้ง ระหว่างไทยกับกัมพูชา ไม่อยากพูดว่ามีเกลือเป็นหนอนหรือไม่ เพราะไม่ว่าจะอย่างไรกระทรวงการต่างประเทศก็ต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว แต่หากเอกสารทำขึ้นมาก็ต้องฟ้องร้อง"
ซัด"ตุ๊ดตู่"บิดเบือนตีความหาเรื่อง
นายบุญยอด สุขถิ่นไทย รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เอกสารที่ นายจตุพร นำมาเปิดเผยรอบที่ 2 ไม่มีข้อมูลใหม่ที่แตกต่างจากที่เคยแถลงเปิดเผย มาแล้ว การตีความคำในเอกสารที่ยกมาอ้างนั้นเป็นการตีความเกินความเป็นจริง และบิดเบือนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการตีความให้เกินความหมายของคำในคำว่า ขจัดภัยคุกคามต่อประเทศ ที่นายจตุพร ตีความว่าเป็นการหมายเอาชีวิต พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นการตีความที่บิดเบือน เพราะหน่วยราชการก็เคยใช้คำว่า ขจัดภัยยาเสพติด ซึ่งเป็นภัยคุกคามประเทศ คนที่มีคุณธรรมจริยธรรมก็จะรู้ว่าให้จัดการปัญหายาเสพติดโดยไม่ได้ให่ฆ่าตัดตอน ไม่ต้องมุ่งหมายเอาชีวิตคนเสพ คนค้า แต่ให้ ขจัดปัญหาตามขบวนการของกฎหมายเท่านั้น คงมีเพียงสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ไม่ได้ทำตามกระบวนการทางกฎหมาย มีการกล่าวหาว่าฆ่าตัดตอนคนจำนวนมาก นายจตุพรจึงไม่ควรเอาประสบการณ์เดิมของ พ.ต.ท.ทักษิณมาเป็นมาตรฐาน
เอาความลับประเทศมาเปิดเผยผิดชัด
นาย สุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการเอาผิด ทางกฎหมายกับนายจตุพร ที่นำเอกสารลับของกระทรวงต่างประเทศมาเปิดเผยว่า ต้องให้นักกฎหมาย เป็นผู้พิจารณา ทุกอย่างต้องว่ากันไปตามกติกา ถูกก็คือถูก ผิดก็คือผิด ส่วนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นำเนื้อหาในเอกสารลับไปลงเผยแพร่ทาง เว็บไซด์ มีความผิดหรือไม ต้องให้คนที่มีหน้าที่ มีความรู้ทางด้านนี้เป็นผู้ดำเนินการ
"เจ้าหน้าที่เขาก็ต้องดูว่าการกระทำอย่างกรณีคุณทักษิณ นั้นผิดกฎหมาย หรือไม่ มาตราอะไร แต่จริง ๆ แล้วถ้าพูดด้วยสามัญสำนึกเรื่องที่เป็นความลับ ที่เป็นผลประโยชน์ ที่เป็นความมั่นคงของประเทศชาติแล้วเอามาเปิดเผยจนทำให้ประเทศที่เป็นคู่ปัญหากับเราและไปล่วงรู้ ก็ทำให้ประเทศไทยเสียเปรียบ เสียประโยชน์ ถ้าพูดกันในกรณีนี้ก็คือว่า น่าพิจารณาว่าจริงๆ คุณจตุพร ก็ดี คุณทักษิณก็ดี เอาความลับของประเทศไทยไปบอกเขมร แล้วทำให้เราเสียหาย อย่างนี้ก็น่าจะเข้าข่าย แต่อย่างที่ผมบอกว่า ต้องให้คนที่มีความรู้ทางกฎหมายเขาว่าไป"
ไม่เชื่อ นช.แม้วจะถูกลอบสังหาร
ส่วนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ อ้างว่าตัวเองจะถูกลอบสังหารนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่เชื่อว่าเป็นจริง ทั้งกระทรวงต่างประเทศและรัฐบาลทั้งคณะ ไม่เคยมีใคร คิดทำอย่างนั้น ดังนั้นจึงไม่คิดว่าเป็นจริง
ผู้สื่อข่าวถามว่าเตรียมรับความเสียหายจากเอกสารลับถูกเผยแพร่อย่างไร ทั้งในเรื่องความมั่นคงของประเทศและความสัมพันธ์ระหว่างไทยและกัมพูชา นายสุเทพ กล่าวว่า ก็คงเสียเปรียบ คงจะต้องปรับเปลี่ยนท่าทีในบางส่วน เพราะคนของประเทศไทยเองทั้ง นายจตุพรและ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ไปเปิดเผยไต๋ให้เขาดูซะแล้ว ก็ต้องไปปรับวิธีการ แนวคิดกันใหม่ ก็เป็นหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศก็ต้องไป เริ่มต้นคิดใหม่
แม้วส่งซิกเสื้อแดงบุกสื่อฝ่ายตรงข้าม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการจัดรายการวิทยุออนไลน์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เมื่อค่ำวันที่ 22 ธ.ค.ได้กล่าวโจมตีสื่อมวลชนโดยอ้างว่าไม่เป็นกลาง โดยเฉพาะทีวีทุกช่องได้รับการซื้อจากรัฐวิสาหกิจโดยนโยบายรัฐบาล การไฟฟ้าผ่ายผลิตฯ ไปโฆษณาในละคร อยากถามว่ามีอะไรไปโฆษณา ยามนี้บ้านเมืองขัดสนต้องประหยัด
ด้านนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ที่กลุ่มคนเสื้อแดงบางกลุ่ม จะไปชุมนุมหน้าสำนักงานสื่อมวลชนบางสำนักที่ไม่เป็นกลางเป็นเพียงความคิด แกนนำยังไม่ได้ประชุมหรือมีมติ แต่สื่อบางสำนักก็ไม่ได้ทำหน้าที่สื่อ แต่เป็นแนวรบทางการเมือง ถ้าคนเสื้อแดงจะไปชุมนุมก็ถือเป็นสิทธิเสรีภาพ แต่ต้องไม่ทำสิ่งผิดกฎหมาย แต่ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นเราก็พร้อมรับผิดชอบ
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กลุ่มคนเสื้อแดงจะมีการชุมนุมใหญ่แน่นอนในช่วงหลังปีใหม่ไม่เกินเดือนเม.ย. ทั้งนี้คนเสื้อแดง พร้อมหมดแล้วทุกด้านหากมีการชุมนุม ยืนยันว่าการชุมนุมครั้งหน้ารัฐบาลต้องอยู่ไม่ได้ จะเป็นการชุมนุมยื้ดเยื้อกดดันรัฐบาล
นายสุพร อัตถาวงศ์ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง กล่าวว่า หลังจากผ่านพ้นช่วง เทศกาลปีใหม่กลุ่มคนเสื้อแดงจะนัดชุมนุมใหญ่อีกครั้งวันที่ 11 ม.ค. 2553 แต่ยังไม่เปิดเผยว่าจะชุมนุมที่ใด
จิ๋วให้ระวังมีคนมาแก้แทนรัฐบาล
พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย กล่าวว่าถูกต้องแล้วที่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรีปฏิเสธที่จะเป็นตัวกลางเจรจาระหว่างรัฐบาลกับ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะท่านเป็นองคมนตรี หากเข้ามาเกี่ยวข้องกับการเมืองจะสร้างความเสียหายต่อฐานะของท่าน
"การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในปีหน้า เชื่อว่าคงยืดเยื้อ หากไม่ยืดเยื้อจะมีผลอะไรล่ะ เขาก็ต้องทำอย่างนั้น แต่หากจะทำไม่ให้คนเสื้อแดง ชุมนุมยืดเยื้อก็ต้องไปพูดกับท่าน ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหา ถ้ารัฐบาลไม่แก้เรื่องความขัดแย้ง เดี๋ยวมีคนอื่นไปแก้ให้มันจะยุ่ง"
ขู่ไม่เจรจาแม้วรุนแรงแน่
พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร อดีต ผบ.สูงสุด ญาติ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่าเอกสารลับของกระทรวงการต่างประเทศ เป็นการจองล้างจองผลาญ พ.ต.ท.ทักษิณ จึงควรหยุดเสีย ควรเผื่อแผ่ใจให้เขาบ้าง
ผู้สื่อข่าวถามว่าสถานการณ์ในช่วงปีใหม่ที่อาจเกิดความรุนแรงขึ้น พล.อ.ชัยสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่รู้ แต่ไม่อยากให้อะไรเกิดขึ้น แต่หากเป็นอยู่แบบนี้คงเกิดขึ้นแน่ เพราะแค่เห็นหน้าก็จะต่อยกันแล้ว เหมือนคนท้าชกกัน แหย่กันไปมา ไม่นานก็ชกกัน แทนที่จะประนีประนอม ยิ่งเป็นผู้ใหญ่ ยิ่งต้องใจกว้าง คุณมีอำนาจอาจไม่เดือดร้อน แต่คนอื่นเดือดร้อน ขอให้ลอยหน้าลอยตาไปเถอะ คิดว่า คงไม่นาน
ชี้สุรยุทธ์ชักเข้าชักออกเพราะไม่ได้รับอนุญาต
เมื่อเวลา 19.50 น. วานนี้ (23 ธ.ค.) พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร วิดิโอคอนเฟอเร้นช์ทักทายระหว่างงานเลี้ยงปีใหม่ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่โรงแรมเอสซีปาร์ค โดยได้กล่าวทักทายส.ส.และตท.10 ซึ่งช่วงหนึ่งพ.ต.ท.ทักษิณ ถาม พล.อ.อ.สุเมธ โพธิ์มณี ตท.10 และสมาชิกพรรคเพื่อไทย ถึงการให้สัมภาษณ์ นางวาสนา นาน่วม เกี่ยวกับกรณี พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี จะเป็นคนกลางเจรจากับ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยพล.อ.สุเมธ ก็ได้อธิบายไป จากนั้นพ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า ชักเข้าแล้วก็ชักออก สงสัยไม่ได้รับอนุญาติอย่างผมว่าละมั้ง
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง แถลงเปิดเผยเอกสารลับของกระทรวงการต่างประเทศ ส่วนที่ 2 และ 3 เกี่ยวกับตารางวิเคราะห์เรื่อง การส่งสัญญาณและระดับความรุนแรงเพื่อเตรียมมาตรการป้องปรามและตอบโต้การกระทำ ของนายกรัฐมนตรีกัมพูชาอย่างเป็นขั้นเป็นตอน โดยเอกสารดังกล่าวมีการ นำเสนอมาตรการตอบโต้กัมพูชา 18 ข้อ พร้อมวิเคราะห์ผลดีผลเสีย โดยจัดหมวดหมู่ เป็น 3 ระดับ คือ ความรุนแรงน้อย ความรุนแรงปานกลาง ความรุนแรงมาก ซึ่งใน18 ข้อมีการวิเคราะห์ผลดีผลเสียครบ
นายจตุพร กล่าวว่า ระดับความรุนแรงมาก มี 8 ข้อ เช่นกำหนดมาตรการ ห้ามคนไทยเดินทางข้ามแดนไปเล่นการพนันในกัมพูชา ยกเลิกสนธิสัญญาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนไทย-กัมพูชา ยกเลิกความตกลงยกเว้นการตรวจลงตราหนังสือ เดินทางราชการไทย-กัมพูชา เสริมกำลังทางทหารของไทยบริเวณพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาทุกจุดให้เข้มแข็งโดยเฉพาะบริเวณปราสาทพระวิหาร ชะลอการพิจารณาเรื่อง ความร่วมมือไทยกัมพูชาที่ต้องผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา
"ที่อยากให้ความสำคัญคือ มาตรการยกเลิกเอ็มโอยูระหว่างไทย-กัมพูชา อ้างสิทธิในไหล่ทวีปทับซ้อน โดยเอกสารระบุข้อดีว่าเป็นการกระทบต่อผลประโยชน์ ของผู้นำกัมพูชาและพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อย่างชัดเจน สะท้อนให้สังคมเข้าใจว่า มีผลประโยชน์ทับซ้อนระหว่างผู้นำกัมพูชากับพ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งรัฐบาลปัจจุบันต้องการ ความโปร่งใส ส่วนข้อเสียระบุว่า จะนำไปสู่การเรียกร้องผลักดันในไทยให้ยกเลิก เอ็มโอยูเขตแดนทางบกปี 2543"
นายจตุพร กล่าวว่า ประเด็นนี้ทำให้รู้ว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่มีผลประโยชน์ หรือมีหุ้นเดียวในสัมปทานบ่อก๊าซ และรัฐบาลไทยก็รู้เช่นกันว่า ถ้าเกิดยกเลิกเอ็มโอยูปี 2544 ก็จะผลักให้มีการยกเลิกเอ็มโอยูปี 2543 ในสมัยรัฐบาลนายชวน หลีกภัย ซึ่ง ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร รมว.ต่างประเทศขณะนั้นได้ลงนามทำให้เสียค่าโง่ในกัมพูชา เพราะ เป็นการระบุการปักปันเขตแดนตามแผนที่ฝรั่งเศส ทำให้ไทยเสียปราสาทพระวิหาร ซึ่งวันนี้รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็ยังไม่มีการยกเลิกเอ็มโอยู2544 เพราะถ้ายกเลิกก็เท่ากับว่า ต้องยกเลิกมติครม.ของตัวเองถือเป็นการทำผิดมติครม.ตัวเอง ทั้งนี้ มาตรการทั้งหมด ถ้าทำตามนี้ประเทศไทยเสียกว่าได้
"ที่ผมนำเปิดเอกสารทั้งหมด จำนวน 12 หน้า มันอยู่ในฉบับเดียวกัน มีความต่อเนื่องกัน พวกผมเสียหาย หากปล่อยให้เอกสารนี้เดินหน้าต่อไป การเข่นฆ่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะต้องเกิดขึ้น โดยเฉพาะที่บอกว่า ขจัดภัยคุกคามหลัก ซึ่งคำว่า ขจัด ที่เขาพูดในวงในหมายถึงการฆ่า เอกสารนี้จึงสร้างความเสียหายกับประเทศไทย และกัมพูชาจะไม่ได้ประโยชน์อะไรจากเอกสารนี้ เพราะแต่ละข้อทำให้ประเทศไทยเสียหายทั้งสิ้น และประเทศที่ได้ประโยชน์ คือ เวียดนาม ซึ่งเป็นประเทศบรรพบุรุษของ นายอภิสิทธิ์"
"จตุพร"ท้าดำเนินคดีจะแจ้งความกลับ
นายจตุพร กล่าวว่าที่รัฐบาลระบุว่าจะดำเนินคดีกับตนข้อหานำเอกสารลับมา เปิดเผยนั้น ความจริงถ้าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการทำผิดกฎหมาย ตนก็คงไม่ใช้วิธีการ แบบนี้ แต่เอกสารนี้ทำผิดกฎหมายมุ่งเอาชีวิต พ.ต.ท.ทักษิณ แทรกแซงการทำหน้าที่ ของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองแม้ว่า ศาลฎีกาฯจะเลื่อนขอสอบพยานเพิ่มคดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ 7.6 หมื่นล้านบาท ชี้ให้เห็นว่า กระทรวงการต่างประเทศและรัฐบาลไม่มีสิทธิ์ก้าวก่ายศาล
อ้างวงในบัวแก้วบอกสั่งฆ่า"ทักษิณ"
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่บอกว่ามีการคุยกันในวงและมีการวิเคราะห์ว่าน่าจะเป็นการสังหารพ.ต.ท.ทักษิณนั้นหมายถึงวงในไหน นายจตุพร กล่าวว่า คือวงในกระทรวงการต่างประเทศโดยเฉพาะคำว่า ขจัดภัยหลัก และใช้คำว่า เอ็นเกม คิดเป็นอื่นไม่ได้นอกจากการฆ่า เมื่อถามว่าวงไหนที่มีการวิเคราะห์ว่า ถ้าจบเดือน ธ.ค.นี้ไม่ได้ ก็ต้องจบในเดือนเม.ย. 2553 ทั้งนี้ ประเด็นนี้จะเป็นเรื่องนี้ที่นำมาพูดในการชุมนุมใหญ่ เดือนม.ค.ด้วย และขอยืนยันว่าเราจะไม่มาชุมนุมเป็นครั้งที่สองอีก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นนายจตุพรได้มอบเอกสารลับดังกล่าวให้กับ นายต่อพงษ์ ไชยสาส์น ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร โดยนายต่อพงษ์ กล่าวว่า คณะกรรมาธิการฯจะส่งตารางการประชุมของคณะกรรมาธิการฯไปให้กับนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ เพื่อให้นายกษิต เลือกด้วยว่า ในวันประชุมของคณะกรรมาธิการฯ วันใดที่นายกษิตไม่มีภารกิจ
กต.ชี้คำว่า ขจัด ไม่ใช่ไล่ล่าทักษิณ
ด้านนายพนิช วิกฤตเศรษฐ์ ผู้ช่วย รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า กระทรวงได้ตั้ง นายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล ปลัดกระทรวงฯ เป็นประธานสอบกรณีเอกสารลับที่นายจตุพร นำมาเผยแพร่ว่าเป็นเอกสารจริงหรือไม่ ใครในกระทรวงเป็นผู้นำไปให้ เนื่องจากเป็นเอกสารสำคัญที่ รมว.ต่างประเทศทำรายงานถึงนายกรัฐมนตรีเท่านั้น
ส่วนที่พ.ต.ท.ทักษิณ นำเนื้อหาในเอกสารลับไปแปลกเป็นภาษาอังกฤษเผยแผร่ในเว็บไซด์ถือเป็นการกระทำที่ไม่สมควร เพราะเป็นการนำเนื้อหากิจการ ภายในประเทศไปเปิดเผยให้นานาประเทศทราบ ซึ่งถือเป็นการกระทำผิดกฎหมายอยู่แล้ว และถ้าเกิดความเสียหายก็ต้องชี้แจง
นายพนิช กล่าวว่าข้อความในเอกสารลับที่ระบุว่า ขจัดนั้น ไม่ได้จะไล่ล่า พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างที่พรรคเพื่อไทยบอก เพราะไม่ใช่หน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศ ความหมายจึงไม่ได้เป็นอย่างที่พรรคเพื่อไทยตีความเป็นเพียงการวิเคราะห์สถานการณ์ทางการเมืองระหว่างไทยกับกัมพูชา
"การออกมาเปิดเผยของนายจตุพรเป็นเกมการเมืองต้องการสร้างสถานการณ์นำไปสู่ความขัดแย้ง ระหว่างไทยกับกัมพูชา ไม่อยากพูดว่ามีเกลือเป็นหนอนหรือไม่ เพราะไม่ว่าจะอย่างไรกระทรวงการต่างประเทศก็ต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว แต่หากเอกสารทำขึ้นมาก็ต้องฟ้องร้อง"
ซัด"ตุ๊ดตู่"บิดเบือนตีความหาเรื่อง
นายบุญยอด สุขถิ่นไทย รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เอกสารที่ นายจตุพร นำมาเปิดเผยรอบที่ 2 ไม่มีข้อมูลใหม่ที่แตกต่างจากที่เคยแถลงเปิดเผย มาแล้ว การตีความคำในเอกสารที่ยกมาอ้างนั้นเป็นการตีความเกินความเป็นจริง และบิดเบือนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการตีความให้เกินความหมายของคำในคำว่า ขจัดภัยคุกคามต่อประเทศ ที่นายจตุพร ตีความว่าเป็นการหมายเอาชีวิต พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นการตีความที่บิดเบือน เพราะหน่วยราชการก็เคยใช้คำว่า ขจัดภัยยาเสพติด ซึ่งเป็นภัยคุกคามประเทศ คนที่มีคุณธรรมจริยธรรมก็จะรู้ว่าให้จัดการปัญหายาเสพติดโดยไม่ได้ให่ฆ่าตัดตอน ไม่ต้องมุ่งหมายเอาชีวิตคนเสพ คนค้า แต่ให้ ขจัดปัญหาตามขบวนการของกฎหมายเท่านั้น คงมีเพียงสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ไม่ได้ทำตามกระบวนการทางกฎหมาย มีการกล่าวหาว่าฆ่าตัดตอนคนจำนวนมาก นายจตุพรจึงไม่ควรเอาประสบการณ์เดิมของ พ.ต.ท.ทักษิณมาเป็นมาตรฐาน
เอาความลับประเทศมาเปิดเผยผิดชัด
นาย สุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการเอาผิด ทางกฎหมายกับนายจตุพร ที่นำเอกสารลับของกระทรวงต่างประเทศมาเปิดเผยว่า ต้องให้นักกฎหมาย เป็นผู้พิจารณา ทุกอย่างต้องว่ากันไปตามกติกา ถูกก็คือถูก ผิดก็คือผิด ส่วนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นำเนื้อหาในเอกสารลับไปลงเผยแพร่ทาง เว็บไซด์ มีความผิดหรือไม ต้องให้คนที่มีหน้าที่ มีความรู้ทางด้านนี้เป็นผู้ดำเนินการ
"เจ้าหน้าที่เขาก็ต้องดูว่าการกระทำอย่างกรณีคุณทักษิณ นั้นผิดกฎหมาย หรือไม่ มาตราอะไร แต่จริง ๆ แล้วถ้าพูดด้วยสามัญสำนึกเรื่องที่เป็นความลับ ที่เป็นผลประโยชน์ ที่เป็นความมั่นคงของประเทศชาติแล้วเอามาเปิดเผยจนทำให้ประเทศที่เป็นคู่ปัญหากับเราและไปล่วงรู้ ก็ทำให้ประเทศไทยเสียเปรียบ เสียประโยชน์ ถ้าพูดกันในกรณีนี้ก็คือว่า น่าพิจารณาว่าจริงๆ คุณจตุพร ก็ดี คุณทักษิณก็ดี เอาความลับของประเทศไทยไปบอกเขมร แล้วทำให้เราเสียหาย อย่างนี้ก็น่าจะเข้าข่าย แต่อย่างที่ผมบอกว่า ต้องให้คนที่มีความรู้ทางกฎหมายเขาว่าไป"
ไม่เชื่อ นช.แม้วจะถูกลอบสังหาร
ส่วนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ อ้างว่าตัวเองจะถูกลอบสังหารนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่เชื่อว่าเป็นจริง ทั้งกระทรวงต่างประเทศและรัฐบาลทั้งคณะ ไม่เคยมีใคร คิดทำอย่างนั้น ดังนั้นจึงไม่คิดว่าเป็นจริง
ผู้สื่อข่าวถามว่าเตรียมรับความเสียหายจากเอกสารลับถูกเผยแพร่อย่างไร ทั้งในเรื่องความมั่นคงของประเทศและความสัมพันธ์ระหว่างไทยและกัมพูชา นายสุเทพ กล่าวว่า ก็คงเสียเปรียบ คงจะต้องปรับเปลี่ยนท่าทีในบางส่วน เพราะคนของประเทศไทยเองทั้ง นายจตุพรและ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ไปเปิดเผยไต๋ให้เขาดูซะแล้ว ก็ต้องไปปรับวิธีการ แนวคิดกันใหม่ ก็เป็นหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศก็ต้องไป เริ่มต้นคิดใหม่
แม้วส่งซิกเสื้อแดงบุกสื่อฝ่ายตรงข้าม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการจัดรายการวิทยุออนไลน์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เมื่อค่ำวันที่ 22 ธ.ค.ได้กล่าวโจมตีสื่อมวลชนโดยอ้างว่าไม่เป็นกลาง โดยเฉพาะทีวีทุกช่องได้รับการซื้อจากรัฐวิสาหกิจโดยนโยบายรัฐบาล การไฟฟ้าผ่ายผลิตฯ ไปโฆษณาในละคร อยากถามว่ามีอะไรไปโฆษณา ยามนี้บ้านเมืองขัดสนต้องประหยัด
ด้านนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ที่กลุ่มคนเสื้อแดงบางกลุ่ม จะไปชุมนุมหน้าสำนักงานสื่อมวลชนบางสำนักที่ไม่เป็นกลางเป็นเพียงความคิด แกนนำยังไม่ได้ประชุมหรือมีมติ แต่สื่อบางสำนักก็ไม่ได้ทำหน้าที่สื่อ แต่เป็นแนวรบทางการเมือง ถ้าคนเสื้อแดงจะไปชุมนุมก็ถือเป็นสิทธิเสรีภาพ แต่ต้องไม่ทำสิ่งผิดกฎหมาย แต่ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นเราก็พร้อมรับผิดชอบ
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กลุ่มคนเสื้อแดงจะมีการชุมนุมใหญ่แน่นอนในช่วงหลังปีใหม่ไม่เกินเดือนเม.ย. ทั้งนี้คนเสื้อแดง พร้อมหมดแล้วทุกด้านหากมีการชุมนุม ยืนยันว่าการชุมนุมครั้งหน้ารัฐบาลต้องอยู่ไม่ได้ จะเป็นการชุมนุมยื้ดเยื้อกดดันรัฐบาล
นายสุพร อัตถาวงศ์ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง กล่าวว่า หลังจากผ่านพ้นช่วง เทศกาลปีใหม่กลุ่มคนเสื้อแดงจะนัดชุมนุมใหญ่อีกครั้งวันที่ 11 ม.ค. 2553 แต่ยังไม่เปิดเผยว่าจะชุมนุมที่ใด
จิ๋วให้ระวังมีคนมาแก้แทนรัฐบาล
พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย กล่าวว่าถูกต้องแล้วที่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรีปฏิเสธที่จะเป็นตัวกลางเจรจาระหว่างรัฐบาลกับ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะท่านเป็นองคมนตรี หากเข้ามาเกี่ยวข้องกับการเมืองจะสร้างความเสียหายต่อฐานะของท่าน
"การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในปีหน้า เชื่อว่าคงยืดเยื้อ หากไม่ยืดเยื้อจะมีผลอะไรล่ะ เขาก็ต้องทำอย่างนั้น แต่หากจะทำไม่ให้คนเสื้อแดง ชุมนุมยืดเยื้อก็ต้องไปพูดกับท่าน ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหา ถ้ารัฐบาลไม่แก้เรื่องความขัดแย้ง เดี๋ยวมีคนอื่นไปแก้ให้มันจะยุ่ง"
ขู่ไม่เจรจาแม้วรุนแรงแน่
พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร อดีต ผบ.สูงสุด ญาติ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่าเอกสารลับของกระทรวงการต่างประเทศ เป็นการจองล้างจองผลาญ พ.ต.ท.ทักษิณ จึงควรหยุดเสีย ควรเผื่อแผ่ใจให้เขาบ้าง
ผู้สื่อข่าวถามว่าสถานการณ์ในช่วงปีใหม่ที่อาจเกิดความรุนแรงขึ้น พล.อ.ชัยสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่รู้ แต่ไม่อยากให้อะไรเกิดขึ้น แต่หากเป็นอยู่แบบนี้คงเกิดขึ้นแน่ เพราะแค่เห็นหน้าก็จะต่อยกันแล้ว เหมือนคนท้าชกกัน แหย่กันไปมา ไม่นานก็ชกกัน แทนที่จะประนีประนอม ยิ่งเป็นผู้ใหญ่ ยิ่งต้องใจกว้าง คุณมีอำนาจอาจไม่เดือดร้อน แต่คนอื่นเดือดร้อน ขอให้ลอยหน้าลอยตาไปเถอะ คิดว่า คงไม่นาน
ชี้สุรยุทธ์ชักเข้าชักออกเพราะไม่ได้รับอนุญาต
เมื่อเวลา 19.50 น. วานนี้ (23 ธ.ค.) พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร วิดิโอคอนเฟอเร้นช์ทักทายระหว่างงานเลี้ยงปีใหม่ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่โรงแรมเอสซีปาร์ค โดยได้กล่าวทักทายส.ส.และตท.10 ซึ่งช่วงหนึ่งพ.ต.ท.ทักษิณ ถาม พล.อ.อ.สุเมธ โพธิ์มณี ตท.10 และสมาชิกพรรคเพื่อไทย ถึงการให้สัมภาษณ์ นางวาสนา นาน่วม เกี่ยวกับกรณี พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี จะเป็นคนกลางเจรจากับ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยพล.อ.สุเมธ ก็ได้อธิบายไป จากนั้นพ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า ชักเข้าแล้วก็ชักออก สงสัยไม่ได้รับอนุญาติอย่างผมว่าละมั้ง