xs
xsm
sm
md
lg

“ไอ้ตู่” ตามนัด! โชว์เอกสารลับ 9 แผ่น ท้า กต.รีบแจ้งความ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย
“จตุพร” มาตามนัด! โชว์เอกสารลับกระทรวงการต่างประเทศอีก 9 แผ่น อ้างแผนจัดการ “นช.ทักษิณ” ชัด ชี้ทำผิดกฎหมาย ขู่ กต.แจ้งความเจอฟ้องกลับแน่ ชงเองกินเอง ยื่นเอกสารลับ "ต่อพงษ์" หลังแถลง เจ้าตัวรับลูกเรียก "กษิต" แจงทันควัน แขวะส่งตารางประชุมกมธ.ให้เลือกว่างมาวันไหน



วันนี้ (23 ธ.ค.) นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย เปิดเผยเอกสารลับกระทรวงการต่างประเทศ อีก 9 แผ่น ที่นายจตุพรระบุว่ามีขั้นตอนการดำเนินการกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โดยนายจตุพรยืนยันว่าเอกสารดังกล่าวไม่เป็นความลับเพราะมีการทำผิดกฎหมาย เนื่องจากเอกสารดังกล่าวแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม และมุ่งหมายเอาชีวิต พ.ต.ท.ทักษิณ ขณะเดียวกัน นายจตุพรยังท้าให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินคดีต่อตน ซึ่งตนพร้อมดำเนินคดีกระทรวงการต่างประเทศเช่นกัน ในข้อหาแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมและทำผิดรัฐธรรมนูญ พร้อมทั้งจะนำเรื่องดังกล่าวอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในการเปิดประชุมสภา พร้อมยื่นเรื่องถอดถอนออกจากตำแหน่ง นอกจากนี้จะนำเอกสารดังกล่าวทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษเผยแพร่ผ่านทางทวิตเตอร์ของ พ.ต.ท.ทักษิณด้วย

สำหรับเอกสารดังกล่าวเป็นตารางวิเคราะห์เรื่อง “การส่งสัญญาณและระดับความรุนแรงเพื่อเตรียมมาตรการป้องปรามและตอบโต้การกระทำของนายกรัฐมนตรีกัมพูชาอย่างเป็นขั้นเป็นตอน” ทั้งนี้ในเอกสารมีการนำเสนอมาตรการตอบโต้กัมพูชาทั้งหมด 18 ข้อ พร้อมกับวิเคราะห์ผลดีผลเสีย โดยจัดหมวดหมู่เป็นสามระดับ คือ ความรุนแรงน้อย ความรุนแรงปานกลาง ความรุนแรงมาก ซึ่งใน18 ข้อมีการวิเคราะห์ผลดีผลเสียครบ

นายจตุพร กล่าวว่า อยากเน้นเรื่อง“มาตรการระดับความรุนแรงมาก” ที่มีทั้งหมด 8 ข้อ เช่น กำหนดมาตรการห้ามคนไทยเดินทางข้ามแดนไปเล่นการพนันในกัมพูชา ยกเลิกสนธิสัญญาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนไทยกัมพูชา ยกเลิกความตกลงยกเว้นการตรวจลงตราหนังสือเดินทางราชการไทย-กัมพูชา เสริมกำลังทางทหารของไทยบริเวณพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาทุกจุดให้เข้มแข็งโดยเฉพาะบริเวณปราสาทพระวิหาร ชะลอการพิจารณาเรื่องความร่วมมือไทยกัมพูชาที่ต้องผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา และที่อยากให้ความสำคัญคือ มาตรการ ยกเลิกเอ็มโอยูระหว่างไทยกัมพูชาอ้างสิทธิในไหล่ทวีปทับซ้อน โดยเอกสารระบุข้อดีว่า เป็นการกระทบต่อผลประโยชน์ของผู้นำกัมพูชาและพ.ต.ท.ทักษิณ อย่างชัดเจน สะท้อนให้สังคมเข้าใจว่า มีผลประโยชน์ทับซ้อนระหว่างผู้นำกัมพูชากับพ.ต.ท.ทักษิณ และรัฐบาลปัจจุบันที่ต้องการความโปร่งใส ส่วนข้อเสียระบุว่า จะนำไปสู่การเรียกร้องผลักดันในไทยให้ยกเลิกเอ็มโอยูเขตแดนทางบกปี 2543

นายจตุพร กล่าวต่อว่า ประเด็นนี้ทำให้รู้ว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่มีผลประโยชน์ หรือมีหุ้นเดียวในการสัมปทานบ่อก๊าซ และรัฐบาลไทยก็รู้เช่นกันว่า ถ้าเกิดยกเลิกเอ็มโอยูปี 2544 ก็จะผลักให้มีการยกเลิกเอ็มโอยูปี 2543 ใน สมัยรัฐบาลชวนซึ่ง ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร รมว.ต่างประเทศขณะนั้นได้ลงนามทำให้เสียค่าโง่ในกัมพูชา เพราะ เป็นการระบุการปักปันเขตแดนตามแผนที่ฝรั่งเศส ทำให้ไทยเสียปราสาทพระวิหาร ซึ่งวันนี้รัฐบาลอภิสิทธิ์ก็ยังไม่มีการยกเลิกเอ็มโอยู2544 เพราะถ้ายกเลิกก็เท่ากับว่า ต้องยกเลิกมติครม.ของตัวเองถือเป็นการทำผิดมติครม.ตัวเอง ทั้งนี้ มาตรการทั้งหมด ถ้าทำตามนี้ประเทศไทยเสียกว่าได้

“ที่ผมนำเปิดเอกสารทั้งหมด จำนวน 12 หน้า มันอยู่ในฉบับเดียวกัน มีความต่อเนื่องกัน พวกผมเสียหาย หากปล่อยให้เอกสารนี้เดินหน้าต่อไป การเข่นฆ่าพ.ต.ท.ทักษิณ จะต้องเกิดขึ้น โดยเฉพาะที่บอกว่า ขจัดภัยคุกคามหลัก ซึ่งในคำว่า “ขจัด” วง ที่เขาพูดกันหมายถึงการฆ่า เอกสารนี้จึงสร้างความเสียหายกับประเทศไทย และกัมพูชาจะไม่ได้ประโยชน์อะไรจากเอกสารนี้ เพราะแต่ละข้อทำให้ประเทศไทยเสียหายทั้งสิ้น และประเทศที่ได้ประโยชน์ คือ เวียดนาม ซึ่งเป็นประเทศบรรพบุรุษของนายอภิสิทธิ์” นายจตุพร กล่าว

ผู้ สื่อข่าวถามว่า ที่บอกว่ามีการคุยกันในวงและมีการวิเคราะห์ว่าน่าจะเป็นการสังหารพ.ต.ท.ทักษิณนั้นหมายถึงวงไหน นายจตุพร กล่าวว่า คือวงในกระทรวงการต่างประเทศโดยเฉพาะคำว่า “ขจัด” ภัย หลัก และใช้คำว่า เอ็นเกม (End Game) คิดเป็นอื่นไม่ได้นอกจากการฆ่า เมื่อถามว่า วงไหนที่มีการวิเคราะห์ว่า ถ้าจบเดือนธ.ค.นี้ไม่ได้ ก็ต้องจบในเดือนเมษายน 2553 นาย จตุพร กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ข้าราชการเขาทนไม่ได้ เพราะหนังสือฉบับนี้มาจากกระทรวงการต่างประเทศ ทั้งนี้ประเด็นนี้จะเป็นเรื่องนี้ที่นำมาพูดในการชุมนุมใหญ่เดือนม.ค.ด้วย และขอยืนยันว่าเราจะไม่มาชุมนุมเป็นครั้งที่สองอีก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นนายจตุพรได้มอบเอกสารลับดังกล่าวให้กับนายต่อพงษ์ ไชยสาส์น ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร โดยนายต่อพงษ์ กล่าวว่า คณะกรรมาธิการฯจะส่งตารางการประชุมของคณะกรรมาธิการฯไปให้กับนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ เพื่อให้นายกษิตเลือกด้วยว่า ในวันประชุมของคณะกรรมาธิการฯ วันใดที่นายกษิตไม่มีภารกิจ ซึ่งหากนายกษิตยังเลี่ยงที่จะไม่มาชี้แจงกับคณะกรรมาธิการฯ เท่ากับว่านายกษิตตบหน้าประชาชน เพราะการมมาชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการฯนั้นเท่ากับการชี้แจงต่อตัวแทนของ ประชาชน ส่วนข้าราชการกระทรวงต่างประเทศคนใดที่กลัวว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมก็ สามารถร้องขอมาที่คณะกรรมาธิการฯได้ ยืนยันว่าคณะกรรมาธิการฯจะให้ความเป็นธรรมอย่างแน่นอน
กำลังโหลดความคิดเห็น