ASTVผู้จัดการรายวัน - “เจ้าสัวเจริญ” รุกธุรกิจพลาซ่า เปิดแบรนด์ใหม่ “ฟู้ด แชนแนล” ทุ่ม 1 หมื่นล้านเปิด 10 สาขาภายใน 3 ปี เจาะแหล่งชุมชนชูกลยุทธขายอาหารดึงลูกค้า ล่าสุดอัดงบ 150 ล้านบาทประเดิมสาขาแรกย่านสีลม พร้อมลงคุมธุรกิจอสังหาฯ เองหวังสร้างความแข็งเกร็งให้บริษัทในเครือ มั่นใจเศรษฐกิจปีหน้าโต เล็งร่วมทุนสิงคโปร์ลุยธุรกิจอสังหา 2 โครงการใหญ่
นายโสมพัฒน์ ไตรโสรัส กรรมการรองผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ทีซีซี แลนด์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนลงทุนพัฒนาไลฟ์สไตล์เซ็นเตอร์ ภายใต้แบนด์ “ฟู้ด ชาแนล” ซึ่งรูปแบบของไลฟ์สไตล์เซ็นเตอร์ดังกล่าว บริษัทจะเน้นการจำหน่ายอาหารประมาณ 70% ส่วนที่เหลืออีก 30% จะเป็นร้านเช่า เช่น ร้านสะดวกซื้อ ธนาคาร และร้านเสริมสวย เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าที่อยู่ในย่านดังกล่าวให้เข้ามาใช้บริการทั้งช่วงกลางวันและช่วงเย็นหลังเวลาเลิกงาน
โดยล่าสุดได้เปิดตัวสาขาแรกของฟู้ด แชนแนล ย่านถนนสีลม เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายคนรุ่นใหม่และคนทำงานในย่านสีลม ซึ่งบริษัทได้ใช้งบโฆษณาประชาสัมพันธ์เปิดตัวถึง 150 ล้านบาท ซึ่งหลังจากเปิดให้บริการคาดว่าจะถึงจุดคุ้มทุนภายใน 6 ปี
นอกจากนี้บริษัท มีแผนที่จะเปิด “ฟู้ด แชนแนล” ให้ครบ 10 แห่งภายใน 3 ปีภายใต้งบลงทุนรวมประมาณ 10,000 ล้านบาท หรือเฉลี่ยสาขาละประมาณ 1,000 ล้านบาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับทำเลที่จะเข้าไปลงทุน ซึ่งบริษัทจะเน้นการเข้าไปขยายสาขาให้บริการในแหล่งชุมชุนเป็นหลักทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ขณะที่ปีหน้าบริษัทมีแผนที่จะขยายสาขาฟู้ด แชนแนล จำนวน 2 สาขา แบ่งเป็นสาขาในเขตกรุงเทพฯ 1 สาขา และชานเมือง 1 สาขารวมพื้นที่ในการขยายสาขาประมาณ 10 ไร่
บริษัทได้ใช้งบ 150 ล้านบาท ในการเปิดตัวไลฟ์สไตล์เซ็นเตอร์แห่งใหม่ภายใต้แบรนด์ “ฟู้ด แชนแนล” ย่านถนนสีลมเพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่และคนทำงานที่อยู่ในย่านสีลม
จากนโยบายการดำเนินธุรกิจของนายเจริญ สิริวัฒนภักดี ที่ต้องการให้ธุรกิจในเครือมีความแข็งแกร่งมากขึ้นและดำเนินธุรกิจไปในทิศทางเดียวกัน ส่งผลให้ในช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมานายเจริญ สิริวัฒนภักดี ต้องออกมานั่งบริหารงานด้วยการดูนโยบายทั้งหมดของในเครือบริษัท โดยเริ่มจากการเข้าไปดูแผนการดำเนินธุรกิจของบริษัท ไทยเบฟเวอร์เรจ จำกัด (มหาชน) ซึ่งดำเนินธุรกิจในกลุ่มสินค้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และนอนแอลกอฮอล์ ส่งผลให้ปัจจุบันบริษัทดังกล่าวเริ่มอยู่ตัว พร้อมกันนี้แนวทางการดำเนินธุรกิจยังจะเน้นการทำตลาดในประเทศเป็นหลัก เนื่องจากกำลังซื้อผู้บริโภคในประเทศยังมีอยู่
นอกจากนี้ยังจะเข้ามาดูแลแผนมาสเตอร์แพลน โครงการพัฒนาที่ดินแปลงใหญ่ในรูปแบบอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา และที่หัวหิน มีมูลค่าลงทุนมากกว่า 20,000 ล้านบาท ซึ่งมีแผนลงทุนตั้งแต่ปีก่อนแล้วแต่ในปีนี้ได้หยุดลงทุนออกไปก่อน เพราะเศรษฐกิจไทยในปีนี้ไม่เหมาะสมที่จะขยายลงทุน โดยปัจจุบัน นายเจริญ ได้เข้ามาดูแผนดังกล่าวใหม่และอยู่ระหว่างร่างโครงการลงทุนใหม่แล้ว
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปีหน้านั้น ในส่วนของธุรกิจธุรกิจอสังหาริมทรัพย์บริษัทมีแผนที่เปิดโครงการใหม่ประมาณ 2-3 โครงการในช่วงกลางปีและปลายปีเน้นทำเลติดแนวรถไฟฟ้าเป็นหลัก และจะเน้นการขายคอนโดมินเนียมในระดับราคา 70,000 บาทต่อ ตร.ม.มากขึ้นจากเดิมจะเน้นขายที่ราคา 90,000-1.2 แสนบาทต่อ ตร.ม.เป็นหลัก เนื่อจากกลุ่มลูกค้าต่างชาติมีการปรับตัวลดลงส่งผลให้ต้องหันมาเจาะกลุ่มลูกค้าคนไทยรุ่นใหม่ ขณะที่ธุรกิจโรงแรมมีแผนที่จะเปิดตัว บันยันทรี สมุย และเดอะ ลักซ์ชัวรี่ คอลเลคชั่น เกาะสมุย ซึ่งภาพรวมของการขยายธุรกิจในเครือในปีหน้าคาดว่าจะใช้งบลงทุนมากกว่าปีนี้พอสมควร เพราะบริษัทมองว่าภาพรวมเศรษฐกิจของไทยในปีหน้าจะฟื้นตัวและเติบโตได้ดีกว่าปีนี้ เนื่องจากมีสัญญาณบวกในหลายด้าน
“เศรษฐกิจของไทยในปีหน้าโดยส่วนตัวมองว่าน่าจะดีกว่าปีนี้มาก แม้ว่าในต่างประเทศจะค่อนข้างประสบกับปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ แต่เนื่องจากประเทศทางฝั่งตะวันตกและเอเชียมีการแบ่งแยกทางเศรษฐกิขกันอย่างชัดเจน จึงทำให้ประเทศทางเอเชียไม่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบทางด้านเศรษฐกิจโลกที่เกิดขึ้นมากนัก เช่นเดียวกับประเทศไทย เนื่องจากมีประสบการณ์วิกฤติเศรษฐกิจตั้งแต่ปี 2540 จึงทำให้การดำเนินธุรกิจมีความระมัดระวังมากขึ้น” นายโสมพัฒน์กล่าว
ก่อนหน้านี้นายโสมพัฒน์ เคยกล่าวว่า นายเจริญ กำลังมองหาผู้บริหารมือดี มีความสามารถรอบตัวเพื่อเข้ามาดูแลธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของกลุ่มทีทีซี ซึ่งมีที่ดินและโครงการอสังหาริมทรัพย์จำนวนมากกระจายอยู่ทั่วประเทศ นอกจากนี้หลายโครงการขนาดใหญ่ พัฒนาแบบครบวงจร ดังนั้นผู้ที่จะเข้ามาทำหน้าที่นี้ ต้องมีความสามารถรอบด้าน มีมุมมองที่หลากหลาย
"หาผู้บริหารมาคุมไม่ใช่เรื่องง่าย ซึ่งคุณเจริญ กำลังดูอยู่ แต่จริงๆ แล้ว เราอยากได้คนแบบคุณบุญคลี ปลั่งศิริ นี้เป็นแค่ตัวอย่าง"
นายโสมพัฒน์ ไตรโสรัส กรรมการรองผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ทีซีซี แลนด์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนลงทุนพัฒนาไลฟ์สไตล์เซ็นเตอร์ ภายใต้แบนด์ “ฟู้ด ชาแนล” ซึ่งรูปแบบของไลฟ์สไตล์เซ็นเตอร์ดังกล่าว บริษัทจะเน้นการจำหน่ายอาหารประมาณ 70% ส่วนที่เหลืออีก 30% จะเป็นร้านเช่า เช่น ร้านสะดวกซื้อ ธนาคาร และร้านเสริมสวย เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าที่อยู่ในย่านดังกล่าวให้เข้ามาใช้บริการทั้งช่วงกลางวันและช่วงเย็นหลังเวลาเลิกงาน
โดยล่าสุดได้เปิดตัวสาขาแรกของฟู้ด แชนแนล ย่านถนนสีลม เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายคนรุ่นใหม่และคนทำงานในย่านสีลม ซึ่งบริษัทได้ใช้งบโฆษณาประชาสัมพันธ์เปิดตัวถึง 150 ล้านบาท ซึ่งหลังจากเปิดให้บริการคาดว่าจะถึงจุดคุ้มทุนภายใน 6 ปี
นอกจากนี้บริษัท มีแผนที่จะเปิด “ฟู้ด แชนแนล” ให้ครบ 10 แห่งภายใน 3 ปีภายใต้งบลงทุนรวมประมาณ 10,000 ล้านบาท หรือเฉลี่ยสาขาละประมาณ 1,000 ล้านบาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับทำเลที่จะเข้าไปลงทุน ซึ่งบริษัทจะเน้นการเข้าไปขยายสาขาให้บริการในแหล่งชุมชุนเป็นหลักทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ขณะที่ปีหน้าบริษัทมีแผนที่จะขยายสาขาฟู้ด แชนแนล จำนวน 2 สาขา แบ่งเป็นสาขาในเขตกรุงเทพฯ 1 สาขา และชานเมือง 1 สาขารวมพื้นที่ในการขยายสาขาประมาณ 10 ไร่
บริษัทได้ใช้งบ 150 ล้านบาท ในการเปิดตัวไลฟ์สไตล์เซ็นเตอร์แห่งใหม่ภายใต้แบรนด์ “ฟู้ด แชนแนล” ย่านถนนสีลมเพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่และคนทำงานที่อยู่ในย่านสีลม
จากนโยบายการดำเนินธุรกิจของนายเจริญ สิริวัฒนภักดี ที่ต้องการให้ธุรกิจในเครือมีความแข็งแกร่งมากขึ้นและดำเนินธุรกิจไปในทิศทางเดียวกัน ส่งผลให้ในช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมานายเจริญ สิริวัฒนภักดี ต้องออกมานั่งบริหารงานด้วยการดูนโยบายทั้งหมดของในเครือบริษัท โดยเริ่มจากการเข้าไปดูแผนการดำเนินธุรกิจของบริษัท ไทยเบฟเวอร์เรจ จำกัด (มหาชน) ซึ่งดำเนินธุรกิจในกลุ่มสินค้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และนอนแอลกอฮอล์ ส่งผลให้ปัจจุบันบริษัทดังกล่าวเริ่มอยู่ตัว พร้อมกันนี้แนวทางการดำเนินธุรกิจยังจะเน้นการทำตลาดในประเทศเป็นหลัก เนื่องจากกำลังซื้อผู้บริโภคในประเทศยังมีอยู่
นอกจากนี้ยังจะเข้ามาดูแลแผนมาสเตอร์แพลน โครงการพัฒนาที่ดินแปลงใหญ่ในรูปแบบอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา และที่หัวหิน มีมูลค่าลงทุนมากกว่า 20,000 ล้านบาท ซึ่งมีแผนลงทุนตั้งแต่ปีก่อนแล้วแต่ในปีนี้ได้หยุดลงทุนออกไปก่อน เพราะเศรษฐกิจไทยในปีนี้ไม่เหมาะสมที่จะขยายลงทุน โดยปัจจุบัน นายเจริญ ได้เข้ามาดูแผนดังกล่าวใหม่และอยู่ระหว่างร่างโครงการลงทุนใหม่แล้ว
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปีหน้านั้น ในส่วนของธุรกิจธุรกิจอสังหาริมทรัพย์บริษัทมีแผนที่เปิดโครงการใหม่ประมาณ 2-3 โครงการในช่วงกลางปีและปลายปีเน้นทำเลติดแนวรถไฟฟ้าเป็นหลัก และจะเน้นการขายคอนโดมินเนียมในระดับราคา 70,000 บาทต่อ ตร.ม.มากขึ้นจากเดิมจะเน้นขายที่ราคา 90,000-1.2 แสนบาทต่อ ตร.ม.เป็นหลัก เนื่อจากกลุ่มลูกค้าต่างชาติมีการปรับตัวลดลงส่งผลให้ต้องหันมาเจาะกลุ่มลูกค้าคนไทยรุ่นใหม่ ขณะที่ธุรกิจโรงแรมมีแผนที่จะเปิดตัว บันยันทรี สมุย และเดอะ ลักซ์ชัวรี่ คอลเลคชั่น เกาะสมุย ซึ่งภาพรวมของการขยายธุรกิจในเครือในปีหน้าคาดว่าจะใช้งบลงทุนมากกว่าปีนี้พอสมควร เพราะบริษัทมองว่าภาพรวมเศรษฐกิจของไทยในปีหน้าจะฟื้นตัวและเติบโตได้ดีกว่าปีนี้ เนื่องจากมีสัญญาณบวกในหลายด้าน
“เศรษฐกิจของไทยในปีหน้าโดยส่วนตัวมองว่าน่าจะดีกว่าปีนี้มาก แม้ว่าในต่างประเทศจะค่อนข้างประสบกับปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ แต่เนื่องจากประเทศทางฝั่งตะวันตกและเอเชียมีการแบ่งแยกทางเศรษฐกิขกันอย่างชัดเจน จึงทำให้ประเทศทางเอเชียไม่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบทางด้านเศรษฐกิจโลกที่เกิดขึ้นมากนัก เช่นเดียวกับประเทศไทย เนื่องจากมีประสบการณ์วิกฤติเศรษฐกิจตั้งแต่ปี 2540 จึงทำให้การดำเนินธุรกิจมีความระมัดระวังมากขึ้น” นายโสมพัฒน์กล่าว
ก่อนหน้านี้นายโสมพัฒน์ เคยกล่าวว่า นายเจริญ กำลังมองหาผู้บริหารมือดี มีความสามารถรอบตัวเพื่อเข้ามาดูแลธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของกลุ่มทีทีซี ซึ่งมีที่ดินและโครงการอสังหาริมทรัพย์จำนวนมากกระจายอยู่ทั่วประเทศ นอกจากนี้หลายโครงการขนาดใหญ่ พัฒนาแบบครบวงจร ดังนั้นผู้ที่จะเข้ามาทำหน้าที่นี้ ต้องมีความสามารถรอบด้าน มีมุมมองที่หลากหลาย
"หาผู้บริหารมาคุมไม่ใช่เรื่องง่าย ซึ่งคุณเจริญ กำลังดูอยู่ แต่จริงๆ แล้ว เราอยากได้คนแบบคุณบุญคลี ปลั่งศิริ นี้เป็นแค่ตัวอย่าง"
