xs
xsm
sm
md
lg

คาดสภาพคล่องแบงก์ปีหน้าหดเศรษฐกิจโตหนุนสินเชื่อกระเตื้อง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดสภาพคล่องแบงก์ปีหน้าลดตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ทำให้มีความต้องการสินเชื่อเพิ่มขึ้น และการลดลงของเงินฝากที่อาจมีการโยกไปยังแหล่งที่มีผลตอบแทนสูงกว่า ขณะที่ตัวเลขสินเชื่อแบงก์ล่าสุดเดือนพ.ย.เริ่มกระเตื้องเพิ่มขึ้นแสนล้าน หรือเกือบ 2%

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่า สภาพคล่องของระบบธนาคารพาณิชย์ไทยในปี 2553 อาจมีทิศทางที่ปรับลดลงจาก ณ สิ้นปี 2552 โดยได้รับอิทธิพลหลักจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยที่คาดว่าอาจขยายตัวในกรอบประมาณร้อยละ 2.5-3.5 ในปี 2553 เทียบกับการหดตัวประมาณร้อยละ 3.1 ในปี 2552 โดยการทยอยฟื้นตัวขึ้นของเศรษฐกิจไทย คาดว่าจะผลักดันให้ภาคธุรกิจและครัวเรือนมีความต้องการสินเชื่อ ทั้งเพื่อเป็นทุนหมุนเวียนและเพื่อใช้ในการขยายกิจการ/การลงทุน เพิ่มขึ้นต่อเนื่องในปี 2553 หลังจากที่ยอดเงินให้สินเชื่อสุทธิของธนาคารพาณิชย์ไทยเริ่มจะฟื้นตัวชัดเจนมากขึ้นในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2552 เทียบกับที่หดตัวลงเป็นส่วนใหญ่ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2552 ทั้งนี้ ยอดสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ที่คาดว่าจะขยายตัวอยู่ในแดนบวกได้ในปี 2553 ก็หมายความว่าสภาพคล่องในมือของธนาคารพาณิชย์มีแนวโน้มจะถูกระบายออกไปหมุนเวียนอยู่ในมือของภาคธุรกิจเอกชนและภาคครัวเรือนมากขึ้น

นอกจากนี้ การแข่งขันระหว่างเงินฝากกับทางเลือกการออมอื่นๆ ที่ยังมีแนวโน้มดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของหุ้นกู้ภาคเอกชน กองทุนรวมต่างๆ การลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์ รวมถึงรัฐบาลที่ยังมีแผนจะออกพันธบัตรออมทรัพย์เพิ่มเติมอีกเพื่อระดมเงินไปใช้สำหรับโครงการลงทุนภายใต้ปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง ส่งผลให้ในที่สุดแล้ว ผู้ออมอาจยังมีการโยกเงินฝากออกจากระบบธนาคารพาณิชย์ไปแสวงหาการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าอย่างต่อเนื่อง อันจะนำมาสู่ปริมาณสภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์ที่ลดลง

อย่างไรก็ตาม หากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจขาดความต่อเนื่อง สภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์ไทยก็อาจยังทรงตัวหรือทยอยปรับลดลง เนื่องจากผู้ออมคงจะมีการโยกเงินฝากออกไปลงทุนในทางเลือกการออมอื่นๆ ที่ให้ผลตอบแทนจูงใจอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่จังหวะเวลาของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากของธนาคารพาณิชย์น่าจะถูกเลื่อนออกไป ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นกรณีใด ปริมาณสภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์ก็มีแนวโน้มปรับลดลงในปี 2553 และอาจมีผลทำให้วัฏจักรอัตราดอกเบี้ยของระบบการเงินไทยยังมีแนวโน้มอยู่ในช่วงของการเปลี่ยนผ่านไปสู่จังหวะขาขึ้น ดังนั้น ภาคธุรกิจและครัวเรือนจึงควรที่จะเตรียมวางแผนรับมือกับต้นทุนทางการเงินที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นในอนาคต

ทั้งนี้ ตัวเลขสินเชื่อในระบบธนาคารพาณิชย์ไทยณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2552 ล่าสุด มียอดคงค้างสินเชื่อจำนวน 5,692,704 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนที่แล้ว 108,333 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มร้อยละ 1.94 แต่ลดลงเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 0.59 โดยกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ 4 แห่ง สินเชื่อปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าจำนวน 56,663 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.52 ส่วนกลุ่มธนาคารขนาดกลาง 4 แห่ง สินเชื่อปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า 43,180 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเพิ่มร้อยละ 3.22 และกลุ่มธนาคารขนาดเล็ก 6 แห่ง สินเชื่อเพิ่มขึ้นจากเดือนที่แล้ว 8,491 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.65

ด้านเงินฝากในระบบธนาคารพาณิชย์ไทยเดือนพฤศจิกายนมียอดคงค้างทั้งสิ้น 6,443,366 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนที่แล้ว 79,187 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเพิ่มร้อยละ 1.24 และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 1.54 สำหรับการเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า โดยกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ 4 แห่ง เงินฝากปรับตัวเพิ่มขึ้น 63,640 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.45 กลุ่มธนาคารขนาดกลาง 4 แห่งเงินฝากเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 14,940 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.01 และกลุ่มธนาคารขนาดเล็ก 6 แห่ง เงินฝากเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดือนที่แล้ว 608 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเพิ่มร้อยละ 0.12
กำลังโหลดความคิดเห็น