xs
xsm
sm
md
lg

"เสร็จลีโอ"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

จิตตภัสร์ ภิรมย์ภักดี
แจกปฏิทินโป๊ในทำเนียบฯ “จิตตภัสร์ ภิรมย์ภักดี” ลาออกเพราะความหน่อมแน้ม

ขณะที่สังคมกำลังวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากกรณีที่บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น เปิดตัวปฏิทินลีโอ 2010 ชุด “Body Paint”  โดยจับเอาดารา นางแบบ ไฮโซสาวอย่าง อุ้ม-ลักขณา วัธนวงส์ศิริ, มิกซ์-เจนจิรา เกิดประสพ, แอม-สุทธิกัญญ์ หวังเจริญทวีกุล, ครี-พัสวีพิชญ์ ศรณ์อัครภา, แอนนา รีส และ แพม-ปานพิมพ์ เตชะธนชัยพัฒน์ มาเปลือยกาย เปลือยอก ให้ “เพ้นท์” เป็นเสื้อผ้าอำพรางเรือนร่างแจกฟรีคอเบียร์ พร้อมทั้งมีโลโก้เบียร์ลีโอปรากฏอยู่ด้วยซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายนั้น ก็ได้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น

เมื่อ “น.ส.จิตตภัสร์ ภิรมย์ภักดี” ข้าราชการการเมือง ซึ่งทำงานอยู่ในฝ่ายประสานงานทีมโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี หรือ "ตั๊น" บุตรสาว นายจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี อดีต สนช. ทายาทเบียร์สิงห์ ได้นำปฏิทินลีโอที่กำลังเป็นที่ฮือฮาจำนวนสองห่อใหญ่ หรือประมาณ 200 แผ่น มาแจกจ่ายให้กับข้าราชการ เจ้าหน้าที่ภายในทำเนียบรัฐบาลอย่างมิเกรงกลัวต่อความผิดตามกฎหมาย และมิเกรงกลัวว่า ภาพลักษณ์ของความเป็นข้าราชการการเมืองที่ทำงานให้กับรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะจะได้รับคำตำหนิจากประชาชนมากน้อยเพียงใด

ทั้งนี้ น.ส.จิตตภัทร์ ได้ให้เจ้าหน้าที่ทำเนียบนำปฏิทินไปแจกจ่ายที่บริเวณด้านหลังตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล อันเป็นสถานที่ทำงานนายกรัฐมนตรี โดยได้มีข้าราชการ สื่อมวลชน เจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายความรักษาความปลอดภัยทำเนียบรัฐบาลได้มาต่อแถวรับแจกจำนวนมาก

หลายคนที่ทราบข่าวต่างรีบวิ่งอย่างกระหืดกระหอบมาขอรับแจกจำนวนมาก แต่ปฏิทินไม่เพียงพอต่อการแจกจ่ายและหมดไปในเวลาอันรวดเร็ว ทำให้หลายคนพลาดโอกาสยลโฉมปฏิทินดังกล่าว

ที่น่าตกใจก็คือ ข่าวที่ออกมาในช่วงแรกนั้นปรากฏว่า แม้แต่ นายศุภชัย ใจสมุทร และ นพ.ภูมินทร์ ลีธีรประเสริฐ สองรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ก็รีบมารอรับเช่นกัน แต่ภายหลังข่าวเผยแพร่ออกไป นายศุภชัยก็ออกมาปฏิเสธว่า ตนและ นพ.ภูมินทร์ ไม่ได้ไปรอรับแจกปฏิทินนู้ดลีโอ โดยกำลังจะเดินไปประชุมครม.เศรษฐกิจที่ตึกไทยคู่ฟ้า และเมื่อรู้ว่านายกรัฐมนตรีได้เข้าประชุมแล้ว จึงรีบวิ่งไปกันทั้ง 2 คน โดยได้ผ่านบริเวณที่กำลังมีความชุลมุนจากการแจกปฏิทินนี้อยู่ ซึ่งเมื่อเห็นตนยังได้ตะโกนบอกไปว่า “ทำอย่างนี้น่าตำหนินะ” จากนั้นจึงเดินไปประชุมครม.เศรษฐกิจ โดยไม่ได้รับปฏิทินดังกล่าวตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด

“ผมไม่รู้ว่าเรื่องนี้นำชื่อผมและหมอภูมินทร์มาเกี่ยวข้องได้อย่างไร แต่คิดว่าอาจจะเห็นเรา 2 คนเดินผ่านไปพอดี จึงคิดว่าไปรับ แต่อยากจะบอกว่าผมโกรธมากเรื่องนี้ เพราะอุตสาห์พูดไปว่าน่าตำหนิ และคิดว่าไม่เหมาะสมด้วย ที่จะนำมาแจกกันในทำเนียบ แต่กลับมาลงข่าวทำให้เสียหายกันอย่างนี้ ก็ขอยืนยันอีกครั้งว่าข่าวที่ลงไปนั้นเป็นเท็จทั้งสิ้น” นายศุภชัย กล่าว

ทั้งนี้ เหตุการณ์การนำปฏิทินลีโอมาแจกของ น.ส.จิตภัทร์นั้น ถือเป็นสิ่งต้องบอกว่า สร้างความเสื่อมเสียให้กับภาพลักษณ์ของรัฐบาลเป็นอย่างมาก เพราะในขณะที่กระทรวงสาธารณสุขออกมาจัดการกับการทำผิดกฎหมายที่เกิดขึ้น แต่คนของรัฐบาลเองกลับไม่ยี่หระกับเรื่องดังกล่าว มิหนำซ้ำยังกระทำการอันท้าทายกฎหมายถึงในทำเนียบรัฐบาลอีกต่างหาก

ขณะเดียวกันก็เป็นการกระทำที่สะท้อนถึงวุฒิภาวะของผู้กระทำอย่างชัดเจนว่า มีมากน้อยเพียงใด หรือคิดแค่เพียงว่า ตนเองเป็นทายาทบริษัทยักษ์ใหญ่จะกระทำการอันใดก็ไม่มีใครมาตำหนิติเตียนได้

อย่างไรก็ตาม หลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก น.ส.จิตตภัสร์ก็ได้ออกมาเปิดใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า “ไม่ได้คิดอะไร เห็นพี่ๆ ที่ทำเนียบฯ ซึ่งคุ้นเคยกันขอก็เลยติดมาให้ และเห็นว่าอยู่ในช่วงปีใหม่ ไม่ได้คิดว่าเรื่องมันจะใหญ่อย่างนี้ ก็ยังงงๆ อยู่เหมือนกัน ตอนนี้ยังไม่พร้อมที่จะพูดอะไรมาก ขอปรึกษาผู้ใหญ่ และคุณพ่อคุณแม่ก่อนว่าจำเป็นต้องแถลงข่าวหรือไม่อย่างไร เมื่อถึงเวลาพูดแน่นอน เพราะไม่ได้คิดอะไร และคิดว่าพี่ๆ สื่อมวลชนคงเข้าใจ ส่วนอาจารย์ปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีก็ยังไม่ได้พูดอะไร ขอตั้งสติก่อน”

รายงานข่าวแจ้งว่า นางอัญชลี เทพบุตร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้เรียก น.ส.จิตตภัสร์ เข้าไปสอบถามรายละเอียดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยหลังการชี้แจง น.ส.จิตตภัสร์ ได้เดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาลทันที

ต่อกรณีที่เกิดขึ้น นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา แสดงความคิดเห็นว่า นายกรัฐมนตรีจะวางเฉยไม่ได้ ต้องดำเนินการตรวจสอบอย่างจริงจัง และชี้แจงต่อประชาชนว่าปล่อยให้มีการกระทำผิดกฎหมายที่มีโทษทางอาญาทั้งจำทั้งปรับตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 ที่ตนเป็นผู้รักษาการ เกิดขึ้นในทำเนียบรัฐบาลศูนย์กลางอำนาจรัฐ ได้อย่างไร

ที่สำคัญคือ การกระทำดังกล่าวไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ เพราะเป็นการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่มีผลบังคับใช้มาตั้งแต่เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2551 โดยมาตรา 32 ที่มาตรา 43 กำหนดระวางโทษไว้เป็นจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

“ประเด็นไม่ใช่ปฏิทินนี้โป๊หรือไม่โป๊ เป็นศิลปะหรือไม่ แต่เป็นที่ชัดเจนว่ามีการเพนท์ชื่อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดหนึ่งลงบนตัวนางแบบ ถือเป็นการโฆษณาตามมาตรา 32 วรรคหนึ่ง ประกอบนิยามศัพท์คำว่าโฆษณาและการสื่อสารการตลาดในมาตรา 3 และในมาตรา 32 วรรคหนึ่งนี้ก็บัญญัติห้ามบุคคลทุกคน โดยใช้คำว่าผู้ใด ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ผลิตหรือผู้ขายเท่านั้น องค์ประกอบของการกระทำความผิดในทำเนียบรัฐบาลครบถ้วนแล้ว”

ขณะที่ นพ.สมาน ฟูตระกูล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กล่าวถึงกรณีที่ น.ส.จิตตภัสร์ว่า การกระทำดังกล่าวถือเป็นการกระทำผิดกฏหมาย พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างแน่นอน เนื่องจากมีการเผยแพร่สิ่งที่ผิดกฏหมาย อีกทั้งนำไปแจกให้กับข้าราชการ สื่อมวลชน ซึ่งเป็นการประชาสัมพันธ์ให้กับสื่อสิ่งพิมพ์ ทั้งนี้ เป็นความผิดที่ซ้ำซาก เพราะก่อนหน้านี้ก็มีลักษณะการกระทำผิดรูปแบบเดียวกันหลายครั้งมาแล้ว ดังนั้น หากเจ้าหน้าที่ไม่เร่งดำเนินการตามกฎหมาย ก็จะถือว่าเป็นการละเว้นปฏิบัติหน้าที่ และจะไม่สามารถบังคับใช้กฎหมายได้

...ถึงตรงนี้ น.ส.จิตภัทร์มิอาจที่จะไม่รับผิดชอบ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะในฐานะนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ต้นสังกัดของ น.ส.จิตภัทร์ก็ต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้นเช่นกัน ส่วนการรับผิดชอบนั้น นอกจากคำขอโทษแล้ว การลาออกของ น.ส.จิตภัทร์ดูเหมือนจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดในขณะนี้

แต่เหนือสิ่งอื่นใดก็คือ ต้องไม่ลืมว่า เวลานี้ปฏิทินลีโอได้กลายเป็นปฏิทินที่มีผู้ให้ความสนใจไปทั่วประเทศแล้ว

กำลังโหลดความคิดเห็น