ไม่ทันข้ามคืน "จิตภัสร์ ภิรมย์ภักดี" ทายาทค่ายสิงห์ "แสดงสปิริต" ลาออกจากตำแหน่งข้าราชการการเมือง ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี รับผิดชอบกรณีแจก "ปฏิทินLEOฉาว" กลางทำเนียบรัฐบาล "น้องตั๊น" ชี้แจงว่าพลาดพลั้งเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ขอปรบมือดังๆ ให้สาวน้อยวัย 24...
"จิตภัสร์" จบปริญาตรีคณะภูมิศาสตร์ มหาวิทยาลัยคิงส์คอลเลจ เป็นลูกสาวคนโตของ "จุตินันท์-ม.ล.ปิยาภัสร์ ภิรมย์ภักดี" ถึงชั่วโมงนี้ หากเธอยังคิดจะเอาดีทางด้านการเมือง นอกจากไม่สายแล้วอนาคตมีโอกาสแจ้งเกิดมากขึ้น การแสดงสปิริตครั้งนี้ ได้ใจ "คอการเมือง" ไปเต็มๆ ดูจากที่เคยให้สัมภาษณ์ "ไฝ่ฝันอยากเป็นนายกรัฐมนตรี" คงยังไม่ถอดใจ ครั้งนั้นเธอบอกว่า "คนที่จะเข้ามาดูแลบ้านเมืองได้ ก็ต้องมีพื้นฐานที่ดี มีภาพพจน์ที่ขาวสะอาด ประสบการณ์ที่ดีทำให้คนอื่นเชื่อถือได้ค่ะ" ขอให้โชคดี...
นี่ก็ผู้หญิงอีกราย "เจ๊หนุ่ย-ภัทรียา เบญจพลชัย" ประกาศไม่ขอเป็น "กรรมการและผู้จัดการ" ตลาดหลักทรัพย์ฯ หลังครบวาระ 31 พ.ค.ปีหน้า สร้างความคึกคักให้บรรดาตัวเก็งที่เป็นคนในตลาดฯ เพราะ "เจ๊หนุ่ย" แสดงความชัดเจนออกมาเช่นนี้ รองเอ็มดีที่อยากเป็น หรือ มีฝีมือแต่ยังลังเล "ได้เวลาตัดสินใจ" ยกเว้น "โสภาวดี เลิศมนัสชัย" แม้โผเดิมถูกวางตัวเป็น "เลขาธิการ กบข." แต่ "พี่จาว" ของน้องๆ ยังมีความหวังลึกๆ กับเก้าอี้เอ็มดีตลาดหุ้น ในกรณีที่ "ภัทรียา" ลุกจากเก้าอี้ ก่อนครบวาระ!!
เมื่อ "เจ๊หนุ่ย" ประกาศเช่นนี้ แทนที่ "โสภาวดี" น่าจะมีหวังกับเก้าอี้ "เอ็มดีตลาดหุ้น" และน่าจะทำให้คู่แข่งแย่งเก้าอี้ "เลขา กบข." อย่าง "ภากร ปีตธวัชชัย" จากค่ายไทยพาณิชย์ และ "ธัชพล กาญจนกูล" รองเอ็มดีแบงก์ออมสิน ตีปีก "กลับไม่ใช่"!! ดั่งสวรรค์แกล้ง "เอ็มดีตลาดหุ้น" ถูกกำหนดคุณสมบัติไว้ชัดเจน "ต้องอายุไม่เกิน 56 ปี"!! และ 1 มิ.ย.ปี 53 "พี่จาว" จะอายุเกิน 56!!
วันนี้ "โสภาวดี" จึงยังคงเป็นตัวเต็ง "เลขาธิการ กบข. ยกเว้นบอร์ดตลาดหุ้นแก้ไขคุณสมบัติเอ็มดี กันใหม่!!
การลงพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ของ "กรณ์ จาติกวณิช" เมื่อวานนี้ ขุนคลังนั่งหัวโต๊ะมอบนโยบาย "แก้หนี้นอกระบบ" ให้ตัวแทนหน่วยงานใน 19 จังหวัดภาคอีสาน มีคลังจังหวัด ปลัดจังหวัด นายอำเภอ ผู้แทนสำนักงานธนาคารของรัฐ หลายร้อยชีวิต "กรณ์" เน้นการสื่อสารผู้เข้าร่วมประชุมว่า "รัฐบาลไม่มีนโยบายกวาดล้างนายทุนเงินกู้นอกระบบ แต่เป็นการขอความร่วมมือ"
วันนี้ (18 ธ.ค.) ขุนคลังจะเดินทางไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อร่วมประชุมซักซ้อมความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขอความร่วมมือให้แจ้งข่าวกับบรรดาเจ้าหนี้ให้เปิดโอกาสกับลูกหนี้ขึ้นทะเบียนเข้าร่วมโครงการแก้หนี้นอกระบบของรัฐบาล ย้ำ "ไม่ให้มีการปราบปรามกวาดล้างนายทุนนอกระบบในห้วงที่กำลังดำเนินโครงการ" ขณะที่ยอดผู้ลงทะเบียนนับจากวันแรกที่เปิดให้มีการขึ้นทะเบียน รวมตัวเลขทั่วประเทศขณะนี้ 4 แสนราย ขุนคลังตั้งเป้า 7-8 แสนราย ก่อนสิ้นปี...
ทิ้งท้ายด้วยการส่งสัญญาณดอกเบี้ยขาขึ้น เมื่อรองฯ "บัณฑิต นิจถาวร" พูดเสียงดังฟังชัด ในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เพื่อให้การปก้ปัญหาตรงจุด แบงก์ชาติจะเน้น Wดูแลเสถียรภาพด้านราคาแทนคุมอัตราดอกเบี้ย" เพื่อให้เงินเฟ้ออยู่ในเป้าหมายกรอบ 0.5-3.0% ด้านภาพรวมเศรษฐกิจ "บัณฑิต" เชื่อว่าหากภาครัฐสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นและมีการใช้จ่ายภาครัฐที่มีประสิทธิภาพ ปีหน้าเศรษฐกิจสามารถฟื้นตัวได้แน่ๆ ...
นี่ก็อีกรองฯ แต่เป็น "ว่าที่" รองนายกรัฐมนตรี "ไตรรงค์ สุวรรณคีรี" กล่าวในงานเสวนาเศรษฐกิจที่จัดโดย "นิด้า" "ดร.สามสี" (ดีกว่าสีเดียว) เชื่อว่า "เศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวในรูปแบบเครื่องหมายถูก" จะฟื้นตัวทุกๆ ปี แต่แบบค่อยเป็นค่อยไป และจะฟื้นเต็มที่ได้ในปี 2555 (ฮ่าๆๆ) เหตุที่ต้องรอปี 55 เพราะปัจจุบันเศรษฐกิจไทยได้เปลี่ยนแปลงจากพึ่งพาตลาดในประเทศ "ไปพึ่งการค้าระหว่างประเทศ" การฟื้นตัวจึงเป็นไปตามเศรษฐกิจโลก ซึ่งวันนี้ ยังไม่สร่างไข้..ชัดกั๊บ ท่านรองฯ!!
"จิตภัสร์" จบปริญาตรีคณะภูมิศาสตร์ มหาวิทยาลัยคิงส์คอลเลจ เป็นลูกสาวคนโตของ "จุตินันท์-ม.ล.ปิยาภัสร์ ภิรมย์ภักดี" ถึงชั่วโมงนี้ หากเธอยังคิดจะเอาดีทางด้านการเมือง นอกจากไม่สายแล้วอนาคตมีโอกาสแจ้งเกิดมากขึ้น การแสดงสปิริตครั้งนี้ ได้ใจ "คอการเมือง" ไปเต็มๆ ดูจากที่เคยให้สัมภาษณ์ "ไฝ่ฝันอยากเป็นนายกรัฐมนตรี" คงยังไม่ถอดใจ ครั้งนั้นเธอบอกว่า "คนที่จะเข้ามาดูแลบ้านเมืองได้ ก็ต้องมีพื้นฐานที่ดี มีภาพพจน์ที่ขาวสะอาด ประสบการณ์ที่ดีทำให้คนอื่นเชื่อถือได้ค่ะ" ขอให้โชคดี...
นี่ก็ผู้หญิงอีกราย "เจ๊หนุ่ย-ภัทรียา เบญจพลชัย" ประกาศไม่ขอเป็น "กรรมการและผู้จัดการ" ตลาดหลักทรัพย์ฯ หลังครบวาระ 31 พ.ค.ปีหน้า สร้างความคึกคักให้บรรดาตัวเก็งที่เป็นคนในตลาดฯ เพราะ "เจ๊หนุ่ย" แสดงความชัดเจนออกมาเช่นนี้ รองเอ็มดีที่อยากเป็น หรือ มีฝีมือแต่ยังลังเล "ได้เวลาตัดสินใจ" ยกเว้น "โสภาวดี เลิศมนัสชัย" แม้โผเดิมถูกวางตัวเป็น "เลขาธิการ กบข." แต่ "พี่จาว" ของน้องๆ ยังมีความหวังลึกๆ กับเก้าอี้เอ็มดีตลาดหุ้น ในกรณีที่ "ภัทรียา" ลุกจากเก้าอี้ ก่อนครบวาระ!!
เมื่อ "เจ๊หนุ่ย" ประกาศเช่นนี้ แทนที่ "โสภาวดี" น่าจะมีหวังกับเก้าอี้ "เอ็มดีตลาดหุ้น" และน่าจะทำให้คู่แข่งแย่งเก้าอี้ "เลขา กบข." อย่าง "ภากร ปีตธวัชชัย" จากค่ายไทยพาณิชย์ และ "ธัชพล กาญจนกูล" รองเอ็มดีแบงก์ออมสิน ตีปีก "กลับไม่ใช่"!! ดั่งสวรรค์แกล้ง "เอ็มดีตลาดหุ้น" ถูกกำหนดคุณสมบัติไว้ชัดเจน "ต้องอายุไม่เกิน 56 ปี"!! และ 1 มิ.ย.ปี 53 "พี่จาว" จะอายุเกิน 56!!
วันนี้ "โสภาวดี" จึงยังคงเป็นตัวเต็ง "เลขาธิการ กบข. ยกเว้นบอร์ดตลาดหุ้นแก้ไขคุณสมบัติเอ็มดี กันใหม่!!
การลงพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ของ "กรณ์ จาติกวณิช" เมื่อวานนี้ ขุนคลังนั่งหัวโต๊ะมอบนโยบาย "แก้หนี้นอกระบบ" ให้ตัวแทนหน่วยงานใน 19 จังหวัดภาคอีสาน มีคลังจังหวัด ปลัดจังหวัด นายอำเภอ ผู้แทนสำนักงานธนาคารของรัฐ หลายร้อยชีวิต "กรณ์" เน้นการสื่อสารผู้เข้าร่วมประชุมว่า "รัฐบาลไม่มีนโยบายกวาดล้างนายทุนเงินกู้นอกระบบ แต่เป็นการขอความร่วมมือ"
วันนี้ (18 ธ.ค.) ขุนคลังจะเดินทางไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อร่วมประชุมซักซ้อมความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขอความร่วมมือให้แจ้งข่าวกับบรรดาเจ้าหนี้ให้เปิดโอกาสกับลูกหนี้ขึ้นทะเบียนเข้าร่วมโครงการแก้หนี้นอกระบบของรัฐบาล ย้ำ "ไม่ให้มีการปราบปรามกวาดล้างนายทุนนอกระบบในห้วงที่กำลังดำเนินโครงการ" ขณะที่ยอดผู้ลงทะเบียนนับจากวันแรกที่เปิดให้มีการขึ้นทะเบียน รวมตัวเลขทั่วประเทศขณะนี้ 4 แสนราย ขุนคลังตั้งเป้า 7-8 แสนราย ก่อนสิ้นปี...
ทิ้งท้ายด้วยการส่งสัญญาณดอกเบี้ยขาขึ้น เมื่อรองฯ "บัณฑิต นิจถาวร" พูดเสียงดังฟังชัด ในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เพื่อให้การปก้ปัญหาตรงจุด แบงก์ชาติจะเน้น Wดูแลเสถียรภาพด้านราคาแทนคุมอัตราดอกเบี้ย" เพื่อให้เงินเฟ้ออยู่ในเป้าหมายกรอบ 0.5-3.0% ด้านภาพรวมเศรษฐกิจ "บัณฑิต" เชื่อว่าหากภาครัฐสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นและมีการใช้จ่ายภาครัฐที่มีประสิทธิภาพ ปีหน้าเศรษฐกิจสามารถฟื้นตัวได้แน่ๆ ...
นี่ก็อีกรองฯ แต่เป็น "ว่าที่" รองนายกรัฐมนตรี "ไตรรงค์ สุวรรณคีรี" กล่าวในงานเสวนาเศรษฐกิจที่จัดโดย "นิด้า" "ดร.สามสี" (ดีกว่าสีเดียว) เชื่อว่า "เศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวในรูปแบบเครื่องหมายถูก" จะฟื้นตัวทุกๆ ปี แต่แบบค่อยเป็นค่อยไป และจะฟื้นเต็มที่ได้ในปี 2555 (ฮ่าๆๆ) เหตุที่ต้องรอปี 55 เพราะปัจจุบันเศรษฐกิจไทยได้เปลี่ยนแปลงจากพึ่งพาตลาดในประเทศ "ไปพึ่งการค้าระหว่างประเทศ" การฟื้นตัวจึงเป็นไปตามเศรษฐกิจโลก ซึ่งวันนี้ ยังไม่สร่างไข้..ชัดกั๊บ ท่านรองฯ!!