เอาเป็นว่า จวนจะสิ้นปีอยู่แล้ว แต่เมืองไทยของเรา (เบียร์ไทยของเรา) ก็ยังไม่สิ้นความร้อนแรงจริงๆ เพราะนอกจากข่าวเศรษฐกิจ การเมือง และสังคมที่ว่าร้อนแรงแล้ว ดูเหมือนว่าชั่วโมงนี้ปรากฏการณ์ “ปฏิทินหวิว” ฉบับต้อนรับปีใหม่ปลุกใจเสือป่า ของ 6 นางแบบสาวไทย กลับร้อนแรงยิ่งกว่า! เรียกได้ว่าเป็นข่าวล่ามาแรงแซงทางโค้งส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่กันเลยทีเดียว
สื่อมวลชนทุกแขนงให้ความสนใจรายงานข่าวกันถ้วนหน้า หรือว่านี่จะเป็นแผนโฆษณาอีกชั้นของ สิงห์ คอร์ปอเรชั่น อันนี้ก็ไม่รู้, รู้แต่ว่างานนี้ผิดกฎหมายอย่างชัดเจนเพราะว่าผิดกฎหมายตามมาตรา 32 ว่าด้วยเรื่องการโฆษณา ตามพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551
ดังนั้น ประเด็นจึงไม่ใช่อย่างที่นางแบบสาวเมทินีจะออกมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับปฏิทินฉบับนี้ที่เธอเป็นผู้ดูแลว่า “มันอนาจารตรงไหน... อย่างอาบอบนวด หรือค้าผู้หญิงมีเยอะแยะ ไปจัดการตรงโน้นก่อน อย่าสนใจตรงนี้เลย” เพราะงานนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องโป๊หรืออนาจาร แต่มันเกี่ยวกับเรื่องการกระทำที่ผิดกฎหมาย
ขณะเดียวกันหากพูดถึงประเด็นโป๊ไม่โป๊ แม้จะนั่งดู นอนดู หรือเดินวนดูสามรอบ ก็ไม่เห็นว่ามันจะเป็นโฆษณาเชิงสร้างสรรค์สังคมตรงไหน เพราะเจตนาของการทำไม่ใช่เพื่อศิลปะแต่ต้องการทำเพื่อนำร่างเปลือยเปล่าของผู้หญิงมาเป็นสินค้าควบขาย หรือเพื่อจ่ายแจกต่อสาธารณะกันอย่างโจ๋งครึ่มขนาดนี้
ส่วนกรณี “น้องตั๊น-จิตตภัสร์ ภิรมย์ภักดี” บุตรสาว นายจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี ข้าราชการการเมือง ซึ่งทำงานอยู่ในฝ่ายประสานงานทีมโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นำปฏิทินลีโอที่กำลังเป็นที่ฮือฮาจำนวนสองห่อใหญ่ หรือประมาณ 200 แผ่น มาแจกจ่ายให้กับข้าราชการ เจ้าหน้าที่ภายในทำเนียบรัฐบาลนั้น งานนี้ต้องบอกว่าเป็นความหน่อมแน้มที่น่าจะต้องจังมาตีก้นสักหน แต่ก็นั่นแหละเพราะความหน่อมแน้มของเธอก็เลยทำให้ปฏิทินลีโอดังเป็นพลุแตกยิ่งขึ้นไปอีก เนื่องจากตกเป็นข่าวในสื่อแทบทุกแขนง ...งานนี้ ไม่รู้ว่าจะคุ้มหรือไม่เพราะทำให้น้องตั๊นต้องตัดสินใจจากข้าราชการการเมืองเพื่อรับผิดชอบแต่สิ่งที่เกิดขึ้น
แต่ที่เด็ดไปกว่านั้นก็คือ “ปฏิทินฉาว” ก็กลายเป็นข่าวร้อนแรงที่ขโมยซีนและเบียดแซงทุกข่าวที่ “ฮอต” ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นข่าวการบุกจับกุมขบวนการค้าอาวุธสงครามร้ายแรงครั้งใหญ่ ข่าวปาหี่ละครการเมืองเรื่องนายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ที่นช.ทักษิณ ชินวัตรลงทุนเดินทางเข้าเขมรเพื่อกำกับบทด้วยตัวเอง ข่าวฉาวโฉ่การขนกระเป๋าของ “วัลลภ พุกกะณะสุต” ที่การบินไทย ข่าวความกร่างของเสธ.แดง ฯลฯ ก็ยังถูกความอล่างฉ่างของปฏิทินฉาวเบียดแซงทุกข่าวจนต้องหลีกทางให้
ดังนั้นข่าว “ปฏิทินฉาว” จึงกลายเป็นการทอล์กออฟเดอะทาวน์ และ “โฆษณาต้นทุนต่ำ” ของ “สิงห์ คอร์ปอเรชั่น” ไปในทันที!
สื่อมวลชนทุกแขนงให้ความสนใจรายงานข่าวกันถ้วนหน้า หรือว่านี่จะเป็นแผนโฆษณาอีกชั้นของ สิงห์ คอร์ปอเรชั่น อันนี้ก็ไม่รู้, รู้แต่ว่างานนี้ผิดกฎหมายอย่างชัดเจนเพราะว่าผิดกฎหมายตามมาตรา 32 ว่าด้วยเรื่องการโฆษณา ตามพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551
ดังนั้น ประเด็นจึงไม่ใช่อย่างที่นางแบบสาวเมทินีจะออกมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับปฏิทินฉบับนี้ที่เธอเป็นผู้ดูแลว่า “มันอนาจารตรงไหน... อย่างอาบอบนวด หรือค้าผู้หญิงมีเยอะแยะ ไปจัดการตรงโน้นก่อน อย่าสนใจตรงนี้เลย” เพราะงานนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องโป๊หรืออนาจาร แต่มันเกี่ยวกับเรื่องการกระทำที่ผิดกฎหมาย
ขณะเดียวกันหากพูดถึงประเด็นโป๊ไม่โป๊ แม้จะนั่งดู นอนดู หรือเดินวนดูสามรอบ ก็ไม่เห็นว่ามันจะเป็นโฆษณาเชิงสร้างสรรค์สังคมตรงไหน เพราะเจตนาของการทำไม่ใช่เพื่อศิลปะแต่ต้องการทำเพื่อนำร่างเปลือยเปล่าของผู้หญิงมาเป็นสินค้าควบขาย หรือเพื่อจ่ายแจกต่อสาธารณะกันอย่างโจ๋งครึ่มขนาดนี้
ส่วนกรณี “น้องตั๊น-จิตตภัสร์ ภิรมย์ภักดี” บุตรสาว นายจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี ข้าราชการการเมือง ซึ่งทำงานอยู่ในฝ่ายประสานงานทีมโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นำปฏิทินลีโอที่กำลังเป็นที่ฮือฮาจำนวนสองห่อใหญ่ หรือประมาณ 200 แผ่น มาแจกจ่ายให้กับข้าราชการ เจ้าหน้าที่ภายในทำเนียบรัฐบาลนั้น งานนี้ต้องบอกว่าเป็นความหน่อมแน้มที่น่าจะต้องจังมาตีก้นสักหน แต่ก็นั่นแหละเพราะความหน่อมแน้มของเธอก็เลยทำให้ปฏิทินลีโอดังเป็นพลุแตกยิ่งขึ้นไปอีก เนื่องจากตกเป็นข่าวในสื่อแทบทุกแขนง ...งานนี้ ไม่รู้ว่าจะคุ้มหรือไม่เพราะทำให้น้องตั๊นต้องตัดสินใจจากข้าราชการการเมืองเพื่อรับผิดชอบแต่สิ่งที่เกิดขึ้น
แต่ที่เด็ดไปกว่านั้นก็คือ “ปฏิทินฉาว” ก็กลายเป็นข่าวร้อนแรงที่ขโมยซีนและเบียดแซงทุกข่าวที่ “ฮอต” ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นข่าวการบุกจับกุมขบวนการค้าอาวุธสงครามร้ายแรงครั้งใหญ่ ข่าวปาหี่ละครการเมืองเรื่องนายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ที่นช.ทักษิณ ชินวัตรลงทุนเดินทางเข้าเขมรเพื่อกำกับบทด้วยตัวเอง ข่าวฉาวโฉ่การขนกระเป๋าของ “วัลลภ พุกกะณะสุต” ที่การบินไทย ข่าวความกร่างของเสธ.แดง ฯลฯ ก็ยังถูกความอล่างฉ่างของปฏิทินฉาวเบียดแซงทุกข่าวจนต้องหลีกทางให้
ดังนั้นข่าว “ปฏิทินฉาว” จึงกลายเป็นการทอล์กออฟเดอะทาวน์ และ “โฆษณาต้นทุนต่ำ” ของ “สิงห์ คอร์ปอเรชั่น” ไปในทันที!