xs
xsm
sm
md
lg

“ทิก้า”เร่งเจาะตลาดไมซ์ จีบสสปน.โรดโชว์ยุโรป

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน – ทิก้า เตรียมหารือ สสปน.หลังปีใหม่ ชวนควงแขนลุยยุโรปตะวันตก  เจาะตลาดไมซ์ นำร่องกลุ่ม มิตติ้งและอินเซนทีฟ  ระบุไมซ์ปีหน้าโต 10%  ชี้ปัจจัยลบสำคัญ ยังคงอยู่ที่การเมืองไทยและเศรษฐกิจโลก  ขณะที่เป้าหมายประมูลสิทธิจัดเวิลด์เอ็กโป  แนะ ทำสิ่งที่มีอยู่ให้ดีก่อน

นายสุเมธ  สุทัศน์  ณ อยุธยา  นายกสมาคมส่งเสริมการจัดประชุมนานาชาติ(ไทย) หรือ ทิก้า เปิดเผยว่า  ต้นเดือนมกราคม 2553 จะหารือกับสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ(องค์การมหาชน) หรือ สสปน. ในเรื่องการบุกตลาดต่างประเทศ โดยทิก้ามีเป้าหมายว่าจะบุกเปิดตลาดที่ภูมิภาคยุโรปตะวันออก  ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพการเติบโตสูง เนื่องจากเศรษฐกิจไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลก
โดยเบื้องต้น ทิก้าจะจัดทีมวิจัยตลาด คาดว่าใช้เวลา 2 เดือน แล้วเสร็จ จากนั้นจะขอให้สสปน. จัดงบสนับสนุนให้ผู้ประกอบการออกไปโรดโชว์ยังภูมิภาคดังกล่าว นอกจากนั้น จะให้มีการจัดแฟมทริป เชิญกลุ่มเป้าหมายที่มีอำนาจตัดสินใจ มาชมสถานที่จัดงาน และแหล่งท่องเที่ยวในประเทศไทย  เน้นตลาด มิตติ้ง และอินเซนทีฟ เป็นพิเศษ เพราะเป็นกลุ่มที่ฟื้นตัวเร็วและตัดสินใจได้เร็วกว่า ตลาดคอนเวนชั่น และเอ็กซิบิชั่น  ซึ่งต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2-3 ปี จึงฟื้นกลับมาเป็นปกติ  ส่วนภูมิภาคยุโรปตะวันตกคาดว่า ตลาดจะเริ่มกลับมาในช่วงไตรมาส 4 ปีหน้า
“ตอนนี้กลุ่มประเทศในยุโรปตะวันตกกำลังพัฒนาตัวเอง ทำให้เกิดการตื่นตัวเรื่องการจัดงานประชุม และกระตุ้นการทำงานด้วยการให้อินเซนทีฟเป็นรางวัล  ตั้งเป้าปีหน้าตลาดนี้เติบโตราว 25%  หรือมีจำนวนนักท่องเที่ยวไมซ์จากภูมิภาคนี้ที่ 2 แสนคน จากปีนี้ ทีมีอยู่ ราว 1.6 แสนคน “
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์นักท่องเที่ยวไมซ์ในปี 2553 คาดว่าจะเติบโตจากปีนี้ราว 10%  โดยตลาดหลักยังคงเป็นระยะใกล้ย่านเอเชีย   เพราะแม้จะอ่อนไหวกับทุกสถานการณ์ แต่ก็พลิกฟื้นเร็ว โดยปัจจัยลบสำคัญปีหน้า ยังคงเป็นเรื่องของเศรษฐกิจโลก  และสถานการณ์การเมืองในประเทศไทย  ซึ่งช่วงที่ประเทศไทยเกิดความวุ่นวาย
ลูกค้าตัดชื่อประเทศไทยออกจากเดสติเนชั่นไมซ์ที่จะเดินทาง
กรณีที่ สสปน. มีแนวคิดเข้าประมูลสิทธิ์เป็นเจ้าภาพจัดงาน เวิลด์เอ็กซ์โป 2020 เป็นเรื่องที่ดี  จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศมาก  ซึ่งต้องศึกษาให้รอบคอบ เพราะงานนี้ต้องใช้เงินลงทุนมหาศาล  ซึ่งรัฐบาลมีนโยบายด้านเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์อยู่แล้ว ดังนั้น จะดีกว่าหรือไม่หากใช้ศักยภาพที่มีอยู่แล้ว ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ด้วยการจัดกิจกรรมใหญ่ที่เหมาะสมกับสถานที่ มาใช้เป็นแม่เหล็กดึงเงินเข้าประเทศ โดยไม่ต้องลงทุนเพิ่ม
กำลังโหลดความคิดเห็น