โฆษกกองทัพบก เผยสรุปผลการตั้งคณะกรรมการสอบ “เสธ.แดง”ถึงมือกลาโหมแล้ว ชี้กรอบการพิจารณา หนีไปต่างประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาตและให้สัมภาษณ์ทำลายภาพพจน์กองทัพ แต่ยังไม่อาจเปิดเผยได้ สุดท้ายขึ้นอยู่กับดุลยพินิจ “ประวิตร” ยันแม้ระเบียบจะไม่เปิดช่องให้เอาผิดทางวินัยทหารชั้นนายพล แต่หากทำผิดซ้ำซากก็อาจดำเนินคดีโทษทางอาญาของศาลทหารได้
วันนี้ (10 ธ.ค.) พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงความคืบหน้าการตั้งกรรมการสอบโทษทางวินัยต่อ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ว่า กองทัพบกได้ตั้งคณะกรรมการสอบเอาผิดวินัยแก่ พล.ต.ขัตติยะ โดยมี พล.ท.มาโนช เปรมวงศ์ศิริ รองเสนาธิการทหารบก เป็นประธานกรรมการสอบ ซึ่งการสอบวินัยครั้งนี้มีกรอบความผิดใหญ่อยู่ 2 เรื่อง คือ 1.การลาราชการไปต่างประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต จากกรณีที่ พล.ต.ขัตติยะ เดินทางไปประเทศกัมพูชา เพื่อพบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และ 2.การให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์กองทัพและผู้บังคับบัญชา ซึ่งคณะกรรมการของกองทัพบกได้สรุปผลการสอบเสร็จสิ้นแล้ว และได้ส่งให้กระทรวงกลาโหมพิจารณาแล้ว ซึ่งอำนาจการตัดสินใจสั่งลงโทษ พล.ต.ขัตติยะ ตามที่คณะกรรมการของกองทัพบกสรุปผลการกระทำผิด เป็นอำนาจของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นผู้พิจารณาตัดสินตามระเบียบกระทรวงกลาโหม
เมื่อถามว่า ผลการสอบจะสามารถเอาผิดวินัยต่อ พล.ต.ขัตติยะ ที่เป็นทหารชั้นยศนายพลได้หรือไม่ พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า คงต้องรอให้มีคำสั่งอย่างเป็นทางการก่อน ขณะนี้ยังไม่สามารถให้รายละเอียดได้ เพราะเป็นอำนาจตัดสินใจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมว่าจะเห็นชอบตามที่คณะกรรมการกองทัพบกสรุปผลหรือไม่ ทั้งนี้ ขอเรียนว่าจากที่มีการวิจารณ์ว่าทหารชั้นนายพลทำอะไรก็ไม่ผิดนั้น ความจริงโทษตามวินัยทหาร 5 สถาน คือ ภาคทัณฑ์ ทัณฑกรรม กัก ขัง และจำคุก นั้น มีไว้เพื่อลงโทษนายทหารที่ไม่ใช่ระดับนายพล ซึ่งเรามีไว้ห้ามปรามกรณีที่ทหารส่วนนั้น อาจหลงผิดคิดผิดในการทำความผิดไป ซึ่งเป็นโทษทางวินัย
“แต่ในส่วนทหารระดับชั้นนายพลนั้นไม่มีโทษทางวินัย เพราะถือเป็นทหารชั้นผู้ใหญ่ของกองทัพสามารถมีวิจารณญาณคิดเองได้ ดังนั้น เมื่อกระทำความผิดเราจึงใช้การว่ากล่าวตักเตือนก่อน แต่หากทหารชั้นนายพลยังมีกระทำความผิดอีก ก็จะถูกดำเนินคดีโทษทางอาญาของศาลทหารเลย ซึ่งเป็นกระบวนการพิจารณาในชั้นศาลทหาร เพื่อพิจารณาโทษตามความผิด ทั้งนี้ พล.ต.ขัตติยะ เคยถูกกองทัพบกตั้งคณะกรรมการสอบมาก่อนหน้านี้ แล้วมีการให้รับทราบไว้แล้วว่า พล.ต.ขัตติยะ จะไม่ให้สัมภาษณ์พาดพิงกองทัพอีก ซึ่งเป็นการว่ากล่าวตักเตือนเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งคณะกรรมการสอบครั้งนี้ก็ได้มีการนำเรื่องนี้มาไว้ในการพิจารณาโทษความผิดด้วย ซึ่งทั้งหมดกองทัพบกได้ส่งเรื่องนี้ให้กระทรวงกลาโหมพิจารณาแล้ว ทั้งนี้ พลต.ขัตติยะ มีคดีฟ้องร้องหลายคดีทั้งในศาลทหารและศาลพลเรือน และมีหลายคดีที่กองทัพบกเป็นโจทก์ฟ้องเอาผิดอยู่” โฆษกกองทัพบก กล่าว